พระเจ้า กับ วิทยาศาสตร์ตัวอย่าง

พระเจ้า กับ วิทยาศาสตร์

วันที่ 4 จาก 7

ทำไมน่ะเหรอ

คุณเคยได้ยินการพิจรณาคดีเรื่องแมวตัวร้ายที่ฆ่าหนูผู้บริสุทธิ์ไหมครับ มันแอบย่องเข้าไปจับหนูในขณะที่แม่หนูกำลังขโมยชีสไปให้ลูก ๆ ของมัน เจ้าหนูผู้น่าสงสาร คุณได้เห็นเรื่องนั้นในทีวีช่อง Court TV ไหม (ช่องทีวีที่ฉายคดีต่าง ๆ ในศาล)

ไม่หรอก คุณคงไม่ได้เห็น เราไม่มีคดีในศาลให้แมว หรือทนายให้สิงโต เวลาที่สุนัขคาบตัวอะไรที่มันจับได้มาจากหลังบ้านเรา เราไม่เรียกมันว่าการฆาตกรรม แต่กับมนุษย์เราเรียกแบบนั้น ทำไมมันถึงแตกต่างล่ะ ถ้าคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าเขาคิดถูก แล้วพวกเราก็เป็นแค่สัตว์ที่พัฒนาแล้ว ทำไมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเรามันถึงไม่ชอบความคิดที่คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอดล่ะ ทำไมเราถึงเดินขบวนประท้วงหาความยุติธรรมและความเสมอภาค ทำไมเราถึงใส่ใจคนที่เขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่และปกป้องตัวเองไม่ได้ ทำไมเราถึงไม่ปล่อยให้คนที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่รอดไปล่ะ

คําตอบคือ—เพราะเราไม่ใช่สัตว์ครับ เราคือผู้คนที่ถูกสร้างจากรูปแบบของพระเจ้า อัครสาวกเปาโลเขียนไว้ว่า “เมื่อชาวต่างชาติ (ที่ไม่ใช่ชาวยิว) ไม่มีบทบัญญัติ(พระคัมภีร์)ได้ทำตามสิ่งที่กฎนั้นบอกเอาไว้... พวกเขาแสดงให้เห็นว่าข้อกำหนดต่าง ๆ ของบทบัญญัติได้ถูกจารึกอยู่ในใจของเขา ” (โรม 2: 14,15) ความคิดเรื่องความดีความชั่วมันมาจากไหนล่ะ จากพระเจ้าไง การที่ศีลธรรมจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ คุณต้องมีข้อกำหนดจากพระเจ้า

ครั้งต่อไปที่เพื่อนของคุณพูดถึงความดีความชั่ว โดยใช้คำที่บอกถึงศีลธรรมในประโยคอย่างคำว่าควรจะ หรือกังวลเกี่ยวกับความยุติธรรม ถามคำถามให้เขาได้คิดสิว่า - ทำไม ถ้าไม่มีพระเจ้ามาประกาศว่ามันเป็นแบบนี้ ทำไมถึงมีอะไรที่มันยุติธรรม ไม่ยุติธรรม ดี หรือชั่ว

ข้อพระคัมภีร์

วันที่ 3วันที่ 5

เกี่ยวกับแผนฯ

พระเจ้า กับ วิทยาศาสตร์

การแบ่งแยกของวิทยาศาสตร์/เหตุผล/ตรรกะ/การพิสูจน์ กับ ความศรัทธา/ศาสนา/พระเจ้า/ความเชื่อ นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครหลายคนจะรับได้ ความศรัทธาในพระเจ้าและวิทยาศาสตร์เข้ากันได้อย่างไร เรียนรู้เพิ่มเติมได้ในแผนการอ่านนี้

More

இந்த திட்டத்தை வழங்கியதற்காக டைம் ஆஃப் கிரேஸ் அமைச்சகத்திற்கு நன்றி தெரிவிக்க விரும்புகிறோம். மேலும் தகவலுக்கு, தயவுசெய்து செல்க: https://timeofgrace.org/welcome-to-time-of-grace/?togipsrc=youversion&togpreselect=1-2