พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
ตาของฉันมองเห็นแล้ว
ราวกับว่าผมตาบอด ผมเคยได้ยินหลาย ๆ ครั้งว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา แต่ผมไม่เคยมองเห็น ผมเคยตาบอดทางจิตวิญญาณ แต่เมื่อผมได้เข้าใจถึงความหมายของไม้กางเขน ตาของผมก็เปิดออก ตั้งแต่นั้นมา ผมได้สังเกตเห็นว่าเมื่อผมพยายามบอกเล่าเรื่องราว ‘การถูกตรึงกางเขนของพระคริสต์’ มีการตอบสนองที่แตกต่างกันไป บางครั้งคนฉลาดกลับมองเห็นได้ (ดูใน 1 โครินธ์ 1:23-25) ในทางตรงกันข้าม ผมมักจะประหลาดใจในความเข้าใจของผู้อื่นรวมทั้งเด็กเล็ก ๆ ด้วย ผู้ใดก็ตามที่เข้าใจชีวิตก็เปลี่ยนไป ‘แต่เราที่กำลังจะรอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า’ (1 โครินธ์ 1:18) ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่พระธรรมของวันนี้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ หลังจากที่พระเยซูได้ทรงอธิบายถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เราจะได้รู้เรื่องราวของบารทิเมอัสคนตาบอดที่ตามองเห็นได้ (มาระโก 10:46-52) คนตาบอดนั้นทูลพระองค์ว่า ‘ท่านอาจารย์ ขอโปรดให้ตาข้าพระองค์เห็นได้’ (ข้อ 51) พระเยซูตรัสกับเขาว่า ‘“จงไปเถิด ความเชื่อของท่าน*ทำให้ท่านหายปกติแล้ว*” ทันใดนั้นเขาก็เห็นได้ และเดินตามพระองค์ไป’ (ข้อ 52) คำว่าทำให้หายตรงกับคำในภาษากรีกคือคำว่า*รักษา (sozo)* คุณมองเห็นหรือไม่? บทความในวันนี้ช่วยให้เราได้เห็นถึงความสำคัญของการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูสุภาษิต 6:12-19
ดูการตอบสนองของพระเจ้าต่อความชั่วร้าย
คุณไม่สามารถเข้าใจในไม้กางเขนได้ถ่องแท้เว้นแต่คุณจะเข้าใจว่าทำไมมันจึงจำเป็น
ให้เราดูการตอบสนองของพระเจ้าที่เป็นปรปักษ์ต่อความบาป ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตได้แสดงสิ่งที่ ‘พระยาห์เวห์ทรงเกลียด’ และที่ ‘น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์’ (ข้อ 16ก) ความหยิ่งยโส การพูดโกหก การฆ่าคนบริสุทธิ์ การคิดแผนชั่วร้าย เท้าซึ่งรีบวิ่งไปสู่ความชั่ว ปากที่พูดเป็นพยานเท็จและคนที่ก่อให้เกิดปัญหาในหมู่พี่น้อง (ข้อ 16-19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเจ้าทรงเป็นความรัก และพระองค์ยังทรงเที่ยงธรรมและบริสุทธิ์อีกด้วย ความบาปที่กล่าวถึงในที่นี้ก่อ ให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่ชีวิตของเรา รวมถึงชีวิตของคนอื่น ๆ และสังคม ตัวอย่างเช่น คนที่ ‘หว่านความแตกร้าว’ (ข้อ 19) คิดดูว่าคน ๆ หนึ่งจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับครอบครัว หรือคริสตจักร คนในละแวกบ้านหรือประเทศชาติได้มากเพียงใด
ความเกลียดชังของพระเจ้าไม่เหมือนของเรา มันไม่ได้ประกอบไปด้วยความประสงค์ร้าย ความใจแคบหรือความหลอกลวง แต่เป็นปฏิกิริยาขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยความรักที่มีต่อความบาป พระพิโรธของพระองค์คือความรักและความบริสุทธิ์ของพระองค์อันเป็นปรปักษ์ต่อความชั่วร้าย
เมื่อเราได้ตระหนักถึงขอบเขตการเป็นศัตรูต่อความบาปของพระเจ้าซึ่งนำไปสู่ไม้กางเขน การตอบสนองที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวที่เราสามารถทำได้คือการกลับใจเข้าหาพระเจ้าโดยการอธิษฐานทูลขอการอภัยและความช่วยเหลือ
พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตา พระองค์ทรงรู้ว่าเราดิ้นรนเพื่อรับใช้พระองค์ เมื่อความบาปทำลายชีวิต และครอบงำจิตใจของเรา ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือเรา และนำเรากลับไปหาพระองค์อีกครั้ง ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระเจ้าของเรา (คำอธิษฐานจาก the Anglican collect for Ash Wednesday)
มาระโก 10:32-52
ดูผลของไม้กางเขน
ถ้าพระเยซูตรัสถามคุณว่า ‘ท่านต้องการจะให้เราทำอะไรให้ท่าน?’ คุณจะตอบพระองค์อย่างไร? พระธรรมตอนนี้พระเยซูตรัสถามคำถามนี้ถึงสองครั้ง (ข้อ 36,51) พวกสาวกได้ให้คำตอบที่ผิด (ข้อ 37) บารทิเมอัสได้ ให้คำตอบที่ถูกต้อง เขาตอบว่า ‘ขอโปรดให้ตาข้าพระองค์เห็นได้’ (ข้อ 51)
คนบางคนก็มองไม่เห็น บางคนอธิบายการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูว่าเป็นสิ่งที่ ‘ไม่คาดคิดและน่าเศร้า’ แต่ในความเป็นจริงแล้วได้มีการวางแผน คาดการณ์และพยากรณ์ไว้แล้ว
พระคำตอนนี้ในพระธรรมมาระโก (ข้อ 32-34) เป็นคำพยากรณ์ครั้งที่สามและละเอียดที่สุดที่พระเยซูทรงตรัสเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เป็นการสำแดงให้เราเห็นว่าพระเยซูทรงคาดหวังถึงการสิ้นพระชนม์และการคืนพระชนม์ของพระองค์เอง (ข้อ 33-34) การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไม่ใช่เรื่องที่ไม่คาดคิด แต่เป็นการเลือกโดยเจตนา ซึ่งไม่อาจจบลงด้วยโศกนาฏกรรม แต่เป็น*ชัยชนะ *
ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ทรงเข้าใจอย่างชัดเจนถึงจุดประสงค์และผลลัพธ์ของการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ‘เพราะว่าบุตรมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะปรนนิบัติคนอื่น และให้ชีวิตของท่านเป็นค่า ไถ่คนจำนวนมาก’ (ข้อ 45)
เบื้องหลังของความเข้าใจของพระเยซูในการสิ้นพระชนม์ของพระองค์รวมถึงในอิสยาห์ 53 อันเป็นเรื่องราว ของหนึ่งใน ‘ผู้รับใช้ที่ทุกข์ยาก' เราได้เห็นถึงหลักฐานที่ชัดเจนว่าพระเยซูทรงเห็นถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ในแง่มุมของ ‘ผู้รับใช้ที่ทุกข์ยาก’
1.\tความทุกข์ยาก
ทำไมพระเยซูจึงเสด็จลงมาในโลกนี้? พระองค์ทรงเข้าใจว่าจุดประสงค์ทั้งหมดของภารกิจของพระองค์ คือ ความทุกข์ยาก นี่คือเหตุผลที่พระองค์ ‘มา’ (มาระโก 10:45ข) พระองค์มาเพื่อให้ชีวิตของพระองค์แก่คุณและผม
2.\tผู้รับใช้
พระเยซูใช้สำนวนว่า ‘การปรนนิบัติ’ (ข้อ 45ก) พระองค์ทรงมองพระองค์เองเป็นดั่ง ‘ผู้รับใช้’ พระองค์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะ‘ปรนนิบัติ’ ในสำนวนว่า ‘เพื่อให้ชีวิตของพระองค์’ (ข้อ 45ข) สะท้อนคำว่าผู้รับใช้ในอิสยาห์ 53:10 (‘เมื่อชีวิตของท่านเป็นเครื่องบูชา ลบล้างบาป’) และอิสยาห์ 53:12 (‘เขาเทตัวของเขาลงถึงความมรณะ’)
3.\tผู้ช่วยให้รอด
คำว่า ‘ค่าไถ่’ (มาระโก 10:45ข) ใช้กับพวกเชลยศึกและทาสหมายถึงราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการไถ่ (กันดารวิถี 18:15-16) มันคือการจ่ายราคาเพื่อปลดปล่อยเชลยให้เป็นอิสระ การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระเยซูช่วยไถ่คุณและผมโดยการปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระ
4.\tแทนที่
คำที่แปลว่า ‘เพื่อ’ ในมาระโก 10:45 คือคำว่า anti ในภาษากรีกซึ่งหมายถึง ‘แทนที่’ และแสดงถึง แนวคิดของการแทนที่ เป็นแนวคิดของการทนทุกข์แทนเราซึ่งได้เน้นย้ำในอิสยาห์ 53 พระเยซูใช้คำนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์เชื่อว่าการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไม่ได้เป็นไปโดยบังเอิญ หรือเพราะความบาปของพระองค์เอง แต่ทนทุกข์ยาก ‘แทนที่’ ผู้อื่นซึ่งต้องทนทุกข์ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น พระเยซูทรงเข้าใจการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ในแง่ของการอุปมาเปรียบดังถ้วย (มาระโก 10:38) พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมกล่าวถึงถ้วยแห่ง ‘พระพิโรธ’ ต่อความบาปของพระเจ้า พระเยซูทรงตรัสถึง ‘ถ้วยที่เราดื่ม’ (ข้อ 38) พระองค์ทรงเห็นว่าพระองค์เองกำลังดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธของพระเจ้าที่มีต่อความบาปแทนเรา
พระเยซูทรงเอาชนะความบาป ความชั่วร้าย และความตายด้วยการสิ้นพระชนม์และการคืนพระชนม์ของพระองค์ ด้วยเหตุนี้คุณจึงได้รับการอภัย ปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากความผิด ความอับอาย และการเสพติด คุณมั่นใจได้ถึงชัยชนะอันสูงสุดของความดีที่มีเหนือความชั่วร้าย คุณไม่จำเป็นต้องกลัวอนาคต ความตายนั้นได้พ่ายแพ้แล้ว
เมื่อพระเยซูตรัสถามสาวกของพระองค์ว่า ‘ท่านต้องการจะให้เราทำอะไรให้ท่าน?’ แต่พวกเขากลับให้คำตอบ ที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาต้องการตำแหน่ง (ข้อ 37) นี่มักจะเป็นสิ่งล่อลวงสำหรับผู้นำคริสเตียนที่จะแข่งขันกันเอง เพื่อตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด
เราถูกเรียกให้ติดตามพระเยซู รับใช้พระองค์และรับใช้ซึ่งกันและกัน ความทะเยอทะยานทางจิตวิญญาณนั้นไม่ใช่สิ่งผิด แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีความทะเยอทะยานทางจิตวิญญาณในทางที่ผิด นี่อาจเป็นการแสวงหาชื่อเสียงของตนเองมากกว่าเป็นความทะเยอทะยานเพื่อพระเยซู พระเยซูตรัสว่า ‘ถ้ามีใครต้องการจะเป็น ใหญ่ท่ามกลางท่าน คนนั้นจะต้องเป็นผู้ปรนนิบัติของท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 43)
แน่นอนว่าสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ แรงจูงใจของเรามักจะผสมกัน เมื่อเราเป็นเหมือนเหล่าสาวกซึ่งถูกล่อลวง ให้แสวงหาตำแหน่ง โอกาส ค่าตอบแทน และความมีชื่อเสียงของเราเอง พระเยซูตรัสเพียง 4 คำกับเรา ‘ในพวกท่านจะไม่เป็นเช่นนั้น’ (Not so with you) (ข้อ 43) คุณถูกเรียกให้รับใช้เพราะนี่เป็นรูปแบบของ พระเยซูที่ทรงรับใช้
เสื้อผ้าของเหล่าสาวกแท้ไม่ใช่เสื้อคลุมสีม่วงของกษัตริย์ แต่เป็นมงกุฎหนามของพระผู้ช่วยให้รอดของเรา เป็นเรื่องของไม้กางเขน ไม่ใช่เรื่องของบัลลังก์ เป็นการสละชีวิตเพื่อผู้อื่น
ให้เราดูตัวอย่างของบารทิเมอัสที่ร้องขอความเมตตาจากพระเยซู (ข้อ 47) พระเยซูทรงตอบเสมอเมื่อคุณร้องขอความเมตตา บารทิเมอัสทูลขอการมองเห็น ดวงตาของเขาก็เปิดออกและเขาได้เห็นพระเยซู
ขอพระเจ้าให้เปิดตาของคุณให้ได้เห็นพระเยซู และได้เข้าใจว่าสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำไปทั้งหมดผ่านการสิ้นพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขนนั้นเพื่อคุณ
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงเปิดตาข้าพระองค์ให้ได้เห็นพระองค์ชัดเจนมากขึ้น รักพระองค์อย่างสุดหัวใจ และติดตามพระองค์ใกล้ชิดมากขึ้น (ดัดแปลงจากคำอธิษฐานของนักบุญ ริชาร์ด แห่งคริสตจักรเมือง ชิคเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ)
เลวีนิติ 5:14-7:10
ดูสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระองค์
อีกครั้งที่เราได้เห็นถึงเบื้องหลังความเข้าใจของพระเยซูที่มีต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ‘เครื่องบูชาชดใช้บาป’ ถวายเป็น ‘เครื่องบูชา’ (5:15) สำหรับชดใช้ความบาป สิ่งนี้นำไปสู่การได้รับการอภัย (ข้อ 16) และรวมถึงเลือดสัตว์ที่นำมาประพรม (7:2) นี่เป็นเงาสะท้อนล่วงหน้าถึงสิ่งที่พระเยซูจะทรงกระทำบนไม้กางเขนเพื่อคุณและผม
เมื่อผมเริ่มจะเข้าใจเบื้องหลังพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและความร้ายแรงของบาปของตัวผมเอง ผมก็เริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้นถึงความยิ่งใหญ่ของการสละพระองค์เป็นเครื่องบูชาที่พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อผม เมื่อพระเยซูทรงรับการลงโทษบาปจากพระเจ้าแทนผมด้วยพระกายพระองค์เอง พระองค์ทรงทำให้ผมได้รับการอภัยและมีประสบการณ์ในชีวิตที่ครบบริบูรณ์
ประสบการณ์ของผมนั้นคล้ายกับบารทิเมอัสคนตาบอด การตาบอดของผมนั้นไม่ใช่ทางร่างกาย แต่เป็นทางจิตวิญญาณ เช่นเดียวกันกับเขาผมได้ร้องออกมาว่า ‘พระเยซู...ขอทรงเมตตาข้าพระองค์เถิด’ (มาระโก 10:47-48) ผมจึงได้มองเห็นและติดตามพระเยซูไป ไม่ใช่สิ่งที่ผมได้รับมาเปล่าๆ แต่เป็นของขวัญที่ผมได้รับโดยความเชื่อ เหมือนที่พระเยซูทรงตรัสกับบารทิเมอัส ‘จงไปเถิด ความเชื่อของท่านทำให้ท่านหายปกติแล้ว’ (ข้อ 52)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่เปิดตาของข้าพระองค์ให้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของการสละพระองค์ เป็นเครื่องบูชาแทนข้าพระองค์ ขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ไม่อาจได้รับการให้อภัยมาโดยเปล่า แต่สามารถได้รับเป็นของประทานโดยทางความเชื่อเท่านั้น โปรดทรงช่วยข้าพระองค์เหมือนที่ทรงช่วยบารทิเมอัสในการติดตามพระองค์ และในการมอบชีวิตของข้าพระองค์ในการรับใช้พระองค์และคนอื่น ๆ
Pippa Adds
เลวีนิติ 6:4
‘ให้ผู้นั้นคืนของที่ได้มาทางการโจรกรรมเสีย หรือสิ่งใดที่เขาได้มาด้วยการบีบบังคับ หรือสิ่งที่ฝากเขาไว้ หรือสิ่งสูญหายที่เขาได้พบเข้า’
ฉันต้องสารภาพว่ามีร่มมากมายที่ผู้คนได้ลืมไว้ในโบสถ์ และเราก็พบว่ามันมีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th