ปฐมกาล 30:1-43
ปฐมกาล 30:1-43 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เมื่อราเชลเห็นว่านางไม่มีบุตรกับยาโคบ ก็อิจฉาพี่สาว นางพูดกับยาโคบว่า “ขอให้ฉันมีบุตรด้วยหาไม่ฉันจะตาย” ยาโคบโกรธราเชลจึงว่า “ฉันเองเป็นเหมือนพระเจ้าผู้ไม่ให้เธอมีบุตรหรือ?” นางจึงบอกว่า “บิลฮาห์สาวใช้ของฉันอยู่นี่ จงเข้าไปหานางเถิด นางจะได้มีบุตรไว้ที่ตักของฉัน ฉันจะได้มีบุตรด้วยจากหญิงคนนี้” นางจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของนางให้เป็นภรรยาของยาโคบ ยาโคบก็เข้าไปหานาง บิลฮาห์ก็ตั้งครรภ์กับยาโคบและมีบุตรชายคนหนึ่ง ราเชลว่า “พระเจ้าทรงตัดสินเรื่องของฉัน และทรงฟังเสียงร้องทูลของฉัน จึงประทานบุตรชายคนหนึ่งแก่ฉัน” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ดาน บิลฮาห์สาวใช้ของราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ ราเชลจึงว่า “ด้วยการปล้ำสู้อย่างหนัก ฉันได้ปล้ำสู้กับพี่สาวของฉัน และฉันได้ชัยชนะแล้ว” นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี เมื่อเลอาห์เห็นว่านางหยุดคลอดบุตร จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของนาง ให้เป็นภรรยาของยาโคบ ศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็มีบุตรชายให้แก่ยาโคบ เลอาห์ว่า “โชคดีจริงๆ” จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า กาด แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็คลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ เลอาห์ก็ว่า “ฉันมีความสุข เพราะพวกสตรีจะเรียกฉันว่า เป็นสุข” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์ ในฤดูเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่นาพบต้นดูดาอิมจึงเก็บผลมาให้เลอาห์มารดาของเขา ราเชลจึงพูดกับเลอาห์ว่า “ขอผลดูดาอิมของลูกชายพี่ให้ฉันบ้าง” เลอาห์ตอบว่า “ที่น้องแย่งสามีของฉันไปแล้วนั้นยังน้อยไปหรือ? จึงจะมาเอาผลดูดาอิมของลูกชายฉันด้วย” ราเชลตอบว่า “เอาอย่างนี้ ยาโคบจะไปนอนกับพี่คืนนี้เพื่อแลกกับผลดูดาอิมของลูกชายพี่” เมื่อยาโคบกลับมาจากนาเวลาเย็น เลอาห์ก็ออกไปหาบอกว่า “เข้ามาหาฉันเถิด เพราะฉันให้ผลดูดาอิมของลูกชายฉันเป็นสินจ้างท่านแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง พระเจ้าทรงฟังเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์ และให้บุตรชายคนที่ห้าแก่ยาโคบ ฝ่ายเลอาห์ว่า “พระเจ้าประทานสินจ้างนั้นให้แก่ฉัน เพราะฉันยกหญิงคนใช้ให้สามี” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อิสสาคาร์ ต่อไปเลอาห์ก็ตั้งครรภ์อีก และให้บุตรชายคนที่หกแก่ยาโคบ แล้วเลอาห์จึงว่า “พระเจ้าประทานของดีให้ฉัน บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติฉัน เพราะฉันได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เศบูลุน ต่อมาภายหลังนางก็มีบุตรหญิงคนหนึ่ง ตั้งชื่อว่าดีนาห์ พระเจ้าทรงระลึกถึงและทรงฟังราเชล ทรงให้นางมีบุตร นางก็ตั้งครรภ์มีบุตรชาย นางจึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงยกความอดสูของฉันไปแล้ว” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า โยเซฟ กล่าวว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงเพิ่มบุตรชายอีกคนหนึ่งให้ฉัน” เมื่อนางราเชลคลอดโยเซฟแล้ว ยาโคบก็พูดกับลาบันว่า “ขอให้ฉันกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของฉันเถิด ฉันทำงานเพื่อได้ภรรยาและบุตรแล้ว ขอมอบภรรยากับบุตรให้ฉันพาไป เพราะลุงรู้ว่างานที่ฉันได้รับใช้ลุงเสร็จแล้ว” แต่ลาบันตอบว่า “อยู่ต่อเถิด ถ้าเจ้าจะช่วยลุง ลุงหยั่งรู้เหตุการณ์ได้ว่า พระยาห์เวห์ทรงอวยพรลุงเพราะเจ้า เจ้าจะเรียกค่าจ้างลุงเท่าไรลุงจะให้” ยาโคบตอบว่า “ลุงทราบอยู่ว่า ฉันรับใช้ลุงอย่างไร และฝูงปศุสัตว์ของลุงอยู่กับฉันอย่างไร เพราะว่าก่อนฉันมานั้นลุงมีแต่น้อย แต่บัดนี้ก็มีทวีขึ้นเป็นอันมาก ฉันจะก้าวไปทางไหน พระยาห์เวห์ทรงอวยพรลุง ทีนี้เมื่อไรฉันจะทำอะไรสำหรับตนเองและครอบครัวได้เล่า?” ลาบันจึงถามว่า “ลุงควรจะให้อะไรเจ้า?” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรฉัน แต่ถ้าลุงทำสิ่งนี้ให้ฉัน ฉันก็จะกลับไปเลี้ยงและดูแลสัตว์ของลุงต่อ คือวันนี้ฉันจะไปตรวจดูฝูงสัตว์ของลุงทั้งหมด ฉันจะคัดแกะที่มีจุดและแกะด่างทุกตัวออกจากฝูง และคัดแกะดำทุกตัวออกจากฝูงแกะ และแพะด่างกับแพะที่มีจุดออกจากฝูงแพะ ให้สัตว์เหล่านี้เป็นค่าจ้างของฉัน ความซื่อตรงของฉันจะปรากฏในภายหน้า คือเมื่อลุงมาดูค่าจ้างของฉัน ถ้าพบตัวไม่มีจุดและที่ไม่ด่างอยู่ในฝูงแกะ หรือตัวที่ไม่ดำในฝูงลูกแกะก็ให้ถือเสียว่าฉันขโมยสัตว์เหล่านี้มา” ลาบันจึงตอบว่า “ดีแล้ว ให้เป็นไปตามที่เจ้าพูดนั้น” วันนั้นลาบันก็แยกแพะตัวผู้ที่ลายด่างและมีจุด และแพะตัวเมียที่มีจุดและที่ด่างทุกตัวออกไป ส่วนทั้งหมดที่มีสีขาว และทั้งหมดที่มีสีดำในฝูงแพะแกะ เขามอบให้บุตรชายของเขาเลี้ยง เขาจัดระยะห่างระหว่างเขาและยาโคบเป็นระยะทางการเดินทางสามวัน และยาโคบก็เลี้ยงสัตว์ของลาบันที่เหลือนั้น ยาโคบเอากิ่งไม้สดจากต้นกำยาน ต้นอัลมอนด์ และต้นปอตูบหูช้างมาปอกเปลือกออกเป็นรอยขาวๆ ให้เห็นไม้สีขาว เขาวางไม้ที่ปอกเปลือกไว้ในร่องตรงหน้าฝูงสัตว์ คือในรางน้ำที่ฝูงสัตว์มากินน้ำ เมื่อมันมากินน้ำ มันก็อยากติดสัด ฝูงสัตว์ก็ผสมพันธุ์กันที่ไม้นั้น ดังนั้นฝูงสัตว์จึงมีลูกที่มีลาย มีด่าง มีจุด ยาโคบก็แยกลูกแกะออกจากฝูง ให้ฝูงนั้นอยู่ตรงหน้าแกะลายและแกะดำทุกตัวในฝูงของลาบัน แต่ฝูงสัตว์ของเขานั้นอยู่ต่างหากไม่ให้ปะปนกับฝูงสัตว์ของลาบัน อยู่มาเมื่อสัตว์ที่แข็งแรงในฝูงจะผสมพันธุ์ ยาโคบก็จัดไม้วางไว้ที่รางน้ำให้ฝูงสัตว์เห็น เพื่อให้มันผสมพันธุ์กันกลางไม้นั้น แต่เมื่อมีสัตว์ที่อ่อนแอ ยาโคบก็ไม่ใส่ไม้นั้นไว้ ดังนั้นสัตว์ที่อ่อนแอจึงตกเป็นของลาบัน แต่สัตว์ที่แข็งแรงเป็นของยาโคบ ยาโคบก็มั่งมียิ่งขึ้น มีฝูงแพะแกะมากมาย คนใช้ชายหญิง และฝูงอูฐฝูงลา
ปฐมกาล 30:1-43 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อราเชลเห็นว่านางไม่สามารถมีลูกให้กับยาโคบได้ ราเชลก็เริ่มอิจฉาพี่สาว นางจึงพูดกับยาโคบว่า “ให้ฉันมีลูกบ้างสิ ไม่อย่างนั้นฉันขอตายดีกว่า” ยาโคบจึงโกรธราเชล แล้วพูดว่า “พี่ไม่ใช่พระเจ้า พระองค์ต่างหากที่ทำให้น้องไม่มีลูก” แล้วนางพูดว่า “นี่สาวใช้ของฉัน บิลฮาห์ พี่เข้าไปนอนกับนางก็แล้วกัน เพื่อว่านางจะได้มีลูกให้กับฉัน และฉันจะได้สร้างครอบครัวของฉันผ่านทางนาง” แล้วนางราเชลจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของนางให้เป็นเมียของยาโคบ แล้วยาโคบเข้าไปร่วมหลับนอนกับนาง บิลฮาห์ก็ตั้งท้องและคลอดลูกชายให้กับยาโคบ ราเชลพูดว่า “พระเจ้าตัดสินเข้าข้างฉัน และพระองค์ก็ได้ยินเสียงฉันด้วย พระองค์ได้ให้ลูกชายกับฉันหนึ่งคน” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่าดาน แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่สองให้กับยาโคบ ราเชลพูดว่า “ฉันได้ต่อสู้อย่างหนักกับพี่สาวของฉัน และฉันก็ชนะ” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่านัฟทาลี เมื่อเลอาห์เห็นว่านางไม่มีลูกแล้ว นางจึงยกสาวใช้ของนาง ชื่อศิลปาห์ให้เป็นเมียยาโคบ แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ได้คลอดลูกชายให้กับยาโคบ เลอาห์พูดว่า “โชคดีจริงๆ” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ากาด แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็คลอดลูกชายคนที่สองให้กับยาโคบ เลอาห์พูดว่า “ฉันได้รับเกียรติจริงๆ” เพราะพวกผู้หญิงจะต้องพูดว่า “ฉันมีเกียรติ” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอาเชอร์ ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนได้ออกไปในทุ่งนาและเจอต้นแมนเดร็ก เขาจึงเอาพวกมันกลับมาให้เลอาห์แม่ของเขา แล้วราเชลก็พูดกับเลอาห์ว่า “ขอแบ่งต้นแมนเดร็กของลูกชายพี่ให้กับฉันบ้างสิ” แต่เลอาห์ตอบราเชลว่า “เธอแย่งสามีฉันไป นี่ยังจะมาเอาต้นแมนเดร็กของลูกชายฉันไปอีกหรือ” แล้วราเชลพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้เขามานอนกับพี่คืนนี้ เพื่อแลกกับต้นแมนเดร็กของลูกพี่” เมื่อยาโคบกลับมาจากท้องทุ่งในตอนเย็น เลอาห์ออกไปพบเขาแล้วพูดว่า “คืนนี้พี่ต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันได้จ่ายค่าจ้างให้กับพี่แล้วด้วยต้นแมนเดร็กของลูกชายฉัน” ยาโคบจึงไปร่วมหลับนอนกับนางในคืนนั้น พระยาห์เวห์ได้ตอบคำอธิษฐานของเลอาห์ นางจึงตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่ห้า นางพูดว่า “พระเจ้าได้ให้บำเหน็จกับฉัน เพราะฉันได้ยกสาวใช้ของฉันให้กับสามีฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอิสสาคาร์ แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่หกให้ยาโคบ นางพูดว่า “พระองค์ได้ให้ของขวัญที่ดีกับฉัน คราวนี้สามีฉันจะต้องให้เกียรติกับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายให้กับเขาถึงหกคน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าเศบูลุน ต่อมาเลอาห์ก็คลอดลูกสาว และตั้งชื่อเธอว่าดีนาห์ แล้วพระเจ้าก็ได้ระลึกถึงราเชล และตอบคำอธิษฐานของนาง และพระองค์ทำให้นางสามารถมีลูกได้ แล้วราเชลก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางพูดว่า “พระเจ้าได้เอาความอับอายขายหน้าของฉันไปแล้ว” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่าโยเซฟ นางพูดว่า “ขอพระยาห์เวห์เพิ่มลูกชายให้กับฉันอีกหนึ่งคน” เมื่อราเชลคลอดโยเซฟแล้ว ยาโคบพูดกับลาบันว่า “ขออนุญาตให้ผมกลับไปบ้านเกิดของผมด้วย ขอพวกเมียๆและลูกๆของผมด้วย ผมได้ทำงานชดใช้ให้กับลุงแล้วสำหรับพวกเขา ขอยกพวกเขาให้กับผมเถอะ แล้วผมจะได้ไป ลุงก็รู้อยู่แล้วว่าผมได้ทำงานหนักแค่ไหนให้กับลุง” แล้วลาบันจึงพูดกับยาโคบว่า “ขอให้ลุงพูดอะไรหน่อยได้ไหม ที่พระยาห์เวห์อวยพรให้ลุงร่ำรวยขึ้นมานี้ เป็นเพราะหลานอยู่กับลุง” แล้วลาบันพูดว่า “บอกลุงมาเถอะ เจ้าจะให้จ่ายค่าแรงยังไง แล้วลุงจะจ่ายให้” ยาโคบตอบว่า “ลุงก็รู้ว่า ผมทำงานหนักแค่ไหนให้กับลุง และลุงก็รู้ว่าผมเอาใจใส่ดูแลฝูงสัตว์ของลุงดีขนาดไหน ก่อนผมมา ลุงมีแค่ฝูงสัตว์เล็กๆ แต่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่ว่าผมจะหันไปทางไหนก็ตามพระยาห์เวห์ก็ได้อวยพรให้กับลุง แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องทำงานสร้างครอบครัวของผมเอง” ลาบันพูดว่า “แล้วลุงควรจะให้อะไรกับเจ้าดี” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรกับผมเลย ถ้าลุงยอมทำอย่างนี้ให้กับผม ผมก็จะกลับไปดูแลฝูงสัตว์ให้กับลุงเหมือนเดิม ในวันนี้ผมจะเข้าไปสำรวจฝูงสัตว์ของลุง แกะทุกตัวที่เป็นจุดเป็นด่าง มีลายตามตัว และแกะดำทุกตัว รวมทั้งแพะตัวเมียที่เป็นจุดเป็นด่าง มีลายตามตัว ผมก็จะแยกออกมาจากฝูง พวกมันจะเป็นค่าแรงของผม ในอนาคต ลุงจะได้เห็นง่ายๆว่าผมซื่อสัตย์หรือเปล่า ลุงก็แค่มาตรวจดูค่าแรงของผม ถ้าเห็นแพะตัวไหนไม่เป็นจุดเป็นด่าง หรือมีลายตามตัว หรือพบแกะตัวไหนที่ไม่ใช่แกะดำ อยู่กับผม ก็ถือว่าขโมยมา” แล้วลาบันก็พูดว่า “ตกลงตามที่หลานพูด” แต่ในวันนั้นลาบันได้แอบคัดเอาแพะตัวผู้และตัวเมียที่เป็นจุดเป็นด่าง และมีลายตามตัว ทุกตัวที่มีจุดขาว และลูกแกะดำทุกตัว เขาแอบแยกพวกมันออกมา แล้วเอาไปให้พวกลูกชายของเขาเลี้ยง แล้วลาบันก็เอาสัตว์พวกนี้ไปเลี้ยงอีกที่หนึ่ง ที่ต้องเดินทางไปสามวัน เพื่อให้ห่างจากยาโคบ แต่ยาโคบก็เฝ้าดูแลฝูงสัตว์ของลาบันที่เหลืออยู่ แล้วยาโคบตัดกิ่งไม้สดของต้นไค้ ต้นอัลมอนต์ และพวกต้นเปลน แล้วเขาก็ลอกเอาเปลือกไม้ออก เพื่อให้เห็นเนื้อไม้สีขาวด้านใน และเขาก็เอากิ่งไม้พวกนั้นที่ลอกเปลือกออกแล้ว ไปวางไว้ในรางน้ำต่างๆตรงหน้าฝูงสัตว์ ตรงบริเวณที่มีน้ำที่ฝูงสัตว์จะมาดื่มน้ำกัน และฝูงสัตว์ก็ผสมพันธุ์กัน ตอนที่พวกมันมาดื่มน้ำ เมื่อฝูงแพะผสมพันธุ์กันตรงหน้ากิ่งไม้นั้น มันก็ออกลูกมาเป็นลาย เป็นจุดเป็นด่างกัน ยาโคบก็แยกแกะออกมาไว้ต่างหาก เขาทำให้ฝูงแกะหันไปทางกิ่งที่มีลายดำๆ ทำให้แกะเกิดออกมาสีดำทุกตัวในฝูงของลาบัน ยาโคบก็เลยแยกฝูงสัตว์ออกมาเป็นของเขาเอง ไม่ได้รวมอยู่กับของลาบัน เมื่อไหร่ก็ตามที่สัตว์ตัวที่แข็งแรงผสมพันธุ์กัน ยาโคบก็จะวางกิ่งไม้พวกนั้นในรางน้ำ ตรงหน้าพวกมัน เพื่อว่าพวกสัตว์จะได้ผสมพันธุ์กันตรงหน้ากิ่งไม้พวกนั้น แต่เวลาสัตว์ที่อ่อนแอผสมพันธุ์กัน ยาโคบก็ไม่ได้เอากิ่งไม้มาวาง ดังนั้นสัตว์ตัวที่อ่อนแอที่เกิดมาก็เป็นของลาบัน ส่วนตัวที่แข็งแรงก็เป็นของยาโคบ แล้วยาโคบก็กลายเป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาล เขามีฝูงสัตว์ที่ใหญ่มาก มีพวกทาสชายหญิง มีทั้งฝูงอูฐ และฝูงลา
ปฐมกาล 30:1-43 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เมื่อนางราเชลเห็นว่าตนไม่มีบุตรกับยาโคบ ราเชลก็อิจฉาพี่สาว และพูดกับยาโคบว่า “ขอให้ข้าพเจ้ามีบุตรด้วย หาไม่ข้าพเจ้าจะตาย” ยาโคบโกรธนางราเชล เขาจึงว่า “เราเป็นเหมือนพระเจ้า ผู้ไม่ให้เจ้ามีผู้บังเกิดจากครรภ์หรือ” นางจึงบอกว่า “ดูเถิด บิลฮาห์สาวใช้ของข้าพเจ้า จงเข้าไปหานางเถิด นางจะได้มีบุตรเลี้ยงไว้ที่ตักของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีบุตรด้วยอาศัยหญิงคนนี้” นางจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ ยาโคบก็เข้าไปหานาง บิลฮาห์ก็ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายให้แก่ยาโคบ นางราเชลว่า “พระเจ้าได้ทรงตัดสินเรื่องข้าพเจ้า และได้ทรงสดับฟังเสียงทูลของข้าพเจ้าจึงประทานบุตรชายแก่ข้าพเจ้า” เหตุฉะนี้นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ดาน บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ นางราเชลจึงว่า “ข้าพเจ้าปล้ำสู้กับพี่สาวของข้าพเจ้าเสียใหญ่โต และข้าพเจ้าได้ชัยชนะแล้ว” นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี เมื่อนางเลอาห์เห็นว่าตนหยุดคลอดบุตร นางจึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ ศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็คลอดบุตรชายให้แก่ยาโคบ นางเลอาห์ว่า “กองทหารกำลังมา” จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า กาด แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็คลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ นางเลอาห์ก็ว่า “ข้าพเจ้ามีความสุขเพราะพวกบุตรสาวจะเรียกข้าพเจ้าว่าเป็นสุข” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์ ในฤดูเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่นาพบมะเขือดูดาอิม จึงเก็บผลมาให้นางเลอาห์มารดา ราเชลจึงพูดกับเลอาห์ว่า “ขอมะเขือดูดาอิมของบุตรชายของพี่ให้ฉันบ้าง” นางเลอาห์ตอบนางว่า “ที่น้องแย่งสามีของฉันไปแล้วนั้นยังน้อยไปหรือจึงจะมาเอามะเขือดูดาอิมของบุตรชายฉันด้วย” ราเชลตอบว่า “ฉะนั้นถ้าให้มะเขือดูดาอิมของบุตรชายแก่ฉัน คืนวันนี้เขาจะไปนอนกับพี่” และยาโคบกลับมาจากนาเวลาเย็น นางเลอาห์ก็ออกไปต้อนรับเขาบอกว่า “จงเข้ามาหาฉันเถิด เพราะฉันให้มะเขือดูดาอิมของบุตรชายเป็นสินจ้างท่านแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง พระเจ้าทรงสดับฟังนางเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนที่ห้าให้แก่ยาโคบ ฝ่ายนางเลอาห์พูดว่า “พระเจ้าทรงประทานสินจ้างนั้นให้แก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ายกหญิงคนใช้ให้สามี” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อิสสาคาร์ นางเลอาห์ก็ตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่หกให้แก่ยาโคบ แล้วนางเลอาห์จึงว่า “พระเจ้าทรงประทานของดีให้ข้าพเจ้า บัดนี้สามีจะอาศัยอยู่กับข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เศบูลุน ต่อมาภายหลังนางก็คลอดบุตรสาวคนหนึ่งตั้งชื่อว่า ดีนาห์ พระเจ้าทรงระลึกถึงนางราเชล และพระเจ้าทรงสดับฟังนาง ทรงเปิดครรภ์ของนาง นางก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชาย จึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงโปรดยกความอดสูของข้าพเจ้าไปเสีย” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า โยเซฟ กล่าวว่า “พระเยโฮวาห์จะทรงโปรดเพิ่มบุตรชายอีกคนหนึ่งให้ข้าพเจ้า” และต่อมาเมื่อนางราเชลคลอดโยเซฟแล้ว ยาโคบก็พูดกับลาบันว่า “ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปบ้านเกิดและแผ่นดินของข้าพเจ้า ขอมอบภรรยากับบุตรให้ข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้ทำงานรับใช้ท่านเพื่อเขาแล้ว และให้ข้าพเจ้าไปเถิด เพราะท่านรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับใช้ท่านแล้ว” แต่ลาบันตอบเขาว่า “ถ้าลุงเป็นที่พอใจเจ้าแล้ว จงอยู่ต่อเถิด เพราะลุงเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าพระเยโฮวาห์ได้ทรงอวยพรเราเพราะเจ้า” และเขาพูดว่า “เจ้าจะเรียกค่าจ้างเท่าไรก็บอกมาเถิด ลุงจะให้” ยาโคบตอบเขาว่า “ข้าพเจ้ารับใช้ลุงอย่างไร และสัตว์ของลุงอยู่กับข้าพเจ้าอย่างไร ลุงก็ทราบอยู่แล้ว เพราะว่าก่อนข้าพเจ้ามานั้นลุงมีแต่น้อย แต่บัดนี้ก็มีทวีขึ้นเป็นอันมาก ตั้งแต่ข้าพเจ้ามาถึง พระเยโฮวาห์ได้ทรงอวยพระพรแก่ลุง และบัดนี้เมื่อไรข้าพเจ้าจะบำรุงครอบครัวของตนเองได้บ้างเล่า” ลาบันจึงถามว่า “ลุงควรจะให้อะไรเจ้า” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรข้าพเจ้าดอก แต่หากว่าลุงจะทำสิ่งนี้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป คือวันนี้ข้าพเจ้าจะไปตรวจดูฝูงสัตว์ของลุงทั้งฝูง ข้าพเจ้าจะคัดแกะที่มีจุดและด่างทุกตัวออกจากฝูง และคัดแกะดำทุกตัวออกจากฝูงแกะ และแพะด่างกับที่มีจุดออกจากฝูงแพะ ให้สัตว์เหล่านี้เป็นค่าจ้างของข้าพเจ้า ดังนั้นความชอบธรรมของข้าพเจ้าจะเป็นคำตอบของข้าพเจ้าในเวลาภายหน้า คือเมื่อลุงมาตรวจดูค่าจ้างของข้าพเจ้า ถ้าพบตัวไม่มีจุดและที่ไม่ด่างอยู่ในฝูงแพะและตัวที่ไม่ดำในฝูงแกะ ก็ให้ถือเสียว่าข้าพเจ้ายักยอกสัตว์เหล่านี้มา” ลาบันจึงตอบว่า “ดูเถิด ลุงตกลงตามที่เจ้าพูดนั้น” วันนั้นเขาก็คัดแพะตัวผู้ที่ลายและที่ด่าง และแพะตัวเมียที่มีจุดและที่ด่าง แพะที่ขาวบ้างทั้งหมดและแกะดำทั้งหมด มามอบให้บุตรชายของเขา เขาแยกสัตว์ออกไปทั้งหมดห่างจากยาโคบเป็นระยะทางสามวัน ฝูงสัตว์ของลาบันที่เหลืออยู่นั้นยาโคบก็เลี้ยงไว้ ยาโคบเอากิ่งไม้สดจากต้นไค้ ต้นเสลา และต้นเกาลัด มาปอกเปลือกออกเป็นรอยขาวๆให้เห็นไม้สีขาว เขาวางไม้ที่ปอกเปลือกไว้ในร่องตรงหน้าฝูงสัตว์คือในรางน้ำที่ฝูงสัตว์มากินน้ำ เพื่อเมื่อมันมากินน้ำ มันจะตั้งท้อง ฝูงสัตว์ก็ตั้งท้องตรงหน้าไม้นั้น ดังนั้นฝูงสัตว์จึงมีลูกที่มีลายมีจุดและด่าง ยาโคบก็แยกลูกแกะและให้ฝูงแพะแกะนั้นอยู่ตรงหน้าแกะที่มีลาย และแกะดำทุกตัวในฝูงของลาบัน แต่ฝูงแพะแกะของตนนั้นอยู่ต่างหาก ไม่ให้ปะปนกับฝูงสัตว์ของลาบัน อยู่มาเมื่อสัตว์ที่แข็งแรงในฝูงจะตั้งท้อง ยาโคบก็จัดไม้วางไว้ที่รางน้ำให้ฝูงสัตว์เห็นเพื่อให้มันตั้งท้องกลางไม้นั้น และเมื่อสัตว์อ่อนแอ ยาโคบก็ไม่ใส่ไม้นั้นไว้ เหตุฉะนั้นสัตว์ที่อ่อนแอจึงตกเป็นของลาบัน แต่สัตว์ที่แข็งแรงเป็นของยาโคบ ยาโคบก็มั่งมีมากขึ้น มีฝูงแพะแกะฝูงใหญ่ คนใช้ชายหญิง และฝูงอูฐฝูงลา
ปฐมกาล 30:1-43 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เมื่อนางราเชลเห็นว่าตนไม่มีบุตรกับยาโคบ ก็อิจฉาพี่สาว นางพูดกับยาโคบว่า <<ขอให้ฉันมีบุตรด้วยหาไม่ฉันจะตาย>> ยาโคบโกรธนางราเชลจึงว่า <<เราเป็นเหมือนพระเจ้าผู้ไม่ให้เจ้ามีบุตรหรือ>> นางจึงบอกว่า <<บิลฮาห์สาวใช้ของฉันอยู่นี่ จงเข้าไปหาเขาเถิด เขาจะได้มีบุตรเลี้ยงไว้ที่ตักของฉัน ฉันจะได้มีบุตรด้วยอาศัยหญิงคนนี้>> นางจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ ยาโคบก็เข้าไปหานาง บิลฮาห์ก็ตั้งครรภ์กับยาโคบและมีบุตรชาย นางราเชลว่า <<พระเจ้าผู้ทรงตัดสินเรื่องข้าพเจ้า ได้ทรงสดับฟังเสียงข้าพเจ้าทูลจึงประทานบุตรชายแก่ข้าพเจ้า>> เหตุฉะนี้นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ดาน บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ นางราเชลจึงว่า <<ข้าพเจ้าปล้ำสู้ กับพี่สาวของข้าพเจ้าเสียใหญ่โต และข้าพเจ้าได้ชัยชนะแล้ว>> นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี เมื่อนางเลอาห์เห็นว่าตนหยุดคลอดบุตร จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตน ให้เป็นภรรยาของยาโคบ ศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็มีบุตรชายให้แก่ยาโคบ นางเลอาห์ว่า <<โชคดีจริงๆ>> จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า กาด แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็คลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ เลอาห์ก็ว่า <<ข้าพเจ้ามีความสุข เพราะพวกสตรีจะเรียกข้าพเจ้าว่า เป็นสุข>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์ ในฤดูเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่นาพบมะเขือดูดาอิม จึงเก็บผลมาให้นางเลอาห์มารดา ราเชลจึงพูดกับเลอาห์ว่า <<ขอมะเขือดูดาอิมของบุตรชายของพี่ให้ฉันบ้าง>> นางเลอาห์ตอบว่า <<ที่น้องแย่งสามีของฉันไปแล้วนั้นยังน้อยไปหรือ จึงจะมาเอามะเขือดูดาอิมของบุตรชายฉันด้วย>> ราเชลตอบว่า <<ถ้าให้มะเขือดูดาอิมของบุตรชายแก่ฉัน คืนวันนี้ฉันจะให้สามีไปนอนกับพี่>> ครั้นยาโคบกลับมาจากนาเวลาเย็น นางเลอาห์ก็ออกไปต้อนรับบอกว่า <<เข้ามาหาฉันเถิด เพราะฉันให้มะเขือดูดาอิมของบุตรเป็นสินจ้างท่านแล้ว>> คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง พระเจ้าทรงสดับฟังนางเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์ และให้บุตรชายคนที่ห้าแก่ยาโคบ ฝ่ายนางเลอาห์ว่า <<พระเจ้าทรงประทานสินจ้าง นั้นให้แก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ายกหญิงคนใช้ให้สามี>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อิสสาคาร์ ต่อไปเลอาห์ก็ตั้งครรภ์อีก และให้บุตรชายคนที่หกแก่ยาโคบ แล้วนางเลอาห์จึงว่า พระเจ้าทรงประทานของดีให้ข้าพเจ้า บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เศบูลุน ต่อมาภายหลังนางก็มีบุตรีคนหนึ่ง ตั้งชื่อว่าดีนาห์ พระเจ้าทรงระลึกถึงและสดับฟังราเชล ทรงให้นางหายเป็นหมัน นางก็ตั้งครรภ์มีบุตรชาย นางจึงกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงโปรดยกความอดสูของข้าพเจ้าไปแล้ว>> นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า โยเซฟ กล่าวว่า <<ขอพระเจ้าทรงโปรดเพิ่มบุตรชายอีกคนหนึ่งให้ข้าพเจ้า>> เมื่อนางราเชลคลอดโยเซฟแล้ว ยาโคบก็พูดกับลาบันว่า <<ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปบ้านเกิดเมืองบิดรเถิด ข้าพเจ้าทำงานเพื่อได้ภรรยาและบุตรแล้ว ขอมอบภรรยากับบุตรให้ข้าพเจ้าพาไป เพราะท่านรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับใช้ท่านเสร็จแล้ว>> แต่ลาบันตอบว่า <<ถ้าเป็นที่พอใจเจ้า ลุงสังเกตเหตุการณ์ก็รู้ว่า พระเจ้าได้ทรงอวยพรเราเพราะเจ้า เจ้าจะเรียกค่าจ้างเท่าไรก็บอกมาเถิดลุงจะให้>> ยาโคบตอบว่า <<ฉันรับใช้ลุงอย่างไร และสัตว์ของลุงอยู่กับฉันดีอย่างไร ลุงก็ทราบอยู่แล้ว เพราะว่าก่อนฉันมานั้นลุงมีแต่น้อย แต่บัดนี้ก็มีทวีขึ้นเป็นอันมาก ฉันจะก้าวไปทางไหน พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่ลุง ทีนี้ฉันจะบำรุงครอบครัวของตนเองเมื่อไรได้เล่า>> ลาบันจึงถามว่า <<ลุงควรจะให้อะไรเจ้า>> ยาโคบตอบว่า <<ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันดอก แต่หากว่าลุงตกลง ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป คือวันนี้ฉันจะไปตรวจดูฝูงสัตว์ของลุงทั้งฝูง ฉันจะคัดแกะที่มีจุดและแกะด่างทุกตัวออกจากฝูง และคัดแกะดำออกทุกตัวจากฝูงแกะ และแพะด่างกับแพะที่มีจุดออกจากฝูงแพะ ให้สัตว์เหล่านี้เป็นค่าจ้างของฉัน ความซื่อตรงของฉันในการคัดแพะแกะจะปรากฏในภายหน้า คือเมื่อลุงมาตรวจดูค่าจ้างของฉัน ถ้าพบตัวไม่มีจุดและที่ไม่ด่างอยู่ในฝูงแกะ หรือตัวที่ไม่ดำในฝูงลูกแกะก็ให้ถือเสียว่า ฉันยักยอกสัตว์เหล่านี้มา>> ลาบันจึงตอบว่า <<ดีแล้ว ตกลงตามที่เจ้าพูดนั้นเถิด>> วันนั้นลาบันก็คัดแพะตัวผู้ที่ลายและที่ด่าง และแพะตัวเมียที่มีจุดและที่ด่าง แพะขาวทั้งหมด และลูกแกะดำทั้งหมด มามอบให้บุตรชายของเขาเลี้ยง เขาแยกสัตว์ออกไปทั้งหมดห่างจากยาโคบเป็นระยะทางสามวัน สัตว์ของลาบันที่เหลืออยู่นั้นยาโคบก็เลี้ยงไว้ ยาโคบเอากิ่งไม้สดจากต้นไค้ ต้นเสลา และต้นเปลน มาปอกเปลือกออกเป็นรอยขาวๆ ให้เห็นไม้สีขาว เขาวางไม้ที่ปอกเปลือกไว้ในร่องตรงหน้าฝูงสัตว์ คือในรางน้ำที่ฝูงสัตว์มากินน้ำ เมื่อมันมากินน้ำ มันก็อยากติดสัด ฝูงสัตว์ก็สมจรกันที่ไม้นั้น ดังนั้นฝูงสัตว์จึงมีลูกที่ลายมีจุดและด่าง ยาโคบก็แยกลูกแกะออกจากฝูง ให้ฝูงนั้นอยู่ตรงหน้าแกะลาย และแกะดำทุกตัวในฝูงของลาบัน แต่ฝูงสัตว์ของตนนั้นอยู่ต่างหาก ไม่ให้ปะปนกับฝูงสัตว์ของลาบัน อยู่มาเมื่อสัตว์ที่แข็งแรงในฝูงจะสมจร ยาโคบก็จัดไม้วางไว้ที่รางน้ำให้ฝูงสัตว์เห็น เพื่อให้มันสมจรกันกลางไม้นั้น ฝ่ายสัตว์ที่อ่อนแอ ยาโคบก็ไม่ใส่ไม้นั้นไว้ เหตุฉะนั้นสัตว์ที่อ่อนแอจึงตกเป็นของลาบัน แต่สัตว์ที่แข็งแรงเป็นของยาโคบ ยาโคบก็มั่งมีมากขึ้น มีฝูงแพะแกะฝูงใหญ่ คนใช้ชายหญิง และฝูงอูฐฝูงลา
ปฐมกาล 30:1-43 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เมื่อราเชลเห็นว่าตนไม่มีบุตรให้ยาโคบก็อิจฉาพี่สาว ดังนั้นนางจึงกล่าวกับยาโคบว่า “จงให้ลูกแก่ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันตายดีกว่า!” ยาโคบจึงโกรธนางและพูดว่า “ฉันอยู่ในฐานะพระเจ้าผู้ทรงไม่ให้เธอมีลูกหรือ?” นางจึงพูดว่า “นางบิลฮาห์สาวใช้ของฉันอยู่ที่นี่ จงหลับนอนกับนางเพื่อฉันจะได้รับลูกนางมาเป็นลูกฉัน และฉันเองก็จะสามารถสร้างครอบครัวขึ้นได้โดยอาศัยนาง” ดังนั้นนางจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของนางให้เป็นภรรยาของยาโคบ เขาก็หลับนอนกับบิลฮาห์ นางได้ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่เขา แล้วราเชลกล่าวว่า “พระเจ้าทรงตัดสินให้ฉันชนะ พระองค์ทรงสดับฟังคำวิงวอนของฉันและประทานลูกชายแก่ฉัน” เพราะเหตุนี้นางจึงตั้งชื่อเขาว่าดาน แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่งและคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ แล้วราเชลกล่าวว่า “ฉันได้ต่อสู้กับพี่สาวอย่างหนักมาตลอดและฉันก็ชนะแล้ว” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่านัฟทาลี เมื่อเลอาห์เห็นว่าตนไม่มีลูกอีก จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ ศิลปาห์ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่ยาโคบ แล้วเลอาห์กล่าวว่า “โชคดีอะไรอย่างนี้!” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ากาด แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็ให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองแก่ยาโคบ แล้วเลอาห์กล่าวว่า “ฉันสุขใจจริงๆ! พวกผู้หญิงจะเรียกฉันว่าเป็นสุข” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอาเชอร์ วันหนึ่งในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่ทุ่งนาและพบต้นดูดาอิม จึงนำมาให้เลอาห์ผู้เป็นมารดา ราเชลพูดกับเลอาห์ว่า “ขอดูดาอิมของลูกชายพี่ให้ฉันบ้างเถิด” แต่เลอาห์ตอบนางว่า “เจ้าเอาสามีของฉันไปยังไม่พออีกหรือ? แล้วยังจะมาเอาดูดาอิมของลูกฉันอีกหรือ?” ราเชลกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ยาโคบไปนอนกับพี่คืนนี้ได้ แลกกับดูดาอิมของลูกชายพี่” เย็นวันนั้นเมื่อยาโคบกลับมาจากทุ่งนา เลอาห์ก็ออกไปพบและพูดว่า “ท่านต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันเอาดูดาอิมของลูกเป็นสินจ้างแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง พระเจ้าทรงฟังเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนที่ห้า แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานรางวัลให้ฉันเพราะฉันได้ยกสาวใช้ให้สามี” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอิสสาคาร์ เลอาห์ได้ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรชายคนที่หกให้แก่ยาโคบ แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานของขวัญล้ำค่าแก่ฉัน คราวนี้สามีจะยกย่องฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้แก่เขาถึงหกคน” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเศบูลุน ต่อมาภายหลัง นางได้คลอดบุตรสาวคนหนึ่งและตั้งชื่อว่าดีนาห์ แล้วพระเจ้าทรงระลึกถึงราเชล พระองค์ทรงฟังนางและให้นางมีบุตร นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “พระเจ้าทรงลบล้างความอับอายของฉันแล้ว” นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง” หลังจากราเชลให้กำเนิดโยเซฟ ยาโคบพูดกับลาบันว่า “อนุญาตให้ฉันไปตามทางของฉันเถิด เพื่อฉันจะได้กลับไปบ้านเกิดเมืองนอน จงมอบภรรยาและลูกๆ ทั้งหมดให้ฉันด้วย เพราะฉันได้รับใช้ท่านแลกกับพวกเขาแล้ว และฉันก็จะได้ไปตามทางของฉัน ท่านก็รู้ว่าฉันทำงานให้ท่านมากเพียงใด” แต่ลาบันกล่าวกับเขาว่า “หากท่านจะกรุณาเรา โปรดอยู่ต่อเถิด เรารู้จากคำทำนายว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเราเพราะท่าน” เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “ท่านจะเรียกค่าจ้างเท่าไรก็บอกมาเถิด เราจะจ่ายให้” ยาโคบกล่าวกับเขาว่า “ท่านก็รู้ว่าฉันได้รับใช้ท่านอย่างไร และฝูงแพะแกะในความดูแลของฉันได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเพียงไร ที่ท่านมีอยู่เล็กน้อยก่อนที่ฉันจะมา เดี๋ยวนี้เพิ่มขึ้นมหาศาล และไม่ว่าฉันจะทำอะไร องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงอวยพรท่าน แต่เมื่อไรฉันจึงจะได้ทำอะไรเพื่อครัวเรือนของตนเองบ้าง?” ลาบันถามว่า “เราควรให้อะไรท่านดี?” ยาโคบตอบว่า “ไม่ต้องให้อะไรฉันหรอก ฉันจะเลี้ยงและดูแลฝูงสัตว์ให้ท่านต่อไป ถ้าท่านจะตกลงกับฉันสักอย่างหนึ่ง คือในวันนี้ให้ฉันออกไปสำรวจฝูงสัตว์ของท่านดู แล้วแยกแกะที่มีลายด่าง ลูกแกะสีคล้ำ และแพะที่มีลายด่างทุกตัวออกจากฝูง สัตว์เหล่านี้ถือเป็นค่าจ้างของฉัน และนี่จะเป็นพยานถึงความซื่อสัตย์ของฉันในอนาคต คือทุกครั้งที่ท่านตรวจดูค่าจ้างที่จ่ายให้ฉัน หากพบว่าแพะตัวใดในกรรมสิทธิ์ของฉันไม่มีลายด่าง หรือลูกแกะตัวใดไม่มีสีคล้ำก็ให้ถือว่าฉันขโมยมา” ลาบันตอบว่า “ตกลง ให้เป็นตามที่เจ้าว่าไว้” ในวันนั้นเองลาบันก็ออกไปคัดแพะทั้งตัวผู้และตัวเมียทุกตัวที่มีลายด่างออกมา (ทุกตัวที่มีสีขาวอยู่ด้วย) ตลอดจนลูกแกะสีคล้ำทุกตัวออกจากฝูง แล้วนำไปให้บรรดาบุตรชายของเขาเลี้ยง แล้วเขาให้ฝูงแพะแกะของเขากับของยาโคบอยู่ห่างกันเป็นระยะเวลาเดินทางสามวัน ในขณะที่ยาโคบยังเลี้ยงฝูงสัตว์ที่เหลือให้ลาบันต่อไป อย่างไรก็ตามยาโคบเอากิ่งไม้สดๆ จากต้นปอปลาร์ ต้นอัลมอนด์ และต้นเปลนมาลอกเปลือกออกเป็นริ้วให้เห็นเนื้อไม้สีขาวข้างใน แล้วเขาวางกิ่งไม้ที่ลอกเปลือกไว้ที่รางน้ำทุกรางเพื่อให้อยู่ตรงหน้าฝูงแพะแกะเวลาที่มันมากินน้ำ ทุกครั้งที่ฝูงแพะแกะเป็นสัดและมากินน้ำ มันก็ผสมพันธุ์กันหน้ากิ่งไม้นั้น ลูกที่เกิดมาจึงมีลายริ้ว ลายด่าง หรือลายจุด ยาโคบก็แยกลูกสัตว์เหล่านั้นไว้ต่างหาก แล้วให้ฝูงสัตว์ที่เหลือหันไปทางสัตว์ที่มีลายด่างหรือสัตว์ที่มีสีคล้ำของลาบัน โดยวิธีนี้เองเขาจึงสร้างฝูงแพะแกะของตนเองขึ้นและไม่ได้รวมไว้กับฝูงสัตว์ของลาบัน เมื่อใดก็ตามที่บรรดาตัวเมียที่แข็งแรงเป็นสัด ยาโคบก็เอากิ่งไม้ที่ลอกเปลือกไปวางไว้ในรางน้ำตรงหน้าสัตว์นั้น ให้มันผสมพันธุ์กันใกล้กิ่งไม้นั้น แต่ถ้าสัตว์ตัวใดอ่อนแอ เขาก็ไม่เอากิ่งไม้ไปวางไว้ที่นั่น ดังนั้นสัตว์ที่อ่อนแอก็เป็นของลาบัน ส่วนตัวที่แข็งแรงเป็นของยาโคบ ด้วยวิธีนี้เอง เขาจึงร่ำรวยขึ้นอย่างมากและกลายเป็นเจ้าของสัตว์ฝูงใหญ่ มีคนรับใช้ชายหญิงจำนวนมาก และมีอูฐมีลาอีกมากมาย
ปฐมกาล 30:1-43 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
เมื่อราเชลเห็นว่านางไม่สามารถให้กำเนิดบุตรแก่ยาโคบได้ ก็เกิดอิจฉาพี่สาว และนางพูดกับยาโคบว่า “ทำให้ฉันมีลูกด้วย มิฉะนั้นฉันจะตาย” ยาโคบเดือดดาลกับราเชล เขาจึงพูดว่า “เจ้าเห็นว่าเราเป็นพระเจ้าหรือ พระองค์นั่นแหละเป็นผู้ที่ทำให้เจ้าไม่มีลูก” นางพูดว่า “นี่บิลฮาห์หญิงรับใช้ของฉัน หลับนอนกับนางเถิด นางจะได้มีลูกให้ฉัน แม้ตัวฉันเองก็ยังจะมีลูกได้โดยผ่านนาง” ราเชลให้บิลฮาห์หญิงรับใช้ของนางไปเป็นภรรยาของเขา แล้วยาโคบก็ได้นางเป็นภรรยา บิลฮาห์ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายแก่เขา ราเชลพูดว่า “พระเจ้าได้ให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงของฉันด้วย และให้ลูกชายคนหนึ่งแก่ฉัน” ฉะนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่า ดาน บิลฮาห์หญิงรับใช้ของราเชลตั้งครรภ์อีก และให้กำเนิดบุตรชายคนที่สอง ราเชลพูดว่า “ฉันสู้กับพี่สาวของฉันอย่างหนัก และก็สำเร็จด้วย” นางจึงตั้งชื่อลูกว่า นัฟทาลี เมื่อเลอาห์เห็นว่านางหยุดมีบุตรแล้ว นางจึงให้ศิลปาห์หญิงรับใช้ของนางไปเป็นภรรยาของยาโคบ แล้วศิลปาห์หญิงรับใช้ของเลอาห์ก็ให้กำเนิดบุตรชายแก่ยาโคบ เลอาห์พูดว่า “โชคดีจริง” นางจึงตั้งชื่อเขาว่า กาด ศิลปาห์หญิงรับใช้ของเลอาห์ให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองแก่ยาโคบ และเลอาห์พูดว่า “ฉันมีความสุข เพราะบรรดาผู้หญิงจะนับว่าฉันมีความสุขแล้ว” นางจึงตั้งชื่อเขาว่า อาเชอร์ ในฤดูเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนเข้าไปในทุ่งและพบผลดูดาอิม เขาจึงเก็บมาให้เลอาห์มารดาของตน และราเชลพูดกับเลอาห์ว่า “ขอผลดูดาอิมของลูกชายเธอให้ฉันกินบ้างได้ไหม” แต่เลอาห์ตอบนางว่า “เธอแย่งสามีของฉันไปยังไม่พอ แล้วเธอจะแย่งผลดูดาอิมของลูกชายฉันไปอีกหรือ” ราเชลพูดว่า “เธอนอนกับยาโคบคืนนี้ก็ได้ ถ้าเธอให้ผลดูดาอิมของลูกชายเธอแก่ฉัน” เมื่อยาโคบกลับมาจากทุ่งในเวลาเย็น เลอาห์ก็ออกไปพบเขา และพูดว่า “ท่านอยู่กับฉันในคืนนี้ เพราะฉันได้จ่ายค่าตัวท่านเป็นผลดูดาอิมของลูกชายฉัน” เขาจึงอยู่กับนางในคืนนั้น และพระเจ้าได้ยินเลอาห์ นางจึงตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนที่ห้าแก่ยาโคบ เลอาห์พูดว่า “พระเจ้าได้ให้รางวัลแก่ฉัน เพราะฉันให้หญิงรับใช้แก่สามีของฉัน” นางจึงตั้งชื่อเขาว่า อิสสาคาร์ เลอาห์ตั้งครรภ์อีก และนางให้กำเนิดบุตรชายคนที่หกแก่ยาโคบ เลอาห์พูดว่า “พระเจ้าได้มอบของประทานที่ดีแก่ฉัน คราวนี้สามีฉันจะให้เกียรติฉัน เพราะฉันได้ให้กำเนิดลูกชาย 6 คนแก่เขา” นางจึงตั้งชื่อเขาว่า เศบูลุน หลังจากนั้นนางให้กำเนิดบุตรหญิง และตั้งชื่อเธอว่า ดีนาห์ แล้วพระเจ้านึกถึงราเชล พระองค์ได้ยินนาง และเปิดครรภ์ของนาง นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย นางพูดว่า “พระเจ้าได้กำจัดความอับอายของฉัน” และนางตั้งชื่อเขาว่า โยเซฟ นางพูดว่า “ขอให้พระผู้เป็นเจ้าโปรดให้ฉันได้ลูกชายอีกคนเถิด” เมื่อราเชลให้กำเนิดโยเซฟ ยาโคบพูดกับลาบันว่า “ให้ฉันไปเถิด ฉันจะได้ไปยังถิ่นฐานและแผ่นดินของบรรพบุรุษของฉัน ให้ภรรยาและลูกไปกับฉันเถิด เพราะฉันรับใช้ลุงมาก็เพื่อพวกเขา ปล่อยให้ฉันไป ลุงเองก็ทราบดีว่าฉันรับใช้มามากเพียงไร” แต่ลาบันพูดกับเขาว่า “ได้โปรดเถิด หากว่าฉันเป็นที่พอใจในสายตาของเจ้า ก็ช่วยอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันรู้มาจากการทำนายว่า พระผู้เป็นเจ้าอวยพรฉันก็เพราะเจ้า ตั้งค่าแรงเถิด แล้วฉันจะจ่ายให้” ยาโคบพูดว่า “ลุงเองก็ทราบว่าฉันรับใช้ลุงอย่างไร และปศุสัตว์เพิ่มขึ้นมากแค่ไหนขณะอยู่ในการดูแลของฉัน เพราะลุงมีสัตว์เพียงไม่กี่ตัวก่อนที่ฉันมา แล้วมันก็ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และไม่ว่าฉันจะทำอะไรให้ที่ไหนพระผู้เป็นเจ้าก็ได้อวยพรลุง คราวนี้ฉันควรจะทำอะไรให้ครอบครัวของฉันเองบ้าง” ลาบันพูดว่า “ฉันควรจะให้อะไรเจ้า” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันเลย แต่มีข้อแม้คือ ฉันจะดูแลฝูงสัตว์ของลุงต่อไป ฉันจะเฝ้าให้ แต่วันนี้ให้ฉันไปสำรวจฝูงแพะแกะของลุง คัดแกะทุกตัวที่มีจุดและด่าง และลูกแกะสีดำทุกตัว อีกทั้งแพะทุกตัวที่มีจุดและด่างออกจากฝูง สัตว์พวกนี้จะเป็นค่าจ้างของฉัน ลุงจะทราบได้โดยง่ายว่าฉันซื่อสัตย์กับลุงหรือไม่ในภายหน้าคือ เมื่อลุงมาตรวจค่าจ้างของฉัน ถ้าฉันมีแพะที่ไม่มีจุดหรือด่าง หรือมีแกะที่ไม่มีสีดำติด ก็ถือว่าถูกขโมยมา” ลาบันพูดว่า “ดี ตกลงทำตามที่เจ้าว่า” แต่ในวันนั้นลาบันเองเป็นคนคัดแพะตัวผู้ที่เป็นลายและด่าง และแพะตัวเมียทุกตัวที่มีจุดและด่าง รวมทั้งทุกตัวที่มีแต้มขาว และลูกแกะสีดำทุกตัว แล้วสั่งให้บรรดาบุตรชายของเขาดูแล เขาพาสัตว์ทั้งฝูงไปให้ไกลจากยาโคบ เดินทางไปเป็นระยะเวลา 3 วัน ขณะเดียวกันยาโคบก็ดูแลฝูงสัตว์ที่เหลือของลาบัน แล้วยาโคบเอากิ่งไม้สดจากต้นพ๊อพลาร์ ต้นอัลมอนด์ และต้นเพลน แล้วเขาลอกเปลือกออกเป็นริ้ว เห็นเนื้อไม้เป็นเส้นสีขาว เขาวางไม้ที่ลอกเปลือกแล้วไว้ตรงหน้าฝูงสัตว์ที่ลำธาร คือรางน้ำที่ฝูงสัตว์มากินน้ำ เพราะมันผสมพันธุ์กันเวลามากินน้ำ พวกฝูงสัตว์ก็ผสมพันธุ์ตรงหน้ากิ่งไม้ ฉะนั้นสัตว์จึงได้ลูกที่เป็นลาย มีจุดและด่าง ยาโคบแยกแกะโดยให้ฝูงแกะหันหน้าไปทางสัตว์ที่เป็นลายและสีดำทุกตัวในฝูงของลาบัน และเขาจัดฝูงสัตว์ออกต่างหากสำหรับตนเอง ไม่ได้ปะปนไว้กับฝูงสัตว์ของลาบัน เวลาตัวที่แข็งแรงในฝูงกำลังผสมพันธุ์ ยาโคบก็วางกิ่งไม้ไว้ที่ลำธารตรงหน้าฝูงสัตว์ เพื่อให้มันผสมพันธุ์ในดงกิ่งไม้นั้น แต่สำหรับตัวที่อ่อนแอในฝูง เขาไม่ได้วางกิ่งไม้ไว้ที่นั่น ดังนั้นตัวที่อ่อนแอเป็นของลาบัน ส่วนตัวที่แข็งแรงกว่าเป็นของยาโคบ ฉะนั้นยาโคบจึงมั่งมียิ่งๆ ขึ้น และมีแพะแกะฝูงใหญ่ อูฐ ลา และผู้รับใช้ทั้งหญิงและชาย