สุภาษิต 30:12-33

สุภาษิต 30:12-33 TH1971

มีคนที่คิดว่าตนเองบริสุทธิ์ แต่มิได้รับการชำระความโสโครกของตน มีคนเช่นนั้นอยู่ทั่วไป ตาของเขาสูงจริงหนอ และหนังตาของเขาสูงยิ่ง มีคนที่ฟันของเขาเป็นดาบ ทนต์ของเขาเป็นมีด เพื่อจะทำลายคนยากจนเสียจากแผ่นดินโลก คนขัดสน เสียจากท่ามกลางมนุษย์ ปลิงมีลูกตัวเมียสองตัวมันร้องว่า <<ให้ ให้>> แต่สิ่งสามสิ่งนี้ไม่เคยอิ่ม สี่สิ่งไม่เคยพูดว่า <<พอแล้ว>> คือแดนผู้ตาย ครรภ์ของหญิงหมัน แผ่นดินโลกที่ไม่อิ่มน้ำ และไฟที่ไม่เคยพูดว่า <<พอแล้ว>> นัยน์ตาที่เยาะเย้ยบิดา และดูถูกไม่ฟังมารดา จะถูกกาแห่งหุบเขาจิกออก และแร้งจะกินเสีย มีสามสิ่งที่ประหลาดเหลือสำหรับข้า เออ สี่สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจ คือท่าทีของนกอินทรีในฟ้า ท่าทีของงูบนหิน ท่าทีของเรือในท้องทะเล และท่าทีของชายกับหญิงสาว นี่เป็นทางของหญิงผู้ล่วงประเวณี คือ นางรับประทาน และนางเช็ดปาก และนางพูดว่า <<ฉันไม่ได้ทำผิด>> แผ่นดินโลกสั่นสะเทือนอยู่ใต้สามสิ่ง เออ มันทานอยู่ใต้สี่สิ่งไม่ได้ คือ ทาสเมื่อได้เป็นพระราชา คนโง่เมื่อกินอิ่ม หญิงที่ไม่มีใครรักได้สามี และสาวใช้ที่ได้เป็นนายแทนนายหญิงของตน มีสี่สิ่งในแผ่นดินโลกที่เล็กเหลือเกิน แต่มีปัญญามากเหลือล้น มด เป็นประชากรที่ไม่แข็งแรง แต่มันยังเตรียมอาหารของมันไว้ในฤดูแล้ง ตัวกระจงผา เป็นประชากรที่ไม่มีกำลัง แต่มันยังสร้างบ้านของมันในซอกหิน ตั๊กแตนไม่มีราชา แต่มันยังเดินขบวนเป็นแถว ตุ๊กแกนั้น เจ้าเอามือจับได้ แต่มันยังอยู่ในพระราชวัง มีสามสิ่งที่สง่างามมากในท่าเดิน เออ มีสี่สิ่งที่ย่างเท้าของมันผ่าเผย คือสิงห์ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีกำลังมากที่สุด และไม่ยอมหันหลังกลับเพราะสิ่งใดเลย พ่อไก่ที่เดินป้ออยู่ แพะผู้ และพระราชาที่เสด็จพระราชดำเนินอยู่หน้า ประชาชนของพระองค์ ถ้าเจ้าเป็นคนโง่ยกย่องตนเอง หรือคิดแผนการชั่วร้าย จงเอามือปิดปากของเจ้าเสียเถิด เพราะเมื่อกวนน้ำนมก็ได้เนยเหลว เมื่อบีบจมูกก็ได้โลหิต และเมื่อกวนโทโสก็ได้การวิวาท