อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดเลยตัวอย่าง

การหลบหนี 

ใช้ชีวิตกับโรควิตกกังวลรู้สึกคล้ายๆ กับการใช้ชีวิตแบบผู้หลบหนี—ยกเว้นแต่ว่าคุณกำลังวิ่งหนีชีวิตของตัวเอง ความตื่นตระหนกจู่โจมในใจคุณ ขณะที่คุณกำลังตะเกียกตะกายหนีไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อม ความวิตกกังวลวนเวียนอยู่ในหัวด้วยความเร็วที่ทำให้คุณแทบหายใจไม่ทัน ความกลัวล้นเอ่อขึ้นมา ทำให้คุณทำอะไรไม่ถูกและเริ่มสงสัยในตัวเอง 

ฟังดูคุ้นๆ ไหม? มันมีแรงกดดันอยู่ตลอดเวลาในชีวิต — อีเมลมาไม่เคยหยุด การแจ้งเตือนท่วมท้นในมือถือของเรา และอย่าลืมกับดักของการเปรียบเทียบที่โลกโซเชียลนำมาอีก ดังนั้น เราจะอยู่กับมันได้อย่างไร เมื่อเรารู้ว่า ในฐานะของผู้ติดตามพระเยซู เราได้รับการทรงเรียกให้ใช้ชีวิตแบบไม่กระวนกระวายในสิ่งใดเลย? 

บ่อยครั้งเรารู้สึกหนักอึ้งด้วยความรู้สึกผิดเพราะเราคิดว่าคริสต์เตียน ไม่สมควร ที่จะรู้สึกเช่นนี้ 

แต่สมมุติว่าเราหยุดวิ่งหนีจากบางอย่าง และเริ่มต้นวิ่ง ไปหา ใครบางคน? 

เราทำได้ คุณทำได้ สัญญาที่เราสามารถใช้ชีวิตอย่างไม่ทุกข์ร้อนในสิ่งใดเลยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราสามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับการเข้าหาพระเจ้า ลองอ่านข้อพระคัมภีร์ฟีลิปปี: 

อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์

โดยลำพัง เราไม่มีโอกาสที่จะต่อสู้กับความวิตกกังวล แต่เมื่อเราอยู่กับพระเจ้า เราสามารถเข้าหาพระองค์ ซึ่งจะทรงมอบสันติสุขที่เกินความเข้าใจของเรา 

สิ่งที่ดียิ่งไปกว่านั้นเกี่ยวกับคำสัญญานี้น่ะหรือ มันเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ใน ทุก สถานการณ์ ทุกครั้งที่เราเริ่มรู้สึกวิตกกังวล เราสามารถเข้าเฝ้าพระเจ้า เพราะสันติสุขคือผลที่ได้รับจากการเข้าเฝ้าพระองค์ 

บ่อยครั้ง ความวิตกกังวลจะไม่ได้หายไปในทันที มันจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องในการแสวงหาพระองค์ ในวันถัดๆ ไปนี้ เราจะแบ่งปันเรื่องราวของผู้คนทั่วไปที่ต่อสู้กับความวิตกกังวลและสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ระหว่างทาง 

อยากเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิต อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดเลย? เข้าไปอ่านชุดข้อความเพื่อพบกับสันติสุข 

*หากคุณกำลังต่อสู้กับความวิตกกังวล เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแสวงหาความช่วยเหลือ ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นโรควิตกกังวล ควรไปพบแพทย์ การแสวงหาความช่วยเหลือไม่ได้แสดงว่าคุณอ่อนแอ แต่มันแสดงว่าคุณฉลาด