สุภาษิต 30:12-33

สุภาษิต 30:12-33 TNCV

บางคนคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ ทั้งที่ยังไม่ได้รับการชำระมลทิน บางคนยโสโอหังยิ่งนัก บางคนปรายตาดูถูกผู้อื่น บางคนฟันของเขาคือดาบ บางคนกรามของเขาคือมีด เขมือบผู้ยากไร้ไปจากแผ่นดิน เขมือบคนขัดสนจากมวลมนุษยชาติ “ปลิงมีปากสองปาก มันร้องว่า ‘เอาอีก! เอาอีก!’ “มีสามสิ่งที่ไม่เคยอิ่มหนำ ที่จริง มีสี่สิ่งที่ไม่เคยพูดว่า ‘พอแล้ว!’ คือแดนผู้ตายครรภ์ของหญิงหมัน แผ่นดินที่ไม่เคยอิ่มน้ำ และไฟที่ไม่เคยพูดว่า ‘พอแล้ว!’ “ตาที่เย้ยหยันพ่อ ที่ดูหมิ่นไม่เชื่อฟังแม่ผู้ชรา จะถูกกาแห่งหุบเขาจิกออกมา จะถูกแร้งรุมกิน “มีสามสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าประหลาดใจ ที่จริง มีสี่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ คือการเคลื่อนไหวของนกอินทรีในท้องฟ้า การเลื้อยของงูบนก้อนหิน การแล่นของเรือในท้องทะเล และความสัมพันธ์ของชายหนุ่มกับหญิงสาว นี่คือการปรนเปรอตนเองของหญิงสำส่อน นางกินแล้วเช็ดปาก และพูดว่า ‘ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด’ “มีสามสิ่งที่ทำให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน ที่จริง มีสี่สิ่งซึ่งโลกทนไม่ได้ คือคนรับใช้ที่กลายเป็นกษัตริย์ คนโฉดเขลาที่มีอาหารเหลือเฟือ หญิงที่ไม่มีใครรักได้แต่งงาน สาวใช้ที่ครองตำแหน่งแทนนายหญิง “มีสี่สิ่งในโลกซึ่งเล็กกระจิริด แต่ฉลาดเหลือล้ำ ได้แก่ มด กำลังน้อยนิด แต่ก็ยังรู้จักสะสมอาหารในฤดูร้อน ตัวตุ่นผา แรงน้อย แต่ก็ยังทำรังในซอกหิน ตั๊กแตน ไม่มีราชา แต่ก็ยังรวมตัวกันไปเป็นขบวน จิ้งจก เอามือจับก็ได้ แต่ก็ยังพบมันในพระราชวัง “มีสามสิ่งที่มีท่วงท่าสง่างาม ที่จริง มีสี่สิ่งซึ่งเคลื่อนไหวอย่างองอาจ คือราชสีห์ ผู้เป็นเจ้าป่า มันไม่ถอยหนีสิ่งใด พ่อไก่ที่เดินป้อ แพะตัวผู้ และกษัตริย์ที่ไม่มีใครต่อต้าน “หากเจ้าได้ทำตัวโง่เขลาด้วยการยกย่องตัวเอง หรือหากเจ้าได้วางแผนชั่ว จงเอามืออุดปากของเจ้าเสีย! เพราะเมื่อกวนนมก็ได้เนย หรือเมื่อกระแทกจมูกก็ได้เลือดกำเดาฉันใด เมื่อกวนโมโหก็ได้การวิวาทฉันนั้น”