พระคุณสำหรับวันนี้ตัวอย่าง

พระคุณสำหรับวันนี้

วันที่ 12 จาก 12

บทสรุป

ค้นหาความหวังและพระคุณ

โฮเรชิโอ สแปฟฟอร์ดสูญเสียทั้งลูกชายวัย 4 ขวบและธุรกิจของเขาภายในปีเดียว ในอีกสองสามปีต่อมา เขาวางแผนเข้าร่วมงานประกาศในลอนดอน จึงได้จัดการให้ภรรยาและลูกสาวทั้ง 4 คนลงเรือโดยสารล่วงหน้าไปก่อน และในขณะที่เขาสะสางงานเพื่อเดินทางตามไป ได้เกิดอุบัติเหตุเรือชนกันขึ้น ส่งผลให้ลูกสาวทั้ง 4 จมน้ำเสียชีวิต เหลือเพียงภรรยาที่รอดชีวิต เมื่อเขาเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ขณะที่ผ่านบริเวณที่ลูกสาวเสียชีวิต โฮเรชิโอได้เขียนบทเพลงชีวิตคริสเตียนที่เป็นอมตะชื่อว่า “จิตใจข้าสุขสบาย”

เขาเขียนบทเพลงเช่นนี้ได้อย่างไร? เนื้อเพลงเผยให้เห็นว่า โฮเรชิโอเรียนรู้ที่จะพึ่งพาในความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขา นั่นคือความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์ และได้ค้นพบสันติสุขในจิตวิญญาณท่ามกลางความโศกเศร้ามากมาย

เขาสามารถมีสันติสุขแม้ขณะที่ยังคงมีความเศร้า ความโดดเดี่ยว ความอ่อนล้า และแม้กระทั่งความโกรธ เราทำอย่างไรบ้างเมื่อเกิดความรู้สึกเหล่านี้?

อารมณ์และความเชื่อ

พระคัมภีร์เต็มไปด้วยความรู้สึก ฮันนา “เป็นทุกข์ร้อนใจมากอธิษฐานต่อพระเจ้าและร้องไห้คร่ำครวญ” (1 ซามูเอล 1:10) ดาวิดเปิดใจต่อพระเจ้าแบบไม่ปิดบังในสดุดีบทแล้วบทเล่า (สดุดี 22:14-15) เอลียาห์สัมผัสกับหลุมลึกแห่งความซึมเศร้าหดหู่ (1 พงศ์กษัตริย์ 19) เยเรมีย์ร้องไห้คร่ำครวญต่อพระพักตร์พระเจ้า (เยเรมีย์ 8:20-9:1)

การแสดงอารมณ์ที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความโกรธ ความสับสน หรือความอิจฉาต่อพระเจ้าเป็นเรื่องที่ทำได้หรือไม่?

แน่นอน เราทำเช่นนั้นได้!

ในสวนเกทเสมนี ในคืนก่อนที่พระเยซูถูกตรึง พระองค์กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของพระองค์ต่อพระบิดา มัทธิว 26:37-38 บอกเราว่าพระองค์ “ทรงโศกเศร้าและหนักพระทัยนัก… (ใจของเรา) เป็นทุกข์แทบจะตาย”

การแสดงอารมณ์ดูเหมือนเป็นส่วนสำคัญของการได้สัมผัสสันติสุข เมื่อหยั่งรากลึกในความเชื่อ การแสดงออกเหล่านี้นำไปสู่ความหวัง

ฮันนาอธิษฐานขอบุตรและเชื่อว่าพระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของเธอ ดาวิดร่ำไห้ต่อพระเจ้าในขณะเดียวกันยกย่องฤทธิ์อำนาจ ความสัตย์ซื่อ และความรักของพระองค์ เอลียาห์และเยเรมีย์ต่างได้รับการปลอบประโลมจากพระเจ้าเมื่อรู้สึกดำดิ่งและเป็นทุกข์ และพระเยซูคริสต์ทรงยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระบิดา โดยตรัสว่า “อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด" และพระองค์ได้รับการเสริมกำลังจากทูตสวรรค์ (ลูกา 22:42-44)

ความรู้สึกเป็นเครื่องบ่งบอก เหมือนเข็มชี้วัดบนแผงหน้าปัดรถยนต์ มันบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างภายในตัวรถ เมื่อเราให้ความสนใจกับความรู้สึก มันสามารถเปิดเผยความต้องการของมนุษย์อย่างเรา และเมื่อรวมกับความเชื่อว่าพระเจ้าจะช่วยเหลือเรา ความรู้สึกนี้สามารถนำเราไปสู่ความหวังได้

วิธีค้นหาความหวัง

ส่วนใหญ่เรามักต่อสู้และละอายกับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เราพยายามปกปิดความทุกข์ในเรื่องนี้จากคนอื่น ทั้งจากตัวเอง และแม้กระทั่งจากพระเจ้า แต่เราจะได้รับการช่วยเหลือก็ต่อเมื่อเราซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองและรับมือกับมัน

เมื่อเราพบว่าเรากำลังอยู่ในภาวะความเศร้าฝังใจ ความโกรธจัด ความอิจฉาที่เกิดขึ้นฉับพลัน หรือความหดหู่ดำดิ่ง เราสามารถหยุดเพื่อคิดและจดบันทึกว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เกิดขึ้นจากอะไร เราเคยมีความรู้สึกแบบนี้ในสถานการณ์ใดมาก่อนบ้างไหม เราจะเข้าใจและเรียนรู้จากมันได้อย่างไร

อารมณ์และความรู้สึกช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและเข้าใจการเอาใจใส่ของพระเจ้า พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้เรานำความรู้สึกเหล่านี้เข้ามาและขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ในความสัมพันธ์กับพระองค์ เราจะพบกับความผูกพันที่เราปรารถนาซึ่งไม่มีวันสิ้นสุด หากคุณยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเยซูคริสต์ ลองหยุดสักครู่แล้วเพียงอธิษฐานด้วยความเชื่อดังนี้:

“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ต้องการพระองค์ ข้าพระองค์ทราบดีว่าข้าพระองค์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อใช้ชีวิตเพียงลำพัง แต่เพื่อมีความสัมพันธ์กับพระองค์ ขอบพระคุณที่ทรงประทานพระเยซู พระบุตรของพระองค์มาสิ้นพระชนม์ที่บนกางเขน เพื่อข้าพระองค์จะสามารถกลับคืนดีกับพระองค์ และได้เป็นลูกของพระองค์ ขอทรงโปรดยกโทษที่ข้าพระองค์ทำตามใจตัวเอง โปรดเข้ามาสถิต ครอบครองชีวิต และช่วยข้าพระองค์ในการติดตามพระองค์”

เมื่อคุณเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเจ้าแล้ว คุณสามารถบอกพระองค์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับคุณ เพราะพระองค์ทรงทราบความรู้สึกของคุณแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้พระองค์ประหลาดใจ พระเจ้ารักคุณ! ทรงรอให้คุณตอบสนองความรักนั้น ซึ่งอาจเป็นเวลาเมื่อคุณพบปะกับผู้เชื่ออื่นๆ เมื่อนมัสการ เมื่อชื่นชมสรรพสิ่งทรงสร้าง และเมื่ออธิษฐาน บ่อยครั้งความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพระเจ้าเกิดขึ้นเมื่ออ่านจดหมายรักของพระองค์ที่มาถึงเรา คือพระคัมภีร์นั่นเอง

แต่ถึงแม้เราจะรู้จักพระเจ้ามาเป็นเวลานาน สุขภาพใจของเรายังอาจประสบปัญหาหนักหน่วง ซึ่งทำให้สับสนและรู้สึกไม่มั่นคงได้ เราสามารถรับความช่วยเหลือและความหวังโดยพูดคุยกับที่ปรึกษามืออาชีพ หรือคนอื่นๆ ที่พระเจ้าใช้เขาเพื่อนำเราเดินหน้าต่อไป นอกจากนี้ เราต้องตระหนักว่า ความวิตกกังวล บาดแผลทางใจ หรืออารมณ์ซึมเศร้าที่เกิดขึ้นต้องรับการรักษาเช่นเดียวกับการรักษาเมื่อร่างกายเจ็บป่วย

ความหวังจะเติบโตขึ้นได้จากความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกับพระเจ้า ผู้ทรงรู้จักเราอย่างลึกซึ้ง และทรงรับความทรมานบนกางเขน เพื่อเราจะไม่ถูกทิ้งให้ต้องเจ็บปวดโดยลำพัง พระเจ้าผู้แสนดีของเราทรงรักเราอย่างยิ่ง ทรงจัดเตรียมความหวังและพระคุณไว้ให้อย่างที่เราต้องการ

อลิซา มอร์แกน, ผู้เขียนมานาประจำวัน

สมัครรับหนังสือบทความได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คลิกเลย

วันที่ 11

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคุณสำหรับวันนี้

พระคุณสำหรับวันนี้ 10 บทความเพื่อความหวังและสุขภาพใจที่เข้มแข็งจากพันธกิจมานาประจำวัน

More

เราขอขอบคุณ Our Daily Bread Asia Pacific สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม: https://thaiodb.org/