ปฐมกาล 30:1-43

ปฐมกาล 30:1-43 TH1971

เมื่อนางราเชลเห็นว่าตนไม่มีบุตรกับยาโคบ ก็อิจฉาพี่สาว นางพูดกับยาโคบว่า <<ขอให้ฉันมีบุตรด้วยหาไม่ฉันจะตาย>> ยาโคบโกรธนางราเชลจึงว่า <<เราเป็นเหมือนพระเจ้าผู้ไม่ให้เจ้ามีบุตรหรือ>> นางจึงบอกว่า <<บิลฮาห์สาวใช้ของฉันอยู่นี่ จงเข้าไปหาเขาเถิด เขาจะได้มีบุตรเลี้ยงไว้ที่ตักของฉัน ฉันจะได้มีบุตรด้วยอาศัยหญิงคนนี้>> นางจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ ยาโคบก็เข้าไปหานาง บิลฮาห์ก็ตั้งครรภ์กับยาโคบและมีบุตรชาย นางราเชลว่า <<พระเจ้าผู้ทรงตัดสินเรื่องข้าพเจ้า ได้ทรงสดับฟังเสียงข้าพเจ้าทูลจึงประทานบุตรชายแก่ข้าพเจ้า>> เหตุฉะนี้นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ดาน บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ นางราเชลจึงว่า <<ข้าพเจ้าปล้ำสู้ กับพี่สาวของข้าพเจ้าเสียใหญ่โต และข้าพเจ้าได้ชัยชนะแล้ว>> นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี เมื่อนางเลอาห์เห็นว่าตนหยุดคลอดบุตร จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตน ให้เป็นภรรยาของยาโคบ ศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็มีบุตรชายให้แก่ยาโคบ นางเลอาห์ว่า <<โชคดีจริงๆ>> จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า กาด แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็คลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ เลอาห์ก็ว่า <<ข้าพเจ้ามีความสุข เพราะพวกสตรีจะเรียกข้าพเจ้าว่า เป็นสุข>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์ ในฤดูเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่นาพบมะเขือดูดาอิม จึงเก็บผลมาให้นางเลอาห์มารดา ราเชลจึงพูดกับเลอาห์ว่า <<ขอมะเขือดูดาอิมของบุตรชายของพี่ให้ฉันบ้าง>> นางเลอาห์ตอบว่า <<ที่น้องแย่งสามีของฉันไปแล้วนั้นยังน้อยไปหรือ จึงจะมาเอามะเขือดูดาอิมของบุตรชายฉันด้วย>> ราเชลตอบว่า <<ถ้าให้มะเขือดูดาอิมของบุตรชายแก่ฉัน คืนวันนี้ฉันจะให้สามีไปนอนกับพี่>> ครั้นยาโคบกลับมาจากนาเวลาเย็น นางเลอาห์ก็ออกไปต้อนรับบอกว่า <<เข้ามาหาฉันเถิด เพราะฉันให้มะเขือดูดาอิมของบุตรเป็นสินจ้างท่านแล้ว>> คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง พระเจ้าทรงสดับฟังนางเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์ และให้บุตรชายคนที่ห้าแก่ยาโคบ ฝ่ายนางเลอาห์ว่า <<พระเจ้าทรงประทานสินจ้าง นั้นให้แก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ายกหญิงคนใช้ให้สามี>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อิสสาคาร์ ต่อไปเลอาห์ก็ตั้งครรภ์อีก และให้บุตรชายคนที่หกแก่ยาโคบ แล้วนางเลอาห์จึงว่า พระเจ้าทรงประทานของดีให้ข้าพเจ้า บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เศบูลุน ต่อมาภายหลังนางก็มีบุตรีคนหนึ่ง ตั้งชื่อว่าดีนาห์ พระเจ้าทรงระลึกถึงและสดับฟังราเชล ทรงให้นางหายเป็นหมัน นางก็ตั้งครรภ์มีบุตรชาย นางจึงกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงโปรดยกความอดสูของข้าพเจ้าไปแล้ว>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า โยเซฟ กล่าวว่า <<ขอพระเจ้าทรงโปรดเพิ่มบุตรชายอีกคนหนึ่งให้ข้าพเจ้า>> เมื่อนางราเชลคลอดโยเซฟแล้ว ยาโคบก็พูดกับลาบันว่า <<ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปบ้านเกิดเมืองบิดรเถิด ข้าพเจ้าทำงานเพื่อได้ภรรยาและบุตรแล้ว ขอมอบภรรยากับบุตรให้ข้าพเจ้าพาไป เพราะท่านรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับใช้ท่านเสร็จแล้ว>> แต่ลาบันตอบว่า <<ถ้าเป็นที่พอใจเจ้า ลุงสังเกตเหตุการณ์ก็รู้ว่า พระเจ้าได้ทรงอวยพรเราเพราะเจ้า เจ้าจะเรียกค่าจ้างเท่าไรก็บอกมาเถิดลุงจะให้>> ยาโคบตอบว่า <<ฉันรับใช้ลุงอย่างไร และสัตว์ของลุงอยู่กับฉันดีอย่างไร ลุงก็ทราบอยู่แล้ว เพราะว่าก่อนฉันมานั้นลุงมีแต่น้อย แต่บัดนี้ก็มีทวีขึ้นเป็นอันมาก ฉันจะก้าวไปทางไหน พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่ลุง ทีนี้ฉันจะบำรุงครอบครัวของตนเองเมื่อไรได้เล่า>> ลาบันจึงถามว่า <<ลุงควรจะให้อะไรเจ้า>> ยาโคบตอบว่า <<ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันดอก แต่หากว่าลุงตกลง ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป คือวันนี้ฉันจะไปตรวจดูฝูงสัตว์ของลุงทั้งฝูง ฉันจะคัดแกะที่มีจุดและแกะด่างทุกตัวออกจากฝูง และคัดแกะดำออกทุกตัวจากฝูงแกะ และแพะด่างกับแพะที่มีจุดออกจากฝูงแพะ ให้สัตว์เหล่านี้เป็นค่าจ้างของฉัน ความซื่อตรงของฉันในการคัดแพะแกะจะปรากฏในภายหน้า คือเมื่อลุงมาตรวจดูค่าจ้างของฉัน ถ้าพบตัวไม่มีจุดและที่ไม่ด่างอยู่ในฝูงแกะ หรือตัวที่ไม่ดำในฝูงลูกแกะก็ให้ถือเสียว่า ฉันยักยอกสัตว์เหล่านี้มา>> ลาบันจึงตอบว่า <<ดีแล้ว ตกลงตามที่เจ้าพูดนั้นเถิด>> วันนั้นลาบันก็คัดแพะตัวผู้ที่ลายและที่ด่าง และแพะตัวเมียที่มีจุดและที่ด่าง แพะขาวทั้งหมด และลูกแกะดำทั้งหมด มามอบให้บุตรชายของเขาเลี้ยง เขาแยกสัตว์ออกไปทั้งหมดห่างจากยาโคบเป็นระยะทางสามวัน สัตว์ของลาบันที่เหลืออยู่นั้นยาโคบก็เลี้ยงไว้ ยาโคบเอากิ่งไม้สดจากต้นไค้ ต้นเสลา และต้นเปลน มาปอกเปลือกออกเป็นรอยขาวๆ ให้เห็นไม้สีขาว เขาวางไม้ที่ปอกเปลือกไว้ในร่องตรงหน้าฝูงสัตว์ คือในรางน้ำที่ฝูงสัตว์มากินน้ำ เมื่อมันมากินน้ำ มันก็อยากติดสัด ฝูงสัตว์ก็สมจรกันที่ไม้นั้น ดังนั้นฝูงสัตว์จึงมีลูกที่ลายมีจุดและด่าง ยาโคบก็แยกลูกแกะออกจากฝูง ให้ฝูงนั้นอยู่ตรงหน้าแกะลาย และแกะดำทุกตัวในฝูงของลาบัน แต่ฝูงสัตว์ของตนนั้นอยู่ต่างหาก ไม่ให้ปะปนกับฝูงสัตว์ของลาบัน อยู่มาเมื่อสัตว์ที่แข็งแรงในฝูงจะสมจร ยาโคบก็จัดไม้วางไว้ที่รางน้ำให้ฝูงสัตว์เห็น เพื่อให้มันสมจรกันกลางไม้นั้น ฝ่ายสัตว์ที่อ่อนแอ ยาโคบก็ไม่ใส่ไม้นั้นไว้ เหตุฉะนั้นสัตว์ที่อ่อนแอจึงตกเป็นของลาบัน แต่สัตว์ที่แข็งแรงเป็นของยาโคบ ยาโคบก็มั่งมีมากขึ้น มีฝูงแพะแกะฝูงใหญ่ คนใช้ชายหญิง และฝูงอูฐฝูงลา

วิดีโอสำหรับ ปฐมกาล 30:1-43