พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 38 จาก 365

ใช้มัน หรือเสียมันไป

ไมร่า ฮินด์ลีย์ เป็นหนึ่งในฆาตกรที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ อาชญากรรมของเธอน่ากลัวอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่กระนั้นกลับมีชายคนหนึ่งคอยไปเยี่ยมเธอในเรือนจำอยู่เป็นประจำ ลอร์ด ลองฟอร์ด (1905-2001) เป็นบุคคลที่อาจจะทำอะไรสวนทางกับคนอื่นเพราะเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตไปเยี่ยมเยียนนักโทษรวมถึง ไมร่า ฮินด์ลีย์ ด้วย กระนั้นไม่มีใครสามารถสงสัยในความเมตตาสงสาร และ*ความสัตย์ซื่อ*ของเขาที่มีต่อพระเจ้า และต่อคนที่เขาไปเยี่ยมได้เลย เมื่อเขาเสียชีวิตลง อดีตนักโทษหลายร้อยคนได้เข้าร่วมพิธีไว้อาลัย เพื่อกล่าวอำลาบุรุษผู้ซึ่งใช้ชีวิตต่อสู้เพื่อสังคมในเรือนจำนี้อย่างสัตย์ซื่อ เขาได้ค้นพบแรงบันดาลใจจากพระวจนะของพระเยซูซึ่งปรากฏในพระธรรมวันนี้ ซึ่งในขณะที่จวนเจียนหมดลมหายใจ เขาได้ถามภรรยาว่า ‘คุณรู้ไหมว่าพระวจนะใดสำคัญที่สุด?’ และเขาได้ตอบคำถามของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย โดยอ้างอิงจากพระวจนะของพระเยซูว่า *‘เมื่อเราอยู่ในคุก พวกท่านก็มาเยี่ยมเรา’* (มัทธิว 25:36) ชีวิตไม่ใช่การแข่งขันที่คุณต้องเอาชนะตลอดเวลา ไม่ใช่การวิ่งแข่งเข้าเส้นชัย แต่ชีวิตคือสิทธิพิเศษ และโอกาส พระเจ้าทรงเชื่อมั่นในของประทานและความสามารถในตัวคุณ ซึ่งพระองค์ต้องการให้คุณใช้มัน พระองค์ทรงสัตย์ซื่อต่อเรา และปรารถนาให้เราสัตย์ซื่อต่อพระองค์ด้วยเช่นเดียวกัน

สดุดี 18:43-50

ความสัตย์ซื่อขององค์พระผู้เป็นเจ้า

‘จงมีเมตตา’ กล่าวโดยนักปรัชญาเพลโต ‘เพราะว่าทุกคนที่คุณพบอาจจะเผชิญการต่อสู้ที่โหดร้ายอยู่’ พระคัมภีร์ได้ให้เหตุผลที่หนักแน่นยิ่งกว่าที่เราจะต้องมีเมตตาต่อผู้นั้น นั่นเป็นเพราะพระเจ้าทรงเมตตาเราเสมอ โดยความสัตย์ซื่อของพระองค์ พระองค์สำแดงให้เราเห็น ‘ความรักมั่นคง’ (ข้อ 50)

ดาวิดสามารถมองย้อนกลับไปในชีวิตของเขา และเห็นถึง ‘ความรักมั่นคง’ ของพระเจ้าที่มีต่อเขา และพงศ์พันธุ์ของเขาอย่างไร (‘พงศ์พันธุ์ของท่าน’, ข้อ 50) พระเจ้าทรงช่วยเขาให้พ้นจาก ‘การทะเลาะวิวาทกับประชาชน’รอบด้าน (ข้อ 43ก) และทรงตั้งข้าพระองค์เป็นหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ (ข้อ 43ข)

พระองค์ประทาน ‘ชัยชนะยิ่งใหญ่’ แก่ดาวิด (ข้อ 50ก) และทรงช่วยกู้และยกเขาขึ้น (ข้อ 48) ดาวิดตอบสนองพระเจ้าด้วยการนมัสการ (‘ร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์’, ข้อ 49ข) และขอบคุณพระเจ้าสำหรับความสัตย์ซื่อที่ทรงมีต่อ ‘ผู้ที่พระองค์ทรงเจิม’ (ข้อ 50ข)

คุณเองเป็นผู้ได้รับการ ‘เจิม’ (2 โครินธ์ 1:21–22, 1 ยอห์น 2:20) จากพระเจ้า พระองค์จะสำแดง ‘ความรักมั่นคง’ แก่คุณ (สดุดี 18:50) พระองค์ทรงมีพระเมตตาตลอดเวลา และถ้าคุณอยากเป็นเหมือนพระองค์ ให้เราพยายามสำแดงความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นตลอดเวลา

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความสัตย์ซื่อที่พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อข้าพระองค์ โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะสำแดงความรักนั้นต่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน

มัทธิว 25:14-46

ชีวิตที่สัตย์ซื่อ

เราจะ 'ซื่อสัตย์' ได้อย่างไร (ข้อ 21,23) ?

1. \t ใช้มันหรือเสียมันไป

พระเจ้าทรงใจกว้างและเมตตา พระองค์ทรงประทานอย่างมากมายมหาศาลให้แก่เรา คำว่า ‘ตะลันต์’ หมายถึงเงินจำนวนมหาศาลซึ่งอาจเทียบเท่ากับค่าจ้างยี่สิบปี แม้แต่คนที่มีหนึ่งตะลันต์ก็ยังนับว่าได้รับจำนวนเงินมากเช่นกัน ในคำอุปมาเรื่องเงินตะลันต์ (ที่มาของภาษาอังกฤษที่ใช้คำว่า ‘talent’ - ความสามารถพิเศษ/พรสวรรค์) ไม่เพียงแต่แสดงถึงเงินทองของเราเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ของประทาน ทักษะ เวลา พลังงาน การศึกษา สติปัญญา ความแข็งแกร่ง อิทธิพล และโอกาสอีกด้วย

จงสัตย์ซื่อกับทุกสิ่งที่คุณได้รับ ไม่ใช่การคาดหวังว่าจะได้รับมากขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่าคุณจะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้กับสิ่งที่คุณมี

การซื่อสัตย์ หมายถึง การใช้ของประทาน และความสามารถที่พระเจ้าประทานให้คุณ บางครั้งผมถูกล่อลวงให้เป็นเหมือนบ่าวรับใช้คนที่สามที่พูดว่า ‘ข้าพเจ้ากลัว’ (ข้อ 25) คนเราอาจซ่อนความสามารถที่มีไว้เพราะกลัวความล้มเหลว และกลัวว่าคนอื่นจะคิดกับเราอย่างไรหรือกลัวการทำงานหนักและความรับผิดชอบที่ตามมา

มีคำกล่าวเอาไว้ว่า ‘ความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดที่คุณสามารถทำได้ในชีวิต คือ การกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าคุณจะทำผิดพลาด’

บ่าวรับใช้ที่ได้รับห้าตะลันต์และผู้ที่ได้รับสองตะลันต์ จะต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียทั้งหมด แต่กระนั้นจงก้าวออกไปด้วยความเชื่อ ใช้ของประทานที่คุณมี และกล้าที่จะเสี่ยงกับความล้มเหลว

ที่จริงแล้วพระเยซูตรัสว่า ‘ใช้มัน หรือ เสียมันไป’ (ข้อ 28–30) ถ้าคุณทำสิ่งที่คุณมีให้ดีที่สุดพระเจ้าจะประทานให้คุณมากขึ้นและตรัสว่า ‘ดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์! เจ้าซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของจำนวนมาก เจ้าจงร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด!’ (ข้อ21, 23)

2. ปฏิบัติต่อคนเล็กน้อยและต่ำต้อยที่สุดเหมือนดั่งปฏิบัติต่อพระคริสต์

พระเยซูตรัสว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ซึ่งพวกท่านได้ทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้ ก็เหมือนทำกับเราด้วย’ (ข้อ 40) พระองค์กำลังตรัสกับเราว่าความสัตย์ซื่อที่มีต่อพระองค์สำแดงออกมาทางสิ่งที่เราทำเพื่อผู้ที่อ่อนแอและขัดสนที่สุดในโลกนี้ (ข้อ 35–36, 42–43):

  • ผู้หิวโหย
    ผู้คนหลายล้านคนกำลังตายด้วยความอดอยาก ทุกครั้งที่คุณหยิบยื่นการเลี้ยงดูแก่ผู้หิวโหยคุณจะพบพระเยซู แม่ชีเทเรซ่ากล่าวว่า ‘คนที่กำลังจะตาย คนที่ไม่เป็นที่ต้องการและไม่มีใครรัก พวกเขาก็เหมือนกับพระเยซู’

  • คนแปลกหน้า
    การเป็นคนไร้บ้าน ผู้ลี้ภัย หรือคนต่างด้าวต้องเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต เมื่อคุณได้พบ ‘คนแปลกหน้า’ เหล่านั้น และได้ดูแลคนไร้บ้าน ให้ที่พักพิงและเชิญพวกเขาเข้าสู่ใจกลางชุมชนของคุณ เมื่อนั้นคุณจะพบพระเยซู (ข้อ 35ข,38)

  • คนเจ็บป่วย
    อีกวิธีหนึ่งที่คุณจะได้พบกับพระเยซูได้คือการปฏิบัติต่อผู้ที่เจ็บป่วย ไม่ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาล ที่บ้าน หรือที่โบสถ์ ทุกครั้งที่คุณอธิษฐานเผื่อผู้ป่วยเหล่านั้น คุณจะมีโอกาสได้พบกับพระเยซู

นักโทษ
นักโทษที่ถูกจองจำมักอยู่ในหมวด ‘คนเล็กน้อยและคนส่วนน้อย’ ของสังคมเรา พระเยซูท้าทายให้เราเลียนแบบพระคุณและการยอมรับ ‘คนบาป’ จากพระองค์ เราต้องจำไว้เสมอว่าเราเองก็ได้รับการอภัยบาปจากพระองค์ด้วยเช่นกัน

เป็นสิทธิพิเศษอย่างยิ่งที่จะได้เข้าไปในเรือนจำ หรือดูแล และให้คำปรึกษาแก่ผู้กระทำความผิด ผมจำได้ว่าอนุศาสนาจารย์ที่รับราชการในเรือนจำบอกว่าเมื่อเขาเข้าไปในเรือนจำครั้งแรก เขาคิดว่าจะพาพระเยซูไปกับเขาด้วย ในไม่ช้าเขาก็พบว่าพระเยซูทรงอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว เขาบอกว่า นับจากนั้นเขาก็เข้าไปในเรือนจำ เพื่อที่จะพบกับพระเยซู

ในทุกด้านเหล่านี้พระเยซูตรัสว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ซึ่งพวกท่านได้ทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้ ก็เหมือนทำกับเราด้วย’ (ข้อ 40) พระเยซูตรัสกับเราว่าเมื่อพระองค์กลับมาอย่างมีสง่าราศีอีกครั้ง เมื่อนั้นจะมีการพิพากษา (ข้อ 31–33) และเกี่ยวข้องกับการแยกจากกันที่จะทำให้ผู้คนประหลาดใจ (ข้อ 37,44) วิธีที่เราตอบสนองต่อพระเยซูมีผลชั่วนิรันดร์ (ข้อ 30,46)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่เมื่อข้าพระองค์เอื้อมมือไปหาคนเล็กน้อยและต่ำต้อยที่สุด ข้าพระองค์ก็ได้พบพระองค์

โยบ 40:3-42:17

ความสัตย์ซื่อของโยบ

พระเจ้าทรงมีแผนการที่ดีสำหรับคุณตั้งแต่วินาทีที่คุณคลอดออกมา นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีแผนการที่ดีสำหรับโยบ เริ่มตั้งแต่ต้นที่พระองค์ทรงวางแผนการฟื้นฟูและอวยพรแก่เขา

โยบเป็นที่จดจำตลอดประวัติศาสตร์เพราะความซื่อสัตย์ของเขา ยากอบกล่าวว่า ‘ท่านได้ยินเรื่องความทรหดอดทนของโยบ และได้เห็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เขาในบั้นปลาย’ (ยากอบ 5:11)

อีกครั้งที่พระเจ้าทรงตั้งคำถามกับโยบที่ทำให้เขารู้ว่ามีบางสิ่งที่ ‘ประหลาดเกินกว่า (โยบ) จะทราบ’ (โยบ 42: 3ข) กระนั้นโยบยึดมั่นในความสัตย์ซื่อของพระเจ้า 'ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงทำทุกสิ่งได้ และพระประสงค์ของพระองค์จะสำเร็จ' (ข้อ 2) นี่คือพระสัญญาอันยอดเยี่ยมที่คงอยู่แม้สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของคุณไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ พระเจ้าทรงมีแผนการที่ดีสำหรับคุณ และมันจะไม่ถูกทำลายไป

พระเจ้าไม่ได้ให้ชีวิตที่ปราศจากปัญหาแก่เรา พระองค์ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเราทั้งหมด แต่ทรงให้ความเชื่อมั่นกับเราว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วยในทุก ๆ ปัญหาร่วมกับเรา

พระเจ้าให้โยบอธิษฐานเผื่อเพื่อนที่ทำร้ายจิตใจเขา ทำให้เขาห่อเหี่ยว กล่าวหาเขาและตัดสินเขาผิด ๆ รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์เขาด้วย (ข้อ 7-8) โยบได้ยกโทษให้พวกเขาและแสดงการให้อภัยโดยการอธิษฐานเผื่อพวกเขา ในขณะที่โยบร้องทูลให้เพื่อน ๆ พระเจ้าไม่เพียงแต่ยอมรับคำอธิษฐานของโยบเท่านั้น แต่ยัง ‘ประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่มีอยู่ก่อน’ (ข้อ 10)

จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนไว้ว่า ‘ถ้าคุณทำสิ่งต่าง ๆ ในแบบพระเจ้าต้องการ พระองค์จะทรงเพิ่มเติมให้คุณเป็นสองเท่า' 'พระยาห์เวห์ทรงอวยพรชีวิตตอนปลายของโยบมากยิ่งกว่าตอนต้นของท่าน’ (ข้อ 12) เช่นเดียวกับดาวิดพระเจ้าทรงสำแดงความกรุณาต่อเขาและพงศ์พันธุ์ของเขา (ข้อ 16)

โยบได้รับการยกย่องในความทรหดอดทนเมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน (ยากอบ 5: 10–11) ซาตานเชื่อว่าความทุกข์ทรมานจะทำให้โยบหันเหจากพระเจ้า แต่การทนทุกข์ของโยบแสดงให้เห็นว่าซาตานคิดผิด แม้ต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันโหดร้าย โยบก็สามารถรักษาการนมัสการพระเจ้าในช่วงเวลาที่ดีและในเวลาแห่งการทดลอง

การทนทุกข์ทรมานของโยบเป็นตัวอย่างแก่เราในการตอบสนองต่อความทุกข์ เมื่อคุณตอบสนองด้วยการทนทุกข์ด้วยความบากบั่นอย่างสัตย์ซื่อ ซาตานก็พ่ายแพ้ไป โยบเป็นคน ‘แบบ’ พระคริสต์ ทางการทนทุกข์อย่างสัตย์ซื่อของพระเยซูบนไม้กางเขน ซาตานจึงพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงครั้งแล้วครั้งเล่า

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้สัตย์ซื่อด้วยตะลันต์ที่ข้าพระองค์ได้รับ ในการอธิษฐานเผื่อเพื่อน ๆ และทนทุกข์แบบโยบ

Pippa Adds

มัทธิว 25:14–30

เรื่องตะลันต์ในมัทธิว 25 ถ้ามองอย่างผิวเผิน พระธรรมตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ที่จะเพิ่มเติมให้แก่คนที่มีมากอยู่แล้ว ฉันรู้สึกเศร้าแทนชายคนนั้นที่กลัวว่าจะใช้ตะลันต์ของตนจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่นเมื่อฉันนั่งอยู่ในการประชุมเกี่ยวกับการอธิษฐานเผื่อสันติภาพของโลกนี้หรืออะไรซักอย่าง โดยลังเลว่าสิ่งที่คิดหรือสิ่งที่อธิษฐานอยู่นั้นควรจะพูดออกไปไหม ฉันไม่อยากพูดอะไรออกไปเพราะฉันอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แล้วทำให้เสียเรื่องไป เรารู้สึกภูมิใจที่ไม่ได้ทำตัวให้ดูโง่อย่างนั้นหรือ? หากโดยธรรมชาติแล้วพวกเราเป็นคนขี้ระแวงและขี้กลัว เราอาจจะจำเป็นต้องหนุนใจซึ่งกันและกันและให้โอกาสกันและกันมากขึ้น ฉันตื่นเต้นกับความจริงที่ว่า ฉันไม่ต้องการให้ความสามารถเพียงเล็กน้อยใด ๆ ต้องถูกพรากออกไป!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 37วันที่ 39

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th