อิสยาห์ 49:1-22

อิสยาห์ 49:1-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

โอ แผ่นดินชายทะเล จงฟังข้าพเจ้า ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ไกล จงตั้งใจฟัง พระยาห์เวห์ทรงเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ พระองค์ทรงตั้งชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในท้องมารดาข้าพเจ้า พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคม พระองค์ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกศรขัดมัน พระองค์ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งของพระองค์ และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา อิสราเอลผู้ซึ่งเราจะสำแดงศักดิ์ศรีของเราเอง” แต่ข้าพเจ้าเองกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเหนื่อยเปล่า ข้าพเจ้าเปลืองแรงของตัวเองเสียเปล่าและอนิจจัง แต่แน่ละ สิ่งที่ควรเป็นของข้าพเจ้านั้นอยู่กับพระยาห์เวห์ และค่าตอบแทนของข้าพเจ้าอยู่กับพระเจ้าของข้าพเจ้า” และบัดนี้ พระยาห์เวห์ตรัส คือพระองค์ผู้ทรงปั้นข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมาหาพระองค์ และเพื่อรวบรวมอิสราเอลมายังพระองค์ เพราะข้าพเจ้าได้รับเกียรติในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ และพระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นกำลังของข้าพเจ้า พระองค์ตรัสว่า “ซึ่งเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อจะยกเผ่าทั้งหลายของยาโคบขึ้น และเพื่อให้อิสราเอลที่เหลือกลับสู่สภาพดีนั้น ดูจะเป็นการเล็กน้อยเกินไป เราจะให้เจ้าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ เพื่อความรอดของเราจะไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก” พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่และองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล ตรัสกับผู้ถูกดูหมิ่นและถูกประชาชาติรังเกียจ คือคนใช้ของบรรดาผู้ครอบครอง ว่า “กษัตริย์ทั้งหลายจะมองดูแล้วจะยืนขึ้น และพวกเจ้านายจะกราบลงด้วยตัวเอง เพราะเหตุพระยาห์เวห์ผู้สัตย์จริง องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลผู้ได้เลือกสรรเจ้า” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ในเวลาโปรดปราน เราได้ตอบเจ้าแล้ว ในวันแห่งความรอดเราได้ช่วยเจ้า เราได้ดูแลเจ้า และมอบเจ้าไว้ ให้เป็นพันธสัญญาของชนชาติ เพื่อฟื้นฟูแผ่นดิน เพื่อแบ่งที่ร้างเปล่าให้เป็นมรดก และเพื่อกล่าวกับพวกถูกจำจองว่า ‘จงออกมา’ กล่าวกับพวกที่อยู่ในความมืดว่า ‘จงเผยตัว’ พวกเขาจะเลี้ยงชีพตามทาง และที่เลี้ยงดูของพวกเขาจะอยู่ตามที่สูงโล้นทุกแห่ง เขาทั้งหลายจะไม่หิวหรือกระหาย ความร้อนแผดเผาหรือดวงอาทิตย์จะไม่ทำลายเขา เพราะพระองค์ผู้ทรงสงสารพวกเขาจะทรงนำพวกเขา และจะนำพาเขาไปยังน้ำพุ เราจะปรับภูเขาทุกแห่งของเราให้เป็นทางเดิน และทางหลวงทั้งหลายของเราจะถูกยกให้สูง นี่แน่ะ พวกเหล่านี้จะมาจากเมืองไกล และดูสิ เหล่านี้มาจากเหนือและจากตะวันตก และเหล่านี้มาจากแผ่นดินซีนิม” โอ ฟ้าสวรรค์ จงเปล่งเสียงชื่นบาน และแผ่นดินโลกจงชื่นชมยินดีเถิด โอ ภูเขาเอ๋ย จงร้องด้วยความเปรมปรีดิ์ เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงปลอบโยนชนชาติของพระองค์แล้ว และทรงสงสารคนของพระองค์ที่ถูกข่มใจ แต่ศิโยนกล่าวว่า “พระยาห์เวห์ได้ทรงละทิ้งข้าแล้ว และองค์เจ้านายทรงลืมข้าเสียแล้ว” “ผู้หญิงจะลืมบุตรของนางที่ยังกินนมอยู่ และไม่สงสารบุตรจากครรภ์ของนางได้หรือ? และถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะลืมได้ แต่เราก็จะไม่ลืมเจ้า ดูสิ เราได้สลักเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงเมืองของเจ้าอยู่ต่อหน้าเราเสมอ บรรดาบุตรของเจ้าจะรีบมา แต่พวกผู้ทำลายเจ้าจะจากไป และพวกที่ทำให้เจ้าถูกทิ้งร้างก็ออกไปจากเจ้า จงเงยตาขึ้นและมองไปรอบๆ เขาทั้งหลายชุมนุมกัน และพวกเขามายังเจ้า” พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ตราบใดที่เราเองมีชีวิตอยู่ เจ้าจะสวมพวกเขาทุกคนเหมือนเครื่องประดับ เจ้าจะผูกพวกเขาไว้อย่างเจ้าสาวประดับอาภรณ์ “แม้ที่ทิ้งร้างและที่ร้างเปล่าของเจ้า และแผ่นดินที่ถูกทำลายของเจ้า แน่ะ บัดนี้เจ้าจะแคบเกินไปสำหรับผู้อาศัย และพวกกลืนกินเจ้าจะอยู่ห่างไกล ลูกๆ ที่เกิดยามเจ้าทุกข์ใจจากการเสียลูก จะพูดที่หูของเจ้าอีกว่า ‘ที่นี้แคบเกินสำหรับฉันแล้ว จงหาที่กว้างขึ้นให้ฉันอยู่’ แล้วเจ้าจะพูดในใจของเจ้าว่า ‘ใครหนอได้คลอดคนเหล่านี้ให้ข้า ข้าทุกข์ระทมเพราะเสียลูกและเป็นหมัน ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยและถูกขับไล่ แต่ใครหนอชุบเลี้ยงคนเหล่านี้? นี่แน่ะ ข้าถูกทิ้งไว้แต่ลำพัง แล้วคนเหล่านี้มาจากไหนกัน?’ ” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า “ดูสิ เราจะยกมือของเรากวักบรรดาประชาชาติ และชูธงสัญญาณของเราต่อชนชาติทั้งหลาย แล้วพวกเขาจะอุ้มบรรดาบุตรชายของเจ้ามาในอ้อมอก และจะแบกบรรดาบุตรหญิงของเจ้ามาบนบ่า

อิสยาห์ 49:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวกเจ้า​ที่​อยู่​แถบ​ชายฝั่ง​และ​หมู่เกาะต่างๆ​ฟังเราให้ดี ชนชาติ​ทั้งหลาย​ที่​มา​จาก​แดนไกล ตั้งใจ​ฟังให้ดี พระยาห์เวห์​ได้​เรียก​ผม​ให้​มา​รับใช้​พระองค์​ก่อนที่​ผม​จะเกิด​เสียอีก พระองค์​ตั้งชื่อ​ให้ผม ตั้งแต่​ผม​ยัง​อยู่​ใน​ท้องแม่ พระองค์​ทำให้​ปาก​ของผม​เหมือนกับ​ดาบ​ที่​คมกริบ พระองค์​ซ่อน​และ​ปกป้อง​ผม​ไว้​ใต้​มือพระองค์ พระองค์​ทำให้​ผม​เป็น​เหมือน​ลูกธนู​ที่​ขัดมัน พระองค์​ซ่อนผม​ไว้ใน​ซองธนู​ของพระองค์ พระองค์​พูดกับผม​ว่า “อิสราเอล เจ้า​เป็น​ผู้รับใช้​ของเรา เรา​จะ​ได้รับ​เกียรติ​เพราะเจ้า” แต่​ผม​คิดว่า “ผม​ได้​ทำงาน​เหนื่อยเปล่า” ผม​ได้​ทุ่มแรงไป​จนหมด เสียแรง​เปล่าๆ​ไม่ได้​อะไร​ซักอย่าง แต่​อย่างไร​ก็ตาม​พระยาห์เวห์​จะให้​สิ่ง​ที่​ผม​สมควร​จะ​ได้รับ​อย่างแน่นอน และ​รางวัล​ของผม​อยู่กับ​พระเจ้าของผม พระยาห์เวห์​ได้​ปั้น​ผม​ใน​ครรภ์​ให้​เป็น​ผู้รับใช้​ของพระองค์ พระองค์​ทำ​อย่างนี้​เพื่อ​พระองค์​จะได้​นำ​ครอบครัว​ของยาโคบ​กลับมาหา​พระองค์ และ​เพื่อ​รวบรวม​คนอิสราเอล​กลับมาหา​พระองค์ ผม​จะ​ได้รับ​เกียรติ​ใน​สายตา​ของพระยาห์เวห์ และ​พระเจ้า​ของผม​ได้​เป็น​พละกำลัง​ของผมแล้ว ตอนนี้​พระยาห์เวห์​พูดว่า “เจ้า​เป็น​ผู้รับใช้​ของเรา​ที่​กำลัง​ช่วยเรา​ฟื้นฟู​เผ่าต่างๆ​ของยาโคบ และ​นำ​ผู้รอดชีวิต​ของ​ชนชาติ​อิสราเอล​กลับมา แค่นั้น​ยัง​น้อยเกินไป เรา​จะ​ทำให้​เจ้า​เป็นแสงสว่าง​ให้กับ​ชนชาติต่างๆด้วย เพื่อ​ความรอด​ของเรา​จะได้​ไปถึง​ที่สุดปลาย​แผ่นดินโลก” พระยาห์เวห์​พระผู้ไถ่​และ​ผู้ศักดิ์สิทธิ์​แห่งอิสราเอล ได้​พูด​กับ​คนนั้น​ที่​ถูกดูหมิ่น​ที่​ชนชาติอื่นๆ​เกลียดชัง และ​ที่​เป็นทาส​ของ​ผู้ครอบ​ครอง​ทั้งหลาย​อย่างนี้ว่า “เมื่อ​พวกกษัตริย์​เห็นเจ้า พวกเขา​ก็​จะ​ยืนขึ้น​ให้เกียรติเจ้า เมื่อ​พวกเจ้านาย​เห็นเจ้า​ก็จะ​โค้งคำนับเจ้า” เพราะ​พระยาห์เวห์​องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์​แห่งอิสราเอล​ผู้ที่​ได้เลือก​เจ้า​มานั้น​รักษา​คำ​สัญญา​ของพระองค์เสมอ พระยาห์เวห์​พูดว่า​อย่างนี้ “ใน​เวลา​ที่​เรา​แสดง​ความเมตตา เรา​จะ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของเจ้า ใน​วันแห่งความรอด เรา​จะ​ช่วยเจ้า​และ​ปกป้องเจ้า เรา​จะ​แต่งตั้ง​เจ้า​ให้เป็น​ตัวกลาง​แห่ง​คำ​สัญญา​ที่​เรามี​กับมนุษย์ เพื่อว่า​เรา​จะได้​ฟื้นฟู​แผ่นดิน​ขึ้นมาใหม่ และ​คืน​แผ่นดิน​ที่​ถูกทำลาย​กลับไป​ให้​เจ้าของเดิม เรา​จะ​บอกกับ​พวกนักโทษ​ว่า ‘ออกมา​ได้แล้ว’ เรา​จะ​บอกกับ​คนเหล่านั้น​ที่อยู่​ใน​ความมืด​ว่า ‘โผล่​ออกมา​ได้แล้ว’ พวกเขา​จะ​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​กิน​ไป​ตาม​ทางเดิน และ​พวกเขา​จะ​มี​ทุ่งหญ้า​บน​เนินเขาโล้น​ทั้งหลาย พวกเขา​จะ​ไม่ขาด​อาหาร​หรือ​น้ำ แสงแดด​และ​ลมร้อน​ของ​ทะเลทราย​จะ​ไม่โจมตี​พวกเขา เพราะ​พระองค์​ผู้ปลอบโยน​พวกเขา​จะ​นำหน้า​พวกเขา และ​พระองค์​จะ​นำทาง​พวกเขา​ไปถึง​ตาน้ำ​ทั้งหลาย เรา​จะ​ทำให้​ภูเขา​ทั้งหลาย​ของเรา​แบน​เป็นถนน และ​ถม​ที่ต่ำ​ขึ้นมา​เป็น​ทางหลวง​ของเรา ดูสิ จะ​มี​บางคน​มา​จาก​แดนไกล จะมี​บางคน​มา​จาก​ทิศเหนือ​และ​ทิศตะวันตก และ​จะมี​บางคน​มาจาก​ทาง​ภาคใต้​ของอียิปต์” ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด แผ่นดินโลกเอ๋ย ชื่นชม​ยินดีเถิด ภูเขา​ทั้งหลายเอ๋ย ระเบิด​เป็น​เสียงเพลง​แห่งความชื่นชม​ยินดีเถิด เพราะ​พระยาห์เวห์​ได้​ปลอบโยน​คนของพระองค์ และ​พระองค์​จะให้​ความรัก​กับ​คนของพระองค์​ที่​ทุกข์ยาก​ลำบาก แต่​ศิโยน ได้​พูดว่า “พระยาห์เวห์​ทอดทิ้งฉัน องค์​เจ้า​ชีวิต​ลืมฉัน” พระยาห์เวห์​พูดว่า “ผู้หญิง​ที่​ให้​นมลูก จะ​ลืม​ลูกของเธอ​ได้หรือ หรือ ผู้หญิง​ที่​คลอดลูก​ออกมา​จะ​ไม่ให้​ความรัก​ต่อลูก​ของเธอ ได้หรือ ถึงแม้ว่า​พวกเขา​อาจจะ​ลืมได้ แต่​เรา​จะ​ไม่มีวัน​ลืมเจ้า ดูสิ เยรูซาเล็ม เรา​วาด​เมือง​ของเจ้า​ลง​บนฝ่ามือ​ของเรา กำแพง​ของเจ้า​อยู่​ต่อหน้าต่อตา​เราเสมอ ลูกๆ​ของเจ้า​กำลัง​รีบกลับ​มาหาเจ้า และ​คนพวกนั้น​ที่​พังทลายเจ้า​และ​ทำลายเจ้า​ก็จะ​จากเจ้าไป ลืมตา​ขึ้นมา​มอง​ไปรอบๆ พวกลูกหลาน​ของเจ้า​กำลัง​รวมตัวกัน​กลับมาหาเจ้า” พระยาห์เวห์​พูดว่า “เจ้า​รู้ว่า​เรามีชีวิตอยู่แน่ ก็ให้แน่ใจ​ขนาดนั้น​เลยว่า เจ้า​จะ​ได้​สวมใส่​ลูกหลาน​ของเจ้า​เหมือน​เครื่อง​เพชร หรือ​เหมือน​กับ​เจ้าสาว​ที่​สวมใส่​เครื่อง​เพชร เรา​ได้​ทำลายเจ้า​และ​ทำให้​เจ้า​กลายเป็น​ซากปรัก​หักพัง และ​รื้อเจ้า​ลง​กับพื้น แต่​ต่อไปนี้​แผ่นดิน​ของเจ้า​ก็จะ​แคบเกินไปแล้ว​สำหรับ​ประชาชน​มากมาย​ของเจ้า และ​คนพวกนั้น​ที่​เคย​กลืนกินเจ้า​ก็​อยู่ห่างไกล และ​ลูกๆ​ของเจ้า​ที่​เจ้า​คิดว่า​สูญเสีย​ไปแล้ว วันหนึ่ง​พวกเขา​จะ​กลับมา​พูด​ใส่หู​เจ้า​ว่า ‘ที่นี่​แคบเกินไป​สำหรับ​เราแล้ว หา​ที่ใหม่​ให้​พวกเรา​อยู่กันหน่อย’ แล้ว​เจ้า​ก็​จะ​พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า ‘ใครกันนะ​ที่​คลอด​เด็ก​พวกนี้​มาให้​กับข้า ข้าได้​สูญเสีย​ลูกของข้า​ไป และ​ข้า​เป็นหมัน ข้า​ถูก​ขับไล่​ออก​จาก​แผ่นดิน​ของข้า ข้า​ถูก​สามีทิ้ง อย่างนั้น ใคร​ได้​เลี้ยงเด็กๆ​พวกนี้​ขึ้นมา ข้า​ถูกทิ้งไว้​ตัวคนเดียว แล้วนี่ เด็กๆ​พวกนี้​มา​จาก​ไหนกัน’” นี่คือ​สิ่งที่​พระยาห์เวห์ องค์​เจ้า​ชีวิต​พูด “เรา​จะ​ยกมือ​ของเรา​ขึ้น​เป็น​สัญญาณ​ให้กับ​ชนชาติต่างๆ เรา​จะ​ยกธง​ของเราขึ้น​ให้​คนเห็น และ​พวกเขา​ก็จะ​อุ้ม​พวกลูกชาย​ของเจ้า​มา​ใน​อ้อมอก​ของเขา และ​พวกเขา​ก็จะ​แบก​พวกลูกสาว​ของเจ้า​ไว้​บนบ่า

อิสยาห์ 49:1-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

โอ เกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า เจ้​าชนชาติทั้งหลายแต่ไกลเอ๋ย จงฟัง พระเยโฮวาห์ทรงเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ พระองค์​ทรงกล่าวถึงชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่​อยู่​ในท้องมารดาข้าพเจ้า พระองค์​ทรงทำปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคม พระองค์​ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์​ทรงทำข้าพเจ้าให้เป็นลูกศรขั​ดม​ัน พระองค์​ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้เสียในแล่งของพระองค์ และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “​เจ้​าเป็นผู้​รับใช้​ของเรา โอ อิสราเอล ซึ่งเราจะได้รับเกียรติในเจ้า” แต่​ข้าพเจ้าว่า “ข้าพเจ้าได้ทำงานเปล่าดาย ข้าพเจ้าเปลืองแรงของข้าพเจ้าเปล่าๆ อนิจจัง แต่​แน่​ละ ความยุ​ติ​ธรรมอันควรตกแก่ข้าพเจ้าอยู่กับพระเยโฮวาห์ และงานของข้าพเจ้าอยู่กับพระเจ้าของข้าพเจ้า” และบัดนี้พระเยโฮวาห์ ผู้​ทรงปั้นข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์​ให้​เป็นผู้​รับใช้​ของพระองค์ เพื่อจะนำยาโคบกลับมาหาพระองค์​อีก ตรั​สว​่า “​ถึงแม้​อิสราเอลจะไม่​ถู​กรวบรวมเข้ามา ข้าพเจ้าก็ยังได้รับเกียรติในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงเป็นกำลังของข้าพเจ้า” พระองค์​ตรั​สว​่า “ซึ่งเจ้าจะเป็นผู้​รับใช้​ของเรา เพื่อจะยกบรรดาตระกูลของยาโคบขึ้น เพื่อจะให้อิสราเอลที่​เหลืออยู่​กล​ับสู่สภาพดี​นั้น ดู​เป็นการเล็กน้อยเกินไป เราจะมอบให้​เจ้​าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ เพื่อความรอดของเราจะถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลกทางเจ้า” พระเยโฮวาห์ ผู้​ไถ่​ของอิสราเอลและองค์​บริสุทธิ์ ตรัสแก่​ผู้​ที่​คนดู​หมิ่นและแก่​ผู้​ที่​ประชาชาติ​รังเกียจ ผู้​เป็นผู้​รับใช้​ของผู้ครอบครองทั้งหลาย ดังนี้​ว่า “​กษัตริย์​ทั้งหลายจะทอดพระเนตรและทรงลุกยืน บรรดาเจ้านายจะกราบลง เพราะเหตุพระเยโฮวาห์​ผู้​สัตย์ซื่อ องค์​บริสุทธิ์​ของอิสราเอล จะทรงเลือกสรรเจ้า” พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า “ในเวลาอันชอบ เราได้ฟังเจ้า ในวันแห่งความรอด เราได้ช่วยเจ้า เราจะรักษาเจ้าไว้ และมอบให้​เจ้​าเป็นพันธสัญญาของมนุษยชาติ เพื่อสถาปนาแผ่นดิน เพื่อเป็นเหตุ​ให้​ได้​รับมรดกที่ร้างเปล่านั้น เพื่อเจ้าจะกล่าวแก่​ผู้​ถู​กจองจำว่า ‘ออกไปเถิด’ ต่อบรรดาผู้​ที่อยู่​ในความมืดว่า ‘จงปรากฏตัว’ เขาทั้งหลายจะเลี้ยงชีวิตตามทาง และตามที่สูงทั้งหลายจะเป็​นที​่​หาก​ินของเขา เขาทั้งหลายจะไม่หิวหรือกระหาย ความร้อนหรือดวงอาทิตย์จะไม่ทำลายเขา เพราะพระองค์ซึ่งเมตตาเขาจะทรงนำเขาไป และจะนำเขาไปตามน้ำพุ เราจะทำภูเขาของเราทั้งหมดเป็นทางเดิน และทางหลวงของเราจะสูง ดู​เถิด พวกเหล่านี้จะมาจากเมืองไกล และดู​เถิด บ้างมาจากเหนือและจากตะวันตก และบ้างมาจากแผ่นดินสเวเน” โอ ฟ้าสวรรค์​เอ๋ย จงร้องเพลง โอ แผ่​นดินโลกเอ๋ย จงลิงโลดเถิด โอ ภู​เขาเอ๋ย จงเปรมปรี​ดิ​์​ร้องเพลง เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงเล้าโลมชนชาติของพระองค์​แล้ว และจะทรงเมตตาแก่คนของพระองค์ ผู้​ที่​ถู​กข่มใจ แต่​ศิโยนกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงละทิ้งข้าพเจ้าแล้ว องค์​พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทรงลืมข้าพเจ้าเสียแล้ว” “​ผู้​หญิงจะลืมบุตรที่ยั​งก​ินนมของนาง และจะไม่เมตตาบุตรชายจากครรภ์ของนางได้​หรือ แม้ว​่าคนเหล่านี้ยังลืมได้ กระนั้นเราก็จะไม่ลืมเจ้า ดู​เถิด เราได้สลักเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงเมืองของเจ้าอยู่ต่อหน้าเราเสมอ ลูกหลานของเจ้าก็จะเร่งรีบ ผู้​ทำลายเจ้าและบรรดาผู้​ที่​ทำให้​เจ้​าถูกทิ้งร้างก็จะออกไปจากเจ้า จงเงยหน้าเงยตาขึ้นดูรอบๆ เขาทั้งหลายชุ​มนุ​มกัน เขาทั้งหลายมาหาเจ้า” พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “เรามี​ชี​วิตอยู่​ตราบใด เจ้​าจะสวมเขาทั้งหลายไว้หมดอย่างเครื่องอาภรณ์ เจ้​าจะผูกเขาไว้อย่างเจ้าสาวประดับอาภรณ์ เพราะว่าที่​ที่​ถู​กทิ้งไว้เสียเปล่าและที่รกร้างของเจ้า และแผ่นดิ​นที​่​ถู​กทำลายของเจ้าจะแคบเกินไปด้วยเหตุ​มี​ชาวเมืองอยู่กันมาก และคนทั้งหลายที่​กล​ืนเจ้าจะอยู่​ห่างไกล เด็กที่​เก​ิดแก่​เจ้​าหลังจากลูกเสียไปแล้ว จะพูดที่​หู​ของเจ้าอี​กว่า ‘​ที่​นี้​แคบเกินสำหรับฉันแล้ว จงหาที่​ให้​ฉันอยู่’ แล​้วเจ้าจะกล่าวในใจของเจ้าว่า ‘ใครหนอได้​ให้​กำเนิดคนเหล่านี้​แก่​ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าสูญเสี​ยล​ูกๆไปแล้ว และข้าพเจ้าก็​โดดเดี่ยว ถู​กกวาดไปเป็นเชลยและย้ายไปโน่นมานี่ แต่​ใครหนอชุบเลี้ยงคนเหล่านี้ ดู​เถิด ข้าพเจ้าถูกทิ้งอยู่​ตามลำพัง แล​้วคนเหล่านี้มาจากไหนกัน’” องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรั​สด​ังนี้​ว่า “​ดู​เถิด เราจะยกมือของเรากวักบรรดาประชาชาติ และยกสัญญาณของเราต่อชนชาติ​ทั้งหลาย และเขาทั้งหลายจะอุ้มบรรดาบุตรชายของเจ้ามา และบรรดาบุตรสาวของเจ้านั้น เขาจะใส่บ่าแบกมา

อิสยาห์ 49:1-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

โอ แผ่นดินชายทะเลเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า เจ้าชนชาติทั้งหลายแต่ไกลเอ๋ย จงฟัง พระเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ พระองค์ทรงตั้งชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในท้องมารดาข้าพเจ้า พระองค์ทรงทำปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคม พระองค์ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงทำข้าพเจ้าให้เป็นลูกศรขัดมัน พระองค์ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้เสียในแล่งของพระองค์ และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า <<เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา อิสราเอลซึ่งเราจะได้รับเกียรติในเจ้า>> แต่ข้าพเจ้าว่า <<ข้าพเจ้าได้ทำงานเปล่าดาย ข้าพเจ้าเปลืองแรงของข้าพเจ้าเปล่าๆ อนิจจัง แต่แน่ละ ความยุติธรรมอันควรตกแก่ข้าพเจ้าอยู่กับพระเจ้า และค่าตอบแทนของข้าพเจ้าอยู่กับพระเจ้าของข้าพเจ้า>> และบัดนี้ พระเจ้าผู้ทรงปั้นข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อจะนำยาโคบกลับมาหาพระองค์ และเพื่ออิสราเอลจะรวบรวมกันมายังพระองค์ เพราะข้าพเจ้าได้รับเกียรติในสายพระเนตรของพระเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้าได้ทรงเป็นแรงของข้าพเจ้าแล้ว พระองค์ตรัสว่า ซึ่งเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อจะยกบรรดาเผ่าของยาโคบขึ้น เพื่อจะให้อิสราเอลที่เหลืออยู่กลับสู่สภาพดีนั้น ดูเป็นการเล็กน้อยเกินไป เราจะมอบให้เจ้าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ เพื่อความรอดของเราจะถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก>> พระเจ้า ผู้ไถ่และองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล ตรัสแก่ผู้ที่คนดูหมิ่นและแก่ผู้ที่ประชาชาติรังเกียจ ผู้เป็นผู้รับใช้ของผู้ครอบครองทั้งหลาย ดังนี้ว่า <<พระราชาจะทอดพระเนตรและทรงลุกยืน บรรดาเจ้านายจะเห็น และเขาทั้งหลายจะกราบลง เพราะเหตุพระเจ้าผู้เที่ยงธรรม องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลผู้ได้เลือกสรรเจ้า>> พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<ในเวลาโปรดปราน เราตอบเจ้าแล้ว ในวันแห่งความรอดเราได้ช่วยเจ้า เราได้ดูแลเจ้า และมอบให้เจ้า เป็นตัวพันธสัญญาของมนุษยชาติ เพื่อสถาปนาแผ่นดิน เพื่อจะให้รับที่ร้างเปล่าเป็นมรดก พลางกล่าวแก่ผู้ถูกจำจองว่า <ออกมาเถิด> ต่อบรรดาผู้ที่อยู่ในความมืดว่า<จงปรากฏตัว> เขาทั้งหลายจะเลี้ยงชีวิตตามทาง และตามที่สูงโล้นทั้งหลายจะเป็นที่หากินของเขา เขาทั้งหลายจะไม่หิวหรือกระหาย ลมที่แผดเผาหรือดวงอาทิตย์จะไม่ทำลายเขา เพราะพระองค์ซึ่งสงสารเขาจะทรงนำเขาไป และจะนำเขาไปตามน้ำพุ เราจะทำภูเขาของเราทั้งหมดเป็นทางเดิน และทางหลวงของเราจะสูง นี่แน่ะ พวกเหล่านี้จะมาจากเมืองไกล และนี่แน่ะ บ้างมาจากเหนือและจากตะวันตก และบ้างมาจากแผ่นดินสเวเน โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลงเพราะความชื่นบาน โอ แผ่นดินโลกเอ๋ย จงลิงโลดเถิด โอ ภูเขาเอ๋ย จงเปรมปรีดิ์ร้องเพลง เพราะพระเจ้าได้ทรงเล้าโลมชนชาติของพระองค์แล้ว และจะทรงเมตตาแก่คนของพระองค์ ผู้ที่ถูกข่มใจ แต่ศิโยนกล่าวว่า <<พระเจ้าได้ทรงละทิ้งข้าพเจ้าแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทรงลืมข้าพเจ้าเสียแล้ว>> <<ผู้หญิงจะลืมบุตรที่ยังกินนมของนาง และจะไม่เมตตาบุตรจากครรภ์ของนางได้หรือ>> แม้ว่าคนเหล่านี้ยังลืมได้ กระนั้นเราก็จะไม่ลืมเจ้า ดูเถิด เราได้สลักเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงเมืองของเจ้าอยู่ต่อหน้าเราเสมอ ผู้ก่อสร้างเจ้าก็เอาชนะผู้ทำลายเจ้า และบรรดาผู้ที่ทำให้เจ้าถูกทิ้งร้างก็ออกไปจากเจ้า จงเงยหน้าเงยตาขึ้นดูรอบๆ เขาทั้งหลายชุมนุมกัน เขาทั้งหลายมาหาเจ้า พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่ตราบใด เจ้าจะสวมเขาทั้งหลายไว้หมดอย่างเครื่องอาภรณ์ เจ้าจะผูกเขาไว้อย่างเจ้าสาวประดับอาภรณ์ <<แน่ละ ที่ทิ้งร้างและที่ร้างเปล่าของเจ้า และแผ่นดินที่ถูกทำลายของเจ้า แน่ะละ เจ้าจะแคบเกินไปสำหรับชาวเมืองของเจ้า และบรรดาผู้ที่กลืนเจ้าจะอยู่ห่างไกล เด็กที่เกิดในยามที่เจ้าทุกข์ระทมเพราะลูกตาย จะพูดที่หูของเจ้าว่า <ที่นี้แคบเกินสำหรับฉันแล้ว จงหาที่ให้ฉันอยู่> แล้วเจ้าจะว่าในใจของเจ้าว่า <ใครหนอได้คลอดคนเหล่านี้ให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทุกข์ระทมเพราะลูกตายและเป็นหมัน ถูกกวาดไปเป็นเชลยและถูกขับไล่ แต่ใครหนอชุบเลี้ยงคนเหล่านี้ ดูเถิด เราถูกทิ้งอยู่แต่ลำพัง แล้วคนเหล่านี้มาจากไหนกัน> >> พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<ดูเถิด เราจะยกมือของเรากวักบรรดาประชาชาติ และยกสัญญาณของเราต่อชนชาติทั้งหลาย และเขาทั้งหลายจะอุ้มบรรดาบุตรชายของเจ้ามา และบรรดาบุตรหญิงของเจ้านั้น เขาจะใส่บ่าแบกมา

อิสยาห์ 49:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จงฟังข้าพเจ้าเถิด บรรดาเกาะแก่งทั้งหลายเอ๋ย ชนชาติไกลโพ้นทั้งหลาย ฟังทางนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้ายังไม่เกิด ทรงเอ่ยชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าถือกำเนิด พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคมกริบ ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาแห่งพระหัตถ์ ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกธนูคมปลาบ และทรงเก็บข้าพเจ้าไว้ในแล่งธนูของพระองค์ พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะสำแดงเกียรติบารมีของเราในตัวเจ้า” แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าตรากตรำไปอย่างไร้จุดหมาย ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์และไร้ค่า ถึงกระนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้าควรได้ก็อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า บำเหน็จของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าของข้าพเจ้า” และบัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าพเจ้าในครรภ์มารดา เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมายังพระองค์ และรวบรวมอิสราเอลมายังพระองค์เอง เพราะข้าพเจ้ามีเกียรติในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า พระองค์ตรัสว่า “เป็นการเล็กน้อยเกินไปที่จะให้เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อฟื้นฟูชนเผ่าต่างๆ ของยาโคบให้กลับสู่สภาพเดิม และนำชนอิสราเอลเหล่านั้นซึ่งเราสงวนไว้กลับมาหาเรา เราจะให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติด้วย เพื่อเจ้าจะนำความรอดของเราไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก” พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสแก่ผู้นั้นซึ่งเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาติ ผู้เป็นคนรับใช้ของบรรดาผู้ครอบครองนั้นว่า “กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าแล้วยืนขึ้น เจ้านายทั้งปวงจะเห็นเจ้าแล้วหมอบกราบ เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ทรงเลือกสรรเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ในเวลาแห่งความโปรดปราน เราจะตอบเจ้า และในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้า เราจะปกป้องเจ้า และทำให้เจ้าเป็นพันธสัญญาแก่เหล่าประชากร เพื่อให้ดินแดนนั้นกลับคืนสู่ปกติสุข และรื้อฟื้นกรรมสิทธิ์ซึ่งถูกทิ้งร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อกล่าวแก่เชลยว่า ‘ออกมาเถิด’ และกล่าวแก่ผู้อยู่ในความมืดมนว่า ‘จงเป็นอิสระ!’ “พวกเขาจะเลี้ยงชีพอยู่ริมทาง และพบทุ่งหญ้าบนเนินเขาแห้งแล้งทุกแห่ง เขาจะไม่หิวหรือกระหาย แสงอาทิตย์แรงกล้าและลมทะเลทรายอันร้อนระอุจะไม่แผดเผาเขาอีกต่อไป พระองค์ผู้ทรงเอ็นดูสงสารเขาจะนำเขา และพาเขามายังริมธารน้ำพุ เราจะเปลี่ยนภูเขาทุกลูกของเราให้เป็นทางเรียบ และทางหลวงของเราจะถูกยกขึ้น ดูเถิด พวกเขาจะมาจากแดนไกล บางคนมาจากทางเหนือ บางคนมาจากทางตะวันตก บางคนก็มาจากอัสวาน” ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงโห่ร้องยินดี โลกเอ๋ย จงเปรมปรีดิ์ ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องเพลง! เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์ และจะทรงเอ็นดูสงสารผู้ที่ทุกข์ทรมานของพระองค์ แต่ศิโยนกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดทิ้งข้าแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลืมข้าไปแล้ว” “แม่จะลืมลูกน้อยในอก และจะไม่เอ็นดูสงสารลูกที่นางให้กำเนิดได้หรือ? แม้นางอาจจะลืมได้ แต่เราจะไม่ลืมเจ้า! ดูเถิด เราได้สลักชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงของเจ้าอยู่ตรงหน้าเราเสมอ ลูกๆ ของเจ้ารีบรุดมา และบรรดาผู้ที่ทำให้เจ้าเริศร้างก็ไปจากเจ้า เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เถิด ลูกๆ ทั้งหมดของเจ้าพากันมาหาเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด พวกเขาจะเป็นเครื่องประดับตกแต่งของเจ้าฉันนั้น เจ้าจะเหมือนเจ้าสาว มีพวกเขาเป็นอาภรณ์ประดับ “ถึงแม้ว่าเจ้าถูกทำให้เป็นซากปรักหักพังและเริศร้าง ดินแดนของเจ้าถูกทิ้งร้าง แต่บัดนี้เจ้าจะกลับคับแคบเกินไปสำหรับประชากรของเจ้า และผู้ที่ล้างผลาญเจ้าจะไปไกลลิบลับ ลูกหลานซึ่งเกิดในช่วงที่เจ้าเป็นเชลย จะพูดให้เจ้าได้ยินว่า ‘ที่นี่คับแคบเกินไปสำหรับเรา ขอที่อาศัยกว้างขวางกว่านี้เถิด’ แล้วเจ้าจะรำพึงว่า ‘ใครหนอได้ให้กำเนิดคนทั้งหมดนี้แก่เรา? เราถูกพลัดพรากและเป็นหมัน ตกเป็นเชลยและถูกทอดทิ้ง ใครหนอเลี้ยงดูคนเหล่านี้ขึ้นมา? เราถูกทิ้งไว้เดียวดาย แล้วคนเหล่านี้มาจากไหนกัน?’ ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า “ดูเถิด เราจะส่งสัญญาณแก่บรรดาชนชาติต่างๆ เราจะชูธงของเราให้ชนชาติทั้งหลาย พวกเขาจะอุ้มลูกชายของเจ้าไว้ในอ้อมแขนพากลับมาหาเจ้า ส่วนลูกสาวของเจ้าจะให้ขี่คอเขามา

อิสยาห์ 49:1-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

โอ หมู่​เกาะ​ต่างๆ เอ๋ย จง​ฟัง​ข้าพเจ้า และ​เอา​ใจใส่ บรรดา​ชน​ชาติ​ที่​อยู่​ห่าง​ไกล​เอ๋ย พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เรียก​ข้าพเจ้า​ตั้งแต่​อยู่​ใน​ครรภ์ พระ​องค์​ตั้ง​ชื่อ​ข้าพเจ้า​ตั้งแต่​อยู่​ใน​ครรภ์​มารดา​ข้าพเจ้า พระ​องค์​ทำให้​ปาก​ข้าพเจ้า​เหมือน​ดาบ​คม พระ​องค์​ซ่อน​ข้าพเจ้า​ไว้​ใน​ร่ม​เงา​ของ​มือ​พระ​องค์ พระ​องค์​ทำให้​ข้าพเจ้า​เป็น​ลูก​ศร​คม พระ​องค์​ซ่อน​ข้าพเจ้า​ไว้​ใน​แล่ง​ศร​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​กล่าว​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า “อิสราเอล​เอ๋ย เจ้า​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​เรา เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​บารมี​ใน​ตัว​เจ้า” แต่​ข้าพเจ้า​พูด​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​ตรากตรำ​โดย​ไร้​ประโยชน์ ข้าพเจ้า​ได้​ใช้​กำลัง​โดย​เปล่า​และ​ไร้​ค่า แต่​ค่า​ตอบแทน​ของ​ข้าพเจ้า​อยู่​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อย่าง​แน่นอน และ​รางวัล​ของ​ข้าพเจ้า​อยู่​ที่​พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า” แต่​บัดนี้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว คือ​องค์​ผู้​สร้าง​ข้าพเจ้า ตั้งแต่​อยู่​ใน​ครรภ์ เพื่อ​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​นำ​ยาโคบ​กลับ​มา​หา​พระ​องค์ คือ​พา​อิสราเอล​มา​หา​พระ​องค์ (เพราะ​ข้าพเจ้า​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ใน​สายตา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า​เป็น​กำลัง​ของ​ข้าพเจ้า) พระ​องค์​กล่าว​ดังนี้​ว่า “ดู​ว่า​จะ​น้อย​เกิน​ไป​ที่​จะ​ให้​เจ้า​เป็น​เพียง​ผู้​รับใช้​ของ​เรา เพื่อ​จะ​ตั้ง​เผ่า​พันธุ์​ของ​ยาโคบ​ขึ้น และ​พา​พวก​อิสราเอล​ที่​เรา​ได้​รักษา​ไว้​เพื่อ​ให้​กลับ​มา แต่​เรา​จะ​ทำให้​เจ้า​เป็น​แสง​สว่าง​แก่​บรรดา​ประชา​ชาติ เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​นำ​ความ​รอด​พ้น​จาก​เรา​ไป​ยัง​ทุก​มุม​โลก” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​ไถ่​และ​องค์​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​อิสราเอล​กล่าว​กับ ผู้​ที่​ถูก​ประชา​ชาติ​ดูหมิ่น​และ​ชิงชัง และ​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​บรรดา​ผู้​ปกครอง​ดังนี้​ว่า “บรรดา​กษัตริย์​จะ​เห็น​เจ้า​และ​จะ​ลุก​ขึ้น​ยืน พวก​ผู้​นำ​จะ​น้อม​ตัว​ลง เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​สัตย์จริง องค์​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​อิสราเอล​ได้​เลือก​เจ้า” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ดังนี้​ว่า “เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​เรา​จะ​โปรดปราน เรา​ก็​ตอบ​เจ้า และ​เมื่อ​ถึง​วัน​ช่วย​ให้​รอด​พ้น เรา​ก็​ช่วย​เจ้า เรา​จะ​รับ​เจ้า​ไว้ เพื่อ​เป็น​พันธ​สัญญา​แก่​ชน​ชาติ เพื่อ​ฟื้นฟู​แผ่นดิน เพื่อ​มอบ​สิทธิ​ที่​ดิน​ที่​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​ไว้ เพื่อ​บอก​เหล่า​นักโทษ​ว่า ‘ออก​ไป​เถิด’ และ​พูด​กับ​บรรดา​ผู้​ที่​อยู่​ใน​ความ​มืด​ว่า ‘ออก​มา​จาก​ความ​มืด​เถิด’ พวก​เขา​จะ​พบ​ทุ่ง​หญ้า​ตาม​ทาง และ​เนิน​เขา​โล้น​ทุก​แห่ง​จะ​เป็น​ทุ่ง​หญ้า​ของ​พวก​เขา พวก​เขา​จะ​ไม่​หิว​หรือ​กระหาย ลม​และ​ดวง​อาทิตย์​อัน​ร้อนแรง​จะ​ไม่​กระทบ​พวก​เขา เพราะ​องค์​ผู้​มี​เมตตา​ต่อ​พวก​เขา​จะ​นำ​พวก​เขา​ไป และ​จะ​นำ​พวก​เขา​ไป​ยัง​แหล่ง​น้ำ และ​เรา​จะ​ทำให้​เทือกเขา​กลาย​เป็น​ทาง​ราบ และ​ถนน​จะ​ถูก​ยก​สูง​ขึ้น ดู​เถิด เขา​เหล่า​นี้​จะ​มา​จาก​แดน​ไกล และ​ดู​เถิด คน​เหล่า​นี้​มา​จาก​ทิศ​เหนือ​และ​จาก​ทิศ​ตะวัน​ตก และ​มา​จาก​ดินแดน​สินิม” ฟ้า​สวรรค์​เอ๋ย จง​ชื่นชม​ยินดี แผ่นดิน​โลก​เอ๋ย จง​ดีใจ เทือกเขา​เอ๋ย จง​ส่งเสียง​ร้อง​เพลง โอ เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ปลอบ​ประโลม​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ และ​มี​ความ​สงสาร​ต่อ​คน​ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ความ​ทุกข์​ใจ แต่​ศิโยน​พูด​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ทอดทิ้ง​ข้าพเจ้า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า​ลืม​ข้าพเจ้า​เสีย​แล้ว” “ผู้​หญิง​จะ​ลืม​ลูก​ของ​นาง​ที่​ยัง​กิน​นม​อยู่​ได้​หรือ และ​นาง​จะ​ไม่​มี​ความ​สงสาร​ต่อ​ลูก​ชาย​ที่​เกิด​จาก​ครรภ์​ของ​นาง​หรือ นาง​อาจ​จะ​ลืม​ก็​ได้ แต่​เรา​จะ​ไม่​ลืม​เจ้า ดู​เถิด เรา​ได้​สลัก​เจ้า​ไว้​ที่​ฝ่า​มือ​ของ​เรา​แล้ว เรา​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม​กำแพง​เมือง​ของ​เจ้า ลูกๆ ของ​เจ้า​กลับ​มา​อย่าง​รวดเร็ว พวก​ที่​ทำลาย​เจ้า​และ​ทำให้​เจ้า​สูญ​สิ้น​ก็​ไป​จาก​เจ้า จง​เงยหน้า​ขึ้น​ดู​โดย​รอบ พวก​ลูกๆ มา​ชุมนุม​กัน​และ​มา​หา​เจ้า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ว่า ตราบ​ที่​เรา​มี​ชีวิต​อยู่ พวก​เขา​จะ​เป็น​เช่น​เดียว​กับ​เครื่อง​ประดับ​ที่​เจ้า​สวม​ใส่ พวก​เขา​จะ​สวม​ติด​อยู่​กับ​เจ้า​เช่น​เดียว​กับ​ที่​เจ้า​สาว​ใช้​ประดับ แม้ว่า​สถาน​ที่​ของ​เจ้า​ถูก​พัง​ทลาย และ​เป็น​ที่​ร้าง แผ่นดิน​เสียหาย แต่​บัดนี้​บรรดา​ผู้​อยู่​อาศัย​ใน​ที่​ของ​เจ้า​มี​อย่าง​ล้นหลาม​ใน​แผ่นดิน และ​พวก​ที่​พยายาม​กำจัด​เจ้า​ให้​หมด​สิ้น​จะ​อยู่​ห่าง​ไกล​มาก ลูกๆ ที่​ถูก​พราก​ไป จะ​เป็น​เสียง​ที่​เจ้า​ได้ยิน​ว่า ‘แผ่นดิน​คับแคบ​สำหรับ​เรา ช่วย​ขยับ​ขยาย​ให้​เรา​ได้​อยู่​อาศัย​เถิด’ แล้ว​เจ้า​จะ​คิด​ในใจ​ว่า ‘ใคร​หนอ​ให้​กำเนิด​คน​เหล่า​นี้​แก่​เรา เรา​สูญ​เสีย​คน​ไป​และ​เป็น​หมัน ลี้ภัย​และ​ไม่​เป็น​ที่​ยอม​รับ แต่​ใคร​หนอ​ที่​ได้​นำ​คน​เหล่า​นี้​ขึ้น​มา ดู​เถิด เรา​ถูก​ทอดทิ้ง​ไว้​ตาม​ลำพัง แล้ว​คน​พวก​นี้​มา​จาก​ไหน​กัน’” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า องค์​พระ​เจ้า​กล่าว​ดังนี้ “ดู​เถิด เรา​จะ​ยก​มือ​ของ​เรา​ไป​ทาง​บรรดา​ประชา​ชาติ และ​จะ​ยก​ธง​ชัย​ของ​เรา​แก่​บรรดา​ชน​ชาติ และ​พวก​เขา​จะ​อุ้ม​บรรดา​ลูก​ชาย​ของ​เจ้า​มา​ใน​อ้อม​อก และ​จะ​แบก​ลูก​สาว​ของ​เจ้า​มา​บน​บ่า​ของ​พวก​เขา