ปฐมกาล 19:1-29

ปฐมกาล 19:1-29 TH1971

ฝ่ายทูตสวรรค์สององค์นั้นมาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทกำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นท่านทั้งสอง เขาก็ลุกขึ้นไป ต้อนรับและกราบลงถึงดิน กล่าวว่า <<เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอท่านแวะไปบ้านข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านค้างสักคืนหนึ่ง ล้างเท้าของท่าน แล้วค่อยลุกขึ้นแต่เช้าเดินทางต่อไป>> ท่านทั้งสองตอบว่า <<อย่าเลย เราจะค้างคืนที่ลานเมือง>> แต่โลทก็รบเร้าชักชวนท่านทั้งสอง ท่านจึงไปกับเขาเข้าไปในบ้านของเขา โลทก็จัดการเลี้ยง ปิ้งขนมไร้เชื้อ ท่านทั้งสองก็รับประทาน ท่านทั้งสองยังไม่ทันเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้น คือชายชาวเมืองโสโดมทั้งหนุ่มและแก่หมดทั้งเมือง จนถึงคนสุดท้ายพากันมาล้อมเรือนนั้นไว้ พวกเขาร้องเรียกโลทว่า <<ชายที่เข้ามาหาเจ้าคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาออกมาให้เรา เราจะได้สมสู่กับเขา>> โลทก็ออกทางประตูไปหาชายเหล่านั้น แล้วปิดประตูเสีย กล่าวว่า <<พี่น้องของข้าเอ๋ย ข้าขอเสียทีเถอะ อย่ากระทำการโหดร้ายเช่นนี้เลย ดูเถิด ข้ามีลูกสาวสองคนยังไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าจะนำออกมาให้ท่าน ท่านจะทำแก่เขาอย่างไรก็ได้ตามใจชอบเถิด แต่ขออย่าทำอะไรกับชายเหล่านี้เลย เพราะเขามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าแล้ว>> แต่พวกนั้นร้องว่า <<ถอยไป>> และขู่ว่า <<เจ้าคนนี้มาขออาศัยอยู่ แล้วยังมาตั้งตัวเป็นตุลาการ เราจะทำกับเจ้าให้เจ็บเสียยิ่งกว่าทำแก่คนเหล่านั้นอีก>> พวกนั้นผลักโลทโดยแรง และเข้ามาใกล้จะพังประตู แต่แขกทั้งสองนั้นยื่นมือออกไปดึงตัวโลทเข้ามาใน บ้านแล้วปิดประตูเสีย ท่านทั้งสองทำให้พวกคนที่อยู่หน้าประตูบ้านนั้นตาบอดหมด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เที่ยวคลำหาประตูจนอ่อนใจ แล้วแขกทั้งสองจึงพูดกับโลทว่า <<ที่นี่เจ้ามีใครอีกหรือ บุตรเขย บุตรชาย บุตรหญิง คนของเจ้าในเมืองนี้ จงนำออกไปจากที่นี้ให้หมด เรากำลังจะทำลายเมืองนี้แล้ว เพราะเสียงร้องกล่าวโทษประชาชนของเมืองนี้ ต่อพระเจ้าดังนักหนา และพระเจ้าทรงใช้เรามาทำลายเมืองนี้เสีย>> โลทจึงออกไปพูดกับบุตรเขย ผู้ที่จะแต่งงานกับบุตรหญิงของตนว่า <<ลุกขึ้นออกจากที่นี้เถิด เพราะพระเจ้ากำลังจะทำลายเมืองนี้>> แต่บุตรเขยของเขากลับหาว่าโลทล้อเล่น ครั้งเวลารุ่งเช้า ทูตสวรรค์จึงชักชวนโลทว่า <<ลุกขึ้นพาภรรยาของเจ้า และบุตรหญิงทั้งสองของเจ้าผู้อยู่ที่นี่ไปเสีย เกรงว่าเมื่อเมืองนี้ถูกลงอาชญาให้พินาศ เจ้าจะเสียชีวิตไปด้วย>> แต่โลทยังรีรอ ดังนั้นชายทั้งสองจึงคว้ามือเขาและภรรยา และบุตรหญิงทั้งสอง ด้วยพระกรุณาคุณของพระเจ้าที่มีต่อเขา ท่านทั้งสองนำเขาออกมาเสียนอกเมือง เมื่อท่านทั้งสองพาเขาออกมาแล้ว ท่านพูดว่า <<หนีเอาชีวิตรอดเถิด อย่าเหลียวหลังหรือหยุด ณ ที่ใดในลุ่มน้ำ หนีไปที่เนินเขา มิฉะนั้นเจ้าจะเสียชีวิต>> โลทเรียนท่านทั้งสองว่า <<อย่าเลยนาย ดูเถิด ผู้รับใช้ของท่านเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่านแล้ว และท่านได้สำแดงความกรุณาอันยิ่งใหญ่ ในการช่วยชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะหนีไปที่เนินเขาไม่ได้ เกรงว่าภัยพิบัตินั้นจะตามทัน และข้าพเจ้าจะตายเสีย ดูซิเมืองโน้นอยู่ใกล้พอที่จะหนีไปถึงได้ และเป็นเมืองเล็ก ขอให้ข้าพเจ้าหนีไปที่นั่น เมืองนั้นเป็นเมืองเล็กๆ แล้วชีวิตของข้าพเจ้าจะรอด>> ทูตสวรรค์พูดกับเขาว่า <<เราอนุญาตเรื่องนี้ คือเราจะไม่ทำลายเมืองที่เจ้าพูดถึงนั้นเสีย รีบเถิด หนีไปที่นั่น เพราะเราจะทำอะไรไม่ได้จนกว่าเจ้าจะไปถึงที่นั่น>> ฉะนั้นเขาจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่าโศอาร์ เมื่อโลทมาถึงเมืองโศอาร์ตะวันก็ขึ้นแล้ว แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟจากพระเจ้า ตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และพระองค์ทรงขยี้เมืองเหล่านั้น ลุ่มน้ำทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชต่างๆ ส่วนภรรยาของโลท ผู้อยู่ข้างหลังโลท เหลียวกลับไปมองดู นางจึงกลายเป็นเสาเกลือไป เวลาเช้ามืดอับราฮัมออกไปยังที่ที่ท่านยืนเฝ้าพระเจ้า ท่านมองลงไปทางเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และตรงดินแดนในลุ่มน้ำ ก็เห็นแผ่นดินลุกเป็นควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันเตาไฟใหญ่ ดังนั้น เมื่อพระเจ้าทรงทำลายหัวเมืองในลุ่มน้ำ พระเจ้าจึงทรงระลึกถึงอับราฮัม และส่งโลทออกไปจากเมืองที่ถูกขยี้ เมื่อพระองค์ทรงขยี้เมืองที่โลทอาศัยอยู่

Video for ปฐมกาล 19:1-29