พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 43 จาก 365

พระองค์ทรงช่วยกู้คุณ

เมื่อวันที่ 13 มกราคม ปี 1982 สายการบินฟลอริดา เที่ยวบินที่ 90 บินจากวอชิงตัน ดี ซี ได้พุ่งชนแม่น้ำโปโตแมค ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวและแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำ กล้องทีวีสามารถจับภาพได้ทุกอย่าง ผู้ชมหลายล้านคนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นต่างได้เห็นเหตุการณ์ผ่านจอทีวีขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังบินเหนือศีรษะ และปล่อยสายชูชีพให้กับชายคนหนึ่งที่กำลังดิ้นรนอยู่ในน้ำ เขาจับสายนั้นไว้แล้วว่ายไปยังผู้รอดชีวิตอีกคนที่อยู่ใกล้ ๆ เขากลัดสายชูชีพที่ผู้หญิงคนนั้นแล้วเธอก็ได้รับการยกขึ้นไปยังที่ปลอดภัยเฮลิคอปเตอร์ปล่อยสายชูชีพอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชายคนนั้นก็ทำแบบเดียวกัน เขาว่ายน้ำไปหาคนอื่นและช่วยชีวิตพวกเขา เขาช่วยคนอื่นก่อนที่จะหมดแรง และตัวเขาเองก็จมน้ำเสียชีวิตไป ทำไมชายคนนี้จึงไม่รักษาชีวิตตัวเอง? คำตอบ คือ เพราะเขาออกไปช่วยชีวิตคนอื่นก่อน ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นพระเยซูไม่ได้รักษาพระองค์เอง เพราะพระองค์กำลังออกไปช่วยคุณและผม วันนี้ให้เรามุ่งความคิดของคุณไปที่พระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดของโลก และใคร่ครวญว่าพระองค์ช่วยคุณให้รอดได้อย่างไร

สดุดี 21:1-7

ได้รับการช่วยกู้โดยพระเจ้า

คุณไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถช่วยคุณให้รอดได้ พระองค์ช่วยคุณให้รอด “ด้วยความรักมั่นคง” ของพระองค์ เช่นเดียวกับดาวิด วันนี้ให้เราวางใจในพระองค์ (ข้อ 7)

พระธรรมสดุดีตอนนี้ดาวิดเริ่มต้นด้วยการสรรเสริญพระเจ้าสำหรับความรอด

'ข้าแต่พระเจ้า พระราชาจะเปรมปรีดิ์ในพระกำลังของพระองค์
ท่านจะปีติยินดีในความช่วยเหลือของพระองค์' (ข้อ 1 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ในพระธรรมตอนนี้ เราจะเห็นพระพรแห่งความรอดมากมายอันประกอบด้วย

1. ตอบคำอธิษฐาน

'พระองค์ทรงให้ตามใจปรารถนาของท่านและมิได้ทรงปฏิเสธสิ่งที่ริมฝีปากท่านทูลขอ' (ข้อ 2 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

2. พระพรไม่รู้จบ

'พระองค์ประทานพระพรดีมากมาย...ทรงสวมมงกุฎทองบริสุทธิ์บนศีรษะท่าน...พระองค์ประทานพระพรนิรันดร์แก่ท่าน' (ข้อ 3,6ก พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

3. ชีวิตนิรันดร์

'ท่านทูลขอชีวิต พระองค์ก็ประทานวันคืนแห่งชีวิตของท่านจึงยืนยงนิรันดร์' (ข้อ 4 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

4. ใช้ชีวิตอย่างมีชัย

“โดยชัยชนะที่พระองค์ประทาน ศักดิ์ศรีของท่านยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงประสิทธิ์ประสาทสง่าราศีและบารมีแก่ท่าน” (ข้อ 5)

5. มีความสุขและความยินดี

“ทรงกระทำให้ท่านยินดีปรีดาต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์” (ข้อ 6ข พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ขอบคุณพระองค์ที่ทรงช่วยเหลือข้าพระองค์ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักมั่นคงและพระพรอันมากมาย วันนี้ข้าพระองค์จะเชื่อและวางใจในพระองค์

มัทธิว 27:11-44

ได้รับการช่วยกู้ผ่านการเสียสละพระองค์เอง

เหล่าประชากรของพระเจ้าในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมคาดหวังว่าจะมีพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์) พระเมสสิยาห์องค์นี้เอง 'บนพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ เพื่อจะสถาปนาและเชิดชูมันไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม' (อิสยาห์ 9:7)

อย่างไรก็ตามในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมยังมีอีกกระแสหนึ่งของความคาดหวังเรื่องการเสด็จกลับมาของพระเมสสิยาห์ สิ่งนี้เห็นได้จาก 'ผู้รับใช้ที่ทนทุกข์' ในพระธรรมอิสยาห์ 40–55 ที่ “เหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า (อิสยาห์ 53:7) ผู้ซึ่งจะรับบาปของโลกไว้และตายแทนคนบาปเหล่านั้น (ข้อ5–6)

ไม่มีใครคาดคิดว่าพระเมสสิยาห์องค์จอมราชากับผู้รับใช้ผู้ทนทุกข์จะเป็นคนเดียวกัน กระนั้นด้วยวิธีที่น่าทึ่งพระเยซูเป็นผู้นำแก่นของเรื่องพระเมสสิยาห์มารวมไว้ด้วยกัน นั้นเพราะพระเยซูทรงเป็นทั้งกษัตริย์และผู้รับใช้ที่ทนทุกข์นี้ด้วย

1.พระเมสสิยาห์องค์จอมราชา

เมื่อปีลาตถามพระเยซูว่า 'เจ้าเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ' (มัทธิว 27:11ก) พระองค์ตรัสตอบว่า 'ท่านพูดถูกแล้ว' (ข้อ 11ข) พวกทหารหัวเราะเยาะพระเยซูและแต่งกายพระองค์เป็นกษัตริย์พร้อมแสร้งทำเป็นคำนับและคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์เรียกพระองค์ว่า 'ข้าแต่กษัตริย์ของพวกยิว'(ข้อ 29ข)

“และพวกเขาเอาข้อความที่เป็นข้อหาลงโทษพระองค์ไปติดไว้เหนือพระเศียร ซึ่งอ่านว่า 'คนนี้คือเยซู กษัตริย์ของชนชาติยิว (ข้อ 37) พวกผู้ใหญ่ยังล้อเลียนพระองค์อีกว่า “เขาเป็นกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล” (ข้อ 42)

มัทธิวกล่าวให้ชัดเจนว่าข้อกล่าวหาเดียวที่พระเยซูมีความ “ผิด” คือการเป็น 'กษัตริย์' (ข้อ 11) 'พระคริสต์' (เมสสิยาห์) (ข้อ 22) และ 'บุตรของพระเจ้า' (ข้อ 43)

2. ผู้รับใช้ที่ทนทุกข์

พระเยซูเป็นไปตามคำพยากรณ์ที่ว่า “ท่านถูกบีบบังคับและถูกข่มใจถึงกระนั้นท่านก็ไม่ปริปากเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า และเหมือนแกะที่เป็นใบ้ต่อหน้าผู้ตัดขนของมันเช่นใดท่านก็ไม่ปริปากของท่านเลยเช่นนั้น” (อิสยาห์ 53:7)

เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ฟ้องกล่าวโทษพระองค์ 'พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสตอบประการใด' (มัทธิว 27:12) เมื่อปีลาตถามพระองค์ว่า 'เจ้าไม่ได้ยินสิ่งทั้งปวงที่พวกเขาเป็นพยานกล่าวหาเจ้าหรือ' (ข้อ 13) 'แต่พระองค์ไม่ได้ตรัสตอบสักคำเดียว เจ้าเมืองจึงประหลาดใจยิ่งนัก' (ข้อ 14)

พระเยซูเป็นผู้รับใช้ที่ทนทุกข์และไร้มลทิน ทรงสิ้นพระชนม์แทนคุณเพื่อที่คุณจะได้หลุดพ้นจากบาป บารับบัสถือเป็นตัวแทนของทั้งคุณและผมในการเป็นผู้ที่มีความผิด เขาเป็น 'นักโทษอุกฉกรรจ์' (ข้อ 16) มีคำถามว่าจะปล่อยตัวใครระหว่าง 'บารับบัส หรือเยซู' (ข้อ 17) แต่ฝูงชนกลับถูกยุยงให้ปล่อยตัวบารับบัส และประหารพระเยซูเสีย (ข้อ 20) บารับบัสจึงถูกปล่อยให้เป็นอิสระ (ข้อ 26) คำพยากรณ์ของอิสยาห์เกี่ยวกับผู้รับใช้ที่ทนทุกข์ในที่สุดก็เป็นจริง 'ท่านถูกแทงเพราะความทรยศของเรา ท่านบอบช้ำเพราะความบาปผิดของเรา' (อิสยาห์ 53:5)

แม้ว่าพระเยซูจะเป็นกษัตริย์ที่ใครหลายคนรอคอยมาเนิ่นนาน แต่พระองค์ก็ไม่ใช่กษัตริย์แบบที่ผู้คนคาดหวังที่เป็นผู้นำชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มา แทนที่จะเป็นเช่นนั้นพระเยซูกลับต้องรับมือกับสิ่งที่ประดังมาจากทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นความอิจฉา การกล่าวเท็จ การวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ยุติธรรม ความไม่ยุติธรรม ความเข้าใจผิด แทบจะไม่มีสิทธิอำนาจเลย การถูกเยาะเย้ยและการถูกดูหมิ่นจากคนในศาสนาและทางโลกนี้ แม้กระทั่งถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร

ปีลาตรู้ดีว่าพระเยซูเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาตระหนักว่า 'พวกเขามอบตัวพระองค์ไว้เพราะความอิจฉา' (มัทธิว 27:18) (ความอิจฉามักจะเป็นความบาปของผู้ที่เคร่งศาสนา เรามักจะถูกล่อลวงให้อิจฉาคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้มากกว่าเรา) ปีลาตรับรู้ว่าพระเยซูทรงบริสุทธิ์ด้วยเหตุผลอื่นด้วยเช่นกัน ภรรยาของเขาได้รับการเตือนในความฝันและยืนยันว่าพระเยซูเป็น “คนชอบธรรม” (ข้อ 19) แต่กระนั้นเขากลับเพิกเฉยต่อคำแนะนำของเธออย่างโง่เขลา

ช่างย้อนแย้งเหลือเกิน บุรุษผู้ซึ่งต้องถูกจดจำตลอดประวัติศาสตร์ในฐานะผู้รับผิดชอบต่อการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู ('ถูกตรึงโดยปอนทัสปีลาต' จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วศาสนนิกายทั่วโลกเป็นเวลานับร้อยปี) กลับพยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบโดยกล่าวโทษผู้อื่นว่า 'เราไม่มีความผิดเรื่องความตายของคนนี้ พวกเจ้าต้องรับผิดชอบเอาเองเถิด' (ข้อ 24)

พระโลหิตของพระเยซูได้หลั่งออกมาขณะที่พระองค์ถูกเฆี่ยนและถูกส่งไปตรึงกางเขน (ข้อ 24–26ข) อีกครั้งที่ช่างน่าเวทนานัก ที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาพูดว่า “จงช่วยตัวเองให้รอด ถ้าเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้า” (ข้อ 40ข) แต่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ในฐานะพระเมษโปดกของพระเจ้าที่มาเพื่อทำลายบาปของโลกนี้ ผู้คนต่างไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้วการสละพระองค์เองของพระเยซูเป็นไปโดยความเต็มพระทัย พวกเขากล่าวว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้” (ข้อ 42ก)

พระเยซูทรงช่วยกู้คุณและผมเพราะพระองค์ทรงเต็มพระทัยที่จะไม่ช่วยตัวของพระองค์เอง

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงทนทุกข์ทรมานทั้งหมดนี้เพื่อข้าพระองค์ โดยที่พระองค์ทรงเลือกที่จะไม่ช่วยตัวพระองค์เองแต่เลือกที่จะช่วยเหลือข้าพระองค์

อพยพ 11:1-12:51

ได้รับการช่วยกู้โดยลูกแกะของพระเจ้า

พระเยซูตรัสกับสาวกว่า “พวกท่านรู้อยู่ว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และบุตรมนุษย์จะถูกมอบตัวให้เอาไปตรึงที่กางเขน” (มัทธิว 26:2) เปาโลได้บันทึกเอาไว้ว่า “เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราถูกถวายบูชาแล้ว” (1 โครินธ์ 5:7ข)

เลือดของลูกแกะได้ช่วยประชากรของพระเจ้าภายใต้พันธสัญญาเดิมในเทศกาลปัสกาครั้งแรก (อพยพ 12:1–30) ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้วภายใต้พันธสัญญาใหม่ โดยพระโลหิตของพระเยซู (ลูกแกะของพระเจ้า) ชำระและปกป้องคุณอย่างถาวรนิรันดร์ (ฮีบรู 9:12–26)

ในเทศกาลปัสกาครั้งแรกต้องมีถวายลูกแกะเป็นสัตวบูชา ลูกแกะเหล่านั้นจำเป็นต้อง 'ปราศจากตำหนิ' (อพยพ 12:5) สิ่งนี้เองได้เล็งให้เห็นถึงพระเยซูคริสต์ผู้บริสุทธิ์ชอบธรรม และมีการเน้นย้ำอย่างมากเกี่ยวกับ 'เลือด' ของลูกแกะ (ข้อ 7,13,22–23) ซึ่งเลือดของลูกแกะที่ปราศจากตำหนินั้น จำต้องถูกนำมาเป็นสัตวบูชา (ข้อ 27) เมื่อยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้เห็นพระเยซู เขาก็กล่าวว่า 'จงดูพระเมษโปดก (ลูกแกะ) ของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป' (ยอห์น 1:29)

เลือดของลูกแกะเป็นดั่งสิ่งที่ช่วยประชากรของพระเจ้าจากการพิพากษา สิ่งนั้นเรียกว่า “สัตวบูชาปัสกา” (อพยพ 12:27) นี่เองแสดงให้เห็นถึงการเสียสละของพระเยซู

คำสอนของพระเจ้าเกี่ยวกับลูกแกะปัสกาที่ 'ห้ามหักกระดูกของมัน' (ข้อ 46) ได้สำเร็จโดยสมบูรณ์แล้วเมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพราะการทุบขาคนถือเป็นวิธีที่ทำให้ตายเร็วขึ้นบนกางเขน พวกเขาทุบขาของชายสองคนที่ถูกตรึงกับพระเยซู 'แต่เมื่อมาถึงพระเยซูและเห็นว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้ทุบขาของพระองค์' (ยอห์น 19:33)

ที่ใดมีเลือดอยู่ที่วงกบประตูของบ้านแสดงให้เห็นว่าความตายได้เกิดขึ้นในบ้านแล้ว บรรดาผู้ที่เชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้าโดยการเอาเลือดไปทาที่วงกบประตู ความตายก็เลื่อนผ่านไป พระโลหิตของพระเยซูพระเมษโปดกของพระเจ้าได้หลั่งออกมาเพื่อคุณและผม เทศกาลปัสกาชี้ให้เห็นว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์เป็นเครื่องเผาบูชาแทนเราอย่างไร คุณได้รับการช่วยกู้โดยพระองค์แล้ว

ข้าแต่พระบิดา ขอบคุณพระองค์สำหรับพระโลหิตของพระเยซูที่หลั่งมาเพื่อข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอมอบทั้งหมดนี้ให้กับพระองค์ไม่ว่าจะเป็น ชีวิต กายและใจ ความตั้งใจและการตัดสินใจ ครอบครัวและความสัมพันธ์ การเงินและทั้งสิ้นที่พระองค์ให้ การงานและงานรับใช้ ในพระนามของพระเยซู ข้าพระองค์ได้รับการช่วยกู้จากเลือดของลูกแกะตลอดชีวิตของข้าพระองค์

Pippa Adds

มัทธิว 27:19

หนึ่งในความผิดพลาดทั้งปวงของปีลาตคือเขาไม่ฟังภรรยาของตน!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 42วันที่ 44

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th