พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 29 จาก 365

คุณเป็นที่รัก

เชน เทย์เลอร์ ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่อันตรายที่สุดในเรือนจำของสหราชอาณาจักร เดิมทีเขาถูกจำคุกในข้อหาพยายามฆ่า และได้รับโทษจำคุกเพิ่มขึ้นสี่ปีเมื่อเขาก่อจลาจล และทำร้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วยเศษกระจก เขาถูกขังเดี่ยวภายในเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุด เขาได้รับอาหารจากช่องประตูเล็ก ๆ ประตูของเขาจะไม่มีวันเปิดออกเว้นแต่จะมีเจ้าหน้าที่หกคนพร้อมโล่ปราบจลาจลรออยู่ข้างนอก ต่อมาเขาถูกย้ายไปยังเรือนจำ ลอง ลาร์ติน ที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ที่ซึ่งเขาได้รับเชิญเข้าร่วม[หลักสูตรอัลฟ่า](https://thailand.alpha.org/) และในระหว่างหลักสูตรนี้เขาได้อธิษฐานว่า ‘พระเยซูคริสต์ ผมรู้ว่าพระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อผม ผมเกลียดตัวเอง เกลียดที่กลายเป็นคนแบบนี้ โปรดยกโทษให้ผมและเข้ามาในชีวิตของผมด้วยเถิด’ ขณะนั้นเองเขาได้เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และจึงวิ่งออกไปที่ปีกอาคารและบอกทุกคนที่เขาพบว่า ‘พระเยซูมีจริง!’ พฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไปมาก จากคนที่มีชีวิตในห้องขังเดี่ยวมาตลอด จนได้ทำงานที่น่าเชื่อถืองานหนึ่งในพันธกิจเรือนจำ เขาได้อธิษฐานเผื่อเจ้าหน้าในเรือนจำและศัตรูของเขา เมื่อเขาออกมาจากเรือนจำเขาก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในคริสตจักร กระทั่งได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งชื่อแซม ซึ่งเคยมีชีวิตที่ยากลำบาก เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาชญากรรม แต่ต่อมาเธอก็ได้รับเชื่อในพระเยซูคริสต์ด้วย ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่แต่งงานและมีลูกด้วยกันห้าคน เมื่อได้พูดคุยกับเชน มันเป็นการยากที่จะจินตนาการว่าเขาคือคนเดียวกับที่เคยทำร้ายคนอื่นมามากมายในอดีต เขามีประสบการณ์ *‘ความรักมั่นคงของ(พระเจ้า)อย่างอัศจรรย์’* (สดุดี 17:7) และได้กล่าวว่า ‘พระเยซูทรงสำแดงให้ผมเห็นว่าความรักและการให้อภัยเป็นอย่างไร พระองค์ช่วยชีวิตผมไว้ ทรงอภัยบาปทุกสิ่งที่ผมเคยทำ พระองค์เปลี่ยนแปลงชีวิตผม’

สดุดี 17:6-12

รู้ไว้ว่าคุณเป็นที่รักและของล้ำค่าของพระเจ้า

ความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณนั้นยิ่งใหญ่เพราะนั่นคือความใกล้ชิดอย่างมาก ดาวิดร้องทูลต่อพระเจ้าและถามพระองค์ว่า ‘ขอทรงสำแดงความรักมั่นคงของพระองค์อย่างอัศจรรย์เถิด’ (ข้อ 7) เขาอธิษฐานว่า ‘ขอทรงรักษาข้าพระองค์ดังแก้วตา’ (ข้อ 8ก) แก้วตาของดวงตาก็คือ รูม่านตา (ทำหน้าที่ให้แสงผ่านไปจนถึงจอประสาทตา) ดังนั้นจึงหมายถึงสิ่งที่มีค่าที่สุด วันนี้ให้เราใคร่ครวญว่าคุณเป็นของล้ำค่าของพระเจ้ามากเพียงใด
จากนั้นเขาได้อธิษฐานว่า ‘ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์’ (ข้อ 8ข) อีกครั้งที่สิ่งนี้บ่งบอกถึงความรักความใกล้ชิดและการปกป้องที่มาจากพระเจ้า พระเยซูทรงยกภาพนี้ขึ้นมาขณะมองดูผู้คนในเยรูซาเล็มในช่วงที่นำพระองค์ไปสู่การตรึงกางเขนและพระองค์ปรารถนาให้พวกเขามาซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มปีกของพระองค์ (มัทธิว 23:37)

ดาวิดถูกรายล้อมไปด้วย ‘ศัตรู’ (สดุดี 17:9) ผู้คนที่ ‘ไร้ความสงสาร’ ที่พูดจาเหยียดหยามเขา (ข้อ 10) อาจมีหลายครั้งในชีวิตของคุณที่คุณต้องเผชิญกับ ‘ศัตรู’ อย่างแท้จริง แต่ ไม่ว่าคุณจะต้องเผชิญกับความดิ้นรนหรือความยากลำบากเพียงใดก็ตาม คุณสามารถพึ่งพาความรักที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่มาจากพระเจ้าได้

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ได้ร้องทูลต่อพระองค์ในวันนี้ โปรดให้ข้าพระองค์เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพระองค์ โปรดซ่อนข้าพระองค์ไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์

มัทธิว 20:1-19

สัมผัสกับความรักความเอื้ออาทรและพระคุณของพระเจ้า

พระเยซูตรัสคำอุปมาที่แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความอัศจรรย์แห่งรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ คำอุปมาเรื่องคนงานในสวนองุ่นแสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจ และพระคุณอันพิเศษของพระเจ้า ผู้ทรงประทานพรให้กับคนที่เข้ามาในแผ่นดินสวรรค์เป็นคนสุดท้ายเช่นเดียวกับที่คนอื่น ๆ ได้รับ บางครั้งสิ่งนี้อาจทำให้เรารู้สึก ‘อิจฉา’ (ข้อ 15ข) เรากำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ จนกระทั่งมีคนอื่นทำได้ดีกว่า จากนั้นเราถูกล่อลวงให้อิจฉาพวกเขา เจ้าของสวนองุ่นในอุปมานี้คว่ำทำเนียมทางการค้าตามปกติทั้งหมด เขาทำสิ่งนี้ไม่ใช่เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง แต่ด้วยเหตุผลที่ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่มีใจกว้างขวางและยอมจ่ายราคามากกว่าที่จะเรียกหาความยุติธรรม พระเจ้าเป็นเหมือนเจ้าของสวนองุ่นคนนั้น พระพรและการให้อภัยของพระองค์มีมากกว่าที่เราสมควรได้รับเสมอ

บางครั้งเราได้ยินคำพยานจากคนอย่างเชน เทย์เลอร์ ที่มีชีวิตที่เลวร้ายมาก่อน แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้กลับใจ และเชื่อในพระเยซู แม้จะเข้ามา ‘เวลาประมาณห้าโมงเย็น’ ก็ตามที (ข้อ 9) พวกเขาได้รับการอภัยโดยสมบูรณ์และได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดจากการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู (ข้อ 19) บางคนบ่นว่าสิ่งนี้ไม่ยุติธรรมที่คนอย่างเชนได้รับค่าจ้างสูงเกินไป แต่พระเจ้ากลับทรงใช้คำพยานที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ดูเหมือนมากกว่าคนที่ทำงานตรากตรำ ‘กลางแดดตลอดวัน’ (ข้อ 12ข) เสียอีก

อย่างที่เราเห็นเมื่อวานนี้เรื่องแผ่นดินพระเจ้า เป็นอาณาจักรที่กลับหัวกลับหาง ‘คนที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนแรก และคนที่เป็นคนแรกจะกลับเป็นคนสุดท้าย’ (ข้อ 16) พระเยซูตรัสว่า นี่ไม่ใช่เหตุผลที่จะอิจฉา แต่เป็นเหตุผลให้อัศจรรย์ใจกับความเห็นอกเห็นใจของพระเจ้า ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของเพระองค์ ทรงมีพระกรุณาให้กับเราทุกคน เป็นพระคุณทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่เราไม่สมควรได้รับ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พระเยซูพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว (ข้อ 17–20)

ความจริงก็คือไม่ใช่แค่คนอื่น ๆ เช่นเชนเท่านั้นที่พระเจ้าทรงกรุณา แต่พระองค์ทรงกรุณาต่อทั้งคุณและผมด้วยเช่นกัน ถ้าพระเจ้าประทานเฉพาะสิ่งที่เราตรากตรำ นั่นจะทำให้แย่ลงไปอีกมาก แต่ถ้าคุณยอมรับพระกรุณาที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่คุณ ผลที่ตามมาก็น่าประหลาดใจมาก ๆ เช่นกัน

โดยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ (ข้อ 18–19) พระเยซูทรงทำให้คุณและผมได้รับการอภัยและมีความสุขกับความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ชั่วนิจนิรันดร์

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับพระกรุณาที่มีต่อข้าพระองค์เป็นพิเศษ ข้าพระองค์ไม่เคยอิจฉาคนที่ดูเหมือนจะได้รับการอวยพรมากกว่า ขอบคุณที่ข้าพระองค์สามารถรู้ได้ว่าข้าพระองค์เป็นที่รักทั้งในขณะนี้และชั่วนิรันดร์

โยบ 11:1-14:22

ยึดมั่นในความรักที่ยอดเยี่ยมของพระองค์ในวันที่ยากลำบาก

ท่ามกลางความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัสเป็นเวลานานของโยบ เขายังคงยึดมั่นในความรักของพระเจ้า เขากล่าวว่า ‘แม้พระองค์ประหารข้า ข้าพระองค์จะยังรอคอยพระองค์’ (13:15)

แม้ว่าโยบจะมีชีวิตที่ดีพร้อมและชอบธรรม ทั้งยังยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย (1:1) แต่เขาก็ไม่สมบูรณ์แบบ เขาได้กล่าวถึง ‘ความผิดที่ทำเมื่อเยาว์วัย’ (13:26) และกล่าวว่า ‘การละเมิดของข้าพระองค์นั้นจะทรงใส่ไว้ในถุงที่ผนึกตรา และจะทรงฉาบทับความผิดของข้าพระองค์’ (14:17)

ความผิดพลาดที่เพื่อนของโยบทำ คือคิดว่าความทุกข์ของโยบมาจากบาปของเขาเอง ในข้อนี้เราเห็นว่าโยบมีความรู้สึกขุ่นมัวกับเพื่อน ๆ มากขึ้น พวกเขาเอ่ยถึงเรื่อง ‘บาป’ (11:6,14) และเพิ่มการกล่าวโทษโยบมากขึ้น (ข้อ 5) ถึงแม้พวกเขาจะสนทนากันด้วยท่าทีที่เรียบง่าย แต่ก็สร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจไม่น้อย

ในที่สุดโยบก็หันกลับมาและตอบว่า ‘แต่ข้าก็มีความเข้าใจอย่างท่าน ข้ามิได้ด้อยกว่าท่าน เออเรื่องอย่างนี้ผู้ใดจะไม่ทราบ’ (12:3) ‘อะไรที่ท่านทั้งหลายรู้ ข้าก็รู้ด้วย ข้ามิได้ด้อยกว่าท่าน’ (13:2) โยบชี้ให้เพื่อนของเขาเห็นว่าข้อปฏิบัติที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการไม่พูดอะไรเลย ‘โอ ท่านน่าจะนิ่งเสีย และความนิ่งนั้นจะเป็นปัญญาของท่าน’ (ข้อ 5)

เราต้องการสติปัญญาเช่นนี้ เมื่อกำลังพบผู้คนที่กำลังทุกข์ทรมานไม่ใช่พูดซ้ำเติม แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้แสดงความรักอันยอดเยี่ยมของพระเจ้าผ่านกระทำของเรา และระมัดระวังในสิ่งที่เราพูด

โยบมีทัศนคติที่ดีกว่าเพื่อนของเขามาก ในความทุกข์ยากแสนสาหัสเขาต้องเผชิญกับความรู้สึกโดดเดี่ยวและได้ร้องทูลพระเจ้าว่า ‘ไฉนพระองค์ซ่อนพระพักตร์’ (ข้อ 24) หลังจากที่ภรรยาของ ซี.เอส.ลูอิส เสียชีวิต เขาได้เขียนคำว่า ความเศร้าที่สังเกตได้ (A Grief Observed) ซึ่งเปรียบประสบการณ์แบบนี้กับการ ‘โดนประตูปิดใส่หน้า’

ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ โยบยังสามารถพูดกับพระเจ้าได้ว่า ‘แม้ว่าพระองค์ประหารข้า ข้าก็ยังจะหวังในพระองค์’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ในห้วงลึกของความสิ้นหวังนี้ โยบรู้จักพระเจ้าและไว้วางใจในพระองค์มากพอ

วางใจและรู้ไว้เถิดว่าเวลาชีวิตของคุณถูกกำหนดไว้แล้วโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า ‘จำนวนเดือน (ของท่าน) อยู่ในการควบคุมของ(พระเจ้า)’ และไม่มีใครสามารถ ‘ก้าวผ่านขอบเขตที่ทรงกำหนดไว้ได้’ (14:5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่าโยบตระหนักได้ว่า ไม่มีอะไรสามารถแยกคุณออกจากความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้แม้แต่ความตาย 'ถ้ามนุษย์ตายแล้ว เขาจะมีชีวิตอีกหรือ ข้าพระองค์จะคอยอยู่ตลอดวันประจำการของข้าพระองค์ จนกว่าการปลดปล่อยของข้าพระองค์จะมาถึง' (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล; ดู 19:25 เป็นต้นไป)

คุณและผมอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าโยบมาก เพราะเรารู้จักกับไม้กางเขนและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูและเรามีความหวังที่แน่นอนว่าจะมีชีวิตนิรันดร์ ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าและได้เดินอยู่ในความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดไป

ในขณะที่เรื่องราวของโยบถูกเผยแพร่ออกไป เราจะเห็นว่าเขามีสิทธิ์ที่จะวางใจในพระเจ้าต่อไป พระเจ้าไม่เคยอธิบายให้โยบเข้าใจว่าทำไมพระองค์ถึงยอมให้เขาผ่านอะไรมามากขนาดนี้ แต่ความเชื่อมั่นของโยบในความรักของพระเจ้านั้นพิสูจน์ได้ ท่ามกลางความทุกข์ทรมานเราจำเป็นต้องยึดมั่นใน ‘ความรักมั่นคงของ(พระองค์)อย่างอัศจรรย์’ (สดุดี 17:7)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่แม้ว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างในโลกที่ข้าพระองค์ไม่เข้าใจ แต่ข้าพระองค์ก็สามารถวางใจในความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้ โปรดเมตตาข้าพระองค์ในวันนี้และทุก ๆ วันเพื่อให้ชีวิตยังคงดำเนินอยู่ในความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์

Pippa Adds

มัทธิว 20:16

‘อย่างนั้นแหละ คนที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนแรก และคนที่เป็นคนแรกจะกลับเป็นคนสุดท้าย’

ฉันได้นำพระคำตอนนี้ออกมาใช้ในชีวิตหลายครั้ง เมื่อตอนที่ลูก ๆ ของเรายังเด็กและแพ้การแข่งวิ่งหรือทำข้อสอบหรือการแข่งขันได้ไม่ดีฉันจะท่องเอาว่า ‘คนที่เป็นคนแรกจะกลับเป็นคนสุดท้าย’ มันเป็นเรื่องตลก แต่ก็เป็นการเตือนความจำถึงสิ่งที่เราให้คุณค่าในชีวิตไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย การอยู่จุดสูงสุด สิ่งเหล่านี้จะไม่ได้รับการประเมินค่าในลักษณะเดียวกับในแผ่นดินสวรรค์

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 28วันที่ 30

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th