สุภาษิต 8:1-13
สุภาษิต 8:1-13 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ปัญญาไม่ได้ร้องเรียกหรือ? ความเข้าใจไม่ได้เปล่งเสียงหรือ? บนยอดสูง ที่ข้างทาง และตามถนน ปัญญายืนอยู่ ข้างประตูหน้าเมือง คือที่ทางเข้า ปัญญาร้องเสียงดังว่า “โอ ทุกๆ คน ข้าพเจ้าเรียกเจ้า และเสียงเรียกของข้าพเจ้าไปถึงมนุษย์ทั้งหลาย โอ คนรู้น้อย จงเข้าถึงความสุขุม โอ คนโง่ จงเข้าใจ จงฟัง เพราะข้าพเจ้าจะพูดสิ่งที่มีเกียรติ เพราะสิ่งที่ถูกต้องจะมาจากปากของข้าพเจ้า เพราะปากของข้าพเจ้าจะพูดความจริง ความชั่วเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อริมฝีปากของข้าพเจ้า ทุกคำจากปากของข้าพเจ้านั้นชอบธรรม ไม่บิดผันหรือตลบตะแลง คำเหล่านั้นก็ตรงหมดสำหรับผู้ที่เข้าใจ และถูกต้องสำหรับผู้พบความรู้ จงรับคำสั่งสอนของข้าพเจ้าแทนเงิน และจงรับความรู้แทนทองคำเนื้อดี เพราะปัญญาดีกว่าทับทิม และทุกสิ่งที่เจ้าปรารถนาเปรียบกับปัญญาไม่ได้เลย ข้าพเจ้าคือปัญญา อยู่กับความสุขุม และข้าพเจ้าพบความรู้และความเฉลียวฉลาด ความยำเกรงพระยาห์เวห์คือการเกลียดชังความชั่วร้าย ข้าพเจ้าเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง และทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง
สุภาษิต 8:1-13 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ปัญญามิได้ร้องเรียกหรือ ความเข้าใจมิได้เปล่งเสียงหรือ ณ ที่สูงที่ข้างทาง ที่กลางถนนปัญญาก็ยืนอยู่ ข้างประตูหน้าเมือง ที่ทางเข้ามุข ปัญญาก็ร้องเสียงดังว่า <<โอ บรรดาผู้ชายเอ๋ย เราเรียกเจ้า และเสียงเรียกของเราไปถึงบุตรชายของมนุษย์ โอ คนเขลา จงเข้าถึงความหยั่งรู้ โอ คนโง่ จงเข้าใจ ฟังซิ เพราะเราจะพูดถึงสิ่งที่มีเกียรติ เพราะสิ่งที่ชอบจะมาจากริมฝีปากของเรา เพราะปากของเราจะเปล่งความจริง ความโหดร้ายเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อริมฝีปากของเรา บรรดาคำปากของเรานั้นชอบธรรม ในนั้นไม่มีคำบิดหรือคำคด คำเหล่านั้นสำหรับผู้ที่เข้าใจก็ตรงหมด สำหรับผู้พบความรู้ก็ถูกต้อง จงรับคำสั่งสอนของเราแทนเงิน และความรู้แทนทองคำอย่างดี เพราะปัญญาดีกว่าทับทิม และสิ่งที่เจ้าปรารถนาทั้งหมดจะเปรียบเทียบกับปัญญาไม่ได้ เราคือปัญญา อยู่ในความหยั่งรู้ และเราพบความรู้และความเฉลียวฉลาด ความยำเกรงพระเจ้าเป็นความเกลียดชังความชั่วร้าย เราเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง และทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง
สุภาษิต 8:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
สติปัญญากำลังส่งเสียงร้องเรียกอยู่ ความรู้ความเข้าใจเปล่งเสียงของเธอ เธอยืนอยู่ทั้งบนยอดเขา ตามถนนหนทางและตามทางแยกถนน เธอส่งเสียงร้องอยู่ที่ข้างประตู และที่ทางเข้าเมือง สติปัญญาร้องว่า “ท่านทั้งหลาย ข้าส่งเสียงเรียกพวกท่าน เสียงของข้าพูดกับมนุษย์ทุกคน” คนทั้งหลายที่ขาดความเข้าใจ ให้เรียนรู้ที่จะเป็นคนฉลาดหลักแหลมเถิด คนโง่ทั้งหลาย หัดใช้สมองเสียบ้าง ฟังให้ดี เพราะเรามีเรื่องสำคัญบางอย่างจะบอก เราจะสอนเจ้าในสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยว่าปากของเรานั้นพูดความจริง ริมฝีปากของเรานั้นเกลียดชังความชั่ว คำพูดทุกคำที่ออกจากปากของเรานั้นล้วนสัตย์ซื่อ ไม่มีคำพูดใดที่บิดเบือนหรือทำให้หลงผิดเลย ถ้อยคำทุกคำล้วนแต่ชัดแจ้งอยู่แล้วสำหรับคนที่มีความเข้าใจ และตรงไปตรงมาสำหรับคนที่มีความรู้ ให้ยอมรับการตักเตือนของเรา มันดีกว่าเงินเสียอีก ยอมรับความรู้ของเรา มันดีกว่าทองคำบริสุทธิ์ เพราะสติปัญญานั้นดีกว่าทับทิม สิ่งทั้งหลายที่เจ้าอยากได้ไม่อาจจะเทียบได้กับสติปัญญา “เราเป็นสติปัญญา เราอยู่ร่วมชายคาเดียวกับความเฉลียวฉลาด และเรารู้ว่าจะหาความรู้และความคิดรอบคอบได้ที่ไหน ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้น คือการเกลียดชังความชั่ว และเราก็เกลียดชังความหยิ่งจองหอง การกระทำชั่วร้ายและคำพูดหลอกลวง
สุภาษิต 8:1-13 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ปัญญามิได้ร้องเรียกหรือ ความเข้าใจมิได้เปล่งเสียงของเธอหรือ ณ ที่สูงที่ข้างทาง ที่กลางถนนเธอก็ยืนอยู่ ข้างประตู หน้าเมือง ที่ทางเข้ามุข เธอก็ร้องเสียงดังว่า “โอ บรรดาผู้ชายเอ๋ย เราเรียกเจ้า และเสียงเรียกของเราไปถึงบุตรชายของมนุษย์ โอ คนเขลา จงเข้าใจสติปัญญา คนโง่ทั้งหลาย จงมีใจที่เข้าใจ ฟังซี เพราะเราจะพูดถึงสิ่งยอดเยี่ยม เพราะสิ่งที่ชอบจะมาจากริมฝีปากของเรา เพราะปากของเราจะกล่าวความจริง ความชั่วร้ายเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อริมฝีปากของเรา บรรดาคำปากของเรานั้นชอบธรรม ในนั้นไม่มีคำบิดหรือคำคด คำเหล่านั้นสำหรับผู้ที่เข้าใจก็ตรงหมด สำหรับผู้พบความรู้ก็ถูกต้อง จงรับคำสั่งสอนของเราแทนเงิน และความรู้แทนทองคำอย่างดี เพราะปัญญาดีกว่าทับทิม และสิ่งที่เจ้าปรารถนาทั้งหมดจะเปรียบเทียบกับปัญญาไม่ได้ เราคือปัญญา อยู่ในความหยั่งรู้ และเราพบความรู้แห่งความเฉลียวฉลาด ความยำเกรงพระเยโฮวาห์เป็นความเกลียดชังความชั่วร้าย เราเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง และทางของความชั่วร้ายกับปากตลบตะแลง
สุภาษิต 8:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ปัญญาไม่ได้ส่งเสียงเรียกอยู่หรือ? ความเข้าใจไม่ได้ร้องเรียกอยู่หรือ? ปัญญายืนอยู่บนที่สูง ริมทางเดิน และตรงทางแยก ปัญญาร้องเสียงดัง อยู่ที่ข้างประตูเข้าเมืองว่า “มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย เราร้องเรียกพวกเจ้า เราป่าวร้องแก่มนุษย์ทั้งปวง เจ้าคนอ่อนต่อโลก จงมีความสุขุมรอบคอบ เจ้าคนโง่ จงใส่ใจในสิ่งนี้ ฟังเถิด เรามีเรื่องสำคัญมากจะบอก เราเอ่ยปากเพื่อกล่าวสิ่งที่ถูกต้อง ปากของเรากล่าวความจริง ริมฝีปากของเราชิงชังความชั่ว วาจาทั้งสิ้นของเราเที่ยงธรรม ไม่มีการลดเลี้ยวหรือบิดเบือน คำพูดของเราตรงไปตรงมาสำหรับผู้มีความเข้าใจ และถูกทำนองคลองธรรมสำหรับผู้มีความรู้ จงเลือกคำสอนของเราแทนที่จะเลือกเงิน เลือกความรู้แทนที่จะเลือกทองเนื้อเก้า เพราะปัญญาสูงค่ากว่าทับทิม สิ่งที่เจ้าปรารถนาไม่มีอะไรเปรียบกับนางได้ “เรา ปัญญา อยู่คู่ความสุขุมรอบคอบ เรามีความรู้และความเฉลียวฉลาด ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าคือการเกลียดชังความชั่ว เราชิงชังความหยิ่งยโส ความจองหอง การประพฤติชั่ว และวาจาตลบตะแลง
สุภาษิต 8:1-13 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
สติปัญญาไม่เรียกหาหรือ และการหยั่งรู้ไม่เปล่งเสียงของเธอหรอกหรือ เธอยืนอยู่บนยอดสูงข้างทาง ตรงทางที่บรรจบกัน และเธอตะโกนอยู่ที่ข้างประตู ทางที่เปิดเข้าสู่ตัวเมือง ณ ที่ประตูทางเข้า “บรรดาผู้ชายเอ๋ย เราเรียกหาเจ้าทุกคน และส่งเสียงของเราถึงบรรดามนุษยชาติทั้งปวง พวกคนเขลาเอ๋ย จงหยั่งรู้ความฉลาดรอบคอบ และคนโง่เอ๋ยจงหยั่งรู้จิตใจ จงฟังเถิด เพราะว่าเราพูดถึงสิ่งประเสริฐ ริมฝีปากของเราเปิดเพื่อพูดถึงสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยว่า ปากของเราพูดความจริง ปากของเรารังเกียจสิ่งชั่วร้าย ทุกคำพูดที่ออกจากปากของเราล้วนเป็นความชอบธรรม ปราศจากการหลอกลวงและบิดเบือนในคำพูด เป็นคำพูดที่ตรงสำหรับผู้หยั่งรู้ และถูกต้องสำหรับบรรดาผู้มีความรู้ จงรับคำสั่งสอนของเราแทนการรับเงินเถิด และเลือกเอาความรู้มากกว่าทองคำเนื้อดี ด้วยว่าสติปัญญาดีกว่าเพชรนิลจินดา และไม่มีสิ่งอันน่าพึงปรารถนาใดๆ จะเปรียบเทียบกับเธอได้ เราคือสติปัญญา เราอยู่ในความฉลาดรอบคอบ และเราพบกับความรู้และปฏิภาณ ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือการเกลียดชังความชั่วช้า เราเกลียดชังความหยิ่งยโส ความหยิ่งผยอง การกระทำอันชั่วร้าย และพูดจาบิดเบือน