อะไรคือความจริง?ตัวอย่าง
ชีวิต อิสรภาพ และการแสวงหาความสุข
ด้วยเหตุที่ความจริงนี้หยั่งรากอยู่ในองค์พระเยซู เราก็มั่นใจได้ว่า นั่นเป็นทั้งความสัมพันธ์ และการไม่เปลี่ยนแปลง
อันไม่ได้เป็นอะไรบางสิ่งที่เราไม่รู้ หรือความลึกลับที่หยั่งรู้ไม่ได้ในจักรวาลนี้ บุคคลจริงแท้องค์เดียว พระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัวของเรา องค์พระเยซู
อีกประการหนึ่งที่เหฃือเชื่อเกี่ยวกับพระเยซู พระองค์ทรงเป็นแหล่งของชีวิต ในยอห์น 1 เราได้เห็นพระเยซูตั้งแต่แรกเริ่ม พระองค์เป็นพระเจ้า พระองค์อยู่กับพระเจ้า ตั้งแต่ปฐมกาล และยังกล่าวต่อไปว่า
พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์ (ยอห์น 1 ข้อ 3-4)
นี่หมายความว่าอะไร ชีวิตที่พบในพระเยซู และจำได้ในตอนต่อมาของพระธรรมยอห์น พระเยซูทรงกล่าวชัดเจน
ด้วยว่า "พระองค์เป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต" นั่นย่อมหมายถึง ความจริงกับชีวิตล้วนพบได้ในพระเยซู พระองค์ทรงเป็นแหล่งทั้งสอง ท่านยอห์นก็ได้ระบุไว้แน่ชัดว่า เราไม่อาจแยกทั้งความจริงและชีวิตออกจากกันได้เลย ดังนั้น ถ้าเราเลือกที่จะปฏิเสธพระเยซูเป็นความจริง เราก็ปฏิเสธพระองค์เป็นชีวิตด้วย ด้วยว่าความเกี่ยวเนื่องในสองพระลักษณะนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเปลือกนอกที่เรามองเห็นเท่านั้น แต่เป็นคุณลักษณะเฉพาะของพระเจ้าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเลย
และการตัดสินใจไม่ยอมรับพระเจ้าที่เป็นเจ้าของของชึวิตและความจริงของข้อท็จจริงนี้จะนำชีวิตไปสู่ผลแห่งความพินาศ ซึ่งได้เกิดขึ้นจริง ๆ ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ตั้งแต่เริ่มต้นนั้น ทั้งเอวา และอาดามได้รับความสามารถในการเลือกที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเสรี ภายใต้คำบัญชาพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ หรือแปรเปลี่ยนความจริงไปตามความต้องการของตนเอง อันที่จริงแล้ว พระเจ้าได้ทรงอนุญาตให้เขาทั้งสองอยู่ในสวนที่อุดมสมบูรณ์ และเดินไปด้วยกัน กับพระเจ้าได้อย่างใกล้ชิด ในปฐมกาล 2 บอกเราว่าทั้งอาดามและเอวา เปลือยกายอยู่และรู้จักกันดี แต่ดูซิว่า อะไรเกิดขึ้นในทันทีทันใดที่เขาหักเหความจริงไปตามใจปรารถนาของตน
บัดเดี๋ยวนั้น ทั้งผู้ชาย และภรรยาได้ยินเสียงของพระเจ้าดำเนินอยู่ในสวนท่ามกลางอากาศเย็น ๆ เขาทั้งสองก็หลบซ่อนตัวเสียจากพระเจ้าท่ามกลางต้นไม้ในสวน (ปฐมกาล 3 ข้อ 8)
ความละอายใจเข้าสู่เรื่องราวนี้ ดังนั้น เขาจึงได้แอบซ่อนตัวจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขาทั้งสองให้เดินไปกับพระองค์อย่างใกล้ชิด เขาประสพกับความเจ็บปวดของชีวิตที่ขาดจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างให้เราเป็นนั้น เหตุว่าเมือใดก็ตามที่เราตัดตัวเองขาดจากความจริง เราก็ตัดตัวเองขาดจากชีวิตด้วย
การท้าทาย ลองคิดถึงส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตคุณที่ถูกล่อให้หลงไปจากความจิงของพระเจ้า ให้ทำตามใจปรารถนาของตัวเอง เมื่อเราเอาความต้องการของตนเองมาแทนที่ความจริงของพระเจ้าแล้ว เราก็จะเข้าสู่วงล้อมของความอับอาย และความกลัวที่ครอบงำชีวิตอยู่นั้น ทั้งความจริงและชีวิตไม่อาจแยกออกจากกันได้เลย เพราะทั้งสองนี้เป็นมาจากแหล่งเดียวกัน-พระเยซู คุณเลือกที่จะอยู่กับความเข้าใจบนความจริงที่มั่นคงในองค์พระเยซูวันนี้หรือไม่ การตัดสินใจนี้จะมีผลอะไรบ้างต่อสิ่งยั่วยวนที่คุณสังเกตเห็นข้างบนนี้
ด้วยเหตุที่ความจริงนี้หยั่งรากอยู่ในองค์พระเยซู เราก็มั่นใจได้ว่า นั่นเป็นทั้งความสัมพันธ์ และการไม่เปลี่ยนแปลง
อันไม่ได้เป็นอะไรบางสิ่งที่เราไม่รู้ หรือความลึกลับที่หยั่งรู้ไม่ได้ในจักรวาลนี้ บุคคลจริงแท้องค์เดียว พระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัวของเรา องค์พระเยซู
อีกประการหนึ่งที่เหฃือเชื่อเกี่ยวกับพระเยซู พระองค์ทรงเป็นแหล่งของชีวิต ในยอห์น 1 เราได้เห็นพระเยซูตั้งแต่แรกเริ่ม พระองค์เป็นพระเจ้า พระองค์อยู่กับพระเจ้า ตั้งแต่ปฐมกาล และยังกล่าวต่อไปว่า
พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์ (ยอห์น 1 ข้อ 3-4)
นี่หมายความว่าอะไร ชีวิตที่พบในพระเยซู และจำได้ในตอนต่อมาของพระธรรมยอห์น พระเยซูทรงกล่าวชัดเจน
ด้วยว่า "พระองค์เป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต" นั่นย่อมหมายถึง ความจริงกับชีวิตล้วนพบได้ในพระเยซู พระองค์ทรงเป็นแหล่งทั้งสอง ท่านยอห์นก็ได้ระบุไว้แน่ชัดว่า เราไม่อาจแยกทั้งความจริงและชีวิตออกจากกันได้เลย ดังนั้น ถ้าเราเลือกที่จะปฏิเสธพระเยซูเป็นความจริง เราก็ปฏิเสธพระองค์เป็นชีวิตด้วย ด้วยว่าความเกี่ยวเนื่องในสองพระลักษณะนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเปลือกนอกที่เรามองเห็นเท่านั้น แต่เป็นคุณลักษณะเฉพาะของพระเจ้าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเลย
และการตัดสินใจไม่ยอมรับพระเจ้าที่เป็นเจ้าของของชึวิตและความจริงของข้อท็จจริงนี้จะนำชีวิตไปสู่ผลแห่งความพินาศ ซึ่งได้เกิดขึ้นจริง ๆ ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ตั้งแต่เริ่มต้นนั้น ทั้งเอวา และอาดามได้รับความสามารถในการเลือกที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเสรี ภายใต้คำบัญชาพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ หรือแปรเปลี่ยนความจริงไปตามความต้องการของตนเอง อันที่จริงแล้ว พระเจ้าได้ทรงอนุญาตให้เขาทั้งสองอยู่ในสวนที่อุดมสมบูรณ์ และเดินไปด้วยกัน กับพระเจ้าได้อย่างใกล้ชิด ในปฐมกาล 2 บอกเราว่าทั้งอาดามและเอวา เปลือยกายอยู่และรู้จักกันดี แต่ดูซิว่า อะไรเกิดขึ้นในทันทีทันใดที่เขาหักเหความจริงไปตามใจปรารถนาของตน
บัดเดี๋ยวนั้น ทั้งผู้ชาย และภรรยาได้ยินเสียงของพระเจ้าดำเนินอยู่ในสวนท่ามกลางอากาศเย็น ๆ เขาทั้งสองก็หลบซ่อนตัวเสียจากพระเจ้าท่ามกลางต้นไม้ในสวน (ปฐมกาล 3 ข้อ 8)
ความละอายใจเข้าสู่เรื่องราวนี้ ดังนั้น เขาจึงได้แอบซ่อนตัวจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขาทั้งสองให้เดินไปกับพระองค์อย่างใกล้ชิด เขาประสพกับความเจ็บปวดของชีวิตที่ขาดจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างให้เราเป็นนั้น เหตุว่าเมือใดก็ตามที่เราตัดตัวเองขาดจากความจริง เราก็ตัดตัวเองขาดจากชีวิตด้วย
การท้าทาย ลองคิดถึงส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตคุณที่ถูกล่อให้หลงไปจากความจิงของพระเจ้า ให้ทำตามใจปรารถนาของตัวเอง เมื่อเราเอาความต้องการของตนเองมาแทนที่ความจริงของพระเจ้าแล้ว เราก็จะเข้าสู่วงล้อมของความอับอาย และความกลัวที่ครอบงำชีวิตอยู่นั้น ทั้งความจริงและชีวิตไม่อาจแยกออกจากกันได้เลย เพราะทั้งสองนี้เป็นมาจากแหล่งเดียวกัน-พระเยซู คุณเลือกที่จะอยู่กับความเข้าใจบนความจริงที่มั่นคงในองค์พระเยซูวันนี้หรือไม่ การตัดสินใจนี้จะมีผลอะไรบ้างต่อสิ่งยั่วยวนที่คุณสังเกตเห็นข้างบนนี้
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
ความจริงของฉันเอง หรือเป็นความจริงหนึ่งเดียวนั้น จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทั้ง 2 นี้ขัดแย้งกัน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบางสิ่งบางอย่างถูกต้องจริง ๆ มาพิจารณาร่วมกับเราใน 7 วันข้างหน้านี้ เกี่ยวกับสาระความจริงที่เป็นบุคคลจริง ไม่ได้เป็นแต่หลักการที่ไม่มีตัวตนใด ๆ แต่เป็นบุคคลหนึ่ง หน้าตาหนึ่ง คนคนหนึ่งที่เป็นเหตุเป็นผล ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นผู้ประทานชีวิต และความรักนิรันดร์ บุคคลที่มีชื่อว่า เยซู
More
เราขอขอบคุณ Life.Church สำหรับการแบ่งปันแผนการอ่านนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม: https://www.life.church/