พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
สมบัติอันล้ำค่าที่สุดของคุณ
ราช เกิดมาท่ามกลางพี่น้อง 6 คน ในครอบครัว*พราหมณ์*ที่ร่ำรวย ซึ่งเป็นวรรณะสูงสุดในระบบวรรณะของอินเดีย ตอนอายุยี่สิบสามเขาได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต แต่กลับถูกตัดขาดจากครอบครัว พวกเขาทำเหมือกับราชตายไปแล้ว แถมยังจัดงานศพให้ด้วยซ้ำ พ่อแม่ พี่น้องไม่เคยพูดกับราชอีกเลย เขาเดินเตร่ไปตามถนนในบังกาลอร์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แทบไม่มีอาหารกิน เขาเดินอยู่อย่างนั้นทั้งวันและนอนในสวนสาธารณะยามค่ำคืน ราชได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเริ่มพูดถึงความเชื่อใหม่ที่เขาเพิ่งค้นพบ ราชทำให้คนมากมายได้พบกับพระเยซู หลายปีผ่านไป ราช ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอัลฟ่าแห่งชาติในอินเดีย เขากล่าวว่าชีวิตเขามีความสุขและพระเจ้าได้ชดเชยมากกว่าสิ่งที่ต้องสูญเสียไป แม้ว่าเขาจะละทิ้ง *‘ทุกสิ่ง’* ไปแล้ว แต่เขาพบว่าพระเยซูคริสต์คือ *‘ไข่มุก…มีค่ามาก’* (มัทธิว 13:45–46) ความสัมพันธ์คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของเราทุกคน แต่มีความสัมพันธ์พิเศษอย่างหนึ่งในขณะที่คุณถูกสร้างขึ้น เป็นความสัมพันธ์นี้มีค่าที่สุดในบรรดาความสัมพันธ์ทั้งหมด ซึ่งคุ้มค่าที่จะขาย ‘ทุกสิ่ง’ เพื่อที่จะได้ครอบครองมันมาสดุดี 11:1-7
การทรงสถิตของพระเจ้าอย่างใกล้ชิด
แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตคุณสามารถสัมผัสกับการทรงสถิตย์ของพระเจ้าได้อย่างใกล้ชิด เมื่อชีวิตของดาวิดเผชิญในช่วงวิกฤต เขาได้รับคำแนะนำให้หนีไปซ่อนตัวบนภูเขา แต่คำตอบของเขาคือ 'ข้าพเจ้าได้วิ่งเพื่อชีวิตที่ข้ารัก ตรงไปยังอ้อมแขนของพระเจ้า แล้วทำไมข้าพระเจ้าจะหนีตอนนี้ล่ะ’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ดาวิดเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าลี้ภัยอยู่ในพระยาห์เวห์' (ข้อ 1) นอกจากนี้เขายังจบด้วยการมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยคำสัญญาที่ว่า ‘จะเห็นพระพักตร์ของพระองค์’ (ข้อ 7) ดาวิดใช้ภาษาเชิงอุปมาเพื่อวาดภาพการทรงสถิตของพระเจ้า
ประสบการณ์และความปรารถนาของดาวิดที่จะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของบทเพลงสดุดี การได้อยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้านั้นไม่มีสถานที่ใดที่ปลอดภัย มีคุณค่า ไปกว่านี้อีกแล้ว และในชีวิตนี้ไม่มีสิ่งใดที่โลกนี้มอบให้สามารถเปรียบได้กับการทรงสถิตของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ต้องการเห็นพระพักตร์ของพระองค์ ขอให้พระองค์ตอบสนองความปรารถนาที่ลึกที่สุดในหัวใจของข้าพระองค์ด้วยการให้ข้าพระองค์ได้ใกล้ชิดพระองค์
มัทธิว 13:36-58
รู้จักพระบุตรของพระเจ้า
คนบางคนค้นหาอย่างสิ้นหวังกว่าจะได้พบพระเยซู คนอื่น ๆ เช่นผมเกือบล้มเลิกความตั้งใจในการแสวงหาพระองค์ แต่เมื่อคุณพบขุมทรัพย์นี้แล้วมันก็คุ้มที่จะละทิ้งสิ่งอื่น ๆ ไป
ระหว่างอุปมาเรื่องข้าวละมานและอุปมาเรื่องอวนในทะเล พระเยซูทรงเล่าอุปมาสั้น ๆ สองเรื่องเกี่ยวกับการแสวงหาแผ่นดินสวรรค์ (ข้อ 44-46) ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างสองเรื่องนี้ก็คือ มีหนึ่งคนกำลังแสวงหาอย่างกระตือรือร้น (ข้อ 45) และในอีกคนหนึ่งดูเหมือนจะละทิ้งเสีย (ข้อ 44) ทั้งสองอย่างล้วนมีคุณค่ามหาศาลทั้ง ‘ขุมทรัพย์’ (ข้อ 44),และ ‘ไข่มุกอย่างดี’ (ข้อ 45) และคุ้มค่าที่จะขายทุกสิ่งเพื่อให้ได้มา (ข้อ 44,46)
นี่คือที่ที่จะพบ ‘ความยินดี' (ข้อ 44) ‘ขุมทรัพย์’ (ข้อ 44) และ ‘มีค่า’ (ข้อ 46) ที่แท้จริง แผ่นดินสวรรค์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรู้จักองค์จอมราชันย์ ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับพระเยซูและวิธีที่คุณตอบสนองต่อพระองค์ วิธีที่ทุกคนตอบสนองต่อพระเยซูมีความสำคัญทั้งต่อชีวิตนี้และภายภาคหน้า
เมื่อคุณพิจารณาความชั่วร้ายทั้งหมดบนโลกนี้ คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมพระเจ้าไม่จัดการกับมันทันทีและกำจัดมันออกไปเสีย ในอุปมาเรื่องข้าวละมาน ทาสรับใช้ต้องการถอนข้าวละมานออกมา แต่เจ้าบ้านของเขาไม่ยอม (ข้อ 28–29) เพราะการพิพากษากำลังจะมาถึง (ข้อ 36–43,47–50)
ทรงเตือนถึงชะตากรรมของผู้ที่ก่อให้เกิดความบาป (ข้อ 41,49–50) และตรัสถึงข้าวละมานว่าพระเจ้าจะ ‘ทิ้งมันลงในเตา' (ข้อ 41 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และจะ ‘แยกคนชั่วและทิ้งลงในเตาไฟ’ (ข้อ 49–50 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ทรงสัญญาในวันนั้นว่าคุณจะเป็น ‘คนชอบธรรม’ (ชอบธรรมต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าผ่านทางพระเยซู) และ “จะส่องแสงอยู่ในแผ่นดินพระบิดา” (ข้อ 43) ความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าทำให้คุณเปล่งประกาย และหมายความว่าวันหนึ่งคุณจะส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์ในแผ่นดินสวรรค์
แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงทำลายความชั่วร้ายไปเสียหมดทันที เพราะทรงต้องการรวบรวมเอาข้าวสาลีทั้งหมดไว้ในยุ้งฉางของพระองค์ด้วยเช่นกัน พระองค์ตั้งใจปล่อยเวลาร่วงเลยไปจนถึงเวลาแห่งการ ‘สิ้นยุค’ (ข้อ 39) เพื่อให้ผู้คนมีเวลามากขึ้นในการตอบรับข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซู
ขอบคุณพระเจ้า ที่ความสัมพันธ์กับพระองค์เป็นไข่มุกที่มีค่ายิ่ง ขอให้ลูกได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ และขอทรงช่วยลูกให้หลุดพ้นจากสิ่งที่ ดึงลูกออกไปจากการมีความสัมพันธ์กับพระองค์
ปฐมกาล 38:1-39:23
ประสบการณ์การอวยพรจากพระเจ้า
สถานการณ์ของคุณห่างไกลจากคำว่าเยี่ยมยอดหรือเปล่า? หรือคุณกำลังรู้สึกเหมือนถูกกักขัง? คุณหวังว่าคุณจะได้งานอื่น คุณจะได้อยู่สถานที่อื่น ๆ หรือความสัมพันธ์ที่แตกต่างจากที่เป็นอยู่หรือไม่? ไม่ว่าสถานการณ์ของคุณจะเป็นเช่นไร พระธรรมตอนนี้แสดงให้เห็นว่าหากคุณยังคงสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า คุณจะสัมผัสได้ถึงการทรงสถิตย์ ความโปรดปรานและพระพรที่มาจากพระองค์
เราได้เห็นความย้อนแย้งกันระหว่างความไม่ซื่อสัตย์และความหน้าซื่อใจคดของยูดาห์ กับความซื่อสัตย์ของโยเซฟเมื่อเผชิญกับการล่อลวงทางเพศ
หลังจากที่ภรรยาของยูดาห์เสียชีวิต เขารู้สึกเปราะบางจนกระทั่งล้มลงในความบาป เมื่อทามาร์ลูกสะใภ้ของเขาสวมรอยเป็นโสเภณี เขาได้มอบแหวนและเชือกและไม้เท้าเป็นเครื่องมัดจำแก่นางเพื่อร่วมหลับนอน จนนางตั้งครรภ์ (38:1–18)
เมื่อยูดาห์ทราบว่าลูกสะใภ้ของเขากระทำความผิดโดยการล่วงประเวณีจนตั้งครรภ์ ยูดาห์จึงพูดว่า ‘พานางออกมานี่ เผานางเสีย!’ (ข้อ 25) จากนั้นนางก็ได้ยื่นสิ่งที่ยูดาห์เคยมัดจำไว้นั่นคือ ‘แหวนตรา เชือก และไม้เท้า’ (ข้อ 25) ในที่สุดยูดาห์ถูกจับได้ เขาได้ตระหนักถึงความหน้าซื่อใจคดและบาปของตัวเอง (ข้อ 26)
อย่างไรก็ตามพระคุณของพระเจ้าช่างแสนพิเศษ เปเรซคือบุตรชายที่เกิดจากเหตุการณ์นี้และมีรายชื่ออยู่ในลำดับวงศ์ตระกูลของพระเยซู (ดูมัทธิว 1:3) โดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์ทรงเปลี่ยนสิ่งที่มารมุ่งหวังให้เกิดสิ่งชั่วร้ายให้กลายเป็นสิ่งดี
บาปของยูดาห์ตรงข้ามกับความชอบธรรมของโยเซฟ ‘พระยาห์เวห์ทรงอยู่กับโยเซฟ ท่านจึงประสบความสำเร็จ’ (ปฐมกาล 39:2) โปทิฟาร์เห็นว่าพระเจ้าทรงสถิตกับเขาและประทานความสำเร็จให้เขาในทุกสิ่งที่เขาทำ จึงมอบหมายให้โยเซฟเป็นผู้ดูแลบ้านเรือนทั้งหมด (ข้อ 4) ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงอวยพรครอบครัวของเขามากมาย (ข้อ 5)
ข้อความที่ว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงอยู่กับ (โยเซฟ)’ ปรากฏสี่ครั้งในข้อนี้ (39:2,3,21,23) อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงสถิตกับคุณ ไม่ได้หยุดคุณจากการเผชิญกับการล่อลวง โยเซฟเผชิญกับการล่อลวงครั้งใหญ่ ภรรยาของโปทิฟาร์ พยายามล่อลวงให้เขามานอนกับเธอ แต่เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
เขาเห็นว่าหากเผลอล้มลงในการทดลองนี้จะเป็นการทำบาปต่อพระเจ้าและต่อโปติฟาร์นายจ้างของเขาด้วย ‘ข้าพเจ้าจะทำความชั่วร้ายใหญ่หลวงนี้ และทำบาปต่อพระเจ้าอย่างไรได้?’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะนอนกับเธอเท่านั้น แต่เขายังไม่ยอมแม้แต่จะอยู่ใกล้สิ่งล่อตาล่อใจนั้นด้วย (ข้อ 10)
โยเซฟคือตัวอย่างที่ดีในการรับมือกับการทดลอง วิธีที่ดีที่สุดคือหนีออกจากมัน (2 ทิโมธี 2:22) หากคุณกำลังเผชิญกับการล่อลวงครั้งใหญ่ให้จัดการอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกับโยเซฟนั่นคือหนีไปเสียจากมัน
ภรรยาของโปทิฟาร์คว้าโยเซฟด้วยเสื้อคลุมและพูดอีกครั้งว่า ‘“มานอนกับฉันเถิด!” แต่ท่านทิ้งผ้าพันตัวไว้ในมือนาง หนีออกไปข้างนอก’ (ปฐมกาล 39:12)
ดูสิ่งที่ตรงกันข้ามกับยูดาห์ เขาได้ทิ้งแหวนตรา เชือกและไม้เท้าไว้ในมือของทามาร์ มันเป็นหลักฐานมัดตัวเขาไว้ในการกระทำความผิด แต่โยเซฟทิ้งเสื้อคลุมไว้ในมือภรรยาของโปทิฟาร์ นางใช้มันเพื่อพิสูจน์ความผิดของเขาแม้ว่าในความเป็นจริงมันเป็นหลักฐานแห่งความบริสุทธิ์ของเขาก็ตาม
เป็นความจริงที่ว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงอยู่กับโยเซฟ’ แม้โยเซฟจะเอาชนะการล่อลวงสำเร็จ แต่เขาก็ต้องทนทุกข์กับความ อยุติธรรมอย่างมหันต์ (ข้อ 19 เป็นต้นไป) และถูกคุมขังในคุก (ข้อ 20) เขาสูญเสียอิสรภาพ แต่ไม่ได้สูญเสียเสรีภาพ
เพราะแม้จะอยู่ในคุก พระเจ้าก็สถิตย์อยู่กับเขา พระองค์ ‘ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อท่าน และทรงให้พัศดีโปรดปรานท่าน’ (ข้อ 21) ‘พัศดีก็มอบนักโทษทั้งหมดในเรือนจำไว้ในความดูแลของโยเซฟ การงานที่ทำในที่นั้นทุกอย่างโยเซฟเป็นผู้ทำ' (ข้อ 22 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เพราะพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับท่าน และพระยาห์เวห์ก็ทรงทำให้สิ่งที่ท่านทำนั้นสำเร็จ (ข้อ 23)
สถานการณ์ในชีวิตคุณอาจไม่สู้ดีนัก คุณอาจรู้สึกเหมือนอยู่ในคุก หรือติดคุกจริง ๆ หรือถูกคุมขังเหมือนนักโทษในด้านการงาน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาความสัมพันธ์ที่ยากลำบากหรือสถานการณ์อื่น ๆ ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้หากคุณยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า แน่นอนผู้อื่นจะเห็นได้ว่าคุณจะเป็นผู้ได้รับกับการทรงสถิตย์และความโปรดปรานและพระพรของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของคุณ นี่คือ ‘ไข่มุก…มีค่ามาก’ (มัทธิว 13: 45–46) คือการครอบครองที่มีค่าที่สุดของคุณ
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่แม้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะดูผิดพลาด อีกทั้งมีการทดลองและการล่อลวง แต่ลูกสามารถรู้ได้ว่าพระองค์อยู่กับลูก และลูกจะมีประสบการณ์การอวยพรจากพระองค์
Pippa Adds
ปฐมกาล 39:1-23
คุณไม่สามารถทำให้คนดีตกต่ำได้ พระเจ้าอยู่กับโยเซฟเมื่อทุกอย่างดูผิดพลาด พระองค์ไม่ได้ช่วยเขาออกจากเหตุการณ์นั้น แต่พระองค์ใช้มันเพื่อสร้างลักษณะนิสัยของโยเซฟ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการของพระองค์
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th