มัทธิว 21:4-26

มัทธิว 21:4-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้เป็นไปตามพระวจนะที่ตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า “จงบอกชาวศิโยนว่า นี่แน่ะ กษัตริย์ของท่านกำลังเสด็จมา ด้วยความสุภาพอ่อนโยน พระองค์ทรงลา ทรงลูกลา” สาวกทั้งสองคนนั้นก็ไปทำตามที่พระเยซูตรัสสั่ง จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา แล้วเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง และพระองค์ก็ทรงลานั้น ฝูงชนจำนวนมาก เอาเสื้อผ้าของตนปูตามถนนหนทาง บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาปูตามถนน ฝูงชนที่เดินไปข้างหน้าพระองค์ กับพวกที่ตามมาข้างหลังก็โห่ร้องว่า “โฮซันนา แก่บุตรของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา ในที่สูงสุด” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ประชาชนทั่วทั้งกรุงก็พากันแตกตื่นถามว่า “นี่ใครกัน?” ฝูงชนก็ตอบว่า “นี่คือเยซูผู้เผยพระวจนะที่มาจากนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี” พระเยซูเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่พวกซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น ทรงคว่ำโต๊ะคนรับแลกเงิน และทรงคว่ำม้านั่งของคนขายนกพิราบ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “มีพระวจนะเขียนไว้ว่า ‘นิเวศของเรา เขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐาน แต่พวกท่านมาทำให้เป็นถ้ำของพวกโจร’ ” คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในบริเวณพระวิหาร และพระองค์ทรงรักษาพวกเขาให้หาย แต่เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์เห็นการอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็กร้องในบริเวณพระวิหารว่า “โฮซันนาแก่บุตรของดาวิด” พวกเขาก็ไม่พอใจ จึงทูลพระองค์ว่า “ท่านไม่ได้ยินคำที่คนพวกนี้ร้องหรือ?” พระเยซูตรัสตอบว่า “ได้ยินแล้วพวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า ‘พระองค์ทรงทำให้คำสรรเสริญออกมาจากปากเด็กและทารก ที่ยังไม่หย่านม’ ” พระองค์ทรงจากพวกเขาไป และเสด็จออกจากกรุงไปประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี พอรุ่งเช้า ขณะเสด็จกลับไปยังกรุง พระองค์ทรงหิว และเมื่อทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ และไม่ทรงพบสิ่งใดบนต้นนั้นนอกจากใบ จึงตรัสกับมะเดื่อต้นนั้นว่า “จงอย่าเกิดผลอีกต่อไป” ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป เมื่อบรรดาสาวกเห็นก็ประหลาดใจ พูดกันว่า “ต้นมะเดื่อเหี่ยวแห้งไปทันทีได้อย่างไรนะ?” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าเพียงพวกท่านมีความเชื่อและไม่ได้สงสัย ท่านไม่เพียงจะสามารถทำแบบเดียวกับที่เราทำกับต้นมะเดื่อ แต่ถ้าท่านทั้งหลายจะสั่งภูเขาลูกนี้ว่า ‘จงลอยขึ้นและเคลื่อนไปลงทะเล’ ก็จะเป็นไปตามนั้น ทุกสิ่งที่ท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อก็จะได้” พระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร และระหว่างที่ทรงสั่งสอนอยู่นั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ ทูลถามว่า “ท่านทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอะไร? ใครให้สิทธิอำนาจแก่ท่าน?” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราก็จะถามพวกท่านสักข้อหนึ่งเหมือนกัน ถ้าพวกท่านตอบเรา เราก็จะบอกท่านว่าเราทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอะไร คือบัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากไหน? มาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์?” เขาทั้งหลายปรึกษากันว่า “ถ้าเราว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาจะถามเราว่า ‘ทำไมถึงไม่เชื่อยอห์น?’ แต่ถ้าเราบอกว่า ‘มาจากมนุษย์’ ก็กลัวฝูงชน เพราะทุกคนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ”

มัทธิว 21:4-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

สิ่งนี้​เกิดขึ้น เพื่อ​ให้​เป็น​จริง​ตาม​ที่​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ได้​พูด​ไว้​ว่า “บอก​ชาว​เมือง​ศิโยน​ว่า ดู​นั่น​สิ กษัตริย์​ของ​พวก​คุณ​กำลัง​มาหา พระองค์​สุภาพ​อ่อน​โยน​และ​นั่ง​อยู่​บน​หลัง​ลา นั่ง​อยู่​บน​ลูก​ลา​น้อย​ตัวผู้​ตัว​หนึ่ง” ศิษย์​สอง​คน​นั้น​เข้า​ไป​ใน​หมู่บ้าน และ​ทำ​ตาม​ที่​พระเยซู​สั่ง พวก​เขา​จูง​แม่​ลา​และ​ลูก​ลา​มา​ให้​พระองค์ แล้ว​เอา​เสื้อคลุม​ของ​เขา​ปู​บน​หลัง​ลา​ให้​พระเยซู​นั่ง ฝูงชน​เป็น​จำนวน​มาก​พา​กัน​เอา​เสื้อคลุม​ของ​ตน​ปู​บน​ถนน บางคน​ก็​ตัด​กิ่งไม้​มา​ปู​ตาม​ท้องถนน​ให้​พระองค์​ผ่าน ฝูงชน​ที่​เดิน​นำ​หน้า​และ​ที่​เดิน​ตาม​หลัง​พระองค์ ต่าง​ก็​พา​กัน​โห่ร้อง​ว่า “ไชโย สำหรับ​บุตร​ของ​ดาวิด ขอ​พระเจ้า​อวยพร​คน​ที่​มา​ใน​นาม​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต ไชโย แด่​พระเจ้า​ผู้​ใหญ่​ยิ่ง​สูงสุด​ใน​สวรรค์” เมื่อ​พระองค์​เข้า​ไป​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม คน​ทั้ง​เมือง​ต่าง​แตก​ตื่น​ถาม​กัน​ว่า “ใคร​กัน​นี่” ฝูงชน​ก็​ตอบ​ว่า “เยซู​ไง ผู้พูดแทนพระเจ้า คน​นั้น​ที่​มา​จาก​หมู่บ้าน​นาซาเร็ธ แคว้น​กาลิลี” พระเยซู​เข้า​ไป​ใน​เขต​วิหาร และ​ไล่​คน​ที่​กำลัง​ซื้อ​และ​ขาย​ข้าวของ​กัน​อยู่​ที่​นั่น​ออก​ไป​จน​หมด พระองค์​คว่ำ​โต๊ะ​ของ​คน​รับแลก​เงิน และ​ที่​นั่ง​ของ​คน​ขาย​นก​พิราบ พระองค์​ร้อง​บอก​กับ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​ที่​นั่น​ว่า “พระคัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า ‘บ้าน​ของ​เรา​มี​ชื่อ​ว่า​เป็น​บ้าน​สำหรับ​อธิษฐาน’ แต่​พวก​เจ้า​กลับ​ทำ​ให้​มัน​เป็น​รัง​โจร” มี​คน​ตาบอด​และ​คน​ง่อย​เข้า​มาหา​พระองค์​ใน​วิหาร พระองค์​รักษา​พวก​เขา​จน​หาย เมื่อ​พวก​หัวหน้า​นักบวช​และ​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ เห็น​สิ่ง​อัศจรรย์​ต่างๆ​ที่​พระเยซู​ทำ และ​ได้ยิน​เสียง​เด็กๆ​โห่ร้อง​กัน​ใน​วิหาร​ว่า “ไชโย สำหรับ​บุตร​ของ​ดาวิด” พวก​เขา​ก็​โกรธ​แค้น​พระเยซู​มาก พวก​เขา​ถาม​พระองค์​ว่า “ได้ยิน​ที่​เด็กๆ​พวก​นั้น​โห่ร้อง​กัน​อยู่​หรือ​เปล่า” พระเยซู​ตอบ​ว่า “ได้ยิน​สิ พวก​คุณ​ไม่​เคย​อ่าน​ใน​พระคัมภีร์​หรือ​ที่​ว่า ‘พระเจ้า​ได้​สอน​เด็กๆ​และ​ทารก​ให้​ร้องเพลง​สรรเสริญ​พระองค์’” แล้ว​พระเยซู​ก็​ออก​จาก​เมือง​ไป​พัก​ค้าง​คืน​อยู่​ที่​หมู่บ้าน​เบธานี เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น ใน​ระหว่าง​ทาง​ที่​พระเยซู​กำลัง​เดิน​กลับ​เข้า​เมือง พระองค์​รู้สึก​หิว พระองค์​มอง​เห็น​ต้น​มะเดื่อ​อยู่​ริม​ทาง จึง​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้​แต่​ไม่​เห็น​มี​ลูก มี​แต่​ใบ​เท่านั้น พระองค์​พูด​กับ​ต้น​มะเดื่อ​ว่า “อย่า​ได้​ออก​ลูก​อีก​เลย” และ​ต้น​มะเดื่อ​นั้น​ก็​เหี่ยวแห้ง​ตาย​ทันที เมื่อ​พวก​ศิษย์​เห็น​ก็​แปลกใจ จึง​ถาม​พระองค์​ว่า “ทำไม​มัน​ถึง​เหี่ยวแห้ง​ตาย​เร็ว​จัง​ครับ” พระเยซู​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้ ถ้า​คุณ​เชื่อ​โดย​ไม่​สงสัย​เลย คุณ​ก็​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​เหมือน​กัน และ​จะ​ทำ​ได้​มาก​กว่า​นั้น​ด้วย แม้แต่​สั่ง​ให้​ภูเขา​ลูกนี้​ลอย​ลง​ไป​ใน​ทะเล มัน​ก็​จะ​เป็น​ไป​ตาม​นั้น ถ้า​คุณ​เชื่อ คุณ​จะ​ได้​ทุก​อย่าง​ที่​คุณ​อธิษฐาน​ขอ” พระเยซู​เข้า​ไป​ใน​วิหาร เมื่อ​พระองค์​กำลัง​สอน​อยู่​นั้น พวก​หัวหน้า​นักบวช​และ​พวก​ผู้นำ​อาวุโส เข้า​มา​ถาม​พระองค์​ว่า “แก​มี​สิทธิ์​อะไร​ไป​ไล่​พวก​พ่อค้า​นั้น ใคร​ให้​สิทธิ์นี้​กับ​แก” พระเยซู​ตอบ​ว่า “เรา​ขอ​ถาม​คุณ​เรื่อง​หนึ่ง​เหมือน​กัน ถ้า​คุณ​ตอบ​เรา แล้ว​เรา​จะ​บอก​ว่า​เรา​ใช้​สิทธิ์​ของ​ใคร​ทำ​อย่างนี้ ตอบ​หน่อย​สิ​ว่า พิธีจุ่มน้ำ​ของ​ยอห์น​มา​จาก​สวรรค์​หรือ​มา​จาก​มนุษย์” พวก​หัวหน้า​นักบวช​และ​พวก​ผู้นำ​อาวุโส​ต่าง​ก็​ปรึกษา​กัน​ว่า “ถ้า​เรา​ตอบ​ว่า ‘มา​จาก​สวรรค์’ มัน​ก็​จะ​ย้อน​ถาม​เรา​ว่า ‘แล้ว​ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​ไม่​เชื่อ​ยอห์น​ละ’ แต่​ถ้า​เรา​ตอบ​ว่า ‘มา​จาก​มนุษย์’ เรา​ก็​กลัว​ฝูงชน​จะ​โกรธ เพราะ​พวก​นั้น​ต่าง​ก็​เชื่อ​ว่า ยอห์น​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า”

มัทธิว 21:4-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้เป็นไปตามพระวจนะที่ตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า “จงบอกชาวศิโยนว่า นี่แน่ะ กษัตริย์ของท่านกำลังเสด็จมา ด้วยความสุภาพอ่อนโยน พระองค์ทรงลา ทรงลูกลา” สาวกทั้งสองคนนั้นก็ไปทำตามที่พระเยซูตรัสสั่ง จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา แล้วเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง และพระองค์ก็ทรงลานั้น ฝูงชนจำนวนมาก เอาเสื้อผ้าของตนปูตามถนนหนทาง บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาปูตามถนน ฝูงชนที่เดินไปข้างหน้าพระองค์ กับพวกที่ตามมาข้างหลังก็โห่ร้องว่า “โฮซันนา แก่บุตรของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา ในที่สูงสุด” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ประชาชนทั่วทั้งกรุงก็พากันแตกตื่นถามว่า “นี่ใครกัน?” ฝูงชนก็ตอบว่า “นี่คือเยซูผู้เผยพระวจนะที่มาจากนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี” พระเยซูเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่พวกซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น ทรงคว่ำโต๊ะคนรับแลกเงิน และทรงคว่ำม้านั่งของคนขายนกพิราบ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “มีพระวจนะเขียนไว้ว่า ‘นิเวศของเรา เขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐาน แต่พวกท่านมาทำให้เป็นถ้ำของพวกโจร’ ” คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในบริเวณพระวิหาร และพระองค์ทรงรักษาพวกเขาให้หาย แต่เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์เห็นการอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็กร้องในบริเวณพระวิหารว่า “โฮซันนาแก่บุตรของดาวิด” พวกเขาก็ไม่พอใจ จึงทูลพระองค์ว่า “ท่านไม่ได้ยินคำที่คนพวกนี้ร้องหรือ?” พระเยซูตรัสตอบว่า “ได้ยินแล้วพวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า ‘พระองค์ทรงทำให้คำสรรเสริญออกมาจากปากเด็กและทารก ที่ยังไม่หย่านม’ ” พระองค์ทรงจากพวกเขาไป และเสด็จออกจากกรุงไปประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี พอรุ่งเช้า ขณะเสด็จกลับไปยังกรุง พระองค์ทรงหิว และเมื่อทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ และไม่ทรงพบสิ่งใดบนต้นนั้นนอกจากใบ จึงตรัสกับมะเดื่อต้นนั้นว่า “จงอย่าเกิดผลอีกต่อไป” ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป เมื่อบรรดาสาวกเห็นก็ประหลาดใจ พูดกันว่า “ต้นมะเดื่อเหี่ยวแห้งไปทันทีได้อย่างไรนะ?” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าเพียงพวกท่านมีความเชื่อและไม่ได้สงสัย ท่านไม่เพียงจะสามารถทำแบบเดียวกับที่เราทำกับต้นมะเดื่อ แต่ถ้าท่านทั้งหลายจะสั่งภูเขาลูกนี้ว่า ‘จงลอยขึ้นและเคลื่อนไปลงทะเล’ ก็จะเป็นไปตามนั้น ทุกสิ่งที่ท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อก็จะได้” พระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร และระหว่างที่ทรงสั่งสอนอยู่นั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ ทูลถามว่า “ท่านทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอะไร? ใครให้สิทธิอำนาจแก่ท่าน?” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราก็จะถามพวกท่านสักข้อหนึ่งเหมือนกัน ถ้าพวกท่านตอบเรา เราก็จะบอกท่านว่าเราทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอะไร คือบัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากไหน? มาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์?” เขาทั้งหลายปรึกษากันว่า “ถ้าเราว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาจะถามเราว่า ‘ทำไมถึงไม่เชื่อยอห์น?’ แต่ถ้าเราบอกว่า ‘มาจากมนุษย์’ ก็กลัวฝูงชน เพราะทุกคนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ”

มัทธิว 21:4-26 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เหตุการณ์​ทั้งปวงนี้​เก​ิดขึ้นเพื่อจะให้พระวจนะที่ตรัสโดยศาสดาพยากรณ์สำเร็จซึ่งว่า ‘จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า ดู​เถิด กษัตริย์​ของเธอเสด็จมาหาเธอ โดยพระทั​ยอ​่อนสุ​ภาพ ทรงแม่​ลาก​ั​บลู​กของมัน’ สาวกทั้งสองคนนั้​นก​็ไปทำตามพระเยซูตรั​สส​ั่งเขาไว้ จึงจูงแม่​ลาก​ั​บลู​กของมันมา และเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง แล​้วเขาให้​พระองค์​ทรงลานั้น ฝูงชนเป็​นอ​ันมากได้เอาเสื้อผ้าของตนปูตามถนนหนทาง คนอื่นๆก็ตั​ดก​ิ่งไม้มาปูตามถนน ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้ากับผู้​ที่​ตามมาข้างหลั​งก​็​พร​้อมกันโห่ร้องว่า “โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด ‘​ขอให้​พระองค์​ผู้​เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา’ ในที่​สูงสุด​” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ประชาชนทั่​วท​ั้งกรุ​งก​็พากันแตกตื่นถามว่า “ท่านผู้​นี้​เป็นผู้​ใด​” ฝูงชนก็ตอบว่า “​นี่​คือเยซู​ศาสดาพยากรณ์​ซึ่งมาจากนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี” พระเยซู​จึงเสด็จเข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กั​บท​ั้งคว่ำที่นั่งผู้ขายนกเขาเสีย และตรัสกับเขาว่า “​มี​พระวจนะเขียนไว้​ว่า ‘นิเวศของเราเขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐาน’ แต่​เจ้​าทั้งหลายมากระทำให้​เป็น ‘ถ้ำของพวกโจร’” คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในพระวิ​หาร พระองค์​ได้​ทรงรักษาเขาให้​หาย แต่​เมื่อพวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์​ได้​เห​็นการมหัศจรรย์​ที่​พระองค์​ทรงกระทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็​กร​้องในพระวิหารว่า “โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด” เขาทั้งหลายก็พากันแค้นเคือง และจึงทูลพระองค์​ว่า “ท่านไม่​ได้​ยินคำที่เขาร้องหรือ” พระเยซู​ตรัสตอบเขาว่า “​ได้​ยินแล้ว พวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า ‘จากปากของเด็​กอ​่อนและเด็กที่ยั​งด​ูดนม ท่านก็​ได้​รับคำสรรเสริญอันจริงแท้’” พระองค์​ได้​ทรงละจากเขาและเสด็จออกจากกรุงไปประทั​บอย​ู่​ที่​หมู่​บ้านเบธานี ครั้นเวลาเช้าขณะที่​พระองค์​เสด็จกลับไปยังกรุ​งอ​ีก พระองค์​ก็​ทรงหิวพระกระยาหาร และเมื่อพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง พระองค์​ก็​ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ เห​็นต้นมะเดื่อนั้นไม่​มี​ผลมี​แต่​ใบเท่านั้น จึงตรัสกับต้นมะเดื่อนั้​นว​่า “​เจ้​าจงอย่ามีผลอีกต่อไป” ทันใดนั้นต้นมะเดื่​อก​็​เห​ี่ยวแห้งไป ครั้นเหล่าสาวกได้​เห​็​นก​็​ประหลาดใจ แล​้​วว​่า “เป็นอย่างไรหนอต้นมะเดื่อจึงเหี่ยวแห้งไปในทันใด” ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านมีความเชื่อและมิ​ได้​สงสัย ท่านจะกระทำได้เช่​นที​่เราได้กระทำแก่ต้นมะเดื่อนี้​ยิ่งกว่านั้น ถึงแม้​ท่านจะสั่งภูเขานี้​ว่า ‘จงถอยไปลงทะเล’​ก็​จะสำเร็จได้ สิ​่งสารพัดซึ่งท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อ ท่านจะได้” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในพระวิหารในเวลาที่ทรงสั่งสอนอยู่ พวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้​ใหญ่​ของประชาชนมาหาพระองค์ทูลถามว่า “ท่านมี​สิทธิ​อันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้​สิทธิ​นี้​แก่​ท่าน​” พระเยซู​ตรัสตอบเขาว่า “เราจะถามท่านทั้งหลายสักข้อหนึ่​งด​้วย ซึ่งถ้าท่านบอกเราได้ เราจะบอกท่านเหมือนกั​นว​่าเรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด คื​อบ​ัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากไหน มาจากสวรรค์หรือจากมนุษย์” เขาได้ปรึกษากั​นว​่า “ถ้าเราจะว่า ‘มาจากสวรรค์’ ท่านจะถามเราว่า ‘​เหตุ​ไฉนท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’ แต่​ถ้าเราจะว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็​กล​ัวประชาชน เพราะประชาชนทั้งปวงถือว่ายอห์นเป็นศาสดาพยากรณ์”

มัทธิว 21:4-26 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพื่อจะให้เป็นไปตามพระวจนะที่ตรัสโดยผู้เผยพระวจนะว่า จงบอกชาวศิโยนว่า กษัตริย์ของท่านเสด็จมาหาท่าน โดยพระทัยอ่อนสุภาพ ทรงลา ทรงลูกลา สาวกทั้งสองคนนั้น ก็ไปทำตามพระเยซูตรัสสั่ง จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา และเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง แล้วพระองค์ได้ทรงลานั้น ฝูงชนเป็นอันมาก ได้เอาเสื้อผ้าของตนปูตามถนนหนทาง บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาปูตามถนน ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้า กับผู้ที่ตามมาข้างหลัง ก็พร้อมกันโห่ร้องว่า <<โฮซันนา แก่ราชโอรสของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงพระเจริญ โฮซันนา ในที่สูงสุด>> เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ประชาชนทั่วทั้งกรุงก็พากันแตกตื่นถามว่า <<ใครหนอ>> ฝูงชนก็ตอบว่า <<นี่คือเยซูผู้เผยพระวจนะ ซึ่งมาจากนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี>> พระเยซูจึงเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กับทั้งคว่ำม้านั่งผู้ขายนกพิราบเสีย พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<มีพระวจนะเขียนไว้ว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่า เป็นนิเวศอธิษฐาน แต่เจ้าทั้งหลายมากระทำให้เป็น ถ้ำของพวกโจร >> คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ได้รักษาเขาให้หาย แต่เมื่อพวกปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ ได้เห็นการมหัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็กร้องในบริเวณพระวิหารว่า <<โฮซันนาแก่ราชโอรสดาวิด>> เขาทั้งหลายก็พากันแค้นเคือง เขาทั้งหลายจึงทูลพระองค์ว่า <<ท่านไม่ได้ยินคำที่เขาร้องหรือ>> พระเยซูตรัสตอบว่า <<ได้ยินแล้ว พวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า พระองค์ทรงกระทำให้คำสรรเสริญอันจริงแท้ ออกมาจากปากเด็กและทารกที่ยังไม่หย่านม>> พระองค์ได้ทรงละจากเขา และเสด็จออกจากกรุงไปประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ครั้นเวลาเช้า ขณะเสด็จกลับไปยังกรุงอีก ก็ทรงหิวพระกระยาหาร และเมื่อทอดพระเนตรไป ทรงเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ เห็นต้นมะเดื่อนั้นไม่มีผลมีแต่ใบเท่านั้น จึงตรัสกับต้นมะเดื่อนั้นว่า <<เจ้าจงอย่าผลิผลอีกต่อไป>> ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป ครั้นเหล่าสาวกได้เห็นก็ประหลาดใจ แล้วว่า <<เป็นอย่างไรหนอต้นมะเดื่อจึงเหี่ยวแห้งไปในทันใด>> ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เพียงท่านจะมีความเชื่อและมิได้สงสัย ท่านจะกระทำได้เช่นที่เราได้กระทำแก่ต้นมะเดื่อนี้ ยิ่งกว่านั้น ถึงแม้ท่านจะสั่งภูเขานี้ว่า <จงลอยไปลงทะเล> ก็จะสำเร็จได้ สิ่งสารพัดซึ่งท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อ ท่านจะได้>> เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร ในเวลาที่ทรงสั่งสอนอยู่ พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ ทูลถามว่า <<ท่านมีสิทธิอันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้สิทธิแก่ท่าน>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราจะถามท่านทั้งหลายสักข้อหนึ่งเหมือนกัน ถ้าท่านตอบได้ เราจะบอกท่าน ว่าเรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด คือบัพติศมาของยอห์นนั้น มาจากไหน มาจากสวรรค์หรือจากมนุษย์>> เขาได้ปรึกษากันว่า <<ถ้าเราจะว่า <มาจากสวรรค์> ท่านจะถามเราว่า <เหตุไฉนจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า> แต่ถ้าเราจะว่า <มาจากมนุษย์> ก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนทั้งปวงถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ>>

มัทธิว 21:4-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ทั้งนี้เป็นจริงตามที่กล่าวไว้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า “จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า ‘ดูเถิด กษัตริย์ของเจ้าเสด็จมาหาเจ้า ทรงอ่อนโยน ประทับมาบนหลังลา ทรงลูกลาเสด็จมา’ ” สาวกทั้งสองก็ไปทำตามที่พระเยซูบัญชา พวกเขานำแม่ลากับลูกลามา เอาเสื้อคลุมของตนปูบนหลังลาเหล่านั้นให้พระเยซูประทับ ฝูงชนเป็นอันมากเอาเสื้อคลุมปูบนทาง บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาปูบนถนน ฝูงชนทั้งที่นำเสด็จและตามเสด็จโห่ร้อง ว่า “โฮซันนาแด่บุตรดาวิด! “สรรเสริญพระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า!” “โฮซันนาในที่สูงสุด!” เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าสู่เยรูซาเล็ม ทั่วทั้งกรุงแตกตื่นถามกันว่า “คนนี้คือใคร?” ประชาชนตอบว่า “นี่คือพระเยซู ผู้เผยพระวจนะจากนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลี” พระเยซูเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารและทรงขับไล่บรรดาผู้ที่ซื้อขายของกันที่นั่น ทรงคว่ำโต๊ะของผู้รับแลกเงินและม้านั่งของคนขายนกพิราบ พระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘นิเวศของเราจะได้ชื่อว่านิเวศแห่งการอธิษฐาน’ แต่พวกเจ้ามาทำให้กลายเป็น ‘ซ่องโจร’” คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเข้าเฝ้าพระเยซูที่พระวิหารและพระองค์ทรงรักษาพวกเขา แต่เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตและธรรมาจารย์เห็นการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงกระทำและที่พวกเด็กๆ ร้องตะโกนในเขตพระวิหารว่า “โฮซันนาแด่บุตรดาวิด” ก็พากันไม่พอใจ พวกเขาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านไม่ได้ยินสิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้กำลังพูดกันหรือ?” พระเยซูตรัสว่า “ได้ยินสิ พวกท่านไม่เคยอ่านพบบ้างหรือ? ที่ว่า “ ‘พระองค์ทรงสถาปนาคำสรรเสริญ จากริมฝีปากของเด็กและทารก’” แล้วพระองค์ทรงละจากพวกเขาเสด็จออกจากกรุงไปยังหมู่บ้านเบธานีและประทับแรมที่นั่น ตอนเช้าขณะกำลังเสด็จกลับมาที่กรุงอีก พระองค์ทรงหิว เมื่อทรงเห็นต้นมะเดื่ออยู่ริมทางก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ แต่พบว่ามะเดื่อต้นนั้นมีแต่ใบไม่มีผลจึงตรัสว่า “เจ้าอย่าได้ออกผลอีกเลย!” ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวเฉาไป เมื่อเหล่าสาวกเห็นเช่นนั้นก็ประหลาดใจแล้วพูดว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่ต้นมะเดื่อเหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าหากท่านมีความเชื่อและไม่สงสัย ท่านไม่เพียงแต่สามารถทำสิ่งที่เกิดขึ้นกับมะเดื่อต้นนี้ แต่ท่านยังสามารถสั่งภูเขาลูกนี้ว่า ‘จงทิ้งตัวลงทะเลไป’ แล้วก็จะเป็นเช่นนั้น ถ้าท่านเชื่อ ท่านก็จะได้รับทุกอย่างตามที่อธิษฐานขอ” พระเยซูเสด็จเข้าไปในลานพระวิหาร ขณะทรงสั่งสอนอยู่ พวกหัวหน้าปุโรหิตและผู้อาวุโสในหมู่ประชาชนมาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านทำสิ่งเหล่านี้โดยอาศัยสิทธิอำนาจใด? และใครให้สิทธิอำนาจนี้แก่ท่าน?” พระเยซูตรัสว่า “เราจะถามท่านข้อหนึ่งเช่นกัน ถ้าท่านตอบเรา เราก็จะบอกว่าเราอาศัยสิทธิอำนาจใดที่ทำสิ่งเหล่านี้ คือบัพติศมาของยอห์นมาจากไหน? จากสวรรค์หรือจากมนุษย์?” พวกเขาหารือกันว่า “ถ้าตอบว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำไมท่านไม่เชื่อยอห์น?’ แต่ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวประชาชนเพราะพวกเขาล้วนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ”

มัทธิว 21:4-26 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เหตุการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​นี้ ก็​เพื่อ​เป็นไป​ตามที่​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​กล่าวไว้​ว่า “จง​บอก​ธิดา​แห่ง​ศิโยน​ว่า ‘ดู​เถิด กษัตริย์​ของ​เจ้า​กำลัง​มา​หา​เจ้า เป็น​ผู้​ที่​อ่อนโยน ขี่​ลา​มา บน​ลูก​ลา ลา​หนุ่ม’” ครั้น​แล้ว​เหล่า​สาวก​ก็​ไป​ทำ​ตาม​ที่​พระ​เยซู​สั่ง​ไว้ คือ​ไป​นำ​ลา​และ​ลูก​ลา​มา ปู​เสื้อ​ตัวนอก​บน​หลัง​ลา​ทั้ง​สอง​ตัว และ​พระ​องค์​นั่ง​บน​เสื้อ​ที่​ปู​ไว้ ฝูง​ชน​ส่วนใหญ่​ปู​เสื้อ​ตัว​นอก​บน​ถนน บ้าง​ก็​ตัด​กิ่ง​ไม้​ปู​บน​ถนน ฝูง​ชน​พา​กัน​เดิน​ไป​ข้าง​หน้า​พระ​องค์ คน​ที่​เดิน​ตาม​ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “โฮซันนา​แด่​บุตร​ของ​ดาวิด ‘ขอให้​พระ​องค์​ผู้​มา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จง​เป็น​สุข​เถิด’ โฮซันนา​ใน​ที่​สูง​สุด” เมื่อ​พระ​องค์​ได้​เข้า​ไป​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​แล้ว คน​ทั้ง​เมือง​ก็​พา​กัน​แตกตื่น​พูด​ว่า “ผู้นี้​เป็น​ใคร” ฝูง​ชน​พูดกัน​ว่า “นี่​คือ​เยซู ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ​ใน​แคว้น​กาลิลี” พระ​เยซู​เข้า​ไป​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร ขับ​ไล่​พวก​ที่​เข้า​มา​ซื้อ​ขาย​ให้​ออก​ไป​จาก​พระ​วิหาร พระ​องค์​คว่ำ​โต๊ะ​ของ​พวก​คน​แลก​เปลี่ยน​เงินตรา และ​ที่​นั่ง​ของ​คน​ขาย​นก​พิราบ พระ​องค์​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “มี​บันทึก​ไว้​ว่า ‘ตำหนัก​ของ​เรา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า ตำหนัก​อธิษฐาน’ แต่​พวก​ท่าน​ทำ​ให้​กลาย​เป็น ‘ถ้ำ​โจร’” บรรดา​คน​ตาบอด​และ​คน​ง่อย​มาหา​พระ​องค์​ที่​พระ​วิหาร และ​พระ​องค์​รักษา​โรค​ของ​พวก​เขา​ให้​หายขาด เมื่อ​พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ​เห็น​สิ่ง​มหัศจรรย์​ที่​พระ​องค์​ได้​กระทำ และ​เด็กๆ ร้อง​กัน​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร​ว่า “โฮซันนา​แด่​บุตร​ของ​ดาวิด” พวก​เขา​ก็​ยิ่ง​โกรธ​มาก​ขึ้น พวก​เขา​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​ได้ยิน​ไหม​ว่า​เขา​เหล่า​นี้​พูด​อะไร” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “ได้ยิน ท่าน​ไม่​เคย​อ่าน​หรือ​ว่า ‘พระ​องค์​กระทำ​ให้​คำ​สรรเสริญ​ออก​จาก​ปาก​เด็ก และ​ทารก​ที่​ยัง​ไม่​หย่า​นม’” พระ​องค์​จาก​พวก​เขา​ไป โดย​ออกไป​จาก​เมือง​นั้น​ไป​ถึง​หมู่​บ้าน​เบธานี​และ​พัก​แรม​อยู่​ที่​นั่น ใน​เวลา​เช้าตรู่ ขณะที่​พระ​องค์​กำลัง​กลับ​เข้าไป​ใน​เมือง​ก็​เกิด​หิว ครั้น​แล​เห็น​ต้น​มะเดื่อ​ต้น​หนึ่ง​ที่​ข้าง​ถนน พระ​องค์​จึง​เดิน​เข้าไป​ใกล้​แต่​ไม่​เห็น​ผล​มะเดื่อ มี​แต่​ใบ​เท่า​นั้น พระ​องค์​จึง​พูด​กับ​ต้น​นั้น​ว่า “เจ้า​จะ​ไม่​มี​ผล​อีก​ต่อ​ไป” แล้ว​ต้น​มะเดื่อ​ก็​เหี่ยวแห้ง​ไป​ทันที เหล่า​สาวก​อัศจรรย์ใจ​เมื่อ​เห็น​ดังนั้น จึง​พูด​ว่า “ต้น​มะเดื่อ​เหี่ยวแห้ง​ทันที​ได้​อย่างไร” พระ​เยซู​กล่าว​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า ถ้า​เจ้า​มี​ความ​เชื่อ​โดย​ไม่​สงสัย​เลย ไม่​เพียงแต่​เจ้า​สามารถ​ทำ​ต่อ​ต้น​มะเดื่อ​ดังที่​เรา​ทำ แต่​แม้​เจ้า​จะ​พูด​กับ​ภูเขา​นี้​ว่า ‘จง​เคลื่อน​ลงไป​ใน​ทะเล’ มัน​ก็​จะ​เป็นไป​ตาม​นั้น และ​ไม่ว่า​เจ้า​จะ​อธิษฐาน​ขอ​สิ่งใด​ด้วย​ความ​เชื่อ เจ้า​จะ​ได้รับ​สิ่ง​นั้น” เมื่อ​พระ​องค์​เข้าไป​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​พวก​ผู้ใหญ่​ของ​ประชาชน​ก็​มาหา​พระ​องค์ ขณะที่​พระ​องค์​กำลัง​สั่งสอน​อยู่ พวก​เขา​พูด​ว่า “ท่าน​กระทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ด้วย​สิทธิ​อำนาจ​อันใด และ​ใคร​ให้​สิทธิ​อำนาจ​นี้​แก่​ท่าน” พระ​เยซู​กล่าว​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “เรา​จะ​ถาม​ท่าน​อย่าง​หนึ่ง​ด้วย ถ้า​ท่าน​บอก​เรา เรา​ก็​จะ​บอก​ท่าน​เช่น​กัน​ว่า​เรา​กระทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ด้วย​สิทธิ​อำนาจ​อันใด บัพติศมา​ของ​ยอห์น​มา​จาก​ไหน จาก​สวรรค์​หรือ​จาก​มนุษย์” เขา​เหล่า​นั้น​จึง​เริ่ม​ถาม​หา​เหตุผล​กัน​เอง​ว่า “ถ้า​พวก​เรา​พูด​ว่า ‘มา​จาก​สวรรค์’ เขา​ก็​จะ​พูด​ว่า ‘แล้ว​ทำไม​ท่าน​จึง​ไม่​เชื่อ​เขา’ แต่​ถ้า​พวก​เรา​พูด​ว่า ‘มา​จาก​มนุษย์’ เรา​ก็​กลัว​ฝูง​ชน เพราะ​ทุก​คน​ถือ​ว่า​ยอห์น​เป็น​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า”

มัทธิว 21:4-26

มัทธิว 21:4-26 THSV11