พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
มิตรภาพที่ใกล้ชิด
นิค ฮิลส์ เป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดที่สุดที่ผมเคยพบ เขาเป็นนักวิชาการและผู้รอบรู้ เขาเป็นคนฉลาดหลักแหลม เราเคยอยู่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเดียวกัน ประมาณสามเดือนหลังจากที่ผมพบกับพระเยซูคริสต์ครั้งแรก (ในฐานะนักเรียนปีหนึ่ง) เขาก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเยซูเช่นกัน (อันที่จริงเขาไปช่วยจัสติน เวลบี ซึ่งปัจจุบันเป็นอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี และเขามีความศรัทธาในพระเยซู) นิคเริ่มอ่านหนังสือศาสนศาสตร์เล่มหนา*ในทันที* ผมจำได้ว่าเคยถามเขาว่าอ่านเกี่ยวกับเรื่องอะไร เขาตอบมาว่ากำลังอ่านในเรื่อง “อุตรภาพ และอัพภันตรภาพ” ของพระเจ้าอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าสองคำนี่มันหมายความว่าอะไรจึงไปค้นคำสองคำนี้ในพจนานุกรม คำว่า “อุตรภาพ” และ “อัพภันตรภาพ” อธิบายถึงลักษณะในความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้าซึ่งดูแล้วมันเหมือนจะขัดแย้งกัน ความ “อุตรภาพ” ของพระเจ้าหมายความว่าพระเจ้าทรงไม่ได้อยู่ในข้อจำกัดของวงจรของสิ่งของวัตถุและจักรวาล พระองค์ไม่ได้ถูกจำกัดโดยสิ่งเหล่านั้น แต่พระองค์ทรงอยู่เหนือขอบจำกัดของสิ่งเหล่านั้น พระองค์สูงส่ง พระองค์ทรงสันทัด และยิ่งใหญ่เหนือกว่าเรา ในทางกลับกัน “อัพภันตรภาพ” ของพระเจ้าหมายความว่าเราสามารถสัมผัสและมีความสัมพันธ์กับพระองค์ได้ในทันที ดังข้อความในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมสำหรับวันนี้ พระธรรมโยบได้กล่าวถึง “*มิตรภาพที่ใกล้ชิด*ของพระเจ้า” (โยบ 29:4) เมื่อคุณเข้าใจถึงอุตรภาพของพระเจ้า คุณก็จะเห็นได้ว่าอัพภันตรภาพของพระองค์นั้นน่าอัศจรรย์เพียงใด และเป็นสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ที่คุณจะสามารถมีมิตรภาพที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าได้สดุดี 18:7-15
นมัสการพระเจ้าผู้ประทับเหนือกว่าสิ่งทรงสร้างและรักในการทรงสถิตอันยอดเยี่ยมของพระองค์
กษัตริย์ดาวิดกล่าวถึงการประทับที่น่าเกรงขามของพระเจ้า “แล้วแผ่นดินก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของภูเขาก็หวั่นไหวด้วย และสั่นสะเทือน...จากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ ...พระยาห์เวห์ทรงคำรนครืนครั่นในฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียง” (ข้อ 7, 12-13)
ในบทเพลงสดุดีนี้เราเห็นทั้งฤทธิ์เดชและพระพิโรธของพระเจ้าผู้ประทับเหนือกว่าสิ่งทรงสร้าง “สิ่งเหล่านั้นสั่นสะเทือน เพราะพระองค์กริ้ว” (ข้อ 7) พระพิโรธของพระเจ้า (แม้ว่าพระองค์จะไม่เคยประสงค์ร้าย) เป็นปฏิกิริยาส่วนตัวของพระองค์ที่มีต่อบาป
หากเรามองไปยังการเหยียดเชื้อชาติ การค้ามนุษย์ การทารุณกรรมเด็ก การกดขี่ข่มเหงในองค์กร หรือความอยุติธรรมที่เลวร้ายอื่น ๆ โดยไม่มีความรู้สึกขุ่นเคืองใจแต่อย่างใด เราก็ล้มเหลวที่จะรัก ความขุ่นเคืองต่อความชั่วร้ายเป็นองค์ประกอบสำคัญของความดี ในเพลงสดุดีบทนี้ เราได้เห็นว่าพระพิโรธของพระเจ้าเป็นอีกด้านหนึ่งของความรักของพระองค์
ถึงกระนั้น นี่คือเพลงสดุดีบทที่กษัตริย์ดาวิดแสดงถึงความสนิทสนมระหว่างเขากับพระเจ้า โดยเริ่มต้นว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์” (ข้อ 1) ดาวิดไม่ได้มองข้ามคุณค่าของความสนิทสนมระหว่างเขากับพระเจ้า แต่เขาเข้าใจถึงสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ของการมีมิตรภาพที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าผู้อยู่เหนือกว่าสิ่งใด
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ ที่ข้าพระองค์สามารถมีมิตรภาพอันใกล้ชิดกับองค์พระผู้สร้างกัลปจักรวาล ข้าพระองค์รักพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้า ผู้ทรงเป็นกำลังของข้าพระองค์
มัทธิว 21:33-22:14
ยอมรับคำเชิญขององค์พระเจ้าและมีความสุขไปกับความใกล้ชิดสนิทสนมที่มาจากพระองค์
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเราได้เฉลิมฉลองให้กับงานพิธิอภิเษกสมรสถึงสองงานด้วยกันในสหราชอาณาจักร อันได้แก่งานอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมกับแคทเธอรีน มิดเดิลตัน และเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน มาร์เคิล ลองนึกดูว่าจะเป็นอย่างไรถ้าคุณเปิดตู้จดหมายของคุณและพบบัตรเชิญส่วนตัวไปร่วมพิธีสมรสของพวกเขา พระเยซูตรัสว่าเราทุกคนได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานอภิเษกสมรสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
พระเยซูอธิบายถึงแผ่นดินของพระเจ้าว่าเป็นดั่งสวนองุ่นและเหมือนงานเลี้ยงอภิเษกสมรม ทั้งสองภาพนี้พูดถึงพระเมตตาของพระเจ้าและความรักอันอัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อคุณ
แต่ความรักของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องของความอ่อนโยนเสมอไป อีกครั้ง ที่เราได้เห็นอีกด้านหนึ่งของความรักและความเมตตาของพระเจ้าผ่านการพิพากษาของพระองค์ต่อผู้ที่ปฏิเสธความรักและกระทำความชั่ว (21:35 เป็นต้นไป) เมื่อ “คนเช่าสวนจับคนของเขา(เจ้าของสวน)ไปเฆี่ยนตีคนหนึ่ง ฆ่าเสียคนหนึ่ง เอาหินขว้างจนตายคนหนึ่ง” (ข้อ 35) และในการทรยศครั้งท้ายสุดคือเมื่อพวกเขาจับลูกชายของเจ้าของสวนและ “ผลักออกไปนอกสวนแล้วฆ่า” เสีย (ข้อ 39) หลังจากนั้นตามมาด้วยการพิพากษาคดีเกิดขึ้น (ข้อ 41)
พระเยซูกำลังพยากรณ์เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เอง พระองค์เป็น “บุตร” และ “ทายาท” (ข้อ37–38) ที่พระเจ้าส่งมา กระนั้นพวกคนเช่ากลับ “ฆ่าเขาเสีย” (ข้อ 39) พระองค์ทรงเป็นศิลาที่ “บรรดาช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายเป็นศิลามุมเอก”(ข้อ 42) พระองค์เป็นผู้พิพากษา (ข้อ 44) การพิพากษากำลังจะเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการที่พวกเขาปฏิเสธพระเยซู (พวกเขากำลังหาวิธีที่จะจับกุมพระเยซู ข้อ 46)
เช่นเดียวกันในกรณีของงานเลี้ยงอภิเษกสมรสของกษัตริย์องค์หนึ่ง พระเจ้าทรงเชื่อเชิญเราให้มีส่วนในการใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์ นี่ถือเป็นสิทธิพิเศษอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีอภิเษกสมรสนี้ เป็นการเชิญที่มีค่ายิ่ง (ข้อ 4) และเป็นการเชิญอย่างเปิดกว้าง (ข้อ 9–10) และทุกคนก็ได้รับเชิญนี้ที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีก (ข้อ 1–4)
ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่พระเยซูทรงเปรียบเทียบแผ่นดินของพระเจ้ากับงานเลี้ยง นี่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่หลายคนคิดเกี่ยวกับพระเจ้า คริสตจักรและความเชื่อ พวกเขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่มัวหมอง ซอมซ่อและน่าเบื่อ แต่พระเยซูตรัสว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นดั่งงานเฉลิมฉลอง เป็นการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความสุขและงานเลี้ยง
อย่างไรก็ตามมีบางคนเมื่อถูกเตือนเรื่องคำเชิญ “เพียงยักไหล่และไปเสีย บางคนไปไร่นาของตน บางคนก็ไปทำการค้าขาย” (22:5 ม พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ทรัพย์สินและงานของพวกเขามีความสำคัญมากกว่าความสัมพันธ์ต่อองค์พระเยซู บางคนหยาบคายและโหดร้ายเป็นอย่างมาก พวกเขา “จับบ่าวมาทำการอัปยศต่าง ๆ แล้วฆ่าเสีย” (ข้อ 6) พระเยซูตรัสว่า “กษัตริย์องค์นั้นก็กริ้ว” (ข้อ 7)
คำเชิญที่น่าอัศจรรย์และแสนวิเศษของพระเจ้านี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรเมินหรือเพิกเฉยไป นี่เป็นสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าผู้มีชัยเหนือทุกสิ่งกำลังเชิญให้คุณมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์ อย่างไรก็ตามการเดินเข้างานไปเฉย ๆ นั้นยังไม่เพียงพอ คุณต้องสวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส (ข้อ11–13) คุณไม่สามารถเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ตามแต่เงื่อนไขของคุณเอง จำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของพระเยซูเท่านั้น ขอบคุณพระเจ้า โดยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์และของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ พระเยซูได้จัดเตรียมเสื้อที่คุณคู่ควรไว้ให้แล้ว
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ในความรัก พระองค์ทรงจัดงานเลี้ยงให้ข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ยอมรับคำเชิญของพระองค์และมาเข้าเฝ้าพระองค์ในวันนี้ เพื่อมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมของพระองค์
โยบ 25:1-29:25
เข้าใจการประทับเหนือกว่าสิ่งทรงสร้างของพระเจ้าและรับรู้และการทรงสถิตในทุกแห่งหนของพระองค์\t
คุณเคยรู้สึกหนักอึ้งจากปัญหาและความยากลำบากที่คุณกำลังเผชิญอยู่หรือไม่ คุณสงสัยในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า หรือคิดสงสัยว่าพระองค์อยากจะช่วยเหลือคุณไหม?
โยบเข้าใจถึงการประทับเหนือกว่าสิ่งทรงสร้างของพระเจ้า โยบกล่าวว่า 'ข้าจะสอนท่านทั้งหลายเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า' (27:11ก) โยบชี้ให้เห็นว่าทุกสิ่งที่เรามองเห็นถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผ่านทางธรรมชาติรอบตัวเรา เป็นเพียง 'เศษเสี้ยวของผลงานของพระองค์' (26:14)
พระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจมากพอที่จะช่วยเหลือคุณ
พระเจ้าไม่เพียงมีฤทธิ์อำนาจมากพอที่จะช่วยเหลือคุณเท่านั้น แต่พระองค์ทรงรักคุณมากพอที่จะทำเช่นนั้น โยบ ทราบทุกอย่างเกี่ยวกับการทรงสถิตในทุกแห่งหนของพระเจ้า เขาได้สัมผัสกับ 'มิตรภาพอันใกล้ชิดของพระเจ้า' (29: 4) ที่ซึ่งเขาพบปัญญาแท้
“ดูเถิด ความยำเกรงองค์เจ้านาย นั่นแหละคือปัญญา และการหันเสียจากความชั่วร้าย คือความเข้าใจ” (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) “ความยำเกรงพระเจ้า” หมายความถึง การให้เกียรติแด่พระเจ้า ในความสัมพันธ์ที่ให้เกียรติพระเจ้านี้เองที่คุณจะได้พบปัญญา ตอนนี้เรารู้แล้วว่าพระเยซูคริสต์เป็น พระปัญญาของพระเจ้า ในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเยซูคุณจะพบกับปัญญาที่แท้จริง
โยบอธิบายถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของพระปัญญานี้ว่า “แต่จะพบปัญญาได้ที่ไหน …จะเอาทองซื้อก็ไม่ได้ และจะชั่งเงินให้ตามราคาก็ไม่ได้…พระเจ้าทรงเข้าใจถึงหนทางไปสู่ปัญญา และพระองค์เป็นเพียงผู้เดียวที่ว่าปัญญาอยู่ที่ไหน…” ดูเถิด ความยำเกรงองค์เจ้านาย นั่นแหละคือปัญญา และการหันเสียจากความชั่วร้าย คือความเข้าใจ” (28:12,15–28)
ปัญญานี้นำไปสู่ชีวิตแบบไหนหรือ ปัญญาจะนำไปสู่การหันเสียจากความชั่วร้าย (ข้อ 28) และการดูแลคนยากจน (29:12) โยบอธิบายชีวิตที่ชอบธรรมอย่างแท้จริงว่า เป็นการช่วย “คนยากจน…เด็กกำพร้าที่ไม่มีผู้ใดอุปถัมภ์… คนกำลังจะตาย หญิงม่าย คนตาบอด คนง่อย คนขัดสน คนแปลกหน้า” (ข้อ 12–16) โยบไม่เพียง แต่คำนึงถึงความยากจนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความยุติธรรมด้วย “ข้าสวมความชอบธรรม และมันก็ห่อหุ้มข้าไว้ ความยุติธรรมของข้าเหมือนเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะ…ข้าหักเขี้ยวเล็บของคนที่ไม่ชอบธรรม และได้ดึงเอาเหยื่อจากฟันของเขา” (ข้อ 14,17)
เมื่อคุณเข้าใกล้พระเจ้าด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิด สิ่งที่พระองค์ห่วงใยจะกลายเป็นความห่วงใยของคุณ เช่นเดียวกับโยบ คุณจะปรารถนาที่จะช่วยเหลือคนยากจน เด็กกำพร้า คนไร้บ้าน และหญิงม่าย คุณจะอยากช่วยเหลือบรรดาเหยื่อของความอยุติธรรม คุณจะพยายามดูแลคนตาบอด คนง่อย คนขัดสน และผู้ลี้ภัยในแผ่นดินของคุณ
โยบไม่ได้สูญเสียความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าไป แต่เขาได้สูญเสียความรู้สึกถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่จับต้องได้ ผ่านความทุกข์ทรมานที่น่ากลัวที่สุด สำหรับโยบ ดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงอยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ตัวคุณอาจกำลังประสบความทุกข์ยากลำบากเช่นโยบในเวลานี้ และหากคุณเป็นเช่นนั้น ขอให้เรื่องราวของชีวิตโยบเป็นกำลังใจให้คุณ
เมื่อเราอ่านจนถึงตอนท้ายของหนังสือโยบ เราเข้าใจแล้วว่าพระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเขา พระเจ้าทรงอวยพรเขามากเกินกว่าที่เขาจะทูลขอ หรือจินตนาการได้ พระเจ้าทรงรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระองค์คืนให้กับโยบ
บัดนี้ โดยทางพระเยซู เราทุกคนสามารถมีประสบการณ์กับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าผู้ทรงอยู่เหนือกว่าสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างและรู้ว่าเราได้รับพรอันสูงสุดจากพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับตัวอย่างจากชีวิตของโยบ ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมาน ขอที่ข้าพระองค์จะยึดมั่นในพระสัญญาแห่งความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระองค์และพระพรที่มีต่อชีวิตของข้าพระองค์ด้วยเถิด
Pippa Adds
เราทุกคนต้องการจะปลอบโยนเพื่อนของเรา ในเวลาที่พวกเขาต้องการ และอย่างน้อยเพื่อนของโยบก็ไปเยี่ยมเขา ในบางครั้ง เมื่อเราพยายามอย่างที่สุดในการทำความเข้าใจกับความทุกข์ของเพื่อนหรือพยายามช่วยเหลือ สิ่งที่เราพูดอาจไม่ได้ช่วยอะไรเลย! ยากมากที่จะปลอบโยนใครบางคนเมื่อเขาต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายแสนสาหัส บางคนทำได้อย่างถูกต้อง แต่บ่อยครั้งเหลือเกิน สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ นั่นคือเพียงแค่ฟังเพื่อนระบายอยู่เป็นเพื่อนเขา ณ ตรงนั้น และอธิษฐานเผื่อเขา
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th