โฮเชยา 2:1-16
โฮเชยา 2:1-16 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระยาห์เวห์พูดว่า “ให้เรียกพี่ชายน้องชายของเจ้าว่า ‘อัมมี’ ให้เรียกพวกพี่สาวน้องสาวของเจ้าว่า ‘รุหะมาห์’” ตักเตือนแม่ ของพวกเจ้า ตักเตือนเลย เพราะนางไม่ใช่เมียของเรา และเราก็ไม่ใช่ผัวของนาง นางจะต้องหยุดเล่นชู้ และนางจะต้องขับไล่พวกคู่รักที่อยู่ระหว่างเต้านมของนางไป ถ้านางไม่เลิก เราจะแก้ผ้านางให้ล่อนจ้อน และเอานางไปประจานเปลือยเปล่าเหมือนกับวันแรกที่นางเกิดมา เราจะเอาคนของนางไป เราจะทำให้นางเป็นเหมือนกับที่เปล่าเปลี่ยว และเราจะปล่อยให้นางหิวน้ำตาย เราจะไม่รักลูกหลานของนาง เพราะพวกเขาเป็นลูกชู้ แม่ของพวกเขานั้นมีชู้ นางที่ตั้งท้องพวกเขามาทำตัวน่าอัปยศอดสู นางพูดว่า “ฉันจะตามพวกคนรัก ของฉันไป เพราะอาหารของฉัน น้ำของฉัน ขนแกะของฉัน ผ้าลินินของฉัน น้ำมันมะกอกของฉัน และเครื่องดื่มของฉัน ล้วนแต่มาจากพวกเขาทั้งสิ้น” ดังนั้น เรา ยาห์เวห์ จะเอาหนามมาขวางกั้นทางของเจ้าอิสราเอล เราจะสร้างกำแพงล้อมรอบนางไว้ เพื่อว่านางจะได้หาทางไม่เจอ ถึงแม้นางจะไล่ตามพวกคนรักของนาง นางก็จะไม่มีวันตามพวกเขาทัน ถึงแม้นางจะตามหาพวกเขา นางก็จะไม่มีวันหาพวกเขาเจอ แล้วนางจะพูดว่า “ฉันจะกลับไปหาชายคนแรกของฉัน เพราะชีวิตฉันในตอนนั้นสบายกว่าตอนนี้เสียอีก” แต่นางไม่รู้หรอกว่าเป็นเราเอง ยาห์เวห์ ที่ให้ข้าวสาร เหล้าองุ่นใหม่ รวมทั้งน้ำมันมะกอกกับนาง และเราได้เพิ่มพูนเงินทองให้กับนางมากมาย แล้วนางก็เอามันไปสร้างพระบาอัล ดังนั้น เรา ยาห์เวห์ จะเอาข้าวสารที่เราเคยให้กับนางในฤดูเก็บเกี่ยวไปจากนาง และเอาเหล้าองุ่นใหม่ที่เราเคยให้กับนางในฤดูเก็บเกี่ยวผลองุ่นไปจากนาง และเราจะยึดขนแกะและผ้าลินินที่เราผลิตขึ้นมา เพื่อห่อหุ้มนางไม่ให้เปลือยเปล่าไปจากนาง ตอนนี้ เราจะเปิดเผยให้พวกคนรักของนางเห็นความเปลือยเปล่าอันน่าอับอายของนาง และจะไม่มีใครสามารถช่วยนางไปจากเงื้อมมือของเราได้ เราจะทำให้งานเฉลิมฉลองทั้งหมด ของนางจบสิ้นลง ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลประจำปี หรือการฉลองวันพระจันทร์ใหม่ หรือวันหยุดทางศาสนา ใช่แล้ว เราจะยกเลิกเทศกาลทุกอย่างของนางที่ได้กำหนดไว้ เราจะทำลายเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนาง ที่นางชอบพูดว่า “นี่เป็นค่าตอบแทนของฉัน ที่พวกคนรักของฉันให้กับฉัน” ดังนั้นเราจะปล่อยเถาองุ่นและต้นมะเดื่อให้กลายเป็นป่ารก และให้สัตว์ป่ามากินพวกมัน พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะลงโทษนาง สำหรับงานเทศกาลทั้งหลายของนาง ตอนที่นางเผาเครื่องบูชาให้กับพระบาอัล นางแต่งตัว สวมใส่แหวนและเครื่องประดับ และไปตามหาพวกคนรักของนาง และนางก็ลืมเราเสียสนิท แต่เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งกับเราอีกรอบ และเราจะพูดคำอ่อนหวานกับนาง แล้วเราก็จะคืนสวนองุ่นให้กับนางที่นั่น หุบเขาแห่งอาโคร์ จะกลายเป็นประตูแห่งความหวัง และนางก็จะทุ่มหัวใจให้กับเราอย่างสุดๆที่นั่น เหมือนกับเมื่อนางยังเป็นสาวอยู่ เหมือนกับตอนที่นางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์” พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ และเจ้าจะไม่เรียกเราว่า ‘บาอัลของฉัน’ อีกต่อไป
โฮเชยา 2:1-16 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
จงเรียกบรรดาน้องชายของเจ้าว่า “อัมมี” จงเรียกบรรดาน้องสาวของเจ้าว่า “รุหะมาห์” จงว่ากล่าวมารดาของเจ้า จงว่ากล่าวเถิด เพราะนางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ให้นางทิ้งการเล่นชู้เสียจากหน้าของนาง และทิ้งการล่วงประเวณีเสียจากอกของนาง มิฉะนั้นเราจะเปลื้องผ้านางให้ล่อนจ้อน ทำให้นางเหมือนวันที่นางเกิดมา ทำให้นางเหมือนถิ่นทุรกันดาร และทำให้นางเหมือนดินแดนที่แห้งแล้ง และประหารนางด้วยความกระหาย เราจะไม่สงสารบุตรทั้งหลายของนาง เพราะเขาทั้งหลายเป็นลูกจากการเล่นชู้ เพราะมารดาของพวกเขาเล่นชู้ นางผู้ให้กำเนิดเขาทั้งหลายได้ทำเรื่องอับอาย เพราะนางกล่าวว่า ‘ฉันจะตามคนรักของฉันไป ผู้ให้อาหารและน้ำ ขนแกะและป่าน ทั้งน้ำมันและเครื่องดื่มแก่ฉัน’ เพราะเหตุนี้ เราจะเอาหนามสุมทางของนาง เราจะสร้างกำแพงกั้นนางไว้ เพื่อมิให้นางหาวิถีของนางพบ นางจะไปตามบรรดาคนรักของนาง แต่ก็จะตามไม่ทัน นางจะเที่ยวเสาะหาเขาทั้งหลาย แต่นางก็จะไม่พบเขา แล้วนางจะว่า ‘ฉันจะไป หาสามีคนแรกของฉัน เพราะแต่ก่อนนั้นฐานะฉันยังดีกว่าเดี๋ยวนี้’ แต่นางไม่ทราบว่า เราเป็นผู้ให้ ข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมัน และได้ให้เงินและทองมากมายแก่นาง ซึ่งเขาใช้สำหรับพระบาอัล เพราะฉะนั้นเราจะทวงคืน ข้าวตามกำหนดฤดูกาล และเหล้าองุ่นตามฤดู และเราจะเรียกขนแกะและป่านของเราคืน ซึ่งให้เพื่อใช้ปกปิดกายเปลือยเปล่าของนาง คราวนี้เราจะเผยความอับอายของนาง ต่อหน้าคนรักของนาง และไม่มีใครช่วยให้นางพ้นมือเราได้ เราจะให้ความร่าเริงของนางสิ้นสุดลง ทั้งเทศกาลเลี้ยง เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำ วันสะบาโต และเทศกาลทั้งสิ้นของนาง เราจะให้เถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนางร้างเปล่า ที่นางคุยว่า ‘นี่แหละเป็นสินจ้างของฉัน ซึ่งคนรักให้ฉัน’ เราจะทำให้กลายเป็นป่า และสัตว์ป่าจะกินเสีย เราจะลงโทษนาง เนื่องด้วยวันเทศกาลเลี้ยงพระบาอัล เมื่อนางเผาเครื่องหอมบูชาพระนั้น แล้วก็ประดับตัวด้วยแหวนและเครื่องเพชรพลอย และติดตามบรรดาคนรักของนางไป และลืมเราเสีย พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เพราะเหตุนี้ ดูเถิด เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และปลอบใจนาง เราจะให้นางมีสวนองุ่นที่นั่น และทำให้หุบเขาอาโคร์เป็นประตูแห่งความหวัง แล้วนางจะตอบอย่างสมัยเมื่อนางยังสาว อย่างสมัยเมื่อนางออกจากแผ่นดินอียิปต์” “พระยาห์เวห์ตรัสว่า ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ เจ้าจะไม่เรียกเราว่า ‘พระบาอัลของฉัน’ อีกต่อไป
โฮเชยา 2:1-16 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
“จงเรียกน้องชายของเจ้าว่า ‘อัมมี’ จงเรียกน้องสาวของเจ้าว่า ‘รุหะมาห์’ จงว่ากล่าวมารดาของเจ้า จงว่ากล่าวเถิด เพราะว่านางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ฉะนั้นให้เธอทิ้งการเล่นชู้เสียจากสายตาของเธอ และทิ้งการล่วงประเวณีเสียจากระหว่างถันของนาง เกรงว่าเราจะต้องเปลื้องผ้าของนางจนเปลือยเปล่า กระทำให้นางเหมือนวันที่นางเกิดมา กระทำให้นางเหมือนถิ่นทุรกันดาร และกระทำให้นางเหมือนแผ่นดินที่แห้งแล้ง และสังหารนางเสียด้วยความกระหาย เราจะไม่มีความสงสารต่อบุตรทั้งหลายของนาง เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นลูกของการเล่นชู้ เพราะว่ามารดาของเขาเล่นชู้ เธอผู้ที่ให้กำเนิดเขาทั้งหลายได้ประพฤติความอับอาย เพราะนางกล่าวว่า ‘ฉันจะตามคนรักของฉันไป ผู้ให้อาหารและน้ำแก่ฉัน เขาให้ขนแกะและป่านแก่ฉัน ทั้งน้ำมันและของดื่ม’ เพราะเหตุนี้ ดูเถิด เราจะเอาหนามให้สะทางของนางไว้ เราจะสร้างกำแพงกั้นนางไว้เพื่อมิให้นางหาทางของนางพบ นางจะไปตามบรรดาคนรักของนาง แต่ก็จะตามไม่ทัน นางจะเที่ยวเสาะหาเขาทั้งหลาย แต่นางก็จะไม่พบเขา แล้วนางจะว่า ‘ฉันจะไปหาผัวคนแรกของฉัน เพราะแต่ก่อนนั้นฐานะฉันยังดีกว่าเดี๋ยวนี้’ แต่นางหาทราบไม่ว่าเราเป็นผู้ให้ข้าว น้ำองุ่น และน้ำมัน และได้ให้เงินและทองมากมายแก่นาง ซึ่งเขาใช้สำหรับพระบาอัล เพราะฉะนั้น เราจะกลับมาและจะเรียกข้าวคืนตามกำหนดฤดูกาล และเรียกน้ำองุ่นคืนตามฤดู และเราจะเรียกขนแกะและป่านของเรา ซึ่งให้เพื่อใช้ปกปิดกายเปลือยเปล่าของนางนั้นคืนเสีย คราวนี้เราจะเผยความลามกของนางท่ามกลางสายตาของคนรักของนาง และไม่มีใครช่วยให้นางพ้นมือเราได้ เราจะให้บรรดาความร่าเริงของนางสิ้นสุดลง ทั้งเทศกาลเลี้ยง เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำ วันสะบาโตและบรรดาเทศกาลตามกำหนดทั้งสิ้นของนาง เราจะให้เถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนางร้างเปล่าที่นางคุยว่า ‘นี่แหละเป็นสินจ้างของฉันซึ่งคนรักของฉันให้ฉัน’ เราจะทำให้กลายเป็นป่าและสัตว์ป่าทุ่งจะกินเสีย เราจะทำโทษนางเนื่องในวันเทศกาลเลี้ยงพระบาอัล เมื่อนางเผาเครื่องหอมบูชาพระเหล่านั้น แล้วก็แต่งกายของนางด้วยแหวนและเพชรพลอยต่างๆ และติดตามบรรดาคนรักของนางไป และลืมเราเสีย พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ ดูเถิด เหตุนี้เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในถิ่นทุรกันดารและปลอบใจนาง เราจะให้นางมีสวนองุ่นที่นั่น กระทำให้หุบเขาอาโคร์เป็นประตูแห่งความหวัง แล้วนางจะร้องเพลงที่นั่นอย่างสมัยเมื่อนางยังสาวอยู่ ดังในสมัยเมื่อนางขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์ พระเยโฮวาห์ตรัสว่า ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ เจ้าจะไม่เรียกเราว่า ‘พระบาอัลของฉัน’ อีกต่อไป
โฮเชยา 2:1-16 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
จงเรียกน้องชายของเจ้าว่า <<อัมมี>> จงเรียกน้องสาวของเจ้าว่า<<รุหะมาห์>> จงว่ากล่าวมารดาของเจ้า จงว่ากล่าวเถิด เพราะว่านางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ให้เธอทิ้งการเล่นชู้เสียจากหน้าของเธอ และทิ้งการล่วงประเวณีเสียจากระหว่างถันของนาง มิฉะนั้นเราจะเปลื้องผ้าของนางให้ล่อนจ้อน กระทำให้เธอเหมือนวันที่เธอเกิดมา กระทำให้เธอเหมือนถิ่นทุรกันดาร และกระทำให้เธอเหมือนแผ่นดินที่แตกระแหง และประหารเธอเสียด้วยความกระหาย เราจะไม่มีความสงสารต่อบุตรทั้งหลายของนาง เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นลูกของการเล่นชู้ เพราะว่ามารดาของเขาเล่นชู้ เธอผู้ที่ให้กำเนิดเขาทั้งหลายได้ประพฤติความอับอาย เพราะนางกล่าวว่า <ฉันจะตามคนรักของฉันไป ผู้ให้อาหารและน้ำแก่ฉัน เขาให้ขนแกะและป่านแก่ฉัน ทั้งน้ำมันและของดื่ม> เพราะเหตุนี้ เราจะเอาหนามไก่ให้สะทางของนางไว้ เราจะสร้างกำแพงกั้นนางไว้ เพื่อมิให้นางหาทางของนางพบ นางจะไปตามบรรดาคนรักของนาง แต่ก็จะตามไม่ทัน นางจะเที่ยวเสาะหาเขาทั้งหลาย แต่นางก็จะไม่พบเขา แล้วนางจะว่า <ฉันจะไป หาผัวคนแรกของฉัน เพราะแต่ก่อนนั้นฐานะฉันยังดีกว่าเดี๋ยวนี้> แต่นางหาทราบไม่ ว่าเราเป็นผู้ให้ ข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมัน และได้ให้เงินและทองแก่นาง ซึ่งเขาใช้สำหรับพระบาอัล เพราะฉะนั้นเราจะเรียกข้าวคืน ตามกำหนดฤดูกาล และเรียกเหล้าองุ่นคืนตามฤดู และเราจะเรียกขนแกะและป่านของเรา ซึ่งให้เพื่อใช้ปกปิดกายเปลือยเปล่าของนางนั้นคืนเสีย คราวนี้เราจะเผยความลามกของนาง ต่อหน้าคนรักของนาง และไม่มีใครช่วยให้นางพ้นมือเราได้ เราจะให้ความร่าเริงของนางสิ้นสุดลง ทั้งเทศกาลเลี้ยง เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำ วันสะบาโต และบรรดาเทศกาลทั้งสิ้นของนาง เราจะให้เถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนางร้างเปล่า ที่นางคุยว่า <นี่แหละเป็นสินจ้างของฉัน ซึ่งคนรักของฉันให้ฉัน> เราจะทำให้กลายเป็นป่า และสัตว์ป่าทุ่งจะกินเสีย เราจะทำโทษนางเนื่องในวันเทศกาลเลี้ยงพระบาอัล เมื่อนางเผาเครื่องหอมบูชาพระนั้น แล้วก็แต่งกายของนางด้วยแหวนและทองรูปพรรณ และติดตามบรรดาคนรักของนางไป และลืมเราเสีย พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ <<ดูเถิด เหตุนี้เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และปลอบใจนาง เราจะให้นางมีสวนองุ่นที่นั่น กระทำให้หุบเขาอาโคร์ เป็นประตูแห่งความหวัง แล้วนางจะตอบอย่างสมัยเมื่อนางยังสาวอยู่ ดังในสมัยเมื่อนางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์>> <<พระเจ้าตรัสว่า ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า <สามีของฉัน> เจ้าจะไม่เรียกเราว่า <พระบาอัลของฉัน> อีกต่อไป
โฮเชยา 2:1-16 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
“จงเรียกน้องชายของเจ้าว่า ‘ประชากรของเรา’ และเรียกพี่สาวของเจ้าว่า ‘ผู้เป็นที่รักของเรา’ “จงตำหนิมารดาของเจ้า จงตำหนินางเถิด เพราะนางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ให้นางทิ้งความยั่วยวนจากใบหน้าของนาง และทิ้งความไม่ซื่อสัตย์จากอกของนางเถิด มิฉะนั้นเราจะเปลื้องนางให้เปลือยเปล่า ล่อนจ้อนเหมือนวันที่นางเกิดมา เราจะทำให้นางเหมือนถิ่นกันดาร ให้นางเป็นดินแดนแห้งผาก และประหารนางด้วยความกระหาย เราจะไม่แสดงความรักต่อลูกๆ ของนาง เพราะเป็นลูกชู้ แม่ของเขาไม่ซื่อสัตย์ และให้กำเนิดพวกเขามาอย่างน่าอดสู นางกล่าวว่า ‘ฉันจะตามบรรดาชู้รักไป เขาให้อาหารและน้ำ ให้ขนสัตว์ ผ้าลินิน น้ำมัน และเครื่องดื่มแก่ฉัน’ ฉะนั้นเราจะเอาพุ่มหนามกีดขวางหนทางของนาง เราจะล้อมกรอบจนนางหมดทางไป นางจะวิ่งไล่ตามชู้รัก แต่ไม่ทัน นางจะเสาะหาพวกเขา แต่ไม่พบ แล้วนางจะบอกว่า ‘ฉันจะกลับไปหาสามีคนแรกของฉัน เพราะเมื่อก่อนฉันมีชีวิตที่ดีกว่านี้มากนัก’ นางไม่รับรู้ว่าเรานี่แหละ คือผู้ที่ให้เมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันแก่นาง คือผู้ที่ให้เงินและทอง ซึ่งพวกเขาใช้บูชาพระบาอัล “ดังนั้นเราจะริบเมล็ดข้าวของเราเมื่อมันสุก และริบเหล้าองุ่นใหม่เมื่อได้ที่แล้ว เราจะเอาผ้าขนสัตว์และผ้าลินินของเราคืน ซึ่งเราตั้งใจให้นางไว้ปกปิดความเปลือยเปล่าของนาง ดังนั้นในบัดนี้เราจะแฉความสำส่อนของนาง ต่อหน้าชู้รักทั้งหลาย และจะไม่มีผู้ใดช่วยนางให้พ้นมือเราไปได้ เราจะยุติงานฉลองทั้งปวงของนาง ได้แก่เทศกาลประจำปีทั้งหลาย วันขึ้นหนึ่งค่ำและวันสะบาโต ทั้งหมดนี้เป็นเทศกาลตามกำหนดของนาง เราจะทำลายบรรดาเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนาง ซึ่งนางกล่าวว่าชู้รักให้มาเป็นค่าตัว เราจะทำให้มันกลายเป็นพุ่มหนาม และสัตว์ป่าทั้งหลายจะเข้ามารุมกิน เราจะลงโทษนาง ที่นางเผาเครื่องหอมบูชาแก่พระบาอัลในวันเหล่านั้น นางประดับกายด้วยแหวนและเพชรพลอยแพรวพราว แล้วโลดแล่นตามชู้รักไป แต่นางกลับลืมเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ดังนั้นเรากำลังจะเกลี้ยกล่อมนาง เราจะพานางเข้าไปในถิ่นกันดาร และพูดกับนางอย่างอ่อนโยน ที่นั่นเราจะคืนสวนองุ่นแก่นาง และจะทำให้หุบเขาอาโคร์กลายเป็นประตูแห่งความหวัง ที่นั่นนางจะร้องเพลงเหมือนเมื่อครั้งแรกรุ่น เหมือนวันที่นางออกมาจากอียิปต์” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศแก่ชาวอิสราเอลว่า “ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ และไม่เรียกว่า ‘นายของฉัน’ อีกต่อไป
โฮเชยา 2:1-16 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
จงพูดกับบรรดาพี่น้องผู้ชายดังนี้ว่า ‘พวกท่านเป็นชนชาติของเรา’ และพูดกับบรรดาพี่น้องผู้หญิงว่า ‘พวกท่านได้รับความเมตตา’ จงห้ามแม่ของพวกเจ้า จงห้ามนาง เพราะนางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ให้นางกำจัดสีหน้าซึ่งเป็นเยี่ยงหญิงแพศยา และกำจัดความไม่ซื่อจากหว่างอกของนางไป มิฉะนั้น เราจะเปลื้องนางให้เปลือยเปล่า และทำให้นางเหลือตัวเปล่าอย่างวันที่นางเกิดมา และทำให้นางเป็นอย่างถิ่นทุรกันดาร และทำให้นางเป็นอย่างแผ่นดินอันแห้งระแหง และปล่อยให้นางกระหายน้ำจนสิ้นชีวิต เราจะไม่มีเมตตาต่อลูกๆ ของนาง เพราะพวกเขาเป็นลูกๆ ของความแพศยา เพราะแม่ของพวกเขาแพศยา นางมีครรภ์อันเกิดจากการกระทำอันน่าอับอาย เพราะนางพูดดังนี้ว่า ‘ฉันจะไล่ตามบรรดาคนรักของฉัน ซึ่งให้อาหารและน้ำดื่มแก่ฉัน ให้ผ้าขนสัตว์และผ้าป่าน ให้น้ำมันและเครื่องดื่มแก่ฉัน’ ฉะนั้น เราจะขวางกั้นทางของนางด้วยขวากหนาม และเราจะก่อกำแพงปิดกั้นนาง เพื่อนางจะหาทางไม่พบ นางจะวิ่งตามบรรดาคนรักของนางไป แต่จะจับพวกเขาไม่อยู่ และนางจะตามหาพวกเขา แต่จะหาไม่พบ ครั้นแล้ว นางจะพูดว่า ‘ฉันจะกลับไปหาสามีคนแรกของฉัน เพราะตอนนั้นฉันสบายยิ่งกว่าเวลานี้’ แต่นางไม่รู้เลยว่า เราเป็นผู้ที่ให้ ธัญพืช เหล้าองุ่น และน้ำมันแก่นาง และเราเป็นผู้ที่ให้เงินและทองแก่นางอย่างเหลือล้น ซึ่งพวกเขาเอาไปใช้สักการะเทวรูปบาอัล ฉะนั้น เราจะเอาธัญพืชกลับคืน เมื่อได้เวลาของมัน และเหล้าองุ่นตามฤดูกาลของมัน และเราจะเอาขนสัตว์และผ้าป่านของเรา ซึ่งใช้ปกปิดกายที่เปลือยเปล่าของนางคืนมา บัดนี้ เราจะเปิดเผยความมักมากในกามของนาง ต่อหน้าบรรดาคนรักของนาง และจะไม่มีใครที่จะช่วยนางให้รอดไปจากมือของเรา และเราจะยุติการเฉลิมฉลองของนางทั้งสิ้น งานฉลองเทศกาล วันข้างขึ้น วันสะบาโต และเทศกาลที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น และเราจะทำลายเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนางจนหมดสิ้น อันเป็นสิ่งที่นางพูดว่า ‘สิ่งเหล่านี้เป็นค่าแรง ซึ่งบรรดาคนรักของฉันได้ให้แก่ฉัน’ เราจะทำให้ที่เหล่านั้นเป็นป่า และสัตว์ในไร่นาจะขย้ำกิน และเราจะลงโทษนางในวันที่นาง จุดเครื่องหอมให้แก่บาอัล เวลาที่นางประดับตัวด้วยแหวนและเพชรพลอย และไล่ตามบรรดาคนรักของนางไป แล้วก็ลืมเรา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ฉะนั้น ดูเถิด เราจะชวนนาง และนำนางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และพูดกับนางอย่างนุ่มนวล และเราจะมอบสวนองุ่นของนางคืนให้แก่นางที่นั่น และจะทำให้หุบเขาอาโคร์เป็นประตูแห่งความหวัง และนางจะตอบรับเหมือนกับเวลาที่นางอยู่ในวัยรุ่น เหมือนกับเวลาที่นางออกจากแผ่นดินอียิปต์” และพระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ในเวลานั้น เจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ และเจ้าจะไม่เรียกเราว่า ‘บาอัลของฉัน’ อีกต่อไป