พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 52 จาก 365

ดีกว่าอยู่คนเดียว

ผมไม่ถนัดในการใช้สื่อการสอนมากนักเพราะผมไม่ได้ใช้มันบ่อย ๆ ในทางกลับกัน นิคกี้ ลี เพื่อนที่ดีของผม (เขาเป็นผู้บุกเบิก[หลักสูตรคู่สมรส](https://thailand.alpha.org/the-marriage-course)และหลักสูตรอื่น ๆ สำหรับคู่แต่งงานและผู้ปกครองร่วมกับซีล่าภรรยา ของเขา) เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้สื่อและมักใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่ออธิบายให้เกิดความเข้าใจได้อย่างดี ครั้งหนึ่งในการให้โอวาทในพิธีแต่งงาน นิคกี้ใช้สื่อเพื่ออธิบายพระธรรมปัญญาจารย์ บทที่ 4 ตอนหนึ่ง ซึ่งเขียนว่า ‘สองคนดีกว่าคนเดียว...เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้’ (ข้อ 9,12) เพื่ออธิบายภาพของการแต่งงาน นิคกี้พันเชือกขนสัตว์ที่มีสีต่างกัน 2 เส้นเข้าด้วยกัน เมื่อพันเสร็จแล้วมันดูแข็งแรงขึ้น แต่ก็ฉีกขาดได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขานำเชือกเส้นที่ 3 ซึ่งมีขนาดเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็น ด้วยเชือกเส้นนี้ทำให้ไม่สามารถฉีกเชือกอีก 2 เส้นได้ (ผมเคยลองใช้ภาพประกอบนี้ครั้งหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ผมจำไม่ได้ และมันผิดพลาดอย่างมาก!) ประเด็นที่เขาอธิบายพระธรรมปัญญาจารย์คือ ขณะที่ความสัมพันธ์และการแต่งงานเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยม แต่การมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของความสัมพันธ์หรือการแต่งงานเป็นเหมือนเส้นใยอันแข็งแกร่งที่มองไม่เห็น ในวันนี้เราจะเห็นว่าสองคนเข้มแข็งกว่าคนเดียวในชีวิตสมรส ในพันธกิจรับใช้และในองค์กรอย่างไร

สุภาษิต 5:15-23

การแต่งงาน: สองคนเป็นหนึ่งเดียว

นี่คือภาพที่ยอดเยี่ยมของการแต่งงานอันเป็นบ่อเกิดแห่งพระพร (ข้อ 18ก) ความชื่นชมยินดี (ข้อ 18ข) ความรัก (ข้อ 19ก) ความสง่างาม (ข้อ 19ก) ความพึงพอใจ (ข้อ 19ข) และความโรแมนติก (ข้อ 19ค)

เป็นคำอธิบายที่สวยงามของการแต่งงานที่คนสองคน ‘เป็นเนื้อเดียวกัน’ (ปฐมกาล 2:24) ส่วนหนึ่งของความงามอยู่ที่ความพิเศษเฉพาะตัว ผู้เขียนใช้ภาพบ่อน้ำหรือน้ำพุเพื่ออธิบายความสุขของการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งเป็น สิ่งที่น่ายินดีอย่างเฉพาะเจาะจง และเน้นย้ำเรื่องนี้ถึง 4 ครั้ง (สุภาษิต 5:15–18)

ความยิ่งใหญ่ของความรักทางอารมณ์และทางกายระหว่างสามีภรรยา (‘ความใกล้ชิดที่ยั่งยืน’ ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นั้นตรงข้ามกับ ‘ความตื่นเต้นที่ฉาบฉวย’ ของ ‘การคบหากับคนสำส่อน’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

นั่นคือเหตุผลที่ผู้เขียนตักเตือนอย่างหนักแน่นว่าอย่าเล่นชู้ จงระวังในสิ่งที่เขาพูดว่าพระเจ้ากำลังเฝ้าดูอยู่ (ข้อ 21) และเส้นทางที่นำไปสู่การล่วงประเวณีเป็น ‘ความบาปชั่ว’ ‘อธรรม’ บาปหนา โง่เขลาและนำไปสู่ความตาย (ข้อ 22–23) เราเห็นตัวอย่างนี้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ซึ่งกล่าวถึงการล่วงประเวณีของเฮโรดนำไปสู่การประหาร ยอห์นผู้ให้บัพติศมา (มาระโก 6:14–29)

แม้ว่า ‘เพราะว่าทางของคนก็อยู่ในสายพระเนตรพระยาห์เวห์’ (สุภาษิต 5:21) เป็นคำเตือนเรื่องการล่วงประเวณี แต่ก็เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเข้มแข็งที่มาจากการที่ ‘พระเจ้า’ เข้ามามีส่วนร่วมในการแต่งงาน เช่นเดียวกับเชือกเกลียวที่สาม

ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเราเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดและเป็นหลักชี้นำว่าเราควรรักผู้อื่นอย่างไร

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการทรงสถิตของพระเยซูที่เปรียบได้กับสิ่งที่เชือกเกลียวที่สาม ซึ่งสร้างความแตกต่างในความสัมพันธ์ ขอบคุณพระองค์ที่สองคนดีกว่าคนเดียว และเชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้

มาระโก 6:6ข-29

ภารกิจ: สองต่อสอง

การแต่งงานไม่ใช่คำตอบเดียวสำหรับความโดดเดี่ยว แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นพรอันยิ่งใหญ่ แต่เราได้รับคำเน้นย้ำว่าการแต่งงานไม่จำเป็นต่อการรู้จักชุมชนหรือความสมบูรณ์ พระเยซูไม่ได้แต่งงานและพระองค์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุดที่เคยดำเนินชีวิตบนโลกนี้ พระองค์ทรงเป็นแบบจำลองของความสมบูรณ์

พระเยซูเสด็จไปทรงสั่งสอนตามหมู่บ้านโดยรอบ ‘กระทำการหลายสิ่ง’ (วลีนี้ถูกคิดโดยจอห์น วิมเบอร์) จากนั้นพระองค์ทรงส่งสาวกออกไปทำแบบเดียวกัน พวกเขาออกไปประกาศขับไล่ผีร้ายและรักษาคนเจ็บป่วย (ข้อ 12–13)

เป็นเรื่องสำคัญที่พระองค์ส่งพวกเขาออกไปเป็นคู่ ‘ออกไปเป็นคู่ ๆ' (ข้อ 7) ภารกิจแบบนี้จะเหงามากถ้าคุณทำ ทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว การออกไปเป็นคู่จะดีกว่ามาก

ต้องเป็นเรื่องสนุกและน่าพอใจอย่างยิ่งในการออกไปประกาศพระกิตติคุณ การขับไล่ผีร้ายและการชโลมน้ำมัน รักษาคนเจ็บป่วยและเห็นว่าพวกเขาหายเป็นปกติ (ข้อ 13)

‘พวกเขาเทศน์ด้วยความยินดียิ่งว่า ชีวิตอาจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พวกเขาขับไล่ผีร้ายออกไป พวกเขาทำให้ คนป่วยหายดี เจิมร่างกาย รักษาวิญญาณ’ (ข้อ 13–14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พวกเขาออกไปทำพระราชกิจด้วยกัน ในทางกลับกันยอห์นผู้ให้บัพติศมาผู้น่าสงสารที่ยอมถูกจำคุกด้วยตัวเอง ยอห์นเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของความกล้าหาญทางจริยธรรมในการพูดความจริงกับผู้มีอำนาจ เขาเคยพูดกับ เฮโรดว่า ‘ท่านไม่มีสิทธิ์รับชายาของพระอนุชามาเป็นพระชายาของตัวเอง’ (ข้อ 18) เขาไม่ลังเลที่จะรับเอาความโกรธเกรี้ยวของผู้ที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจถ้ามันจำเป็น

เฮโรดชอบฟังยอห์น (ข้อ 20) เขารู้สึกดีขึ้นหลังจากฟังเทศนาจนจบ! แต่มีสิ่งหนึ่งในชีวิตของเฮโรดที่เขาปฏิเสธ นั่นคือความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางเฮโรเดียส สิ่งนี้ทำให้เขาบกพร่องด้านศีลธรรมและทำให้เขาไม่มีความสุขในความสัมพันธ์กับพระเจ้า

ในเหตุการณ์ของเฮโรดกับยอห์นผู้ให้บัพติศมีความคล้ายกับเหตุการณ์ของปีลาตกับพระเยซู เฮโรดบ่ายเบี่ยง ที่จะสั่งประหารยอห์น จนกระทั่งเฮโรดยื่นข้อเสนอที่โง่เขลาต่อหน้าฝูงชนและค้นพบว่าตัวเองจะเสียหน้าหาก เขาไม่ทำตามข้อเสนอ จึงเป็นเหตุให้ยอห์นผู้ให้บัพติศมาถูกประหารชีวิต

เมื่อยอห์นผู้ให้บัพติศมามีสาวกที่ติดตามอยู่หลายคน (ยอห์น 1:35) แต่เขาต้องเผชิญกับความลำบากในคุกและการรอวันประหารเพียงลำพัง ขณะที่พระเยซูทรงส่งสาวกออกไปทีละ ‘สองคน’

จาโก้ วินน์ ผู้เขียนหนังสือ ทำงานอย่างไรไม่ให้เหี่ยวแห้ง พูดถึงการจัดกลุ่มสามัคคีธรรมกลางสัปดาห์สำหรับคนวัยทำงานในกรุงลอนดอน เขาบอกว่าสมาชิกกลุ่มที่เป็นคริสเตียนคนเดียวในที่ทำงานจะดูเหนื่อยล้าและต่อสู้กับความกดดันในชีวิตการทำงาน

ในทางกลับกันผู้ที่ได้พบเพื่อนร่วมงานที่เป็นคริสเตียนคนอื่น ๆ และผู้ที่มารับบริการเป็นกลุ่มตั้งแต่สองคนขึ้นไปนั้นแทบจะเป็นคนอารมณ์ดีและร่าเริงแจ่มใสมากกว่าคนทั่วไป

จาโก้เขียนว่า ‘ถ้าเราเป็นคริสเตียนคนเดี่ยวในสภาพแวดล้อมแต่ละวัน ไม่ว่าในสถานที่ทำงาน โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย หรือที่บ้าน เป็นการดีที่เราจะอธิษฐานให้พระเจ้าจัดเตรียมพี่น้องในพระคริสต์ให้เรา แม้แต่การปรากฏตัวของพี่น้องก็สามารถเป็นกำลังใจที่จะรับใช้พระเจ้าต่อไปในชีวิตและในงานพันธกิจ’

ดังที่ผู้เขียนท่านผู้ประกาศกล่าวว่า ‘สองคนดีกว่าคนเดียว ... เพราะว่าถ้าพวกเขาล้มลง คนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อน ของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีใครพยุงเขาให้ลุกขึ้น! …และถ้าคนหนึ่งเอาชนะคนคนเดียวได้ คนสองคนย่อมต่อต้านเขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้’ (ปัญญาจารย์ 4:9–12) ข้อนี้มักใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของมิตรภาพและความเป็นหนึ่งเดียวในชีวิตสมรส แต่บริบทดั้งเดิมของข้อนี้คือมิตรภาพ

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับมิตรภาพ ขอบคุณที่พระองค์ไม่ได้ส่งข้าพระองค์ออกไปโดยลำพัง ขอบคุณที่ถึงแม้เราออกไปทีละเส้นสองเส้น เรารู้ว่ามีเส้นที่สามด้วยเพราะพระองค์ตรัสว่า ‘ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็น สาวกของเรา ... และนี่แน่ะ *เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค*’ (มัทธิว 28: 19–20)

อพยพ 29:1-30:38

พันธกิจรับใช้: ลูกแกะสองตัว

พิธีการโดยละเอียดที่เราอ่านจากพระธรรมตอนนี้เน้นย้ำถึงความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันในการเข้าเฝ้าพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ เป็นการประดับประดาภายนอกที่ทำให้ปุโรหิตมีสง่าราศี ความงามและความศักดิ์สิทธิ์ ในพระคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายดังกล่าวนำไปสู่ความงดงามภายในและความศักดิ์สิทธิ์มาจากพระวิญญาณของพระเจ้าผู้สถิตในใจคุณ

ในพิธีการสมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมนี้ทุกอย่างจะต้องทวีคูณ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาต้องการแกะสองตัว (29:1,3) แหวนทองคำสองวง (30:4) และที่สำคัญที่สุดคือลูกแกะสองตัว (29:38) การเพิ่มจำนวนเครื่องใช้และการเสียสละเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พวกเขาชี้ให้เห็นว่าการถวายเครื่องสัตว์บูชาหรือพิธีกรรมใด ๆ ไม่เพียงพอที่จะนำเราไปถึงพระเจ้าอย่างแท้จริงสองตัวดีกว่าตัวเดียวแต่ก็ยังไม่เพียงพอ

ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูบอกเราว่ากฎระเบียบเหล่านี้ทั้งหมดถูกกำหนดไว้ ‘บัญญัติเดิมนั้นก็ได้ยกเลิกไปเพราะมีจุดอ่อนและไร้ประสิทธิภาพ’ (ฮีบรู 7:18) แทนที่จะมีลูกแกะสองตัว ลูกแกะที่สมบูรณ์ตัวหนึ่งถูกบูชายัญเพื่อเรา พระเยซู ‘พระองค์ทรงถวายเครื่องบูชาครั้งเดียวเป็นพอ เมื่อพระองค์ทรงถวายพระองค์เอง’ (ข้อ 27) เครื่องบูชาแบบทวีคูณจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป

การชดใช้เป็นสิ่งที่จำเป็น (อพยพ 29:33,37, 30:10,16) และต้องการ ‘เลือดของเครื่องบูชาไถ่บาป’ (30:10)

พระเยซูทรงหลั่งเลือดของพระองค์เองเพื่อเรา อาจารย์เปาโลอธิบายการสิ้นพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขนว่าเป็น ‘เครื่องบูชาไถ่บาป’ (โรม 3:25)

โดยการถวายเครื่องบูชาเท่านั้นที่ปุโรหิตจะสามารถเข้าใกล้แท่นบูชา ‘เพื่อปรนนิบัติ’ ได้ (อพยพ 30:20) ‘พันธกิจ’ หมายถึง การรับใช้พระเจ้า เป็นการเสียสละอย่างหนึ่งของพระเยซูบนไม้กางเขนที่ช่วยให้คุณสามารถมีส่วนร่วมในงานรับใช้ (การรับใช้พระเจ้าและผู้อื่น)

ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เป็นลูกแกะที่สมบูรณ์แบบเพียงหนึ่งเดียวผู้ทรงยอมเสียสละพระองค์เพราะบาปของข้าพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า ขอบคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ไม่ต้องเสียสละแบบทวีคูณอีกต่อไป ขอบคุณที่บทเพลงสรรเสริญที่ยิ่งใหญ่กล่าวว่าข้าพระองค์ ‘ได้รับการไถ่ การรักษา การฟื้นฟูและการให้อภัย’

Pippa Adds

มาระโก 6:26

‘กษัตริย์ก็ทรงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง แต่เพราะทรงปฏิญาณไว้แล้ว และเพราะเห็นแก่หน้าแขกจึงขัดไม่ได้’

มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะกลับไปบนบานศาลกล่าว แต่สิ่งที่ดีกว่าการทำอะไรผิด ๆ เฮโรดควรเตรียมพร้อมที่จะยอมรับความอับอายต่อหน้าแขกที่มาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำและทำลายคำสาบานของเขาหรือหาทางหลีกเลี่ยง คุณเคยถูกล่อลวงให้ทำสิ่งที่ผิดเพื่อรักษาหน้าไหม?

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 51วันที่ 53

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th