พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 8 จาก 365

ไม่มีสิ่งใดยากเกินไปสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า

คุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ในชีวิตหรือไม่? มีเรื่องยากเกินแก้เกิดขึ้นในความสัมพันธ์หรือไม่? ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง? ความท้าทายที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในงานของคุณ มีนิสัยหรือการเสพติดที่คุณพบว่าเลิกไม่ได้บ้างไหม? ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับความท้าทายใด ๆ ในปีข้างหน้านี้ *ไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับพระเจ้า* อับราฮัมอายุร้อยปี นางซาราห์ภรรยาของเขาอายุเก้าสิบ พระเจ้าสัญญากับพวกเขาว่าจะประทานบุตรให้ พวกเขากล่าวว่า *‘เป็นไปไม่ได้’* นี่คือบริบทของคำถามปลายปิดที่ว่า *‘มีสิ่งใดอัศจรรย์เกินที่พระยาห์เวห์จะทรงทำได้?’* (ปฐมกาล 18:14) คำตอบคือ ‘ไม่’ หากซาราห์สามารถตั้งครรภ์ได้เมื่อ ‘ชราแล้วและประจำเดือนของซาราห์ก็หมดไปแล้ว’ (ข้อ 11) แต่ไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า ในแต่ละความท้าทายสามประการที่เราเห็นในพระคำวันนี้ เราต้องระลึกไว้เสมอว่า*ไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับองค์พระผู้เป็นพระเจ้า*

สุภาษิต 1:8-19

ต่อสู้กับการทดลอง

พระเยซูไม่เคยบอกให้เราถอนตัวจากโลกนี้ ความท้าทายคือการอยู่ ‘ในโลก’ แต่ไม่ใช่เป็น ‘ของโลก’ คุณถูกเรียกให้ต่อสู้การทดลองของโลกใบนี้

ในหนังสือสุภาษิตได้ให้คำแนะนำที่ใช้ได้จริงเกี่ยวกับวิธีการมาสู่ความสมดุล คืออย่าปล่อยผู้อื่นล่อลวงคุณให้ทำบาป ‘ถ้าคนบาปล่อชวนเจ้า อย่าได้ยอมตาม’ (ข้อ 10 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) 'ถ้าพวกเขาพูดว่า "มากับเราเถิด..."’ (ข้อ 11) จงอย่ายอม

ตอนที่ผมเป็นทนายฝึกหัด ผมสังเกตเห็นว่ามีหลายคนที่ถูกนำไปสู่อาชญากรรมโดยถูกชักชวนว่า ‘มากับพวกเราเถอะ’

อย่าตกเข้าไปสู่ความบาปเพียงเพราะเห็นว่าจริง ๆ แล้วคนอื่นก็ทำเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการหลบเลี่ยงภาษีหรือโกงค่าโดยสาร การเมาหรือสำส่อน อย่าเดินตามคนหมู่มาก ‘อย่าเดินในทางนั้นกับพวกเขา’ (ข้อ 15) บางสิ่งไม่เป็นที่ยอมรับเพียงเพราะใคร ๆ ก็ทำมัน ผมไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผมให้เป็นเหมือนมาตรฐานของโลกใบนี้ได้

ในท้ายที่สุดหากเท้าของคุณ ‘วิ่งไปหาความชั่วร้าย’ (ข้อ 16) หรือก้าวไปตาม ‘ทางของทุกคนที่หากำไรด้วยความทารุณโหดร้าย’ (ข้อ 19ก) มันจะคร่าชีวิตคุณไป ‘เมื่อเจ้าคว้าทุกสิ่งที่หามาได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ยิ่งเจ้าได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น’ (ข้อ 19 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

สิ่งล่อตาล่อใจของโลกนี้นั้นช่างแข็งแกร่งมาก แต่กระนั้นไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานพละกำลังให้แก่ข้าพระองค์ในการต่อสู้กับการทดลองทั้งปวงของโลกและไม่ถูกล่อลวงให้ทำบาปตลอดปีนี้

มัทธิว 6:25-7-23

ดำเนินชีวิตตามแบบพระเยซู

พระวจนะของพระเยซูเป็นสิ่งที่มีฤทธานุภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา พระคำเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ตัวอย่างเช่น ‘จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่พวกท่านต้องการให้พวกเขาปฏิบัติต่อท่าน’ (7:12) พระดำรัสดั่งทองคำนี้เรียบง่ายและงดงามแต่ดูเหมือนว่าแทบจะทำตามได้ยากมาก ‘หากเจ้าประสงค์ให้ผู้อื่นกระทำอย่างไรกับตน รีบคว้าโอกาสกระทำกลับต่อพวกเขา’ (ข้อ 12 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่คือการนำพระดำรัสของพระเยซูไปปฏิบัติใช้ คำแนะนำของพระองค์แจ่มแจ้งชัดเจน แต่ดูเหมือนว่ามาตรฐานจะสูงเกินไป กระนั้นไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า

  • หยุดกระวนกระวายและเริ่มใช้ชีวิต
    พระเยซูสั่งให้คุณไม่ต้องกระวนกระวายถึงชีวิตหรือสิ่งของใด ๆ (6:25,28–31) ให้เราคิดล่วงหน้า วางแผนล่วงหน้า และอย่ากังวลถึงอนาคต วางใจในการจัดเตรียมของพระบิดาบนสวรรค์ (ข้อ 26) พระองค์ทรงทราบทุกความต้องการของคุณ (ข้อ 32) ความเชื่อเป็นยาแก้ความกระวนกระวายใจ

|คุณไม่สามารถต่อชีวิตให้ยาวขึ้นเพียงชั่วโมงเดียวได้โดยมีความกระวนกระวายใจ (ข้อ 27) ดังที่ คอร์รี่ เทม บูม กล่าวเอาไว้ว่า ‘ความกระวนกระวายใจไม่ช่วยให้วันพรุ่งนี้ดีขึ้น มีแต่จะทำลายความแข็งแกร่งในวันนี้จนหมดสิ้น’

|ให้เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด จดจ่อการดำเนินชีวิตไปทีละวัน อย่ายืมปัญหามาจากวันพรุ่งนี้เพราะ ‘แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว’ (ข้อ 34ข) ตัดสินใจในวันนี้ที่จะไม่กังวลกับสิ่งใดในวันพรุ่งนี้ วางใจให้พระเจ้าจัดเตรียมให้คุณวันต่อวัน

  • จัดลำดับความสำคัญของคุณ
    พระเยซูประสงค์ให้คุณปรับเปลี่ยนความทะเยอทะยาน และจัดลำดับความสำคัญ แสวงหาพระเจ้าในสิ่งที่พระองค์เป็นไม่ใช่เพื่อสิ่งที่พระองค์สามารถทำเพื่อคุณได้ เช่นเดียวกับเรา พระเจ้าไม่ต้องการให้สหายของพระองค์สนใจแต่สิ่งที่พวกเขาจะได้รับจากพระองค์เท่านั้น แต่พระองค์ต้องการให้คุณแสวงหา ‘การทรงสถิต’ ไม่ใช่แค่เพียง ‘การทรงสำแดง’

|รับหน้าที่ใหม่นี้ที่ทั้งน่าตื่นเต้นและท้าทาย ‘แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้’ (ข้อ 33)

  • อย่าตัดสินผู้อื่น
    เราไม่ควรมีความสุขในการตัดสินผู้อื่น อย่าเพลิดเพลินไปกับการจ้องจับผิดแต่ผู้อื่นหรือคาดเดาว่าการกระทำของพวกเขาเกิดจากแรงจูงใจที่ไม่ดี หากเราตระหนักว่าแต่ละคนอาจจะผ่านทั้งความเศร้าโศกและความทุกข์ระทม เราจะไม่ด่วนตัดสินพวกเขา พระเยซูบอกให้เราจัดการชีวิตของเราเองก่อน เราต้องเปลี่ยนตัวเองก่อนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงผู้อื่น (7:1–5) แทนที่จะหว่านคำวิพากษ์วิจารณ์และตัดสินผู้อื่น แต่จงหว่านความเมตตาความกรุณาและความรัก

  • ยึดมั่นในการอธิษฐาน
    แต่เมื่อพวกท่านอธิษฐาน อย่าพูดพล่อย ๆ ซ้ำซาก เหมือนบรรดาคนต่างชาติเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะโปรดฟัง อย่าทำเหมือนพวกเขาเลย เพราะว่าสิ่งไรซึ่งพวกท่านจำเป็น พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านจะทูลขอต่อพระองค์ (ข้อ 7–8) และพระองค์สัญญาว่าจะทรงประทาน ‘ของดี’ เมื่อคุณอธิษฐาน (ข้อ 9–11)

  • มีชีวิตที่แตกต่างสุดขั้ว เข้าไปทางประตูแคบที่นำไปสู่ชีวิต (ข้อ 13–14) บนถนนสายแคบไม่มีที่ว่างสำหรับความเย่อหยิ่ง ความไม่สัตย์ซื่อ ความโกรธ ความเกลียดชังศัตรูหรือการไม่ให้อภัย

ให้ทุก ๆ วันได้สำแดงความอ่อนน้อมถ่อมตน คุณต้องให้การอธิษฐาน การฝึกควบคุมตนเองและการแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้ามาก่อน นี่คือถนนแห่งความบริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์และการให้อภัย เป็นถนนที่คุณต้อง ‘ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่พวกท่านต้องการให้พวกเขาปฏิบัติต่อท่าน’ (ข้อ 12) คุณจำเป็นต้องสำแดงผลที่ดีออกมาโดยทางอุปนิสัย วิถีชีวิต การสอน การกระทำ อิทธิพล และความสัมพันธ์ (ข้อ 15–23)

ข้าแต่พระเจ้า ในขณะที่ข้าพระองค์เผชิญกับความท้าทายในการดำเนินชีวิตตามแบบของพระเยซูในปีนี้ ขอบคุณพระองค์ที่โดยพระองค์ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ โปรดเติมพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ข้าพระองค์ในวันนี้และช่วยข้าพระองค์ให้มีชีวิตแบบที่ปรารถนาอยู่ลึกภายใน

ปฐมกาล 17:1-18:33

วางใจพระเจ้าในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

พระเจ้าทรงปรากฎต่อหน้าอับราฮัมและทรงกำหนดสิ่งท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่อหน้าเขา ‘เราเป็นพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ จงดำเนินอยู่ต่อหน้าเราและเป็นคนดีพร้อม’ (17: 1) จากนั้นพระองค์ทรงทำพันธสัญญากับอับราฮัม ‘เราจะทำพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้า เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากมายมหาศาล’ (ข้อ 2) ไม่น่าแปลกใจที่อับราฮัม ‘ซบหน้าลง’ (ข้อ 3)

พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับอับราฮัม พระองค์ทรงสัญญาจะมอบแผ่นดินคานาอัน และมอบพงศ์พันธ์ุแก่เขา และให้เป็นบิดาของประชาชาติมากมาย (ข้อ 4–8) พระเจ้าทรงย้ำถึงพันธสัญญานี้ในการเปลี่ยนชื่อจากอับรามเป็นอับราฮัม เนื่องจากอับราฮัมแปลว่า ‘บิดาของประชาชาติ’ (ข้อ 5) นอกจากนี้พระเจ้ายังเปลี่ยนชื่อของนางซารายเป็นซาราห์ซึ่งนางจะเป็น ‘มารดาของประชาชาติ’ (ข้อ 16) เครื่องหมายของพันธสัญญานี้คือการเข้าสุหนัต (ข้อ 9 เป็นต้นไป)

พระเจ้าไม่ได้ตรัสกับอับราฮัมเพียงครั้งเดียวว่าเขาจะมีบุตรชาย พระองค์ทรงยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า (15:4;17:16;18:10) คุณสามารถคาดหวังให้พระเจ้าตรัสกับคุณเกี่ยวกับเรื่องสำคัญในชีวิตและยืนยันเรื่องเหล่านี้ได้หลาย ๆ ครั้ง

ความสัมพันธ์ของอับราฮัมกับพระเจ้านั้นใกล้ชิดกันมาก พระเจ้าทรงสนทนากับอับราฮัม อับราฮัมขอทูลพระองค์เกี่ยวกับอิชมาเอล และคำตอบของพระเจ้าคือ ‘ที่แน่นั้น’ (17:19) พระองค์ตรัสว่าพระองค์ไม่เพียงจะตอบคำอธิษฐานของอับราฮัมที่มีต่ออิชมาเอลเท่านั้น แต่พระองค์ยังจะทำมากกว่าที่อับราฮัมทูลร้องขอหรือจินตนาการอีกด้วย (ข้อ 19–21)

ครั้งที่สามที่พระเจ้าทรงทำพันธสัญญานี้กับอับราฮัม พระองค์ทรงส่ง ‘ชายสามคน’ (18:1–15) เมื่อเราใคร่ครวญสิ่งนี้ผ่านมุมมองของพันธสัญญาใหม่เราจะพบตรีเอกานุภาพปรากฎขึ้นที่นี่ เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้มาปรากฎสามคน (ข้อ 2) แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาพูดเป็นหนึ่งเดียวกัน: ‘พระยาห์เวห์ตรัส’ (ข้อ 13)

อันที่จริง นี่คือผลงานภาพวาดที่มีชื่อเสียงวาดโดย อันเดร รูเบลฟ ในปี 1410 (ดูด้านล่าง) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของฑูตสวรรค์สามองค์ที่มาเยี่ยมอับราฮัมและเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระเจ้า (พระเจ้าองค์เดียวในสามพระภาค) และการสามัคคีธรรมแห่งความรักด้วยหัวใจของการเป็นพระเจ้า

พระเจ้าทรงสัญญาว่า ‘ในฤดูนี้ปีหน้าเราจะกลับมาหาเจ้าอีกแน่นอน ซาราห์ภรรยาของเจ้าจะมีบุตรชายคนหนึ่ง’ (ข้อ 10) นางซาราห์หัวเราะในใจ ‘ในเมื่อฉันแก่แล้ว สามีของฉันก็แก่แล้ว ฉันยังจะมีความยินดีอย่างนี้อีกหรือ’ (ข้อ 12)

เป็นที่หนุนใจมากเมื่อนางซาราห์เองก็มีจุดอ่อนตามธรรมดาของมนุษย์เช่นกัน พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า ‘ทำไมนางซาราห์หัวเราะ และกล่าวว่า “ฉันแก่แล้ว จะคลอดบุตรชายจริง ๆ หรือ”’ (ข้อ 13) ‘แต่นางซาราห์ปฏิเสธว่า “ข้าพระองค์ไม่ได้หัวเราะพระเจ้าข้า” เพราะนางกลัว’ (ข้อ 15) บางครั้งเราทุกคนถูกล่อลวงให้โกหกเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากปัญหายกเว้นพระเยซู พระคัมภีร์ไม่เคยแสดงให้เราเห็นว่าคนของพระเจ้าทั่งชายและหญิงจะไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ

คำตอบของพระเจ้าคือการย้ำเตือนถึงพระสัญญาและตั้งคำถามปลายปิดที่ว่า ‘มีสิ่งใดอัศจรรย์เกินที่พระยาห์เวห์จะทรงทำได้’ (ข้อ 14ก)

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะเชื่อมั่นในพระองค์ตลอดไป ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรในชีวิตแต่ไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับพระองค์

Pippa Adds

มัทธิว 6:25

‘อย่ากระวนกระวายถึงชีวิต...’

ฉันเสียเวลาไปมากในการกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ความเจ็บป่วย ปัญหาต่าง ๆ แม้กระทั่งสิ่งที่จะสวมใส่ ฉันพบว่ามันยากที่จะไม่กังวลอะไรเลย เพราะถ้าฉันไม่กังวลอะไรเลยก็ดูว่าฉันไม่สนใจอะไรเลยเช่นกัน

มีความสมดุลกันระหว่างความกังวลและการอธิษฐานอย่างร้อนรน ฉันคิดว่าคำตอบอยู่ที่การวางใจว่าพระเจ้าทรงสดับคำอธิษฐานของเราและเราจะปฏิบัติตาม และหวังว่าพระองค์จะไม่รังเกียจที่เราจะกลับมากังวลเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 7วันที่ 9

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th