พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 14 จาก 365

แค่วางลงและให้พระเจ้าเป็นพระเจ้า

จอยซ์ ไมเยอร์ ทวีตข้อความว่า ‘แค่วางลงและให้พระเจ้าเป็นพระเจ้า’ มันเป็นความสบายใจอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าในที่สุดพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักจะควบคุมทุกสิ่ง บิชอป แซนดี้ มิลลาร์ มักกล่าวอยู่เสมอว่า ‘พระเจ้าทรงครอบครอง’ เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมหรือเมื่อทุกสิ่งกลับกลายเป็นเรื่องร้าย ในพระคัมภีร์หลายต่อหลายครั้งเรียกพระเจ้าว่าองค์จอมเจ้านาย ทั้ง จอยซ์ ไมเยอร์ และ แซนดี้ มิลลาร์ ต่างก็แสดงความเชื่อมั่นในอำนาจสูงสุดขององค์พระผู้เป็นเจ้าในรูปแบบต่าง ๆ หากพระเจ้าเป็นองค์จอมเจ้านายและทรงครอบครองอยู่เหนือทุกสิ่ง นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณอย่างนั้นหรือ? หรือหมายความว่าคุณสูญเสีย “เสรีภาพ” ไปอย่างนั้นหรือ? พระคัมภีร์ได้สอนเราทั้งสองอย่าง ทั้งสิทธิอำนาจสูงสุดของพระเจ้าร่วมกับความรับผิดชอบของมนุษย์และเสรีภาพ

สดุดี 9:7-12

เชื่อมั่นในองค์จอมเจ้านาย

พระเจ้าทรงครอบครองอยู่เหนือสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ ‘พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง’ (ข้อ 7) พระเจ้า ‘จะทรงพิพากษาโลกด้วยความชอบธรรม พระองค์จะทรงตัดสินชาวประเทศทั้งหลายด้วยความเที่ยงธรรม’ (ข้อ 8 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ความรู้เช่นนี้ก่อให้เกิดความสบายใจอย่างมหาศาล เราอาจไม่เคยรู้เลยว่าเหตุใดพระเจ้าทรงอนุญาตให้สิ่งโหดร้ายเกิดขึ้นกับชีวิตเรา

ให้เราวางใจในอํานาจสูงสุดขององค์พระผู้เป็นเจ้าและเชื่อมั่นว่าพระองค์จะไม่ทอดทิ้งเรา ‘บรรดาผู้ที่รู้จักพระนามของพระองค์ก็วางใจในพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า เพราะว่าพระองค์มิได้ทรงทอดทิ้งบรรดาผู้ที่เสาะแสวงหาพระองค์’ (ข้อ 10 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ในระหว่างนี้ ให้เราทําสามสิ่งต่อไปนี้

1.สรรเสริญ

‘จงร้องเพลงสดุดีพระยาห์เวห์’ (ข้อ 11ก)

2.ประกาศ

จงประกาศกิจการของพระองค์ ในท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย’ (ข้อ 11ข)

3.อธิษฐาน

‘พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งแก่คนที่ถูกกดขี่ ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งในยามลำบาก’ (ข้อ 9) ‘พระองค์ไม่ทรงลืมคำร้องทุกข์ของผู้ถูกข่มเหง’ (ข้อ 12ข)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ไม่เพิกเฉยต่อเสียงร้องทูลของข้าพระองค์ และที่ข้าพระองค์สามารถวางใจในพระองค์ได้อย่างมั่นใจ และสามารถวางลงและปล่อยให้พระองค์เป็นพระเจ้า

มัทธิว 11:16-30

ยอมรับคําเชื้อเชิญให้เดินกับพระเยซู

ในคําสอนของพระเยซูนั้นช่างน่าตรึงใจ ในส่วนแรกของพระธรรมวันนี้ พระองค์ดูเหมือนจะตรัสว่า ‘คุณไม่สามารถชนะได้’ ในทางกลับกัน ยอห์นผู้ให้บัพติศมาซึ่งเป็นนาศีร์ (ผู้ที่อุทิศตนให้พระเจ้า) ถูกกล่าวหาว่ามีผีเข้าสิงอยู่ ส่วนพระเยซูทั้งกินและดื่มกับฝูงชนทุกประเภทและเป็นเพื่อนกับคนที่ได้รับขนานนามว่าน่ารังเกียจ ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘คนตะกละ คนขี้เมา เพื่อนของบรรดาคนเก็บภาษี และคนบาป’ (ข้อ 19)

สิ่งใดก็ตามที่คุณทำอาจถูกตีความไปผิด ๆ แต่พระเยซูตรัสอีกว่า ‘แต่พระปัญญาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องแล้วโดยผลของ พระปัญญานั้น’ (ข้อ19) ผมคิดว่าสิ่งนี้หมายความว่าทั้งหมดที่เราทำได้คือสิ่งที่ถูกต้องและไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดอย่างไร ‘สิ่งที่ผู้คนพูดไม่ควรใส่ใจ มิใช่หรือ? ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน’ (ข้อ 19 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

จากนั้นพระเยซูทรงติเตียนเมืองต่าง ๆ ที่พระองค์เคยเยี่ยมเยียนและทำการอัศจรรย์เพราะผู้คนไม่กลับใจและขาดความเชื่อ พระองค์ชี้ให้เห็นว่าบาปของพวกเขานั้นเลวร้ายยิ่งกว่าบาปของเมืองโสโดมเสียอีก (ข้อ 24) เห็นได้ว่าบาปของความไม่เชื่อฟังอาจร้ายแรงที่สุดในบรรดาบาปทั้งปวง

พระเยซูทรงสอนต่อไปในลักษณะที่ชัดเจนว่าพระองค์ทรงเชื่อทั้งในแผนการของพระเจ้า (ทรงกำหนดทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว) และเสรีภาพ พระองค์ทรงสอนสิ่งที่ขัดแย้งนี้ควบคู่กันไป ในเวลาเดียวกันสิ่งที่ดูเหมือนย้อนแย้งกันนี้คือสิ่งที่เป็นความจริง

มันไม่ใช่ ‘แผนการของพระเจ้า’ 50% และ ‘เสรีภาพ’ 50% พระเยซูตรัสว่าพระเจ้ามีแผนการสำหรับเรา 100% และให้เสรีภาพแก่เรา 100% สิ่งนี้อาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่พระเจ้าสามารถก้าวข้ามและไม่บิดเบือนเสรีภาพของมนุษย์ เราจะเห็นสิ่งนี้ในการเสด็จลงมาของพระเยซู พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า 100% และเป็นมนุษย์ 100% พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์

* แผนการของพระเจ้า

‘พระบิดาของเราทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา และไม่มีใครรู้จักพระบุตรนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดานอกจากพระบุตร และคนที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้’ (ข้อ 27)

เหตุผลที่พระเจ้าเลือกที่จะสำแดงพระองค์กับเฉพาะบางคนเท่านั้นเป็นเรื่องลึกลับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครฉลาดและรอบรู้อย่างแน่นอน คนมีปัญญาบางคนก็ไม่สามารถเห็นได้ นั่นเป็นเพราะ ‘พระองค์ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากคนมีปัญญาและคนฉลาด’ (ข้อ 25) แต่บางครั้งคนรู้น้อยหรือไม่มีความรู้เลย หรือคนที่ยังเด็กมาก ๆ (‘พวกทารก’ ข้อ 25) ดูเหมือนจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับพระเยซูอย่างลึกซึ้งมากกว่า ‘พระองค์ได้ปิดบังจากคนฉลาดและรอบรู้ แต่สำแดงอย่างชัดเจนให้คนธรรมดา’ ทั่วไป (ข้อ 25 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

* เจตจำนงเสรี

พระเยซูตรัสว่า ‘บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก’ (ข้อ 28) เราทุกคนได้รับคำเชื้อเชิญให้มาหาพระเยซูไม่มีใครได้รับการยกเว้นซักคน เราทุกคนได้รับเชิญ และเราทุกคนมีทางเลือกว่าจะตอบรับคำเชิญของพระเยซูหรือไม่

ผมรู้สึกว่ามันยากที่จะทำความเข้าใจสิ่งที่ขัดแย้งนี้กันนี้ อย่างไรก็ตามผมพบว่าภาพต่อไปนี้มีประโยชน์อย่างมาก ให้เราลองนึกภาพห้องที่มีซุ้มประตูโค้ง ด้านนอกของซุ้มประตูมีคำว่า ‘จงมาหาเรา ...’ (ข้อ 28) ทุกคนได้รับเชิญเข้าไปในห้อง เมื่อคุณเข้าไปในห้องด้านในของซุ้มประตูเดียวกันจะมีอีกคำเขียนว่า ‘และไม่มีใครรู้จักพระบุตรนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดานอกจากพระบุตร และคนที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้’ (ข้อ 27ข)

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เสรีภาพเป็นหลักคำสอนสำหรับทุกคน ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่า ‘ฉันจะไม่เป็นคริสเตียนเพราะฉันไม่ได้ถูกเลือก’ คำเชิญมีแด่ทุกคน ในทางกลับกันแผนการของพระเจ้าก็เป็นหลักคำสอนแห่งความเชื่อมั่นสำหรับผู้ที่เป็นคริสเตียน เมื่อคุณตอบรับคำเชิญและเข้าไปแล้ว คุณจะรู้ได้ว่าพระเจ้าทรงเลือกคุณและพระองค์จะไม่ทอดทิ้งคุณอย่างแน่นอน

ผมชอบความจริงที่ว่าในโลกที่ตึงเครียดนี้ มีคนจำนวนมากที่ ‘เหนื่อยล้าและแบกภาระหนัก’ พระเยซูทรงสัญญาว่าจะให้คุณหยุดพัก และพระองค์เสนอที่จะรับภาระของคุณแทนที่ด้วยภาระของพระองค์เอง

แอก (สิ่งที่พระเยซูทรงทำในร้านช่างไม้) เป็นโครงไม้เชื่อมสัตว์สองตัวไว้ที่คอ (โดยปกติคือวัว) ทำให้พวกมันสามารถดึงคันไถหรือเกวียนเข้าด้วยกัน หน้าที่ของแอกคือทำให้แบกสัมภาระได้ง่ายขึ้น ผมชอบภาพนี้ที่เปรียบเสมือนการเดินไปกับพระเยซู ที่ได้มอบภาระของเราให้พระองค์ อันจะทำให้การทดลองที่แสนทรหดและการต่อสู้ที่ต้องเผชิญนั้น ‘ง่าย’ และ ‘เบา’

พระเยซูไม่ใช่คนควบคุมทาส เมื่อคุณทำตามขั้นตอนของพระองค์แน่นอนคุณต้องแบกรับภาระแต่นั่นไม่ได้ ‘รุนแรง หนักหน่วง หรือกดดัน แต่มันไม่หนักจนเกินไป เบาและพอเหมาะ’ (ข้อ 30 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) เมื่อคุณทำตามพระประสงค์ของพระเยซู พระองค์จะประทานกำลังและสติปัญญาให้คุณ และให้คุณได้แบกภาระของพระองค์ร่วมกับพระองค์ แน่นอนว่าจะมีความท้าทายและความยากลำบากมากมายตามมา แต่ก็จะเบาและพอเหมาะด้วยเช่นกัน

พระเยซูตรัสกับคุณว่า ‘เหน็ดเหนื่อยไหม อ่อนกำลังไหม อ่อนแรงในความเชื่อไหม จงมาหาเราไปกับเราแล้วท่านทั้งหลายจะได้หยุดพัก เราจะสำแดงวิธีการหยุดพักอย่างแท้จริง เดินไปกับเราและรับใช้ร่วมกับเรา จงดูเถิดเรียนรู้จังหวะแห่งพระคุณจากเรา เราจะไม่วางอะไรที่หนักหน่วงหรือไม่เหมาะสมกับท่าน จงเคียงข้างเราแล้วท่านจะได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีเสรีภาพและเบาสบาย’ (ข้อ 28–29 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เพียงแค่วางลงและปล่อยให้พระเจ้าเป็นพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับพระสัญญาของพระองค์ที่ให้จิตวิญญาณข้าพระองค์ได้หยุดพัก วันนี้ข้าพระองค์อยู่ต่อหน้าพระองค์และขอมอบภาระทั้งหมดให้พระองค์...

ปฐมกาล 29:1-30:43

เฝ้าดูพระเจ้าทรงทำตามพระประสงค์ของพระองค์ให้สำเร็จ

พระเจ้าทรงทำตามพระประสงค์ของพระองค์ให้สำเร็จ แม้ว่าเราจะอ่อนแอ เปราะบาง และทำบาป ยาโคบเป็นคนเจ้าเล่ห์ หากเราหว่านสิ่งใดก็ต้องเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น ซึ่งเขาได้หว่านการหลอกลวงและเขาได้รับผลของการหลอกลวงนั้นจากลาบัน (29:25ข) จากนั้นเขาก็ได้ดำเนินวงจรของความเจ้าเล่ห์นี้ด้วย (30:37–43) นี่เป็นเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของความเจ้าเล่ห์เพทุบาย ความไม่สัตย์ซื่อ และความไม่จงรักภักดี

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้พระเจ้าทรงทำตามพระประสงค์พระองค์เพื่อการเหล่านี้ นั่นคือเพื่ออิสราเอล เพื่อการประสูติของพระเยซูพระบุตรของพระองค์ และเพื่ออนาคตของประชากรของพระเจ้า

ความบาปของมนุษย์และความผิดหวังมากมายล้วนเกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของลูกหลานของยาโคบ (29:31-30:21) ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ทรงทำตามพระประสงค์ของพระองค์เพื่อชนเผ่าอิสราเอลทั้งสิบสองเผ่า ในที่สุดคำอธิษฐานของนางราเชลก็ได้รับคำตอบพร้อมกับการเกิดของโยเซฟ (30:22)

ในขณะที่พระเจ้าครอบครองชีวิตของพวกเขา คุณก็สามารถวางใจได้ว่าในที่สุดพระองค์ก็ครอบครองคุณได้เช่นกันและ ‘เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์’ (โรม 8:28) ดังนั้นเพียงแค่วางลงและปล่อยให้พระเจ้าเป็นพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์ที่ทรงใช้แม้กระทั่งคนอ่อนแอ เปราะบางและคนบาปเช่นข้าพระองค์ ขอบคุณพระองค์ที่ถึงแม้ว่าพระองค์จะรักข้าพระองค์ในแบบที่เป็น แต่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์เกินกว่าที่จะปล่อยข้าพระองค์ให้เป็นอย่างที่เป็นได้ โปรดเมตตาข้าพระองค์ให้รับผิดชอบชีวิตตนเองและในขณะเดียวกันก็วางใจในพระเจ้าองค์จอมเจ้านาย

Pippa Adds

ปฐมกาล 29–30

ฉันสนุกกับการอ่านบทต่าง ๆ ในหนังสือปฐมกาล สนุกกว่าดูละคร Netflix ตอนล่าสุดเสียอีก ที่จะได้ลุ้นว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป

น่าสนใจว่าซาราห์ , เรเบคาห์ และราเชลต่างก็มีลูกยาก (นี่ไม่ใช่ปัญหาใหม่) กระนั้นทารกแต่ละคนที่เกิดมาล้วนสำคัญอย่างมากในแผนการของพระเจ้าสำหรับชนชาติอิสราเอล พระเจ้ากำลังรอคอยเวลาที่เหมาะสมหรือพระองค์กำลังตระเตรียมพ่อและแม่อยู่กันแน่?

ลูก ๆ ของยาโคบส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเกิดมาจากการแก่งแย่งชิงดีและความอิจฉาของพี่น้อง ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ไม่ยอมแพ้และยังคงกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์สำหรับแต่ละชีวิต

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 13วันที่ 15

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th