พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
‘ข้าแต่พระยาห์เวห์...ขอประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้’
*ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่* นี่คือชื่อของหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยคำคมและเคล็ดลับของหลากหลายคนดังที่ ‘ประสบความสำเร็จ’ บนปกหลังมีคำถามว่า ‘คุณกำลังอยู่บนหนทางที่ขัดแย้งกับ*ชื่อเสียง ความร่ำรวย* หรือ*ความยิ่งใหญ่*หรือเปล่า?’ บ่อยครั้งที่สังคมรับรู้ว่านี่เป็นนิยามของคำว่า *‘ความสำเร็จ’* คริสตจักรมักจะระมัดระวังที่จะกล่าวถึง ‘ความสำเร็จ’ บ่อยครั้งที่คำนี้มักจะมีนัยยะในเชิงลบ แต่จริง ๆ แล้วคำว่า ‘ความสำเร็จ’ ไม่ใช่คำหยาบคายในพระคัมภีร์ แต่ยังปรากฏอย่างน้อยห้าครั้งในภาคพันธสัญญาเดิม (ปฐมกาล 24:12 , 21, 40 , 42 , 56) ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะกล่าวถึงในเชิงบวก ความสำเร็จนั้นคือการอวยพรจากพระเจ้า (ข้อ 31, 50) ความสำเร็จคือสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม พันธกิจของพระเยซูและถ้อยคำจากพระคัมภีร์ก็ได้ให้นิยามใหม่ของคำว่า ความสำเร็จสดุดี 8:1-9
สรรเสริญพระเจ้าสำหรับความสำเร็จที่ทรงสร้าง
กาแล็กซี่ที่เราอาศัยอยู่นั้น อาจจะมีดาวฤกษ์มากกว่าแสนล้านดวงที่คล้ายคลึงกับดวงอาทิตย์ นอกจากนี้กาแล็กซี่แห่งนี้ยังอาจเป็นเพียงหนึ่งในกาแล็กซี่กว่าแสนล้านแห่ง เมื่อพิจารณาถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาลแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเราช่างเป็นคนเล็กน้อยและไร้ความสำคัญเสียเหลือเกิน
กษัตริย์ดาวิดขึ้นต้นและลงท้ายบทเพลงสดุดีด้วยการนมัสการพระเจ้า ในความสำเร็จในการทรงสร้างของพระองค์ (ข้อ 1–2, 9)
ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน กษัตริย์ดาวิดกล่าวขึ้นว่า ‘เมื่อข้าพระองค์มองดูฟ้าสวรรค์อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ดวงจันทร์และดวงดาวซึ่งพระองค์ได้ทรงสถาปนาไว้ มนุษย์เป็นผู้ใดเล่า ที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา? บุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า ที่พระองค์ทรงห่วงใยเขา?’ (ข้อ 3-4)
กษัตริย์ดาวิดประหลาดใจที่มนุษย์เป็นผลงานชิ้นเอกที่พระเจ้าสร้างขึ้นจากพระฉายาของพระองค์ พระเจ้าไม่เพียงแต่รักคุณเท่านั้นแต่พระองค์ยังทรงห่วงใยคุณ (ข้อ 4) และพระองค์ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับคุณนั่นคือ ‘พระองค์ทรงสร้างเขาให้ต่ำกว่าพระองค์แต่หน่อยเดียว และทรงสวมศักดิ์ศรีกับความมีอำนาจให้เขา พระองค์ทรงให้เขาปกครองผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เท้าเขา’ (ข้อ 5–6)
เราทั้งหลายได้รับมอบหมายให้ดูแลทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง เมื่อรู้เช่นนี้แล้วคริสเตียนควรอยู่ในแนวหน้าของการปกป้องรักษาและดูแลสิ่งอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา
แม้แผนการดั้งเดิมของพระเจ้าที่ครอบครองเหนือทุกสิ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงไป แต่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่จะเห็นว่ามีการนำข้อเหล่านั้นไปปรับใช้กับพระเยซูโดยตรง (ฮีบรู 2:8) ในพระคริสต์เราได้รับการสร้างขึ้นใหม่ (เอเฟซัส 1:19–23, 2:5–6) และวันหนึ่งจะเสร็จสมบูรณ์และเราจะเห็นทุกสิ่งอยู่ใต้เท้าของพระองค์ (1 โครินธ์ 15:24–26)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เห็นความกว้างใหญ่ ความงดงามและความสำเร็จของการทรงสร้างของพระองค์ และประกาศว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านายของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระนามของพระองค์สูงส่งทั่วทั้งแผ่นดินโลกยิ่งนัก!’ (สดุดี 8:9)
มัทธิว 9:14-38
แสวงหาความสำเร็จตามแบบอย่างของพระเยซู
พระเยซูได้นิยามใหม่ของคำว่าความสำเร็จ หากคุณต้องการทราบว่าความสำเร็จที่แท้จริงมีลักษณะอย่างไร จงศึกษาแบบอย่างจากชีวิต วิสัยทัศน์ และคำสอนของพระเยซู อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่ว่านี้ไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง
พระเยซูทรงเป็นที่รักและที่ชัง ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงการได้รับความนิยมชมชอบเสมอไป มีบางครั้งที่ผู้คนชื่นชมพระเยซู ‘เรื่องเช่นนี้ไม่เคยปรากฏในอิสราเอลเลย’ (ข้อ 33) แต่ก็มีบางครั้งที่คนเกลียดชังพระองค์ พวกฟาริสีกล่าวว่า ‘คนนี้ขับผีออกโดยนายผี’ มันไม่มีอะไรเลยนอกจากการหลอกลวง บางทีเขาอาจจะทำสัญญากับปีศาจไว้แล้ว (ข้อ 34)
ในฐานะสาวกของพระเยซู คุณอาจมีทั้งผู้ที่ชื่นชมและเกลียดชัง เช่นเดียวกับ วิลเลียม วิลเบอร์ ฟอร์ซ คือชายผู้ที่รณรงค์เพื่อยุติการค้าทาส แต่เขากลับเป็นคนที่ได้รับการชื่นชมและเกลียดชังมากที่สุดในอังกฤษ
ในพระกิตติคุณมัทธิวกล่าวถึงความสำเร็จของการทำพันธกิจของพระเยซู (บทที่ 5–9) เขาสรุปว่า ‘พระเยซูจึงทรงดำเนินไปตามเมืองและหมู่บ้านโดยรอบ ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาของเขาทั้งหลาย ทรงประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า ทรงรักษาโรคและความเจ็บป่วยทุกอย่างให้หาย’ (9:35)
เห็นได้ชัดว่าพระเยซูทรงนำคำสอนและพระสิริของพระเจ้ามาสู่บุคคลใกล้ชิดของพระองค์ ผ่านทางคำพูดและการกระทำ นี่ต่างหากคือความสำเร็จตามแบบฉบับของพระเยซู นี่ต่างหากคือสิ่งที่คุณและผมต้องปฏิบัติตาม
หากเราต้องการจะประสบความสำเร็จแบบเดียวกับพระเยซูและสาวกสิบสองคน เราต้องมีพระเยซูเป็นแบบอย่างในชีวิต และต้องแบ่งปันความคิดของพระองค์ให้กับคนอื่น ๆ นั่นคือ
1. นี่คือความจำเป็นเร่งด่วน
พระเยซูทรงเห็นว่า ‘พวกเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง’ (ข้อ 36) ทุกวันนี้เราเห็นหลายล้านคนที่ไม่รู้จักพระเยซูและหลงทางฝ่ายวิญญาณ ผู้คนหลายล้านคนอยู่อย่างอดอยากไร้ที่อยู่อาศัย บ้างก็ทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ บ้างก็ไม่มีการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. มีความรักเป็นแรงจูงใจ
พระเยซูทรงสงสารเขาทั้งหลาย (ข้อ 36) นี่เป็นคำที่แสดงถึงความรักอันแรงกล้าที่สุดในภาษากรีก (ได้รับจากคำภาษากรีกที่แปลว่า ‘กล้า’) สำหรับพระเยซูแล้ว คำนี้อาจแปลได้ว่า ‘พระองค์เสียใจ’ นั่นหมายถึงพระทัยของพระองค์แตกสลาย
พระเยซูไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสำเร็จในโลก แต่พระองค์ทรงช่วยเหลือผู้คนต่างชนชั้น นั่นคือ ‘นายธรรมศาลา’ (ข้อ 18) และ ‘ผู้หญิงที่เป็นโรคตกโลหิต’ (ข้อ 20) ถึงอย่างนั้นพระเยซูก็ทรงสงสารพวกเขาทั้งสอง
3. การอธิษฐานคือเคล็ดลับ
พระเยซูตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า ‘ท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ทรงส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์’ (ข้อ 38) พระองค์อธิษฐานเผื่อจะมีคนงานมากขึ้นในการเก็บเกี่ยว
4. ศักยภาพมากมาย
พระเยซูตรัสว่า ‘ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา’ (ข้อ 37) พระเยซูได้ทำให้เราดูเป็นตัวอย่างว่าความสำเร็จเป็นอย่างไร นั่นคือการประกาศถึงแผ่นดินสวรรค์และสำแดงให้เห็นโดยการฝ่าวงล้อมเข้าไปในประวัติศาสตร์ ตอนนี้พระองค์เรียกร้องให้คุณทำตามแบบอย่างของพระองค์ นั่นคือนำคนมารู้จักพระเจ้า พระเจ้ามีความปรารถนาดีสำหรับโลกของเรา แต่ดูเหมือนว่าคนงานจะยังมีน้อยอยู่ ผมอธิษฐานให้คุณลุกขึ้นและออกไปในทุ่งนาเก็บเกี่ยว และเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
ข้าแต่พระเจ้า มีความต้องการมากมายในโลกใบนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนงานยังมีน้อยอยู่ ขอโปรดทรงเจิมและส่งคนงานออกไปเก็บเกี่ยวให้มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
ปฐมกาล 24:1-67
อธิษฐานเผื่อความสำเร็จในการทรงนำ
ผู้รับใช้ของอับราฮัมไม่ละอายที่จะอธิษฐานให้ตัวเขาเองประสบความสำเร็จ เขาอธิษฐานด้วยคำอธิษฐานที่เราทุกคนเลียนแบบได้ ‘ขอประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้’ (ข้อ 12) นี่ไม่ใช่คำอธิษฐานที่เห็นแก่ตัว แต่เป็นคำอธิษฐานที่ขอให้พระเจ้าอวยพรคนอื่น ‘ขอทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนายของข้าพระองค์’ (ข้อ 12) เขาขอให้พระเจ้านำทาง
นี่เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งที่สุดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการทรงนำของพระเจ้า ในอัลฟ่าเราพูดถึงห้าวิธีที่พระเจ้าทรงนำทางเราในหัวข้อ ‘5 CSs’ ในข้อนี้เราจะเห็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ 5 คือคำอธิษฐานเพื่อ ‘การทรงนำทางสถานการณ์’
1. ตามที่สั่งไว้ในพระวจนะพระเจ้า
อับราฮัมไม่มีพระคัมภีร์อย่างที่พวกเรามี แต่เขาได้รับพระบัญชาจากพระเจ้า ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์ พระเจ้าสั่งให้คนของพระองค์แต่งงานกับผู้เชื่อในพระองค์เท่านั้น ดังนั้นอับราฮัมจึงสั่งคนรับใช้ว่าภรรยาของบุตรชายเขา ต้องไม่ใช่บุตรหญิงของคนคานาอัน แต่ต้องมาจากชนชาติของเขาเอง (ข้อ 3-4)
2. โดยการทรงนำขององค์พระวิญญาณ
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเราขณะที่เราอธิษฐาน แม้ว่าคำว่า ‘พระวิญญาณบริสุทธิ์’ จะไม่ได้ปรากฏในข้อนี้ แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าบุคคลที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นี้ได้รับการทรงนำจากพระวิญญาณ ผู้รับใช้ของอับราฮัมอธิษฐานอ้อนวอนจากใจ (ข้อ 12, 45) เรเบคาห์ปรากฏตัว ‘เขาทูลยังไม่ทันจบ’ (ข้อ 15) และเมื่อเรเบคาห์ปรากฏตัวอิสอัคก็ออกไปที่ทุ่งนาเพื่อไตร่ตรองเรื่องต่าง ๆ (ข้อ 63)
3. การตัดสินใจที่สมเหตุสมผล
การเลือกเรเบคาห์เป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผล เธอเป็นคนที่เหมาะสมกับอิสอัคอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอนั้น ‘งามมาก’ (ข้อ 16) อีกทั้งยังเป็น ‘พรหมจารียังไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายใด’ (ข้อ 16) ที่สำคัญที่สุดคือเธอเป็นคนใจกว้างมีน้ำใจและใจดี นอกจากเธอจะตอบสนองต่อคำขอน้ำในทันทีแล้ว เธอยังบอกเขาว่า ‘ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย’ (ข้อ 19)
4. คำปรึกษาของธรรมมิกชน
วิธีหนึ่งที่พระเจ้าทรงนำทางเรา คือผ่านคำแนะนำในทางของพระเจ้า (คำว่า 'ธรรมมิกชน' ที่ใช้ในพันธสัญญาใหม่ในจุดนี้มีความหมายถึงผู้เชื่อในพระเจ้าทุกคน) แม้ว่าการแต่งงานของอิสอัคและเรเบคาห์จะแตกต่างจากรูปแบบการแต่งงานของโลกตะวันตกยุคใหม่ ซึ่งมีองค์ประกอบมากมายที่ต้องจัดการ นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบของการเลือกอีกด้วย เรเบคาห์ถูกถามว่า ‘“เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่?” เธอตอบว่า “ฉันจะไป”’ (ข้อ 58) อิสอัคเลือกที่จะแต่งงานกับเธอและ ‘ท่านก็รักเธอ’ (ข้อ 67) พวกเขาปฏิบัติตามคำแนะนำของธรรมมิกชน ซึ่งมาจากคนรอบตัวโดยเฉพาะพ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งตระหนักว่า ‘สิ่งนี้มาจากพระยาห์เวห์’ (ข้อ 50)
5. หมายสำคัญในสถานการณ์นั้น
นี่เป็นหนึ่งในกรณีของการทรงนำผ่านหมายสำคัญในสถานการณ์ของพระเจ้าซึ่งเด่นชัดที่สุดในพระคัมภีร์ เมื่อคนใช้ขอการทรงนำอย่างเฉพาะเจาะจง เขาก็ได้รับสิ่งที่เขาขออย่างไม่มีผิดเพี้ยน (ข้อ 12–26) อย่างไรก็ตามหมายสำคัญนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่มๆ แต่เป็นการทดสอบบุคลิกของนางเรเบคาห์ซึ่งเธอก็ผ่านการทดสอบ
ผลจากการรับการทรงนำจากพระเจ้า ไม่เพียงแต่ทำให้เขาทั้งสองได้พบกัน แต่ยังทำให้เขาทั้งคู่ได้แต่งงานกันอีกด้วย
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขออธิษฐานให้พระองค์เพิ่มพูนตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการนำทางที่ประสบความสำเร็จให้กับพวกเรา ขอให้มีคู่สมรสมาด้วยกันมากขึ้นและพูดได้ว่า ‘สิ่งนี้มาจากพระเจ้า’ (ข้อ 50)
Pippa Adds
ปฐมกาล 24
ฉันรักเรื่องนี้มาตลอด มันโรแมนติกมาก ๆ อิสอัคเป็นทายาทผู้ร่ำรวย แต่เขาค่อนข้างจะเหงา เพราะพี่ชายต่างแม่ของเขาถูกส่งไปอยู่ที่อื่น แม่ของเขาเสียไปแล้ว แต่พระเจ้าทรงประทานหญิงสาวที่กล้าหาญให้กับเขา เธอละจากครอบครัวของเธอ เพื่อแต่งงานกับชายที่อยู่ห่างไกลจากบ้านของเธอ แถมเธอยังไม่เคยพบหน้าเขามาก่อน แต่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อช่วยให้เขาตัดสินใจอย่างถูกต้อง อิสอัคนั้นประสบปัญหามากมายกว่าจะพบหญิงสาวที่มีความเชื่อเหมือนกัน ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการแต่งงาน แล้วฉันก็ชอบข้อเท็จจริงที่ว่า อิสอัครักเธอเมื่อแรกพบหน้าด้วย
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th