ถ้าผิวหนังตรงที่ป่วยนั้นขาว และปรากฏว่ากินไม่ลึกไปกว่า ผิวหนังและขนในบริเวณนั้นก็ไม่หงอก ให้ปุโรหิตกักตัวผู้ป่วยไว้เจ็ดวัน และให้ปุโรหิตตรวจเขาอีกในวันที่เจ็ด ถ้าตามสายตาของเขาเห็นว่า โรคนั้นทรงอยู่ไม่ลามออกไปในผิวหนัง ก็ให้ปุโรหิตกักตัวเขาต่อไปอีกเจ็ดวัน พอถึงวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจเขาอีกครั้งหนึ่ง ถ้าบริเวณที่ป่วยนั้นจางลง และโรคมิได้ลามออกไปในผิวหนัง ก็ให้ปุโรหิตประกาศว่า เขาสะอาดแล้ว เขาเป็นโรคพุเท่านั้น ให้เขาซักเสื้อผ้าแล้วเขาก็จะสะอาดได้ แต่ถ้าหากว่าภายหลังจากที่เขาสำแดง ตัวแก่ปุโรหิตเพื่อรับการชำระแล้วนั้น ปรากฏว่าบริเวณที่พุลามออกไปในผิวหนัง เขาต้องกลับไปหาปุโรหิตอีก ให้ปุโรหิตทำการตรวจ ถ้าบริเวณพุลามออกไปในผิวหนัง ก็ให้ปุโรหิตประกาศว่า เขาเป็นมลทิน เขาเป็นโรคเรื้อน <<ถ้าผู้ใดเป็นโรคเรื้อนก็ให้พาเขามาหาปุโรหิต และให้ปุโรหิตตรวจดูตัวเขา ถ้ามีบริเวณบวมสีขาวเกิดขึ้นที่ผิวหนัง ซึ่งทำให้ขนที่นั่นหงอก และมีเนื้อแผลสดในที่ที่บวมนั้น แสดงว่าเป็นโรคเรื้อนเรื้อรังที่ผิวหนัง ให้ปุโรหิตประกาศว่าเขามลทิน อย่ากักตัวเขาไว้ เพราะว่าเขาเป็นมลทิน
อ่าน เลวีนิติ 13
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: เลวีนิติ 13:4-11
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ