พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 34 จาก 365

ชัยชนะ 3 ประการ ในชีวิตของคุณ

โฮเซ่ เฮนริเควซ เป็นหนึ่งในคนงานเหมืองแร่จำนวน 33 คนที่ติดอยู่ในเหมืองใต้ดินลึกลงไป 2,300 ฟุต เมื่อครั้งที่เกิดเหตุเหมืองทองแดงถล่ม ณ เมืองซาน โฮเซทางตอนเหนือของประเทศชิลี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2010 นับเป็นเวลาสิบเจ็ดวันที่ความพยายามในการช่วยเหลือทั้งหมดล้มเหลว ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในเหมืองทองแดง คนงานในเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินมีอาหารเพียงพอสำหรับสามวันและน้ำดื่มเพียงเล็กน้อย พวกเขากำลังเผชิญกับความตายที่เจ็บปวดทรมานจากความอดอยาก ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์โฮเซ่ เฮนริเควซ และเบียงก้า ภรรยาของเขาที่คริสตจักร โฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตั้น (HTB) พวกเขาเล่าว่า พวกเขาอธิษฐานทูลขอปาฏิหาริย์กับพระเจ้าอย่างไร เขาบรรยายถึงช่วงเวลาดังกล่าวนั้นว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ขณะที่หัวสว่านเจาะทะลุเข้าไปในอุโมงค์ที่มีคนติดอยู่ พวกเขาตอกสว่านด้วยแท่งเหล็ก พวกเขาพ่นสีมัน และเขียนข้อความมากมายบนนั้น มีเพียงข้อความเดียว ที่ยังคงปรากฎบนสว่านขณะที่มันถูกดึงกลับขึ้นสู่ผิวดิน ข้อความนั้นอ่านว่า 'พวกเราสบายดี มี 33 คนอยู่ในที่กำบัง' ชายเหล่านี้รอดชีวิตจากการติดอยู่ใต้ดินเป็นระยะเวลานานรวมทั้งสิ้น 69 วันก่อนที่พวกเขาจะถูกนำขึ้นสู่ผิวดิน มีผู้คนมากกว่าพันล้านคนติดตามการช่วยเหลือซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ มีฉากพิเศษขณะที่ทุกคนเฉลิมฉลอง*ชัยชนะที่ยอดเยี่ยม*นั้น ถึงแม้ว่า ชีวิตแห่งความเชื่อจะเต็มไปด้วยความท้าทาย ความยากลำบาก และการทดลอง แต่ก็มี*ช่วงเวลาแห่งชัยชนะ*เช่นกัน ในข้อความสำหรับวันนี้ เราจะเห็นชัยชนะสามประเภทที่แตกต่างกัน

สดุดี 18:16-24

1. ชัยชนะเหนือศัตรูของคุณ

ดาวิดผ่านการเผชิญกับการต่อสู้มากมายในชีวิต เมื่อถูกศัตรูล้อมรอบนั้น ฝ่ายตรงข้าม “แข็งแกร่งเกินไป” สำหรับดาวิด (ข้อ 17ข) อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเกินไปสำหรับพระเจ้า พระองค์ทรงช่วยดาวิดจากผู้ที่แข็งแกร่งเกินไปสำหรับเขาและทรงนำเขาเข้าสู่ “ที่กว้างใหญ่” (ข้อ 19) “ฉันยืนอยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัย ด้วยประหลาดใจที่ได้รับความรัก” (ข้อ 19ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

หากในเวลานี้ คุณอยู่ ณ “ที่กว้างใหญ่” อย่าลืมที่จะขอบคุณพระเจ้า แต่ถ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น จงร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อช่วยกู้ชีวิตคุณ และหากครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ของคุณกำลังดิ้นรนกับความลำบากอยู่ในขณะนี้ ขอให้คุณอธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้าที่จะทรงนำพวกเขาเข้าสู่ “ที่กว้างใหญ่” ด้วยเช่นกัน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงนำพาข้าพระองค์ออกจากที่เดิมและนำเข้าสู่ “ที่กว้างใหญ่” วันนี้ ข้าพระองค์ขออธิษฐานเผื่อ...

มัทธิว 22:15-46

2. ชัยชนะเหนือผู้วิพากษ์วิจารณ์

ฝ่ายตรงข้ามของพระเยซูซักถามพระองค์ด้วยคำถามสามข้อ ได้แก่ กับดัก กลอุบาย และการทดสอบ (ข้อ 17,23,35) แต่ละครั้งพระองค์มีชัยชนะและให้คำตอบที่ไม่เพียงแต่ทำให้ประหลาดใจ (ข้อ 22) และอัศจรรย์ใจ (ข้อ 33) แต่ยังมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั้งหมดด้วย เราเรียนรู้อะไรบ้างจากคำตอบของพระเยซู?

* อย่าแบ่งชีวิตของคุณเป็นชีวิตฝ่ายวิญญาณ และชีวิตทางโลก

พวกฟาริสีวางแผนที่จะดักจับพระเยซูด้วยคำพูดของเขา พวกเขาพูดกับพระเยซูว่า “…ขอโปรดให้เราทราบว่าท่านคิดอย่างไร การส่งส่วยให้แก่ซีซาร์นั้นควรหรือไม่” (ข้อ 17) ภาษีที่พวกเขาอ้างถึงนั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่ชอบใจอย่างมาก ถ้าพระเยซูตรัสว่า “ควร” พระองค์คงน่าอดสูในสายตาของผู้คน ทุกคนคงเกลียดชังพระองค์และมองว่าพระองค์เป็นคนทรยศต่อชาติและต้องการช่วยเหลือชาวโรมัน

แต่ถ้าพระองค์ตรัสว่า “ไม่ควร” พระองค์จะมีความผิดโทษฐานปลุกระดมประชาชน ต้องถูกจับกุมและมีโทษประหารชีวิต

ด้วยพระปรีชาญาณที่ไม่เหมือนใครของพระเยซู พระองค์ไม่ได้วางกฎเกณฑ์และข้อบังคับ แต่อธิบายหลักการที่อยู่เหนือกาลเวลา พระองค์ให้คำตอบที่น่าทึ่งว่า 'ของของซีซาร์จงถวายแด่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า' (ข้อ 21)

เราทุกคนผู้ซึ่งติดตามพระเยซูจะมีสองสถานภาพ คือ การเป็นพลเมืองของพระเจ้า ที่ดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้า และ การเป็นพลเมืองที่ดีที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางสังคมบนโลกใบนี้

การที่คุณเป็นพลเมืองของสวรรค์ คุณมีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยหลักการแล้ว ทั้ง ซีซาร์และพระเจ้า ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน คุณถูกเรียกให้เป็นพลเมืองที่ดีทั้งฝ่ายสวรรค์และฝ่ายโลก จงมีส่วนร่วมในสังคมของคุณ อย่าปลีกตัวออกห่างจากสังคมเลย

ไม่ใช่ว่าพระเจ้าทรงดูแลพื้นที่ “ศักดิ์สิทธิ์” ในชีวิตของคุณและรัฐบาลเป็นผู้ดูแลพื้นที่ “ทางโลก” ในชีวิตของคุณ แต่หมดทั้งชีวิตของคุณอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจของพระเจ้า ส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาที่คุณมีต่อพระเจ้าคือการถวายเกียรติและปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ ที่รัฐบาลประกาศไว้ในรูปแบบกฎหมาย ในทำนองเดียวกันกับเหรียญที่สลักเป็นรูปใบหน้าของซีซาร์ ตัวคุณมีพระลักษณะของพระเจ้า (ปฐมกาล 1:26) พระเจ้ามีพระประสงค์ให้คุณมอบทั้งชีวิตให้แก่พระองค์

* รู้ว่าชีวิตหลังความตายมีจริง

จากนั้น บรรดาสะดูสี มาพร้อมกับคำถามหลอกล่อเกี่ยวกับหญิงที่มีสามีเจ็ดคน เนื่องจากสะดูสีไม่เชื่อในการฟื้นคืนชีพ พวกเขาจึงออกแบบคำถามที่ซับซ้อนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันไร้สาระมากเพียงใด (มัทธิว 22:23–28)

พระเยซูตรัสตอบว่า 'ท่านทั้งหลายผิดแล้ว เพราะท่านไม่รู้พระคัมภีร์หรือฤทธิ์เดชของพระเจ้า' (ข้อ 29) พระเยซูใช้พระคัมภีร์เบญจบรรณ (หนังสือห้าเล่มแรกของพระคัมภีร์ซึ่งสะดูสีเชื่อและวางใจ) เพื่อแสดงว่าพระเจ้า 'ไม่ใช่พระเจ้าของคนตาย แต่เป็นของคนเป็น' (ข้อ 32ข)

พระองค์ทำเช่นนี้โดยอ้างถึงคำตรัสของพระเจ้าซึ่งตรัสกับโมเสสที่พุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟในอพยพ 3:6 “เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” (มัทธิว 22:32ก) แม้ว่าอับราฮัม อิสอัค และยาโคบจะเสียชีวิตไปหลายร้อยปีแล้ว แต่พระเจ้าไม่ได้ตรัสว่า “เราเคยเป็นพระเจ้าของพวกเขา” แต่ตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าของพวกเขา” พวกเขาเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่

พระเยซูกำลังแสดงให้เห็นว่าชีวิตนี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต นอกจากนี้จะมีความต่อเนื่องระหว่างชีวิตนี้และชีวิตที่จะมาถึง จะมีการเป็นขึ้นจากตายทางกายภาพ แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีความไม่ต่อเนื่องเช่นกันสำหรับเรา “จะเป็นเหมือนเทวดาในสวรรค์” (ข้อ 30) เหนือสิ่งอื่นใด ข้อพระคัมภีร์แสดงให้เห็นว่าจะมีการเป็นขึ้นจากตาย และถ้าพระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด ทำไมสิ่งนี้เกิดขึ้นไม่ได้เล่า?

* จัดลำดับความสำคัญของความรักต่อพระเจ้าและผู้อื่น

หลังจากนั้น พวกฟาริสีมาพร้อมกับคำถามทดสอบ ซึ่งพระเยซูตรัสตอบอย่างยอดเยี่ยม ตรงประเด็นไปยังหัวใจสำคัญของทั้งพันธสัญญาเดิม นั่นคือ จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้า (“ด้วยสุดความปรารถนา สุดคำอธิษฐานและสติปัญญาทั้งหมดของคุณ” ข้อ 37, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และรักผู้คน (“รักคนอื่นและรักตัวเอง” ข้อ 39, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สิ่งอื่น ๆ ทั้งหมด คือ รายละเอียดในการทำตามพระบัญชาทั้งสองข้อนี้ (ข้อ 34–40)

หลังจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์เงียบลง พระเยซูจึงตรัสถามพวกเขาคำถามเกี่ยวกับตัวตนของพระองค์ พระองค์แสดงให้เห็นจากพระคัมภีร์ว่าพระคริสต์ไม่ได้เป็นเพียงลูกของกษัตริย์ดาวิด แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของกษัตริย์ดาวิด (ข้อ 41–46) พระองค์แสดงให้เห็นว่าพระเมสสิยาห์ ทรงเป็นยิ่งกว่ากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ สิ่งนี้ไม่เพียงท้าทายสมมติฐานของพวกฟาริสีและ สะดูสีเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์เท่านั้น แต่ยังเป็นการบ่งบอกถึงตัวตนของพระเยซูที่ถูกปิดบังไว้ด้วย

นี่เป็นช่วงเวลาแห่งชัยชนะของพระเยซู “ทำให้บรรดาฟาริสีและสะดูสี ผู้เป็นนักเขียนอักษร นิ่งงันไป และด้วยความไม่เต็มใจเข้าเสี่ยงที่จะเสียหน้าอีกครั้งในการปะทะคารมในที่สาธารณะ พวกเขาจึงไม่ตั้งคำถามอีกเลย (ข้อ 46, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระบิดาเจ้า โปรดประทานสติปัญญาให้กับข้าพระองค์เช่นเดียวกับพระเยซู เพื่อหลีกเลี่ยงกับดัก เพื่อรับมือกับการหลอกล่อด้วยคำถาม และที่จะสามารถตอบคำถามสำหรับทดสอบลูกได้

โยบ 30:1-32:22

3. ชัยชนะเหนือการทดลอง

พระธรรมโยบแสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า บาปและความทุกข์ยากไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงโดยตรงกับบาปหรือการปราศจากบาปของแต่ละคน ใจความสำคัญของพระธรรมโยบ คือ ถึงแม้ว่าโยบจะไม่สมบูรณ์แบบ (13:26, 14:17) แต่ก็ไม่ใช่เพราะบาปของโยบที่ทำให้เขาต้องพบกับความทุกข์ลำบาก โยบเป็นผู้ “ไร้ตำหนิและเที่ยงธรรม เขายำเกรงพระเจ้าและหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย” (1:1)

โยบรู้ดีว่าแม้เพื่อนของเขาจะกล่าวหาต่าง ๆ นานา แต่เขาก็มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ชัดเจน ราวกับว่าเขากำลังถูกพิจารณาคดีที่ศาล โดยเผชิญหน้ากับ “ผู้กล่าวหา” พร้อมกับ “คำฟ้อง” (31:35) ในข้อความของวันนี้ โยบให้การเพื่อสู้คดีความ (ข้อ 35)

ชีวิตของโยบเป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ และความท้าทาย นี่คือภาพที่ยอดเยี่ยมของการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์และชอบธรรม

* รักษาตัวให้บริสุทธิ์

โยบบอกว่า “ข้าได้ทำสัญญากับดวงตาของข้า ว่าจะไม่มองหญิงสาวด้วยใจกำหนัด” (ข้อ 1) เขาไม่ได้ล่อลวง (ข้อ 9) ในใจให้เป็นชู้ เขาตระหนักว่า “การล่วงประเวณีคือเปลวไฟที่เผาไหม้บ้านให้วอดวาย” (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

* หลีกเลี่ยงวัตถุนิยม

เขาไม่วางใจในความร่ำรวย (ข้อ 24) ทั้ง ๆ ที่เขามีทรัพย์สมบัติมากมาย เขาไม่ได้ตั้งความหวังไว้กับทองคำบริสุทธิ์การกล่าวว่า “เธอ (ทองคำ) คือความปลอดภัยของฉัน” (ข้อ 24) อีกครั้งที่หัวใจของโยบไม่ได้ถูก “ล่อลวง” อย่างลับ ๆ (ข้อ 27)

* รักศัตรูของคุณ

โยบต่อต้านการล่อลวงที่จะให้เกลียดชังศัตรู เขาไม่ได้ดีใจเมื่อศัตรูของเขากำลังตกที่นั่งลำบาก (ข้อ 29ข) ซึ่งเป็นสิ่งล่อลวงที่ทรงพลังมาก และยังมีการล่อลวงอันหนักหน่วง ที่จะล่อลวงให้กล่าวคำแสดงความโกรธ แต่โยบไม่ยอมให้ “ปากของเขาทำบาปด้วยการกล่าวคำแช่งสาป” (ข้อ 30) ต่อศัตรู

* มีใจกว้างขวาง

โยบหลีกเลี่ยงการทำบาปไม่ใช่แค่เพียงชีวิตส่วนตัวของเท่านั้น เขายังสำแดงความยุติธรรมต่อลูกจ้าง (ข้อ 13) เขาไม่ได้ปฏิเสธ “ความปรารถนาของคนยากจน” (ข้อ 16 วรรคแรก) “ประตูของเขาเปิดสำหรับคนเดินทางเสมอ” (ข้อ 32)

ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดช่วยข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตด้วยความสำนึกผิดชอบชั่วดีที่ชัดเจน ที่ข้าพระองค์จะรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์และเชื่อวางใจในพระองค์ผู้เดียว ขอบพระคุณสำหรับกางเขนของพระเยซูที่ทรงทำให้การอภัยโทษสำหรับความล้มเหลวในอดีตของข้าพระองค์เป็นไปได้ และด้วยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำให้ข้าพระองค์สามารถได้รับชัยชนะเหนือการล่อลวงต่าง ๆ ได้

Pippa Adds

ฉันประทับใจมากกับความเชื่อมั่นของโยบว่าพระเจ้าจะพบว่าเขาไม่มีที่ติ (โยบ 31:6) โยบได้มอบรายการแห่งวิถีชีวิตที่ยาวนานมาก ซึ่งรวมถึงการที่เขาไม่ได้เก็บขนมปังไว้เพื่อตัวเอง (ข้อ 17) ฉันจำได้ว่า ก่อนโควิดระบาด ฉันเองไม่ได้ใจกว้างเลย เมื่อกลับบ้านมาพบว่านิคกี้แจกบราวนี่ช็อกโกแลตที่ฉันทำเก็บไว้เพื่อโอกาสพิเศษไปหมด บราวนี่ของฉันปลอดภัยแล้วในตอนนี้ แต่ฉันหวังว่า ตัวเองจะใจกว้างกว่านี้ในช่วงหลังโควิด

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 33วันที่ 35

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th