อิสยาห์ 14:1-32
อิสยาห์ 14:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่พระยาห์เวห์จะเมตตาต่อยาโคบ พระองค์จะเลือกคนอิสราเอลอีกครั้ง พระองค์จะให้พวกเขาอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของพวกเขาเอง และคนต่างชาติก็จะมาสมทบกับพวกเขาและมาเป็นสมาชิกในครอบครัวของยาโคบ ชนชาติต่างๆเหล่านั้นจะนำพวกอิสราเอลกลับไปยังบ้านเมืองของคนอิสราเอลเอง และครอบครัวของอิสราเอลก็จะเอาคนต่างชาติเหล่านั้นทั้งชายและหญิง มาเป็นทาสในแผ่นดินของพระยาห์เวห์ คนอิสราเอลจะจับคนที่เคยจับพวกเขาไปเป็นทาส มาเป็นทาสเสียเอง และคนอิสราเอลก็จะปกครองเหนือคนพวกนั้นที่เคยข่มเหงอิสราเอลมาก่อน เมื่อพระยาห์เวห์ให้เจ้าได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวด ความเดือดร้อน และการถูกบังคับให้ทำงานอย่างทาส เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะได้ร้องเพลงเยาะเย้ยกษัตริย์ของบาบิโลนว่า “น่าสมเพชจริงๆที่กษัตริย์ที่โหดร้ายนั้น พบกับจุดจบอย่างนี้ น่าสมเพชจริงๆที่การปกครองด้วยความเย่อหยิ่งจองหองนั้นพบกับจุดจบอย่างนี้ พระยาห์เวห์ได้หักไม้ตะบองของพวกเลวทราม พระองค์ได้หักไม้คทาของพวกผู้ครอบครองทิ้งไป กษัตริย์บาบิโลนตีชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ ตีพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง ครอบครองชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ ข่มเหงคนอย่างไม่เคยผ่อนปรน แต่ตอนนี้ ทั้งแผ่นดินโลกก็พักผ่อนและสงบเงียบ ผู้คนก็เริ่มร้องเพลงกัน แม้แต่พวกต้นสนและสนซีดาร์ของเลบานอนก็ยังดีใจเพราะเจ้าพ่ายแพ้ พวกต้นไม้นั้นพูดว่า ‘ตั้งแต่เจ้าถูกโค่นล้มลงก็ไม่มีใครมาตัดพวกเราอีกเลย’ แดนคนตายเบื้องล่างยังตื่นเต้นดีใจที่จะได้เจอกับเจ้าเมื่อเจ้าไปถึง มันปลุกวิญญาณต่างๆของคนตายเพื่อมาต้อนรับเจ้า มันปลุกวิญญาณของทุกคนที่เคยเป็นผู้นำในโลกนี้ มันบังคับให้ทุกคนที่เคยเป็นกษัตริย์ของชนชาติทั้งหลายให้ลุกขึ้นจากบัลลังก์ของพวกเขา พวกนั้นทุกคนจะพูดกับเจ้าว่า ‘เจ้าได้กลายเป็นผู้อ่อนแอเหมือนพวกเราแล้ว เจ้าเป็นเหมือนกับพวกเราแล้ว’ สง่าราศีเจ้าถูกนำลงมาถึงแดนคนตาย พร้อมๆกับเสียงพิณต่างๆของเจ้า ตัวหนอนแมลงวันก็แผ่อยู่ใต้เจ้าเหมือนเตียง และพวกตัวหนอนก็คลุมเจ้าเหมือนผ้าห่ม น่าสมเพชจริงๆที่เจ้าตกลงมาจากสวรรค์ซะสูงขนาดนั้น เจ้าผู้เป็นดาวรุ่ง และลูกของรุ่งอรุณ ดูเจ้าสิ ถูกโค่นลงมาบนดินแล้ว ถึงเจ้าจะเคยเป็นผู้พิชิตชนชาติทั้งหลายก็ตาม เจ้าคิดในใจว่า ‘เราจะขึ้นไปบนสวรรค์ เราจะยกบัลลังก์ของเราขึ้นสูงเหนือหมู่ดาวของพระเจ้า เราจะนั่งอยู่บนภูเขาที่พวกเทพมาชุมนุมกันบนเนินลาดของภูเขาซับฟอน เราจะขึ้นไปเหนือเมฆ เราจะเป็นเหมือนกับพระเจ้าผู้สูงสุด’ แต่เจ้ากลับถูกนำลงมาที่แดนคนตายนี้ มาอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของหลุมนี้ คนเหล่านั้นที่เห็นเจ้า ก็จะจ้องเจ้า พวกเขาจะคิดอย่างนี้เกี่ยวกับเจ้า ‘นี่นะหรือเป็นคนเดียวกันกับที่ทำให้แผ่นดินโลกไหว คนที่ทำให้อาณาจักรต่างๆสะเทือนสะท้าน นี่นะหรือคนที่ทำให้แผ่นดินโลกกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าและพังทลายเมืองต่างๆของมัน นี่นะหรือคนที่ไม่ยอมปล่อยให้เชลยของเขากลับบ้าน’ กษัตริย์ทั้งหมดของชนชาติทั้งหลาย ต่างก็ถูกฝังอย่างสมเกียรติ ต่างคนต่างอยู่ในอุโมงค์ฝังศพของตน แต่เจ้ากลับถูกโยนออกมาจากหลุมฝังศพของเจ้า เหมือนกับซากศพที่น่าขยะแขยง เจ้าถูกทับด้วยศพของคนเหล่านั้นที่ถูกฆ่าในสนามรบ ที่ถูกดาบแทง ที่ลงไปในหลุมแห่งความตายที่เป็นหิน เจ้าเป็นเหมือนซากศพที่ถูกคนเหยียบย่ำไปมา เจ้าจะไม่ได้ถูกฝังร่วมกับกษัตริย์อื่นๆเหล่านั้น เพราะเจ้าได้ทำลายประเทศของเจ้าเอง เจ้าได้ฆ่าคนของเจ้าเอง อย่าให้มีใครพูดถึงลูกหลานของพวกที่ทำสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นอีกเลย เตรียมที่สำหรับฆ่าพวกลูกชายของเขาเพราะความบาปของพ่อของพวกเขา ขออย่าให้พวกเขาได้ลุกขึ้นมายึดครองโลกนี้หรือให้โลกนี้เต็มไปด้วยเมืองต่างๆของพวกเขา” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “เราจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกเขา เราจะทำลายบาบิโลน เราจะทำให้ชื่อเสียงของมันหมดไป เราจะไม่ปล่อยให้มีใครรอดชีวิต รวมถึงลูกและหลานของเจ้าด้วย” พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่า “เราจะทำให้บาบิโลนกลายเป็นที่อยู่ของพวกเม่นและเป็นหนองน้ำ เราจะกวาดมันทิ้งไปเหมือนใช้ไม้กวาด” พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้สาบานไว้อย่างนี้ว่า “เราตั้งใจจะให้มันเป็นยังไง มันก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น เราได้วางแผนไว้ว่ายังไง มันก็จะเป็นไปตามนั้น เราจะหักอัสซีเรีย ทิ้งในแผ่นดินของเรา เราจะเหยียบย่ำพวกมันบนภูเขาทั้งหลายของเรา เราจะเอาทั้งแอกที่อัสซีเรียวางไว้บนคอของยูดาห์ และภาระหนักของอัสซีเรียที่ยูดาห์แบกไว้ออกไป” นี่คือแผนที่ได้วางไว้สำหรับโลกทั้งโลก และนี่คือมือของพระองค์ที่ยื่นออกไปจัดการกับชนชาติทั้งหลาย เพราะเมื่อพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้วางแผน ใครจะล้มเลิกมันได้ เมื่อพระองค์ยื่นมือของพระองค์ออกไปจัดการ ใครจะหันมันกลับได้ ในปีที่กษัตริย์อาหัสตาย ข่าวสารนี้ได้มาถึงว่า “พวกเจ้าคนฟีลิสเตียทุกคน อย่าได้ดีใจเลยที่ไม้ตะบองที่ตีพวกเจ้านั้นได้หักไปแล้ว เพราะจากครอบครัวของงูตัวนั้นก็จะเกิดงูพิษที่อันตรายกว่าตัวมันขึ้นมา และลูกของมันนั้นก็จะเป็นงูไฟที่บินได้ คนยากจนที่สุดจะมีกินอย่างเหลือเฟือเหมือนแกะเล็มหญ้า และคนขัดสนก็จะนอนลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะทำให้ครอบครัวของเจ้าอดอาหารตาย และคนที่เหลืออยู่ของเจ้า เราจะฆ่าเสีย ประตูเมืองเอ๋ย ร้องคร่ำครวญเถิด เมืองเอ๋ย ร้องไห้ออกมา คนฟีลิสเตียทุกคนเอ๋ย ให้พวกเจ้ากลัวจนหลอมละลายไป ดูทางเหนือนั้นซิ มีควันตลบฟุ้งขึ้นมาแล้ว และกองทัพที่กำลังลงมานั้น ไม่มีใครในพวกเขาที่ตามไม่ทัน” จะตอบกับพวกผู้ส่งข่าวที่มาจากฟีลิสเตียนั้นว่ายังไงดี ให้ตอบพวกมันไปว่า “พระยาห์เวห์ตั้งศิโยนให้แข็งแรง และแม้แต่คนยากจนของพระองค์ก็ยังเข้าไปหลบภัยในเมืองศิโยนได้”
อิสยาห์ 14:1-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แต่พระยาห์เวห์จะทรงพระเมตตาต่อยาโคบและจะทรงเลือกอิสราเอลอีก ทั้งจะตั้งเขาทั้งหลายไว้ในแผ่นดินของเขา แล้วคนต่างด้าวจะมาสมทบกับเขาทั้งหลาย และจะผูกพันเข้ากับเชื้อสายของยาโคบ ชนชาติทั้งหลายจะรับพวกเขาและนำเขาทั้งหลายมายังที่ของเขา และเชื้อสายของอิสราเอลจะได้ชนชาติทั้งหลายเป็นกรรมสิทธิ์ โดยให้เป็นทาสและทาสีในแผ่นดินของพระยาห์เวห์ พวกที่เคยจับเขาทั้งหลายเป็นเชลยจะถูกพวกเขาจับเป็นเชลย และพวกเขาจะปกครองเหนือพวกที่เคยบีบบังคับเขา เมื่อพระยาห์เวห์ประทานให้เจ้าได้หยุดพักจากความเจ็บปวดและความวุ่นวายของเจ้า และจากงานหนักซึ่งเจ้าถูกบังคับให้ทำ เจ้าจะยกคำเย้ยหยันนี้กล่าวกับพระราชาของบาบิโลนว่า “เออ ผู้บีบบังคับสงบไปอย่างไรหนอ ความเกรี้ยวกราดของเขาก็สงบไปด้วยหนอ พระยาห์เวห์ทรงหักไม้พลองของคนอธรรม คทาของผู้ครอบครอง ซึ่งตีชนชาติทั้งหลายด้วยความพิโรธ ด้วยการตีอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งครอบครองประชาชาติด้วยความโกรธ ด้วยการข่มเหงอย่างไม่รามือ ทั่วทั้งโลกก็หยุดพักและสงบอยู่ เขาทั้งหลายโห่ร้องด้วยความยินดี ต้นสนสามใบก็เปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วย ต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอนกล่าวว่า ‘ตั้งแต่เจ้าตกต่ำ ก็ไม่มีคนตัดไม้ขึ้นมาหาเรา’ แดนคนตายเบื้องล่างก็ตื่นเต้น เพื่อต้อนรับเจ้าเมื่อเจ้ามา มันปลุกให้พวกคนตายมารับเจ้า คือทุกคนที่เคยเป็นผู้นำของแผ่นดินโลก มันทำให้พวกที่เคยเป็นพระราชาของประชาชาติทั้งหลาย ลุกขึ้นมาจากบัลลังก์ของพวกเขา พวกเขาทุกคนจะพูด และกล่าวแก่เจ้าว่า ‘เจ้ากลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนเราด้วย เจ้าก็เป็นเหมือนอย่างเรา’ ความโอ่อ่าของเจ้าถูกนำลงมาถึงแดนคนตาย พร้อมกับเสียงพิณของเจ้า ตัวดักแด้จะเป็นที่นอนอยู่ใต้ตัวเจ้า และตัวหนอนจะเป็นผ้าห่มของเจ้า “โอ เจ้าร่วงลงจากฟ้าสวรรค์อย่างไรหนอ เจ้าผู้ส่องแสง คือโอรสแห่งรุ่งอรุณ เจ้าถูกเหวี่ยงลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้ทำให้ประชาชาติทั้งหลายตกต่ำ เจ้าเองรำพึงในใจของเจ้าว่า ‘ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะนั่งบนขุนเขาแห่งการชุมนุม ณ สุดปลายอุดรอันไกลโพ้น ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะทำให้ตัวของข้าเองเหมือนองค์ผู้สูงสุด’ แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่แดนคนตาย ยังก้นบาดาล บรรดาผู้เห็นเจ้าจะจ้องมองเจ้า และจะคิดพิจารณาตัวเจ้าว่า ‘ชายคนนี้หรือที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน? ที่เขย่าอาณาจักรทั้งหลาย? ที่ทำให้โลกเป็นเหมือนถิ่นทุรกันดาร และทำลายเมืองต่างๆ ในโลกเสีย? ผู้ไม่ยอมปล่อยให้เชลยของตนกลับบ้าน?’ พระราชาทั้งหมดของบรรดาประชาชาตินอนอยู่อย่างมีเกียรติ ต่างก็อยู่ในอุโมงค์ของตน แต่เจ้าถูกเหวี่ยงออกไปจากหลุมศพของเจ้า เป็นเหมือนกิ่งไม้ถูกทิ้ง พวกถูกฆ่าจะเป็นเหมือนเสื้อที่คลุมเจ้าไว้ คือพวกถูกแทงด้วยดาบ ซึ่งลงไปยังศิลาของที่ลึก เป็นศพที่ถูกเหยียบย่ำ เจ้าจะไม่มีส่วนร่วมกับเขาในการฝังศพ เพราะเจ้าได้ทำลายแผ่นดินของเจ้า เจ้าได้สังหารประชาชนของเจ้า “ขออย่าให้มีใครเอ่ยถึง เชื้อสายของผู้ทำความชั่วตลอดไป จงเตรียมการสังหารลูกๆ ของเขา เพราะความชั่วของบิดาพวกเขา อย่าให้เขาทั้งหลายลุกขึ้นมาครอบครองโลก หรือทำให้พื้นพิภพเต็มด้วยเมืองต่างๆ” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า “เราจะลุกขึ้นสู้กับพวกเขา และจะตัดชื่อคนที่เหลืออยู่เสียจากบาบิโลน ทั้งตัดลูกหลานและพงศ์พันธุ์เสีย” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “และเราจะทำให้บาบิโลนเป็นที่ยึดครองของพวกอีกาบ้าน และทำให้เป็นหนองน้ำ และจะกวาดด้วยไม้กวาดของการทำลาย” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ พระยาห์เวห์จอมทัพทรงปฏิญาณว่า “เราวางแผนไว้อย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น และเรามุ่งหมายไว้อย่างไร ก็จะเกิดอย่างนั้น คือเราจะตีคนอัสซีเรียให้แตกในแผ่นดินของเรา และจะเหยียบย่ำเขาบนภูเขาของเรา แล้วแอกของเขาจะถูกยกออกไปจากเขาทั้งหลาย และภาระของเขาออกไปจากบ่าเขาทั้งหลาย” นี่คือแผนงานที่วางไว้ เกี่ยวกับแผ่นดินโลกทั้งสิ้น และนี่เป็นพระหัตถ์ซึ่งเหยียดออก เหนือบรรดาประชาชาติทั้งหมด เพราะพระยาห์เวห์จอมทัพทรงมุ่งหมายไว้ ใครเล่าจะลบล้างได้? พระหัตถ์ของพระองค์เหยียดออก และผู้ใดจะหันให้กลับมาได้? ในปีที่กษัตริย์อาหัสสิ้นพระชนม์ ครุวาทนี้มีมาว่า “ฟีลิสเตียเอ๋ย พวกเจ้าทั้งหมดอย่าได้เปรมปรีดิ์ไปเลย ว่ากระบองซึ่งตีเจ้านั้นหักเสียแล้ว เพราะงูพิษจะออกมาจากรากเหง้าของงู และผลของมันจะเป็นงูแมวเซา ลูกหัวปีของคนยากจนจะมีอาหารกิน และคนขัดสนจะนอนลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะให้รากเหง้าของเจ้าตายด้วยการกันดารอาหาร และคนเหลืออยู่ของเจ้าจะถูกฆ่า ประตูเมืองเอ๋ย จงคร่ำครวญ กรุงเอ๋ย จงร่ำไห้ ฟีลิสเตียเอ๋ย พวกเจ้าทุกคนจงละลายไปเสีย เพราะควันออกมาจากทางเหนือ และไม่มีใครแตกออกจากแถวของตนเลย” จะตอบพวกทูตของประเทศนั้นว่าอย่างไร? ก็ว่า “พระยาห์เวห์ได้ทรงสถาปนาศิโยนไว้ และบรรดาคนยากไร้ของชนชาติของพระองค์ จะพบที่ลี้ภัยในที่นั้น”
อิสยาห์ 14:1-32 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงมีพระเมตตาต่อยาโคบ และจะทรงเลือกอิสราเอลอีก และจะทรงตั้งเขาทั้งหลายไว้ในแผ่นดินของเขาเอง คนต่างด้าวจะสมทบกับเขา และติดพันอยู่กับวงศ์วานของยาโคบ และชนชาติทั้งหลายจะรับเขาและนำเขาทั้งหลายมายังที่ของเขา และวงศ์วานของอิสราเอลจะมีกรรมสิทธิ์ในเขา เป็นทาสชายหญิงในแผ่นดินของพระเยโฮวาห์ ผู้ที่จับเขาเป็นเชลยจะถูกเขาจับเป็นเชลย และจะปกครองผู้ที่เคยบีบบังคับเขา และต่อมาในวันที่พระเยโฮวาห์จะทรงประทานให้เจ้าได้หยุดพักจากความเศร้าโศกของเจ้า และจากความกลัว และจากงานหนักซึ่งเจ้าถูกบังคับให้กระทำ เจ้าจะยกคำภาษิตนี้กล่าวต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลนว่า “เออ ผู้บีบบังคับก็สงบไปแล้วหนอ เมืองทองคำก็สงบไปด้วยซิ พระเยโฮวาห์ทรงหักไม้พลองของคนชั่ว คทาของผู้ครอบครอง ผู้ซึ่งตีชนชาติทั้งหลายด้วยความพิโรธ ด้วยการตีอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้ซึ่งได้ครอบครองประชาชาติด้วยความโกรธ ได้ถูกข่มเหงโดยไม่มีผู้ใดยับยั้ง โลกทั้งสิ้นก็พักและสงบอยู่ เขาทั้งหลายร้องเพลงโพล่งออกมา ต้นสนสามใบเปรมปรีดิ์เพราะเจ้า ต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอนด้วย และกล่าวว่า ‘ตั้งแต่เจ้าตกต่ำ ก็ไม่มีผู้โค่นขึ้นมาต่อสู้เราแล้ว’ นรกเบื้องล่างก็ตื่นเต้นเพื่อต้อนรับเจ้าเมื่อเจ้ามา มันปลุกให้ชาวแดนคนตายมาต้อนรับเจ้า คือบรรดาผู้ซึ่งเคยเป็นผู้นำของโลก มันทำให้บรรดาผู้ที่เคยเป็นกษัตริย์แห่งประชาชาติทั้งหลายลุกขึ้นมาจากพระที่นั่งของเขา ทุกตนจะพูด และกล่าวแก่เจ้าว่า ‘เจ้าก็อ่อนเปลี้ยอย่างเราด้วยหรือ เจ้ากลายเป็นอย่างพวกเราหรือ’ ความโอ่อ่าของเจ้าถูกนำลงมาถึงแดนคนตาย และเสียงพิณใหญ่ของเจ้า ตัวหนอนจะเป็นที่นอนอยู่ใต้ตัวเจ้า และตัวหนอนจะเป็นผ้าห่มของเจ้า โอ ลูซีเฟอร์เอ๋ย โอรสแห่งรุ่งอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า ‘ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ด้านทิศเหนือ ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด’ แต่เจ้าจะถูกนำลงมาสู่นรก ยังที่ลึกของปากแดน บรรดาผู้ที่เห็นเจ้าจะเพ่งดูเจ้า และจะพิจารณาเจ้าว่า ‘ชายคนนี้หรือที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน ผู้เขย่าราชอาณาจักรทั้งหลาย ผู้ที่ได้กระทำให้โลกเป็นเหมือนถิ่นทุรกันดาร และคว่ำหัวเมืองของโลกเสีย ผู้ไม่ยอมให้เชลยกลับไปบ้านของเขา’ กษัตริย์ทั้งสิ้นของบรรดาประชาชาตินอนอยู่อย่างมีเกียรติ ต่างก็อยู่ในอุโมงค์ของตน แต่เจ้าถูกเหวี่ยงออกไปจากหลุมศพของเจ้า เหมือนกิ่งที่พึงรังเกียจ เหมือนเสื้อผ้าของผู้ที่ถูกสังหาร คือที่ถูกแทงด้วยดาบ ผู้ซึ่งลงไปยังกองหินของหลุมศพ เหมือนซากศพที่ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า เจ้าจะไม่ได้รับการฝังศพร่วมกับเขา เพราะเจ้าได้ทำลายแผ่นดินของเจ้า เจ้าได้สังหารประชาชนของเจ้า ‘ขออย่าให้ใครเอ่ยถึงชื่อของเชื้อสายแห่งผู้กระทำความชั่วอีกเลย จงเตรียมสังหารลูกๆของเขาเถิด เพราะความชั่วช้าแห่งบิดาของเขา เกรงว่าเขาทั้งหลายจะลุกขึ้นเป็นเจ้าของแผ่นดิน และกระทำให้พื้นโลกเต็มไปด้วยหัวเมือง’” พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสว่า “เพราะเราจะลุกขึ้นสู้กับเขา และจะตัดชื่อกับคนที่เหลืออยู่และลูกหลานออกจากบาบิโลน” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ “และเราจะกระทำให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอีกาบ้าน และเป็นสระน้ำ และจะกวาดด้วยไม้กวาดแห่งการทำลาย” พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้แหละ พระเยโฮวาห์จอมโยธาได้ทรงปฏิญาณว่า “เรากะแผนงานไว้อย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น และเราได้มุ่งหมายไว้อย่างไร ก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น คือว่าเราจะตีคนอัสซีเรียในแผ่นดินของเราให้ย่อยยับไป และบนภูเขาของเราเหยียบย่ำเขาไว้ และแอกของเขานั้นจะพรากไปจากเขาทั้งหลาย และภาระของเขานั้นจากบ่าของเขาทั้งหลาย” นี่เป็นความมุ่งหมายที่มุ่งหมายไว้เกี่ยวกับแผ่นดินโลกทั้งสิ้น และนี่เป็นพระหัตถ์ซึ่งเหยียดออกเหนือบรรดาประชาชาติทั้งสิ้น เพราะพระเยโฮวาห์จอมโยธาทรงมุ่งไว้แล้ว ผู้ใดเล่าจะลบล้างเสียได้ พระหัตถ์ของพระองค์ทรงเหยียดออก และผู้ใดจะหันให้กลับได้ ในปีที่กษัตริย์อาหัสสิ้นพระชนม์ ภาระนี้มีมาว่า “ประเทศฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าทุกคนอย่าเปรมปรีดิ์ไปเลย เพราะว่าตะบองซึ่งตีเจ้านั้นหักเสียแล้ว เพราะงูทับทางจะออกมาจากรากเง่าของงู และผลของมันจะเป็นงูแมวเซา และลูกหัวปีของคนยากจนจะมีอาหารกิน และคนขัดสนจะนอนลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะฆ่ารากเง่าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร และคนที่เหลืออยู่ของเจ้าจะถูกสังหารเสีย โอ ประตูเมืองเอ๋ย พิลาปร่ำไห้ซิ โอ กรุงเอ๋ย จงร้องไห้ ประเทศฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าทุกคนจงละลายเสีย เพราะควันจะออกมาจากทิศเหนือ และจะไม่มีคนล้าหลังในแถวของเขาเลย” จะตอบทูตของประชาชาตินั้นว่าอย่างไร ก็ว่า “พระเยโฮวาห์ได้ทรงสถาปนาศิโยน และคนยากจนในชนชาติของพระองค์จะได้วางใจในที่นั้น”
อิสยาห์ 14:1-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าจะทรงมีเมตตาต่อยาโคบและจะทรงเลือกอิสราเอลอีก และจะตั้งเขาทั้งหลายไว้ในแผ่นดินของเขา คนต่างด้าวจะสมทบกับเขา และติดพันอยู่กับเชื้อสายของยาโคบ และชนชาติทั้งหลายจะรับเขาและนำเขาทั้งหลายมายังที่ของเขา และเชื้อสายของอิสราเอลจะมีกรรมสิทธิ์ในเขาเป็นทาสชายหญิงในแผ่นดินของพระเจ้า ผู้ที่จับเขาเป็นเชลยจะถูกเขาจับเป็นเชลย และจะปกครองผู้ที่เคยบีบบังคับเขา เมื่อพระเจ้าประทานให้เจ้าได้หยุดพักจากความเจ็บปวดของเจ้า และจากความวุ่นวายและจากงานหนักซึ่งเจ้าถูกบังคับให้กระทำ เจ้าจะยกคำเย้ยหยันนี้กล่าวต่อพระราชาแห่งบาบิโลนว่า <<เออ ผู้บีบบังคับก็สงบไปแล้วหนอ ความทะลึ่งเกรี้ยวกราดของเขาก็สงบไปด้วยซิ พระเจ้าทรงหักไม้พลองของคนอธรรม คทาของผู้ครอบครอง ซึ่งตีชนชาติทั้งหลายด้วยความพิโรธ ด้วยการตีอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งได้ครอบครองประชาชาติด้วยความโกรธ ด้วยการข่มเหงอย่างที่ไม่อ่อนข้อ โลกทั้งสิ้นก็พักและสงบอยู่ เขาทั้งหลายร้องเพลงโพล่งออกมา ต้นสนสามใบเปรมปรีดิ์เพราะเจ้า ต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอนด้วยและกล่าวว่า <ตั้งแต่เจ้าตกต่ำ ก็ไม่มีผู้โค่นขึ้นมาต่อสู้เราแล้ว> แดนคนตายเบื้องล่างก็ตื่นเต้น เพื่อต้อนรับเจ้าเมื่อเจ้ามา มันปลุกให้ชาวแดนมาต้อนรับเจ้า คือผู้ซึ่งเคยเป็นผู้นำของโลก มันทำให้บรรดาผู้ที่เคยเป็นพระราชาแห่งประชาชาติทั้งหลาย ลุกขึ้นมาจากพระที่นั่งของเขา ทุกตนจะพูด และกล่าวแก่เจ้าว่า <เจ้าก็อ่อนเปลี้ยอย่างเราด้วย เจ้ากลายเป็นอย่างพวกเรา> ความโอ่อ่าของเจ้าถูกนำลงมาถึงแดนคนตาย และเสียงพิณของเจ้า ตัวหนอนจะเป็นที่นอนอยู่ใต้ตัวเจ้า และตัวหนอนจะเป็นผ้าห่มของเจ้า <<โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า <ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ที่อุดรไกล ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด> แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่แดนคนตาย ยังที่ลึกของปากแดน บรรดาผู้ที่เห็นเจ้าจะเพ่งดูเจ้า และจะพิจารณาเจ้าว่า <ชายคนนี้หรือที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน ผู้เขย่าราชอาณาจักรทั้งหลาย ผู้ที่ได้กระทำให้โลกเป็นเหมือนถิ่นทุรกันดาร และคว่ำหัวเมืองของโลกเสีย ผู้ไม่ยอมให้เชลยกลับไปบ้านของเขา> พระราชาทั้งสิ้นของบรรดาประชาชาตินอนอยู่อย่างมีเกียรติ ต่างก็อยู่ในอุโมงค์ของตน แต่เจ้าถูกเหวี่ยงออกไป ห่างจากหลุมศพของเจ้า เป็นศพที่น่าเกลียด สวมเสื้อของผู้ที่ถูกฆ่า คือที่ถูกแทงด้วยดาบ ซึ่งลงไปยังศิลาของหลุมศพ เป็นศพที่ถูกเหยียบย่ำ เจ้าจะไม่ได้รับการฝังศพร่วมกับเขา เพราะเจ้าได้ทำลายแผ่นดินของเจ้า เจ้าได้สังหารประชาชนของเจ้า <<ขออย่าให้ใครเอ่ยถึงชื่อของเชื้อวงศ์แห่งผู้กระทำความชั่วอีกเลย จงเตรียมสังหารลูกๆของเขาเถิด เพราะกรรมชั่วแห่งบิดาของเขา เกรงว่าเขาทั้งหลายจะลุกขึ้นเป็นเจ้าของโลก และกระทำให้พื้นโลกเต็มไปด้วยหัวเมือง>> พระเจ้าจอมโยธา ตรัสว่า <<เราจะลุกขึ้นสู้กับเขา และจะตัดชื่อกับคนที่เหลืออยู่เสียจากบาบิโลน และตัดลูกหลานและพงศ์พันธุ์เสีย>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ <<และเราจะกระทำให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอีกาบ้าน และเป็นสระน้ำ และจะกวาดด้วยไม้กวาดแห่งการทำลาย>> พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ พระเจ้าจอมโยธาได้ทรงปฏิญาณว่า <เรากะแผนงานไว้อย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น และเราได้มุ่งหมายไว้อย่างไร ก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น คือว่าเราจะตีคนอัสซีเรียในแผ่นดินของเราให้ย่อยยับไป และบนภูเขาของเรา เหยียบย่ำเขาไว้ และแอกของเขานั้นจะพรากไปจากเขาทั้งหลาย และภาระของเขานั้นจากบ่าของเขาทั้งหลาย>> นี่เป็นความมุ่งหมายที่มุ่งหมายไว้ เกี่ยวกับแผ่นดินโลกทั้งสิ้น และนี่เป็นพระหัตถ์ซึ่งเหยียดออก เหนือบรรดาประชาชาติทั้งสิ้น เพราะพระเจ้าจอมโยธาทรงมุ่งไว้แล้ว ผู้ใดเล่าจะลบล้างเสียได้ พระหัตถ์ของพระเจ้าทรงเหยียดออก และผู้ใดจะหันให้กลับได้ ในปีที่กษัตริย์อาหัสสิ้นพระชนม์ ครุวาทนี้มีมาว่า <<ประเทศฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าทุกคนอย่าเปรมปรีดิ์ไปเลย ว่าตะบองซึ่งตีเจ้านั้นหักเสียแล้ว เพราะงูทับทางจะออกมาจากรากเง่าของงู และผลของมันจะเป็นงูแมวเซา และลูกหัวปีของคนยากจนจะมีอาหารกิน และคนขัดสนจะนอนลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะฆ่ารากเง่าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร และคนที่เหลืออยู่ของเจ้าจะถูกสังหารเสีย ประตูเมืองเอ๋ย พิลาปร่ำไห้ซิ กรุงเอ๋ย จงร้องไห้ ประเทศฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าทุกคนจงละลายเสียในความกลัว เพราะควันออกมาจากอุดร และไม่มีคนล้าหลังในแถวของเขาเลย>> จะตอบทูตของประชาชาตินั้นว่าอย่างไร ก็ว่า <<พระเจ้าได้ทรงสถาปนาศิโยน และผู้ถูกข่มใจในชนชาติของพระองค์ ได้พบที่ลี้ภัยในที่นั้น>>
อิสยาห์ 14:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเอ็นดูสงสารยาโคบ พระองค์จะทรงเลือกสรรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง และจะนำพวกเขากลับมาตั้งถิ่นฐานในแผ่นดินของพวกเขา ชนต่างชาติจะมาสมทบ และเข้าร่วมกับวงศ์วานของยาโคบ ประชาชาติต่างๆ จะรับ และนำพวกเขากลับคืนถิ่น วงศ์วานอิสราเอลจะครอบครองประชาชาติต่างๆ ซึ่งจะเป็นผู้รับใช้ชายหญิงในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่จับอิสราเอลเป็นเชลยจะตกเป็นเชลยของอิสราเอล และอิสราเอลจะปกครองผู้ที่เคยกดขี่ข่มเหงพวกเขา ในวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เจ้าพ้นจากความทุกข์ทรมาน ความชุลมุนวุ่นวาย และพันธนาการอันโหดร้าย เจ้าจะเย้ยหยันกษัตริย์บาบิโลนดังนี้ว่า ผู้กดขี่ข่มเหงมาถึงจุดจบได้อย่างไรหนอ! ความเกรี้ยวกราดของเขาสิ้นสุดลงได้อย่างไร! องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหักไม้เรียวของคนชั่วร้าย ทรงหักคทาของผู้ครอบครอง ซึ่งกระหน่ำตีชาติต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยแรงโทสะ และปราบนานาประเทศ ด้วยการจู่โจมอย่างอำมหิต ดินแดนทั้งปวงก็หยุดพักและสงบสุข พวกเขาเปล่งเสียงร้องเพลง แม้แต่ต้นสนต่างๆ และสนซีดาร์แห่งเลบานอน ก็เปรมปรีดิ์และกล่าวว่า “เดี๋ยวนี้เจ้าตกต่ำแล้ว ก็ไม่มีคนตัดไม้มาโค่นเรา” แดนมรณะเบื้องล่าง ลุกขึ้นต้อนรับเจ้า มันปลุกวิญญาณของบรรดาผู้ที่จากไปให้มาทักทายเจ้า คือผู้ที่เคยเป็นผู้นำของโลก มันทำให้เหล่ากษัตริย์ผู้เคยปกครองเหนือบรรดาประชาชาติ ลุกขึ้นมาจากบัลลังก์ของพวกเขา พวกเขาจะร้องออกมา เป็นเสียงเดียวกันว่า “บัดนี้ท่านก็อ่อนแอเหมือนพวกเรา ท่านกลับกลายเป็นเหมือนเรา” ความลำพองของเจ้าลงไปในหลุม พร้อมกับเสียงพิณของเจ้า หนอนยั้วเยี้ยอยู่ใต้ร่างของเจ้า และไส้เดือนปกคลุมตัวเจ้า โอ ดาวประจำรุ่ง โอรสแห่งรุ่งอรุณ! เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วสิหนา ครั้งหนึ่งเจ้าเคยปราบประชาชาติต่างๆ ให้ตกต่ำ แต่บัดนี้เจ้าถูกเหวี่ยงทิ้งลงมายังโลกเสียแล้ว! เจ้ารำพึงว่า “เราจะขึ้นไปสวรรค์ เราจะยกบัลลังก์ของเราขึ้น เหนือดวงดาราทั้งปวงของพระเจ้า เราจะครอบครองเหนือภูเขาแห่งการชุมนุม บนยอดสูงสุดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เราจะขึ้นไปเหนือเมฆ เราจะตีเสมอองค์ผู้สูงสุด” แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่หลุมฝังศพ มาสู่ห้วงเหวลึก บรรดาผู้ที่เห็นเจ้าก็จ้องมอง และใคร่ครวญชะตาของเจ้าว่า “นี่หรือผู้เขย่าโลก และทำให้อาณาจักรต่างๆ สั่นสะท้าน? นี่หรือผู้ที่ทำให้โลกเป็นถิ่นกันดาร ผู้ล้มล้างนครต่างๆ และไม่ยอมปล่อยเชลยกลับคืนถิ่น?” บรรดากษัตริย์ชาติต่างๆ นอนอยู่ในหลุมฝังศพของตนอย่างสมเกียรติ แต่ร่างของเจ้าถูกเหวี่ยงทิ้งออกมา เหมือนกิ่งไม้หัก ถูกทับถมด้วยร่างของคนที่ถูกฆ่า ผู้ตายด้วยคมดาบ ผู้ลงไปสู่พื้นหินของเหว ดั่งศพที่ถูกเหยียบย่ำ เจ้าจะไม่ได้รับการฝังศพอย่างพวกเขา เพราะเจ้าได้ทำลายล้างดินแดนของเจ้า และเข่นฆ่าประชากรของเจ้า ลูกหลานของคนชั่วร้าย จะไม่ถูกเอ่ยถึงอีกเลย จงเตรียมที่สำหรับประหารลูกๆ ของเขา เพราะบาปของบรรพบุรุษ พวกเขาไม่ได้ขึ้นมาครอบครองดินแดนนั้น ไม่ได้สร้างเมืองบนแผ่นดินโลก พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “เราจะลุกขึ้นมาต่อสู้พวกเขา เราจะตัดชื่อคนที่เหลืออยู่ ทั้งเชื้อสายและวงศ์วานออกจากบาบิโลน” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เราจะทำให้บาบิโลนกลับกลายเป็นถิ่นนกเค้าแมว เต็มไปด้วยหนองบึงและปลักโคลน เราจะกวาดดินแดนนี้ด้วยไม้กวาดแห่งหายนะ” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงปฏิญาณไว้ว่า “เราวางแผนไว้อย่างไร มันจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน และเราประสงค์อย่างไร มันจะเกิดขึ้นตามนั้น เราจะขยี้ทัพอัสซีเรียในดินแดนของเรา เราจะเหยียบเขาลงที่ภูเขาของเรา เราจะกำจัดแอกจากประชากรของเรา และขจัดภาระจากบ่าของพวกเขา” นี่เป็นแผนการที่กำหนดไว้สำหรับโลกทั้งโลก นี่คือพระหัตถ์ซึ่งเงื้อขึ้นเหนือประชาชาติทั้งปวง เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ทรงกำหนดไว้ ใครเล่าจะพลิกผันได้? พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ออกมา ใครเล่าจะทำให้พระองค์ทรงหดพระหัตถ์กลับไป? ในปีที่กษัตริย์อาหัสสิ้นพระชนม์ มีพระดำรัสจากพระเจ้าดังนี้ว่า ชาวฟีลิสเตียทั้งปวงเอ๋ย อย่ากระหยิ่มยิ้มย่อง ว่าไม้เรียวที่ฟาดเจ้านั้นหักแล้ว จากรากเหง้าของงูตัวนั้นจะเกิดงูพิษ เป็นงูเห่าพิษร้ายซึ่งแว้งกัด ผู้ยากไร้ที่สุดจะพบทุ่งหญ้า และคนขัดสนจะเอนกายลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะทำลายล้างรากเหง้าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร ซึ่งจะผลาญชีวิตพวกเจ้าที่เหลือรอด ประตูเมืองเอ๋ย จงร้องไห้เถิด! นครเอ๋ย จงคร่ำครวญเถิด! ชาวฟีลิสเตียทั้งปวง จงกลัวจนหัวหดไป! ควันโขมงขึ้นจากทิศเหนือ และแถวต่างๆ ที่ดาหน้าเข้ามาไม่มีล้าหลังสักคนเดียว จะตอบทูตของประชาชาตินั้นว่าอย่างไร? ก็ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสถาปนาศิโยนไว้ และคนที่ทุกข์ลำเค็ญในเมืองนั้นจะพบที่พักพิง”
อิสยาห์ 14:1-32 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระผู้เป็นเจ้าจะเมตตายาโคบ และจะเลือกอิสราเอลอีกครั้ง และจะให้พวกเขาไปอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง และบรรดาชาวต่างชาติจะสมาคมกับพวกเขา และจะยึดแน่นกับพงศ์พันธุ์ยาโคบ บรรดาชนชาติจะพาพวกเขากลับไปยังถิ่นฐานของอิสราเอลเอง และพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะยึดเขาเหล่านั้นเป็นกรรมสิทธิ์ โดยให้เป็นทาสรับใช้ชายหญิงในแผ่นดินของพระผู้เป็นเจ้า อิสราเอลจะจับตัวผู้ที่เคยจับพวกเขาไปเป็นเชลย และจะปกครองเหนือผู้ที่เคยบีบบังคับพวกเขา เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้ให้พวกท่านบรรเทาจากความเจ็บปวด ความยากลำบาก และการถูกเกณฑ์ทำงานหนัก พวกท่านจะถากถางกษัตริย์แห่งบาบิโลนว่า “ผู้บีบบังคับได้หยุดชะงักแล้ว ความเดือดดาลของท่านหยุดชะงักอย่างไรหนอ พระผู้เป็นเจ้าได้หักไม้เท้าของคนชั่วแล้ว คือคทาของบรรดาผู้ปกครอง ที่ฆ่าบรรดาชนชาติด้วยความเกรี้ยวกราด อย่างไม่หยุดยั้ง ที่ปกครองบรรดาประชาชาติในความโกรธ ด้วยการกดขี่ข่มเหงอย่างโหดเหี้ยม ทั้งโลกอยู่ในความเงียบสงบ ผู้คนเบิกบานด้วยเสียงเพลง ต้นสนโห่ร้องยินดี ต้นซีดาร์แห่งเลบานอนพูดว่า ‘ตั้งแต่ท่านถูกปราบ ก็ไม่มีคนตัดไม้ขึ้นมาโจมตีพวกเราอีก’ แดนคนตายเบื้องล่างตื่นเต้น ที่จะพบท่านเมื่อท่านไปถึง มันกระตุ้นเหล่าวิญญาณที่จากไปให้มาต้อนรับท่าน วิญญาณของคนที่เคยเป็นหัวหน้าของแผ่นดินโลก มันทำให้บรรดากษัตริย์ของประชาชาติทั้งปวงลุกขึ้นจากบัลลังก์ ทุกคนที่นั่นจะกล่าวกับท่านว่า ‘ท่านก็กลายเป็นผู้อ่อนแอเหมือนพวกเรา ท่านกลายมาเป็นเหมือนพวกเราแล้ว’ ความยโสของท่านถูกฉุดลงสู่แดนคนตาย พร้อมกับเสียงพิณสิบสายของท่าน ตัวดักแด้ถูกปูเป็นฟูกให้แก่ท่าน และตัวหนอนก็จะเป็นผ้าห่มตัวท่าน โอ ดาวแห่งแสงสว่าง บุตรแห่งอรุณรุ่ง ท่านหล่นลงมาจากสวรรค์อย่างไรหนอ ท่านถูกตัดออกให้ตกลงสู่พื้นอย่างไรหนอ ท่านผู้ครั้งหนึ่งเคยปราบบรรดาประชาชาติ ท่านคิดในใจว่า ‘เราจะขึ้นไปบนสวรรค์ เหนือดวงดาวของพระเจ้า เราจะตั้งบัลลังก์ของเราบนที่สูง เราจะนั่งบนภูเขาแห่งเทพเจ้าทั้งหลาย ที่อยู่ไกลโพ้นเหนือสุด เราจะขึ้นไปสูงกว่าหมู่เมฆ เราจะตั้งตนเทียบเท่าพระเจ้าผู้สูงสุด’ แต่ท่านกลับถูกนำลงไปยังแดนคนตาย ยังส่วนลึกสุดของหลุมลึกแห่งแดนคนตาย บรรดาผู้ที่เห็นท่านจะจ้องดูท่าน และครุ่นคิดถึงตัวท่านว่า ‘คนนี้น่ะหรือที่ทำให้โลกสั่นสะท้าน และทำให้อาณาจักรทั้งหลายสั่นสะเทือน ทำให้โลกกลายเป็นถิ่นทุรกันดาร และทำเมืองให้พังพินาศ และไม่ปล่อยให้นักโทษกลับบ้าน’ กษัตริย์ทั้งปวงของบรรดาประชาชาติสิ้นชีวิตอย่างมีเกียรติ ต่างก็อยู่ในถ้ำฝังศพของตน แต่ท่านถูกเหวี่ยงไกลออกไปจากหลุมศพของท่าน เหมือนกิ่งไม้ที่ถูกตัดทิ้งจากต้น เป็นเหมือนเสื้อผ้าของคนที่ถูกดาบแทง เหมือนคนที่ลงไปในหลุมลึกที่สุด และเหมือนซากศพที่ถูกเหยียบย่ำ ท่านจะไม่ถูกฝังด้วยกันกับกษัตริย์อื่นๆ เพราะท่านได้ทำให้แผ่นดินของท่านพินาศย่อยยับ ท่านฆ่าชนชาติของท่าน ขออย่าให้มีผู้ใดเอ่ยถึงชื่อทายาท ของบรรดาผู้กระทำความชั่ว จงเตรียมประหารบรรดาบุตรของเขา เพราะความผิดของบิดา เพราะกลัวว่าพวกเขาจะลุกขึ้นและยึดครองแผ่นดิน และสร้างเมืองจนเต็มแผ่นดินโลก” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนี้ “เราจะลุกขึ้นต่อสู้กับพวกเขา และบาบิโลนจะไม่มีทายาทหรือมีใครที่เหลืออยู่ ไม่มีบรรดาผู้สืบเชื้อสายและผู้สืบตระกูล” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “และเราจะทำให้บาบิโลนเป็นที่อยู่ของพวกเม่นและเป็นหนองบึง และเราจะกวาดล้างบาบิโลนด้วยไม้กวาดแห่งความพินาศ” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาปฏิญาณดังนี้ “เรามุ่งหมายอย่างไร มันก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น และเราวางแผนอย่างไร มันก็จะเป็นไปตามนั้น เราจะทำให้อัสซีเรียพินาศย่อยยับในแผ่นดินของเรา และเหยียบย่ำเขาบนภูเขาของเรา และแอกของเขาจะหลุดออกจากชนชาติของเรา และจะปลดภาระออกจากบ่าของพวกเขา” นี่คือแผนการที่ตั้งไว้สำหรับทั่วทั้งแผ่นดินโลก และนี่คือมือที่ยื่นออกไปยังประชาชาติทั้งปวง ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ตั้งจุดประสงค์ไว้ ใครจะยับยั้งไว้ได้ มือของพระองค์ยื่นออกไป และใครจะดึงให้กลับมาได้ ในปีที่กษัตริย์อาหัสสิ้นชีวิตก็เกิดคำพยากรณ์นี้ “โอ ฟีลิสเตียเอ๋ย พวกเจ้าทุกคนอย่ายินดีเลย ที่ไม้ตะบองซึ่งทุบตีเจ้าหักแล้ว เพราะงูพิษตัวหนึ่งจะผุดขึ้นจากรากเหง้าของงู และผลของมันจะเป็นงูพิษร้ายซึ่งพุ่งฉกอย่างร้อนรน และผู้อัตคัดขัดสนที่สุดจะมีอย่างอุดมสมบูรณ์ และผู้ยากไร้จะนอนลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะฆ่ารากเหง้าของเจ้าด้วยความอดอยาก และมันจะสังหารคนที่เหลืออยู่ โอ ประตูเมืองเอ๋ย จงร้องรำพันเถิด โอ เมืองเอ๋ย จงร่ำร้องเถิด โอ ฟีลิสเตีย พวกเจ้าทุกคนจะหวาดกลัวจนตัวสั่น เพราะกลุ่มควันจะพวยพุ่งมาจากทิศเหนือ และไม่มีผู้ใดในกองทัพที่แตกแถวออกไป” แล้วจะตอบบรรดาผู้ส่งสาสน์ของประชาชาติอย่างไร “พระผู้เป็นเจ้าให้ความมั่นคงแก่ศิโยน และชนชาติของพระองค์ที่เป็นทุกข์จะพบที่พึ่ง ณ ที่นั้น”