พระเจ้า กับ วิทยาศาสตร์ตัวอย่าง

ความปรารถนาที่จะหาความหมาย

คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับสุนัขในฮอลิวูดที่มันเป็นโรคซึมเศร้าเพราะมันหาความหมายของชีวิตไม่ได้ไหม มันถูกอุ้มไปเดินบนพรมแดงมากมาย กับกระเป๋ากุชชี่ใบนึง แต่มันรู้สึกแย่มากที่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในโลกเลย คุณได้อ่านเรื่องนี้ในนิตยสารของ คน รึเปล่า

ไม่ครับ คุณไม่ได้อ่านหรอก เพราะความปรารถนาที่หาความหมายนั้นมีไว้สำหรับมนุษยชาติ ยุงไม่เปลี่ยนวิชาเอกในมหาลัย ลูกสุนัขไม่อ่านหนังสือ“ชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์” แมวไม่ร้องออกมาว่า “แล้วทั้งหมดมันหมายความว่ายังไงล่ะ” ไม่ครับ สัตว์ส่วนใหญ่มีความสุขกับอาหาร การสืบพันธ์ และความปลอดภัย งั้นทำไมมันถึงไม่ได้ผลกับเราล่ะ ทำไมเราถึงโหยหาความรัก มิตรภาพ จุดประสงค์ในชีวิต และการงานที่มีความหมาย ทำไมเราจึงพูดถึงการสร้างอะไรให้คนรุ่นต่อไปและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกันล่ะ

เพราะพระเจ้ายังไงล่ะ กษัตริย์โซโลมอนคนเดิมของเราได้พูดเอาไว้ว่า “[พระเจ้า ] ได้ทำให้ทุกสิ่งงดงามตามเวลาของมัน ทั้งได้ตั้งความเป็นนิรันดร์ไว้ในใจของมนุษย์” (ปัญญาจารย์ 3:11) พระเจ้าได้ตั้งความเป็นนิรันดร์ในหัวใจของคุณ พระเจ้าใส่ความปรารถนาเข้าไปในคุณเพื่อที่จะให้คุณตามหาเขา ประเจ้าที่เป็นนิรันดร์ พรที่เป็นนิรันดร์ ที่มันคงอยู่ตลอดกาล ความปรารถนาของคุณที่อยากจะเชื่อมต่อกับความเหนือธรรมชาติ และความนิรันดร์คือข้อพิสูจน์ว่าเราไม่ใช่แค่สัตว์ตัวนึง คุณเป็นมากกว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถทดลองและอธิบายได้ คุณมีจิตวิญญาณที่จะไม่มีวันรู้สึกพึงพอใจจนกว่าจะได้เห็นพระเจ้า

เหมือนกับที่นักบุญคนหนึ่งเคยพูดไว้ว่า--ใจของคุณจะรู้สึกเหนื่อยอยู่เสมอ จนกว่ามันจะได้พักกับพระองค์ เพราะฉะนั้น วันนี้คุณจงแสวงหาพระองค์ โดยเรียนรู้โลกรอบ ๆ ตัวคุณเพื่อรู้จักพระเจ้าให้มากขึ้น จากนั้นจงรู้จักพระเจ้าให้ดีมากกว่าที่เคย ผ่าน(คำสอนของ)พระเยซู