จัดเวลาเพื่อพักตัวอย่าง

Making Time To Rest

วันที่ 2 จาก 5

ใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า

ยิ่งคุณอ่านพระคัมภีร์ และยิ่งคุณใคร่ครวญถ้อยคำในนั้น คุณจะยิ่งตื่นตะลึงกับมัน — ชาร์ลส สเปอร์เจียน

ผู้ติดตามพระเยซูหลายคนไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการใคร่ครวญ จริงๆ แล้วการใคร่ครวญคือการที่เราจดจ่อความคิดไปยังสิ่งนั้นๆ เรามาอ่านข้อเขียนของศิษยาภิบาล ริค วอร์เรน เพื่อทำความเข้าใจการใคร่ครวญพระคำของพระเจ้ากัน ริคกล่าวไว้ว่า “เชื่อไหมครับ ถ้าคุณกังวลเป็น คุณก็รู้แล้วว่าจะใคร่ครวญพระคำได้อย่างไร การกังวลคือการจดจ่อไปที่ความคิดลบและนึกถึงมันซ้ำไปซ้ำมา แต่หากคุณเปลี่ยนเป็นจดจ่อที่พระคำพระเจ้าสักตอนหนึ่งและคิดถึงมันซ้ำไปซ้ำมา นั่นแหละคือการใคร่ครวญ”

พระคัมภีร์กล่าวถึงการใคร่ครวญไว้มากกว่า 20 ครั้งและได้เรียกให้เราใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า การฝึกใคร่ครวญพระคำเป็นประจำทุกวันมีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะมันช่วยให้เราได้พักทั้งความคิดและอารมณ์ความรู้สึก และยังช่วยให้จิตวิญญาณเติบโต

ในขณะที่เราใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์ในแต่ละวัน เรามาสามารถเริ่มจากมองให้ลึกเข้าไปในเนื้อหาและสนทนากับพระเจ้าในเรื่องนั้นๆ เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เรามาลองใคร่ครวญพระคำกันสักบทสองบท โดยเริ่มจากเอเฟซัส 4:31-32 “จงขจัดความขมขื่นทั้งสิ้น ความเกรี้ยวกราด และความโกรธแค้น การทะเลาะและการใส่ร้ายป้ายสี พร้อมทั้งการมุ่งร้ายทุกรูปแบบ จงเมตตาและสงสาร เห็นใจกันและกัน ให้อภัยต่อกันเหมือนที่พระเจ้าทรงอภัยแก่ท่านในพระคริสต์”  

ลองอ่านอีกสักรอบแล้วถามพระเจ้าว่า:

ลูกมีความขมขื่นหรือไม่? 
ลูกเป็นคนขี้โมโหหรือไม่? 
ลูกใช้ถ้อยคำชวนทะเลาะหรือไม่? 
ใจของลูกอ่อนโยนหรือไม่? 
ลูกให้อภัยผู้อื่นได้ง่ายๆ หรือไม่?
 

จากนั้นให้เรารอฟังพระสุรเสียงที่ทรงฤทธิ์เดชแต่แสนอ่อนโยนของพระเจ้า หลายครั้งอาจเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่เราจะรับรู้ได้ว่าพระองค์ตรัสสิ่งใดกับเรา ซึ่งเราสามารถใคร่ครวญพระคำของพระเจ้าได้ตลอดทั้งวันเพื่อช่วยให้ตัวเองตระหนักรู้ เมื่อใดที่ความขมขื่น ความโกรธ การทำร้ายจิตใจ การมีใจแข็งกระด้าง หรือการไม่ให้อภัยต่อกัน เข้ามาแทรกแซงความคิดของเรา

สิ่งนี้คือการใคร่ครวญพระคำ 

เมื่อเราใคร่ครวญพระคำ ความจริงจากพระคำของพระเจ้าจะซึมลึกลงในจิตใจของเรา การใคร่ครวญทำให้เราเข้าถึงการพักได้ในระดับที่ลึกขึ้น เพราะเราใช้พลังงานทางความคิดไปกับเรื่องของพระเจ้าแทนที่จะจมดิ่งอยู่ใต้ความกังวลที่โลกมอบให้ นอกจากนั้นแล้ว เรายังมีฤทธิ์เดชจากพระวิญญาณที่จะช่วยเรานำพระคำซึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้นี้มาปรับใช้ในชีวิตจริง เมื่อเราพยายามทำเช่นนี้ ผลลัพธ์มีทางเดียวคือเราจะเป็นทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราเป็น 

ใคร่ครวญ

  • เลือกใคร่ครวญพระคัมภีร์ตอนหนึ่งจากบทอ่านประจำวันนี้ หรือเลือกบทอื่นๆ ที่คุณชอบ ในขณะที่คุณอ่านให้ขอพระเจ้าทรงเปิดเผยว่าจุดใดที่คุณเชื่อฟังพระองค์และจุดใดที่คุณต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้จิตวิญญาณเติบโต และให้คำตอบที่คุณได้รับในวันนี้แทรกซึมอยู่ในความคิดตลอดทั้งวัน
  • จดบันทึกการเปิดเผยสำแดงต่างๆ ที่พระเจ้าพูดกับคุณผ่านการอ่านข้อพระคำหรือบทใคร่ครวญประจำวันนี้
วันที่ 1วันที่ 3

เกี่ยวกับแผนฯ

Making Time To Rest

โลกมักชื่นชมคนที่ทุ่มเทชีวิตให้งานและยุ่งอยู่เสมอ และการหยุดพักกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่การที่เราจะปฏิบัติหน้าที่และทำตามแผนที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราต้องเรียนรู้ที่จะพัก มิฉะนั้นเราจะไม่มีแรงเหลือไว้ใช้เวลากับคนที่รักหรือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ มาใช้เวลา 5 วันต่อจากนี้เรียนรู้เพื่อจะหยุดพักและรู้วิธีที่จะนำสิ่งที่เราเรียนกันนี้ไปใช้ในชีวิตจริง

More

ต้นฉบับแผนการอ่านนี้ เขียนขึ้นและเผยแพร่โดย YouVersion