มัทธิว 21:4-26

มัทธิว 21:4-26 TH1971

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพื่อจะให้เป็นไปตามพระวจนะที่ตรัสโดยผู้เผยพระวจนะว่า จงบอกชาวศิโยนว่า กษัตริย์ของท่านเสด็จมาหาท่าน โดยพระทัยอ่อนสุภาพ ทรงลา ทรงลูกลา สาวกทั้งสองคนนั้น ก็ไปทำตามพระเยซูตรัสสั่ง จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา และเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง แล้วพระองค์ได้ทรงลานั้น ฝูงชนเป็นอันมาก ได้เอาเสื้อผ้าของตนปูตามถนนหนทาง บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาปูตามถนน ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้า กับผู้ที่ตามมาข้างหลัง ก็พร้อมกันโห่ร้องว่า <<โฮซันนา แก่ราชโอรสของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงพระเจริญ โฮซันนา ในที่สูงสุด>> เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ประชาชนทั่วทั้งกรุงก็พากันแตกตื่นถามว่า <<ใครหนอ>> ฝูงชนก็ตอบว่า <<นี่คือเยซูผู้เผยพระวจนะ ซึ่งมาจากนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี>> พระเยซูจึงเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กับทั้งคว่ำม้านั่งผู้ขายนกพิราบเสีย พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<มีพระวจนะเขียนไว้ว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่า เป็นนิเวศอธิษฐาน แต่เจ้าทั้งหลายมากระทำให้เป็น ถ้ำของพวกโจร >> คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ได้รักษาเขาให้หาย แต่เมื่อพวกปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ ได้เห็นการมหัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็กร้องในบริเวณพระวิหารว่า <<โฮซันนาแก่ราชโอรสดาวิด>> เขาทั้งหลายก็พากันแค้นเคือง เขาทั้งหลายจึงทูลพระองค์ว่า <<ท่านไม่ได้ยินคำที่เขาร้องหรือ>> พระเยซูตรัสตอบว่า <<ได้ยินแล้ว พวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า พระองค์ทรงกระทำให้คำสรรเสริญอันจริงแท้ ออกมาจากปากเด็กและทารกที่ยังไม่หย่านม>> พระองค์ได้ทรงละจากเขา และเสด็จออกจากกรุงไปประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ครั้นเวลาเช้า ขณะเสด็จกลับไปยังกรุงอีก ก็ทรงหิวพระกระยาหาร และเมื่อทอดพระเนตรไป ทรงเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ เห็นต้นมะเดื่อนั้นไม่มีผลมีแต่ใบเท่านั้น จึงตรัสกับต้นมะเดื่อนั้นว่า <<เจ้าจงอย่าผลิผลอีกต่อไป>> ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป ครั้นเหล่าสาวกได้เห็นก็ประหลาดใจ แล้วว่า <<เป็นอย่างไรหนอต้นมะเดื่อจึงเหี่ยวแห้งไปในทันใด>> ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เพียงท่านจะมีความเชื่อและมิได้สงสัย ท่านจะกระทำได้เช่นที่เราได้กระทำแก่ต้นมะเดื่อนี้ ยิ่งกว่านั้น ถึงแม้ท่านจะสั่งภูเขานี้ว่า <จงลอยไปลงทะเล> ก็จะสำเร็จได้ สิ่งสารพัดซึ่งท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อ ท่านจะได้>> เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร ในเวลาที่ทรงสั่งสอนอยู่ พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ ทูลถามว่า <<ท่านมีสิทธิอันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้สิทธิแก่ท่าน>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราจะถามท่านทั้งหลายสักข้อหนึ่งเหมือนกัน ถ้าท่านตอบได้ เราจะบอกท่าน ว่าเรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด คือบัพติศมาของยอห์นนั้น มาจากไหน มาจากสวรรค์หรือจากมนุษย์>> เขาได้ปรึกษากันว่า <<ถ้าเราจะว่า <มาจากสวรรค์> ท่านจะถามเราว่า <เหตุไฉนจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า> แต่ถ้าเราจะว่า <มาจากมนุษย์> ก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนทั้งปวงถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ>>