ปฐมกาล 19:1-29

ปฐมกาล 19:1-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ทูตสวรรค์​สององค์​ได้​เข้า​มา​ใน​เมือง​โสโดม​ตอนเย็น โลท​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​ประตูเมือง เขา​เห็น​ทูตสวรรค์​สององค์นั้น โลท​จึง​ลุกขึ้น​เข้า​ไป​หา​พวกเขา​และ​ก้มกราบ​ถึง​พื้น โลท​พูด​ว่า “เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า ขอได้โปรด​ไป​แวะ​ที่​บ้าน​ของ​ผู้รับใช้​ของท่าน​และ​ค้างคืน​ที่นั่น จะ​ได้​ล้าง​เท้า แล้ว​ตื่น​แต่เช้า​เดินทาง​ต่อ” ทูตสวรรค์​ตอบ​ว่า “ไม่ล่ะ เรา​จะ​ค้างคืน​ที่​ลานเมือง นี้” แต่​โลท​ยัง​ตื้อ​พวกเขา​ไม่เลิก จน​พวกเขา​ยอม​แวะ​ไป​พัก​ค้างคืน​ที่​บ้าน​ของ​โลท โลท​ก็​ได้​ทำ​อาหาร​เลี้ยง​พวกเขา อบ​ขนมปัง​ไม่ใส่​เชื้อฟู​ให้ และ​พวกเขา​ก็​กินกัน ก่อน​ที่​พวกเขา​จะ​เข้านอน ผู้ชาย​ชาว​เมือง​โสโดม มี​ทั้ง​หนุ่ม​และ​แก่ ทั้งเมือง​ได้​มา​ยืน​ล้อมรอบ​บ้าน​โลท พวกเขา​เรียก​โลท​ออก​มา​ถาม​ว่า “ชาย​ที่​มา​หา​เจ้า​คืนนี้​อยู่​ที่ไหน พา​พวกเขา​ออก​มา​ให้​พวกเรา​สมสู่​หน่อย” โลท​ออก​ไป​นอก​ประตู​และ​ปิด​ประตู​ไว้ แล้ว​โลท​ก็​พูด​ว่า “พี่น้อง​ทั้งหลาย ขอร้อง​เถอะ อย่า​ได้​ทำ​สิ่งชั่วร้าย​อย่างนี้​เลย เอา​อย่างนี้​ก็​แล้ว​กัน ผม​มี​ลูกสาว​สองคน​ที่​ยัง​ไม่เคย​ร่วมเพศ​กับ​ใคร​เลย ผม​จะ​เอา​พวกนาง​ออก​มา​ให้​กับ​พวกท่าน พวกท่าน​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​กับ​พวกนาง ก็​แล้ว​แต่​พวกท่าน แต่​อย่า​ได้​ทำ​อะไร​กับ​ชาย​สองคนนี้​เลย เพราะ​พวกเขา​ได้​มา​อยู่​ร่ม​ชายคา​บ้าน​ผม ผม​จะ​ต้อง​ปกป้อง​พวกเขา” แต่​ชาย​ชาว​เมือง​โสโดม​กลับ​พูด​ว่า “ถอยไป” และ​พวกเขา​พูด​กัน​ว่า “โลท​คนนี้​มา​ที่​นี่​ใน​ฐานะ​แขก แล้ว​ตอนนี้​มัน​จะ​มา​ตัดสิน​พวกเรา​หรือ” พวกเขา​หัน​ไป​พูด​กับ​โลท​ว่า “ตอนนี้​พวกเรา​จะ​ทำ​กับ​แก​เลวร้าย​ยิ่งกว่า​ทำ​กับ​พวกนั้นอีก” พวกเขา​ก็​รุมกัน​เข้า​มา​หา​โลท​และ​ใกล้​เข้ามา​พัง​ประตู​แล้ว ชาย​สองคน​ที่​อยู่​ใน​บ้าน​ก็​ยื่น​มือ​ของ​พวกเขา​ออก​มา​ลาก​โลท​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​แล้ว​ปิด​ประตู แล้ว​ทูตสวรรค์​ทั้งสอง​ก็​ทำ​ให้​พวกชาย​ที่​อยู่​นอก​ประตู​บ้าน​นั้น​ตาบอด ทั้ง​หนุ่ม​และ​แก่ ชาย​พวกนั้น​พยายาม​จะ​บุก​เข้า​ไป​ใน​บ้าน จึง​คลำ​หา​ประตู​บ้าน​กัน​จน​หมดแรง ชาย​สองคน​นั้น​ถาม​โลท​ว่า “มี​ใคร​ใน​ครอบครัว​เจ้า​อีก​หรือเปล่า​ที่​อยู่​ที่นี่ ให้​พา​พวกเขา​ออก​ไป​จาก​เมือง​นี้​ให้​หมด ทั้ง​พวกลูกเขย พวกลูกชาย​ลูกสาว​ของเจ้า และ​คน​อื่นๆ​อีก​ที่​เจ้า​มี​ใน​เมือง​นี้ เพราะ​เรา​กำลัง​จะ​ทำลาย​เมืองนี้ เพราะ​พระยาห์เวห์​ได้ยิน​ว่า​เมืองนี้​ชั่วร้ายนัก พระองค์​จึง​ได้​ส่ง​พวกเรา​ให้​มา​ทำลาย​เมืองนี้” แล้ว​โลท​ได้​ออก​ไป​บอก​กับ​พวกคู่หมั้น คือ​พวกผู้ชาย​ที่​หมั้น​กับ​พวกลูกสาว​ของเขา​ว่า “ลุกขึ้น ไป​จาก​ที่นี่​เร็ว เพราะ​พระยาห์เวห์​กำลัง​จะ​ทำลาย​เมือง​นี้” แต่​พวกลูกเขย​คิด​ว่า​โลท​กำลัง​ล้อเล่น เมื่อ​ถึง​ตอนเช้า ทูตสวรรค์​ก็​เร่ง​โลท บอก​ว่า “ลุกขึ้น​เร็ว รีบ​เอา​เมีย​และ​ลูกสาว​สองคน​ของเจ้า ที่​อยู่​ที่นี่​ออก​ไป​จาก​เมืองนี้ ไม่​อย่างนั้น ตอน​ที่​เมืองนี้​ถูก​ลงโทษ เจ้า​จะ​ถูก​ทำลาย​ไปด้วย” แต่​โลท​ยัง​ชักช้า​อยู่ ชาย​สองคนนั้น​จึง​คว้า​มือ​ของเขา ทั้ง​เมีย​และ​ลูกสาว​ของ​โลท เพราะ​พระยาห์เวห์​มี​เมตตา​ต่อ​โลท และ​ทูตสวรรค์​ได้​พา​พวกเขา​ออก​ไป​ทิ้ง​ไว้​นอก​เมือง เมื่อ​ทูตสวรรค์​ได้​พา​พวกเขา​ออก​ไป​นอก​เมือง​แล้ว ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​ได้​พูด​ว่า “ให้​วิ่ง​สุดชีวิต​เลย ห้าม​เหลียว​หลัง​มา​มอง และ​อย่า​หยุด​ที่​หุบเขา​ไหนๆ​เลย ให้​วิ่ง​ไป​ที่​เทือกเขา​พวกนั้น ไม่​อย่างนั้น​เจ้า​จะ​ถูก​ทำลาย” แล้ว​โลท​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “ขอ​อย่า​ได้​ทำ​อย่างนั้น​เลย​เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า ดูสิ ท่าน​ได้​กรุณา​กับ​ข้าพเจ้า​ผู้รับใช้​ของท่าน และ​ท่าน​ได้​แสดง​ความ​เมตตา​กับ​ข้าพเจ้า​อย่าง​ใหญ่หลวง ที่​ช่วย​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า​ไว้ ข้าพเจ้า​วิ่งหนี​ไป​ที่​เทือกเขา​พวกนั้น​ไม่ทัน​แน่ ความหายนะ​คง​ถึง​ตัว​ข้าพเจ้า​ก่อน และ​ข้าพเจ้า​ก็​จะ​ตาย ดูสิ​ครับ เมืองนั้น​อยู่​ใกล้​กับ​เมืองนี้ พอที่​ข้าพเจ้า​จะ​วิ่ง​ไป​ทัน และ​เป็น​เมือง​เล็ก ขอให้​ข้าพเจ้า​หนี​ไป​ที่นั่น​เถิด มัน​เป็น​เมือง​เล็กๆ​แล้ว​ท่าน​จะ​ได้​ช่วย​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า” แล้ว​ทูตสวรรค์​ก็​พูด​กับ​โลท​ว่า “ตกลง เรา​จะ​ให้​เจ้า​วิ่ง​ไป​ที่นั่น เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมืองนั้น​ที่​ท่าน​พูดถึง เร็วเข้า รีบ​หนี​ไป​ที่นั่น เรา​จะ​ยัง​ทำ​อะไร​ไม่ได้ จนกว่า​เจ้า​จะ​วิ่ง​ไป​ถึง​ที่นั่น” (เมืองนั้น​จึง​มี​ชื่อ​ว่า​โศอาร์) เมื่อ​ตะวัน​โผล่​ขึ้นมา โลท​ได้​มา​ถึง​เมือง​โศอาร์ พระยาห์เวห์​ได้​ส่ง​ไฟ​กำมะถัน​และ​ลูกไฟ​ตกลง​มา​ใส่​เมือง​โสโดม​และ​เมือง​โกโมราห์ เหมือน​ห่าฝน​จาก​ท้องฟ้า และ​พระองค์​ได้​ทำลาย​เมือง​เหล่านั้น ตลอดจน​หุบเขา​ทั้งหมด และ​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​พวกนั้น​ทุกคน และ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​งอก​ขึ้น​มา​จาก​พื้นดิน เมีย​ของ​โลท​ได้​เหลียว​หลัง​ไป​ดู ร่าง​ของนาง​ได้​กลาย​เป็น​เสาเกลือ​ไป อับราฮัม​ตื่นแต่​เช้ามืด​และ​ไป​ยัง​สถานที่​ที่​เขา​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ อับราฮัม​มอง​ลงไป​ยัง​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์​และ​หุบเขา​ทั้งหมด เขา​เห็น​ควัน​ลอย​ขึ้น​จาก​แผ่นดินนั้น เหมือน​ควัน​จาก​เตา​หลอม​โลหะ เมื่อ​พระยาห์เวห์​ทำลาย​เมือง​ต่างๆ​ใน​หุบเขา พระองค์​ได้​ระลึกถึง​อับราฮัม พระองค์​จึง​นำ​โลท​ออก​มา​จาก​ความหายนะนั้น ตอน​ที่​พระองค์​ทำลาย​เมือง​ต่างๆ​พวกนั้น​ที่​โลท​เคย​อยู่

ปฐมกาล 19:1-29 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายทูตสวรรค์สององค์นั้นมาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทกำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นท่านทั้งสอง เขาก็ลุกขึ้นไป ต้อนรับและกราบลงถึงดิน กล่าวว่า <<เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอท่านแวะไปบ้านข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านค้างสักคืนหนึ่ง ล้างเท้าของท่าน แล้วค่อยลุกขึ้นแต่เช้าเดินทางต่อไป>> ท่านทั้งสองตอบว่า <<อย่าเลย เราจะค้างคืนที่ลานเมือง>> แต่โลทก็รบเร้าชักชวนท่านทั้งสอง ท่านจึงไปกับเขาเข้าไปในบ้านของเขา โลทก็จัดการเลี้ยง ปิ้งขนมไร้เชื้อ ท่านทั้งสองก็รับประทาน ท่านทั้งสองยังไม่ทันเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้น คือชายชาวเมืองโสโดมทั้งหนุ่มและแก่หมดทั้งเมือง จนถึงคนสุดท้ายพากันมาล้อมเรือนนั้นไว้ พวกเขาร้องเรียกโลทว่า <<ชายที่เข้ามาหาเจ้าคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาออกมาให้เรา เราจะได้สมสู่กับเขา>> โลทก็ออกทางประตูไปหาชายเหล่านั้น แล้วปิดประตูเสีย กล่าวว่า <<พี่น้องของข้าเอ๋ย ข้าขอเสียทีเถอะ อย่ากระทำการโหดร้ายเช่นนี้เลย ดูเถิด ข้ามีลูกสาวสองคนยังไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าจะนำออกมาให้ท่าน ท่านจะทำแก่เขาอย่างไรก็ได้ตามใจชอบเถิด แต่ขออย่าทำอะไรกับชายเหล่านี้เลย เพราะเขามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าแล้ว>> แต่พวกนั้นร้องว่า <<ถอยไป>> และขู่ว่า <<เจ้าคนนี้มาขออาศัยอยู่ แล้วยังมาตั้งตัวเป็นตุลาการ เราจะทำกับเจ้าให้เจ็บเสียยิ่งกว่าทำแก่คนเหล่านั้นอีก>> พวกนั้นผลักโลทโดยแรง และเข้ามาใกล้จะพังประตู แต่แขกทั้งสองนั้นยื่นมือออกไปดึงตัวโลทเข้ามาใน บ้านแล้วปิดประตูเสีย ท่านทั้งสองทำให้พวกคนที่อยู่หน้าประตูบ้านนั้นตาบอดหมด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เที่ยวคลำหาประตูจนอ่อนใจ แล้วแขกทั้งสองจึงพูดกับโลทว่า <<ที่นี่เจ้ามีใครอีกหรือ บุตรเขย บุตรชาย บุตรหญิง คนของเจ้าในเมืองนี้ จงนำออกไปจากที่นี้ให้หมด เรากำลังจะทำลายเมืองนี้แล้ว เพราะเสียงร้องกล่าวโทษประชาชนของเมืองนี้ ต่อพระเจ้าดังนักหนา และพระเจ้าทรงใช้เรามาทำลายเมืองนี้เสีย>> โลทจึงออกไปพูดกับบุตรเขย ผู้ที่จะแต่งงานกับบุตรหญิงของตนว่า <<ลุกขึ้นออกจากที่นี้เถิด เพราะพระเจ้ากำลังจะทำลายเมืองนี้>> แต่บุตรเขยของเขากลับหาว่าโลทล้อเล่น ครั้งเวลารุ่งเช้า ทูตสวรรค์จึงชักชวนโลทว่า <<ลุกขึ้นพาภรรยาของเจ้า และบุตรหญิงทั้งสองของเจ้าผู้อยู่ที่นี่ไปเสีย เกรงว่าเมื่อเมืองนี้ถูกลงอาชญาให้พินาศ เจ้าจะเสียชีวิตไปด้วย>> แต่โลทยังรีรอ ดังนั้นชายทั้งสองจึงคว้ามือเขาและภรรยา และบุตรหญิงทั้งสอง ด้วยพระกรุณาคุณของพระเจ้าที่มีต่อเขา ท่านทั้งสองนำเขาออกมาเสียนอกเมือง เมื่อท่านทั้งสองพาเขาออกมาแล้ว ท่านพูดว่า <<หนีเอาชีวิตรอดเถิด อย่าเหลียวหลังหรือหยุด ณ ที่ใดในลุ่มน้ำ หนีไปที่เนินเขา มิฉะนั้นเจ้าจะเสียชีวิต>> โลทเรียนท่านทั้งสองว่า <<อย่าเลยนาย ดูเถิด ผู้รับใช้ของท่านเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่านแล้ว และท่านได้สำแดงความกรุณาอันยิ่งใหญ่ ในการช่วยชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะหนีไปที่เนินเขาไม่ได้ เกรงว่าภัยพิบัตินั้นจะตามทัน และข้าพเจ้าจะตายเสีย ดูซิเมืองโน้นอยู่ใกล้พอที่จะหนีไปถึงได้ และเป็นเมืองเล็ก ขอให้ข้าพเจ้าหนีไปที่นั่น เมืองนั้นเป็นเมืองเล็กๆ แล้วชีวิตของข้าพเจ้าจะรอด>> ทูตสวรรค์พูดกับเขาว่า <<เราอนุญาตเรื่องนี้ คือเราจะไม่ทำลายเมืองที่เจ้าพูดถึงนั้นเสีย รีบเถิด หนีไปที่นั่น เพราะเราจะทำอะไรไม่ได้จนกว่าเจ้าจะไปถึงที่นั่น>> ฉะนั้นเขาจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่าโศอาร์ เมื่อโลทมาถึงเมืองโศอาร์ตะวันก็ขึ้นแล้ว แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟจากพระเจ้า ตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และพระองค์ทรงขยี้เมืองเหล่านั้น ลุ่มน้ำทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชต่างๆ ส่วนภรรยาของโลท ผู้อยู่ข้างหลังโลท เหลียวกลับไปมองดู นางจึงกลายเป็นเสาเกลือไป เวลาเช้ามืดอับราฮัมออกไปยังที่ที่ท่านยืนเฝ้าพระเจ้า ท่านมองลงไปทางเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และตรงดินแดนในลุ่มน้ำ ก็เห็นแผ่นดินลุกเป็นควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันเตาไฟใหญ่ ดังนั้น เมื่อพระเจ้าทรงทำลายหัวเมืองในลุ่มน้ำ พระเจ้าจึงทรงระลึกถึงอับราฮัม และส่งโลทออกไปจากเมืองที่ถูกขยี้ เมื่อพระองค์ทรงขยี้เมืองที่โลทอาศัยอยู่

ปฐมกาล 19:1-29 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ฝ่ายทูตสวรรค์สององค์นั้นมาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทกำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นท่านทั้งสอง เขาก็ลุกขึ้นไปต้อนรับและโน้มตัวลงหน้าซบดิน กล่าวว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอท่านแวะไปบ้านข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่าน ค้างสักคืนหนึ่ง ล้างเท้าของท่าน แล้วค่อยลุกขึ้นแต่เช้า เดินทางต่อไป” ทั้งสองตอบว่า “อย่าเลย เราจะค้างคืนที่ลานเมือง” แต่โลทก็รบเร้าชักชวนท่านทั้งสอง ท่านจึงแวะไปกับเขา เข้าไปในบ้านของเขา โลทก็จัดงานเลี้ยงท่านทั้งสอง ปิ้งขนมปังไร้เชื้อ ท่านทั้งสองก็รับประทาน ท่านทั้งสองยังไม่ทันเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้น คือชายชาวเมืองโสโดมทั้งหนุ่มและแก่ทั้งหมดจากทุกมุมเมืองพากันมาล้อมบ้านนั้นไว้ พวกเขาร้องเรียกโลทว่า “พวกผู้ชายที่มาหาเจ้าคืนนี้อยู่ที่ไหน? จงส่งพวกเขาออกมาให้เรา เราจะได้มีเพศสัมพันธ์กับพวกเขา” โลทก็ออกทางประตูไปหาชายเหล่านั้น แล้วปิดประตูข้างหลังเขา กล่าวว่า “พี่น้องของข้าเอ๋ย ข้าขอเถอะ อย่าทำชั่วเลย นี่แน่ะ ข้ามีลูกสาวสองคนยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายเลย ข้าจะส่งออกมาให้พวกท่าน พวกท่านจะทำแก่พวกนางอย่างไรก็ได้ตามใจชอบเถิด แต่ขออย่าทำอะไรพวกผู้ชายเหล่านี้เลย เพราะพวกเขามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าแล้ว” แต่พวกนั้นร้องว่า “ถอยไป” และขู่ว่า “เจ้าคนนี้มาขออาศัยอยู่ แล้วยังมาตั้งตัวเป็นผู้พิพากษา เราจะทำชั่วต่อเจ้าให้หนักกว่าที่จะทำแก่คนเหล่านั้นอีก” พวกนั้นผลักโลทโดยแรง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู แต่ชายทั้งสองนั้นยื่นมือออกไปดึงตัวโลทเข้ามาในบ้านแล้วปิดประตูเสีย ท่านทั้งสองทำให้พวกผู้ชายที่อยู่หน้าประตูบ้านนั้นตาบอด ทั้งคนหนุ่มและคนแก่ก็เที่ยวคลำหาประตูจนอ่อนใจ แล้วท่านทั้งสองจึงพูดกับโลทว่า “ที่นี่ท่านมีใครอีกหรือ? บุตรเขย บุตรชาย บุตรหญิง คนของท่านทั้งหมดในเมืองนี้ จงนำออกไปจากที่นี่ เพราะเรากำลังจะทำลายที่นี่แล้ว เพราะเสียงร้องกล่าวโทษพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ดังนักหนา และพระยาห์เวห์ทรงใช้เรามาทำลายเมืองนี้เสีย” โลทจึงออกไปพูดกับบุตรเขยทั้งสอง ที่จะแต่งงานกับบุตรหญิงทั้งสองของเขาว่า “ลุกขึ้น ออกจากที่นี่เถอะ เพราะพระยาห์เวห์กำลังจะทำลายเมืองนี้” แต่บุตรเขยทั้งสองของเขากลับหาว่าโลทล้อเล่น เมื่อเวลารุ่งเช้า ทูตสวรรค์ทั้งสองจึงเร่งโลทว่า “ลุกขึ้นพาภรรยาของท่าน และบุตรหญิงทั้งสองของท่านผู้อยู่ที่นี่ไปเสีย เกรงว่าพวกท่านจะถูกทำลายเพราะความชั่วของเมืองนี้” แต่โลทยังรีรอ ดังนั้นท่านทั้งสองจึงคว้ามือเขาและภรรยา และบุตรหญิงทั้งสอง ด้วยพระเมตตาของพระยาห์เวห์ที่มีต่อเขา ท่านทั้งสองนำเขาออกมาอยู่ที่นอกเมือง เมื่อท่านทั้งสองพาพวกเขาออกมานอกเมืองแล้ว ท่านพูดว่า “หนีเอาชีวิตรอดเถิด อย่าเหลียวหลังและอย่าหยุดที่ไหนในที่ลุ่มทั้งหมด หนีไปที่เนินเขา มิฉะนั้นท่านจะถูกทำลาย” โลทพูดกับท่านทั้งสองว่า “อย่าเลยเจ้านายของข้าพเจ้า ดูเถิด ผู้รับใช้ของท่านเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่านแล้ว และท่านได้สำแดงความกรุณาอันยิ่งใหญ่ในการช่วยชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สามารถหนีไปที่เนินเขา เกรงว่าภัยพิบัตินั้นจะตามทัน และข้าพเจ้าจะตายเสีย ดูซิ เมืองโน้นอยู่ใกล้พอที่จะหนีไปถึงได้ และเป็นเมืองเล็ก ขอให้ข้าพเจ้าหนีไปที่นั่น เมืองนั้นเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใช่หรือ? แล้วชีวิตของข้าพเจ้าจะรอด” ทูตสวรรค์พูดกับเขาว่า “นี่แน่ะ เราอนุญาตเรื่องนี้ด้วย คือเราจะไม่ทำลายเมืองที่ท่านพูดถึงนั้นเสีย เร็วเข้า หนีไปที่นั่น เพราะเราจะทำอะไรไม่ได้จนกว่าท่านจะไปถึงที่นั่น” ฉะนั้นเขาจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่าโศอาร์ เมื่อโลทมาถึงเมืองโศอาร์ ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว แล้วพระยาห์เวห์ทรงให้กำมะถันและไฟจากพระยาห์เวห์ ตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และพระองค์ทรงทำลายล้างเมืองเหล่านั้น ที่ลุ่มทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชที่งอกบนดิน ส่วนภรรยาของโลท ผู้ซึ่งอยู่ข้างหลังโลท มองกลับไป นางจึงกลายเป็นเสาเกลือ เวลาเช้ามืดอับราฮัมออกไปยังที่ที่ท่านยืนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ท่านมองลงไปทางเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และที่ดินแดนทั้งหมดในที่ลุ่ม ก็เห็นแผ่นดินลุกเป็นควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันเตาเผา ดังนั้น เมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองต่างๆ ในที่ลุ่ม พระเจ้าจึงทรงระลึกถึงอับราฮัม และทรงส่งโลทออกไปจากท่ามกลางการทำลายล้าง เมื่อพระองค์ทรงทำลายล้างเมืองทั้งสองที่โลทอาศัยอยู่

ปฐมกาล 19:1-29 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ทูตสวรรค์​สององค์มาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทได้นั่งอยู่​ที่​ประตู​เมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นแล้​วก​็​ลุ​กขึ้นไปพบทูตเหล่านั้นและได้ก้มหน้าของเขาลงถึ​งด​ิน แล​้วเขากล่าวว่า “​ดู​เถิด เจ้​านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านโปรดกรุณาแวะไปบ้านผู้​รับใช้​ของท่าน ค้างแรมคืนนี้ ล้างเท้าของท่าน แล​้​วท​่านจะได้ตื่นแต่เช้าเดินทางต่อไป” ทูตเหล่านั้นกล่าวว่า “อย่าเลย แต่​พวกเราจะค้างแรมที่ถนนในคืนนี้” เขาได้รบเร้าทูตเหล่านั้นอย่างมาก ทูตเหล่านั้นจึงแวะเข้าไปในบ้านของเขา และเขาจึงจัดการเลี้ยงทูตเหล่านั้น ทำขนมปังไร้เชื้อและทูตเหล่านั้นจึงรับประทาน แต่​ก่อนที่​ทูตเหล่านั้นเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้นคือพวกผู้ชายชาวเมืองโสโดม ทั้งแก่และหนุ่ม ทุ​กคนจากทุกสารทิศ มาล้อมเรือนนั้นไว้ พวกเขาเรียกโลทและพู​ดก​ับเขาว่า “​ผู้​ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้​อยู่​ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้​สมสู่​กับเขา” โลทก็ออกทางประตูไปหาพวกนั้นและปิดประตู​หลังจากที่​เขาออกไปแล้ว และกล่าวว่า “​พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน อย่ากระทำชั่วช้าเช่นนี้​เลย ดู​เถิด ข้าพเจ้ามี​บุ​ตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้​ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้​ท่าน ให้​ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่​เห​็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่​อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้​เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้​เข​้ามาอยู่​ใต้​ร่มชายคาของข้าพเจ้า” พวกเขาพูดว่า “ถอยไป” และพวกเขาพูดอี​กว่า “คนนี้​เข​้ามาอาศัยอยู่และเขาจะมาตั้งตัวเป็นผู้​พิพากษา บัดนี้​เราจะทำการชั่วร้ายกั​บท​่านยิ่งกว่าคนเหล่านั้น” พวกเขาจึงผลักคนนั้นโดยแรงคือโลทนั่นเอง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู แต่​ทูตเหล่านั้นจึงยื่​นม​ือออกไปดึงโลทเข้ามาในบ้านและปิดประตู ทูตเหล่านั้นทำให้พวกผู้ชายที่​อยู่​ประตู​บ้านนั้นตาบอดผู้​ใหญ่​ผู้น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงหาประตูจนเหนื่อย ทูตเหล่านั้นจึงพู​ดก​ับโลทว่า “​ที่นี่​มี​ใครอีกไหม จงพาบุตรเขย บุตรชาย บุตรสาว และสิ่งใดๆของเจ้าที่​อยู่​ในเมืองนี้ออกจากที่​นี่ เพราะพวกเราจะทำลายสถานที่​แห่​งนี้เพราะว่าเสียงร้องของพวกเขาดังมากยิ่งขึ้นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และพระเยโฮวาห์ทรงส่งพวกเรามาทำลายมันเสีย” โลทจึงออกไปพู​ดก​ับบุตรเขยของเขาซึ่งได้​แต่​งงานกับบุตรสาวของเขาว่า “​ลุกขึ้น เจ้​าจงออกไปจากสถานที่​นี้ เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงทำลายเมืองนี้” แต่​บุ​ตรเขยของเขากลั​บด​ูเหมือนว่าเขาพู​ดล​้อเล่น เมื่อรุ่งเช้าทูตสวรรค์​เหล่​านั้นจึงเร่งเร้าโลทว่า “จงลุกขึ้น พาภรรยาของเจ้า และบุตรสาวทั้งสองของเจ้า ซึ่งอยู่​ที่นี่​ไปเสีย เกรงว่าพวกเจ้าจะถูกทำลายพร้อมกับความชั่วช้าของเมืองนี้” ขณะที่​เขายังรีรออยู่ ทูตเหล่านั้นจึงคว้าจับมือเขา มือภรรยาของเขาและมื​อบ​ุตรสาวทั้งสองของเขา พระเยโฮวาห์ทรงมีความเมตตาต่อเขา ทูตเหล่านั้นจึงนำเขาออกมาและให้เขาอยู่​ที่​นอกเมือง ต่อมาเมื่อทูตเหล่านั้นนำพวกเขาออกมาภายนอกแล้ว ทูตพูดว่า “จงหนีเอาชีวิตรอด อย่าได้เหลียวหลังมาดูหรือพักอยู่​ที่​ราบลุ่​มท​ั้งหลาย จงหนีไปที่​ภู​เขาเกรงว่าเจ้าจะถูกทำลาย” โลทจึงกล่าวแก่ทูตเหล่านั้​นว​่า “​โอ เจ้​านายของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย ดู​เถิด ผู้รับใช้​ของท่านได้รับพระกรุณาในสายตาของท่านและท่านมีความเมตตาอย่างยิ่ง ซึ่งท่านได้สำแดงต่อข้าพเจ้าในการช่วยชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สามารถหนีไปยังภูเขาได้ เกรงว่าสิ่งชั่วร้ายจะมาถึงตัวข้าพเจ้าและข้าพเจ้าจะตายเสีย ดู​เถิด กรุ​ณาเถิด เมืองนี้​อยู่​ใกล้​ที่​จะหนีไปถึงได้และเป็นเมืองเล็ก โอ โปรดให้ข้าพเจ้าหนีไปที่​นั่น (เป็นเมืองเล็กๆมิ​ใช่​หรือ​) และชีวิตของข้าพเจ้าจะรอด” ทูตกล่าวแก่เขาว่า “​ดู​เถิด เรายอมรับเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่าเราจะไม่ทำลายล้างเมืองนี้ซึ่งเจ้าได้​กล่าวถึง เจ้​าจงรีบหนีไปที่​นั่น เพราะเราไม่สามารถกระทำอะไรได้จนกว่าเจ้าไปถึงที่​นั่น​” เหตุ​ฉะนั้นจึงเรียกชื่อเมืองนั้​นว​่าโศอาร์ เมื่อโลทเข้าไปยังเมืองโศอาร์ ตะวั​นก​็ขึ้นมาเหนือแผ่นดินโลกแล้ว ดังนั้นพระเยโฮวาห์ทรงให้กำมะถันและไฟจากพระเยโฮวาห์ตกมาจากฟ้าสวรรค์ลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ พระองค์​ทรงทำลายล้างเมืองทั้งหลายเหล่านั้น บรรดาที่​ราบลุ่ม ชาวเมืองทั้งปวงและสิ่งที่งอกขึ้นมาบนแผ่นดิน แต่​ภรรยาของเขาผู้ตามข้างหลังเขาเหลียวกลับไปมองดูและนางจึงกลายเป็นเสาเกลือ อับราฮั​มล​ุกขึ้นตั้งแต่​เช้าตรู่​ไปยังสถานที่​ที่​ท่านเคยยืนต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ท่านมองไปทางเมืองโสโดม เมืองโกโมราห์และดินแดนที่ราบลุ่​มท​ั้งหลาย และดู​เถิด ก็​เห​็นควันจากแผ่นดินนั้นพลุ่งขึ้นเหมือนควันจากเตาไฟใหญ่ ต่อมาเมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองทั้งหลายในที่ราบลุ่มแล้​วน​ั้น พระเจ้าทรงระลึกถึ​งอ​ับราฮัม และส่งโลทออกไปจากท่ามกลางการทำลายล้าง เมื่อพระองค์ทรงทำลายล้างเมืองทั้งหลายซึ่งโลทอาศัยอยู่

ปฐมกาล 19:1-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ทูตสวรรค์ทั้งสองมาถึงเมืองโสโดมตอนพลบค่ำ และโลทนั่งอยู่ที่ประตูเมือง เมื่อโลทเห็นทูตนั้นจึงลุกขึ้นไปต้อนรับ ก้มคำนับจนหน้าจดพื้น เขากล่าวว่า “ท่านเจ้าข้า เชิญแวะบ้านของผู้รับใช้ของท่าน ท่านจะได้ล้างเท้าและพักสักคืนหนึ่ง แล้วพรุ่งนี้เช้าจึงค่อยเดินทางต่อไป” ชายทั้งสองตอบว่า “อย่าเลย เราจะค้างที่ลานเมือง” แต่โลทรบเร้าหนักเข้าจนในที่สุดทูตทั้งสองจึงได้ไปบ้านพร้อมเขา เขาได้จัดเตรียมอาหารสำหรับทั้งสองโดยปิ้งขนมปังไม่ใส่เชื้อ และพวกเขาก็รับประทาน ก่อนที่พวกเขาจะเข้านอน ชายทุกคนจากทุกมุมเมืองโสโดมทั้งหนุ่มทั้งแก่ก็พากันมาล้อมบ้านหลังนั้น คนเหล่านั้นตะโกนบอกโลทว่า “พวกผู้ชายที่มาหาเจ้าค่ำวันนี้อยู่ที่ไหน? จงพาพวกเขาออกมาเดี๋ยวนี้ เราจะได้หลับนอนกับพวกเขา” โลทจึงออกไปข้างนอก ปิดประตู แล้วพูดกับคนเหล่านั้นว่า “อย่าเลยพี่น้อง อย่าทำสิ่งชั่วช้าเช่นนี้เลย นี่แน่ะ เรามีลูกสาวสองคน ยังไม่เคยหลับนอนกับผู้ชายเลย เราจะยกให้ท่านทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่อย่าทำอะไรกับชายเหล่านี้เลย เพราะเขาได้มาพักอยู่ใต้ชายคาของเรา ใต้การคุ้มครองของเรา” พวกนั้นเอ็ดตะโรว่า “ถอยไปให้พ้น เจ้าหมอนี่มาอยู่ในฐานะคนต่างด้าวแล้วยังจะมาตั้งตัวเป็นตุลาการ! เราจะจัดการกับเจ้าให้ยิ่งกว่าสองคนนั้นเสียอีก” แล้วพวกเขาก็กดดันโลทมากขึ้น และรุกเข้ามาเพื่อจะพังประตู แต่ชายทั้งสองที่อยู่ข้างในเอื้อมมือมาดึงโลทกลับเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู จากนั้นพวกเขาทำให้บรรดาผู้ชายที่ออกันอยู่ที่ประตูทั้งหนุ่มทั้งแก่นั้นตาพร่ามัว คนเหล่านั้นจึงหาประตูไม่พบ ชายทั้งสองกล่าวกับโลทว่า “ท่านมีญาติพี่น้องอื่นอีกบ้างหรือไม่ในเมืองนี้ ไม่ว่าลูกเขย ลูกชาย ลูกสาว หรือคนของท่านที่อยู่ในเมืองนี้? จงพาพวกเขาออกไปจากที่นี่ เพราะเราจะทำลายเมืองนี้ เสียงที่ชาวเมืองนี้ฟ้องร้องต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าดังจนพระองค์ทรงส่งเรามาทำลายเมืองนี้” โลทจึงไปบอกบรรดาลูกเขยซึ่งหมั้นหมายกับลูกสาวของเขาว่า “เร็วเข้า รีบออกจากที่นี่เถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทรงทำลายเมืองนี้!” แต่ลูกเขยคิดว่าเขาพูดเล่น พอใกล้รุ่ง ทูตเหล่านั้นจึงเร่งรัดโลทว่า “เร็วเข้า! จงพาภรรยาและลูกสาวทั้งสองของเจ้าออกไปจากที่นี่ มิฉะนั้นเมื่อเมืองนี้ถูกลงโทษ เจ้าจะถูกกวาดล้างไปด้วย” เมื่อโลทยังรีรออยู่ ทูตเหล่านั้นจึงคว้ามือของเขา ทั้งภรรยาและลูกสาวทั้งสอง แล้วพาออกมานอกเมืองโดยปลอดภัย เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาพวกเขา เมื่อออกมาแล้ว ทูตองค์หนึ่งจึงพูดว่า “จงหนีเอาชีวิตรอดเถิด! อย่าหันกลับมามอง อย่าหยุดอยู่ในที่ราบนี้ จงหนีไปที่ภูเขา มิฉะนั้นเจ้าจะถูกกวาดล้างไปด้วย!” แต่โลทวิงวอนว่า “อย่าเลย นายข้า ได้โปรดเถิด! ท่านได้กรุณาผู้รับใช้ของท่าน ท่านได้สำแดงความเมตตาอย่างใหญ่หลวงต่อข้าพเจ้าโดยไว้ชีวิตข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถหนีไปถึงภูเขาก่อนที่หายนะนี้จะมาถึงข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะต้องตาย ดูเถิด มีเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้พอที่จะวิ่งไปที่นั่นได้ทัน ให้ข้าพเจ้าหนีไปที่นั่น มันเล็กมากไม่ใช่หรือ? แล้วข้าพเจ้าจะรอดชีวิต” ทูตนั้นตอบว่า “ก็ได้ เราจะทำตามที่เจ้าร้องขอ เราจะไม่ทำลายเมืองที่เจ้าพูดถึง แต่จงรีบหนีไปเพราะเราทำอะไรไม่ได้จนกว่าเจ้าจะไปถึงที่นั่น” (นี่คือเหตุที่เมืองนั้นได้ชื่อว่าโศอาร์) เมื่อโลทมาถึงโศอาร์ ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ไฟกำมะถันตกลงมาใส่เมืองโสโดมและโกโมราห์ ไฟนี้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าตกลงมาจากฟ้าสวรรค์ ดังนั้นพระองค์ทรงทำลายเมืองเหล่านั้นและที่ราบลุ่มทั้งหมด รวมทั้งทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในเมืองเหล่านั้นและพืชพันธุ์ทั้งสิ้นด้วย แต่ภรรยาของโลทเหลียวกลับไปดู นางจึงกลายเป็นเสาเกลือ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น อับราฮัมลุกขึ้นและกลับไปยังสถานที่ซึ่งเขาเคยยืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เขามองลงไปยังเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์และกวาดสายตาไปทั่วดินแดนในที่ราบ เขามองเห็นควันหนาทึบพลุ่งขึ้นจากดินแดนนั้นเหมือนควันที่ออกจากเตาหลอม ดังนั้นเมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองต่างๆ ในที่ราบนั้น พระองค์ทรงระลึกถึงอับราฮัมและทรงนำโลทออกมาจากภัยพิบัติซึ่งทำลายล้างเมืองต่างๆ ที่โลทได้เคยอาศัยอยู่

ปฐมกาล 19:1-29 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ทูต​สวรรค์ 2 องค์​นั้น​มา​ยัง​โสโดม​ใน​เวลา​เย็น โลท​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​ประตู​เมือง​โสโดม เมื่อ​โลท​เห็น​ท่าน​ทั้ง​สอง เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ไป​หา และ​ก้ม​ตัว​ลง​ราบ​กับ​พื้น หน้า​ซบ​ดิน และ​พูด​ว่า “เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า ได้​โปรด​มา​ยัง​บ้าน​ของ​ผู้​รับใช้​ท่าน​เถิด มา​ค้าง​คืน​และ​ล้าง​เท้า​ของ​ท่าน แล้ว​ท่าน​จะ​ได้​ลุก​ขึ้น​แต่​เช้าตรู่​ไป​ตาม​ทาง​ของ​ท่าน” ทั้ง​สอง​กล่าว​ว่า “ไม่​หรอก เรา​จะ​ค้าง​คืน​ที่​ลาน​เมือง” แต่​เขา​ก็​ยัง​คง​คะยั้น​คะยอ​ท่าน​ทั้ง​สอง​มิ​ได้​หยุด จน​ท่าน​ต้อง​ยอม​ไป​บ้าน​ของ​โลท โลท​ทำ​อาหาร​เลี้ยง​อย่าง​ใหญ่​โต และ​ทำ​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ ท่าน​ทั้ง​สอง​ก็​รับประทาน แต่​ก่อน​จะ​เอน​กาย​ลง พวก​ผู้​ชาย​ของ​เมือง​โสโดม​ทั้ง​คน​หนุ่ม​และ​คน​ชรา​คือ ผู้​ชาย​ทั้ง​เมือง​พา​กัน​มา​ล้อม​บ้าน​ของ​โลท พวก​เขา​ร้องเรียก​โลท​ว่า “ผู้​ชาย​ที่​มา​หา​เจ้า​คืน​นี้​อยู่​ไหน พา​พวก​เขา​ออก​มา​หา​เรา เรา​จะ​ได้​หลับ​นอน​กับ​เขา” โลท​จึง​ออก​ไป​พูด​กับ​พวก​เขา​ข้าง​นอก​พลาง​ปิด​ประตู เขา​พูด​ว่า “เรา​ขอ​ร้อง​พวก​ท่าน พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย อย่า​ทำ​ตัว​โฉดชั่ว​เช่น​นี้ ดู​เถิด เรา​มี​ลูก​สาว 2 คน​ซึ่ง​ไม่​เคย​สมสู่​กับ​ชาย​ใด เรา​จะ​พา​มา​ให้​ท่าน จง​ทำ​สิ่ง​ที่​ใจ​ท่าน​ชอบ ขอ​แต่​เพียง​อย่า​ทำ​อะไร​กับ​ชาย​เหล่า​นี้​เลย เพราะ​เขา​อยู่​ใต้​การ​ดูแล​ของ​เรา” แต่​พวก​เขา​กลับ​พูด​ว่า “หลีก​ไป เจ้า​คน​นี้​เป็น​คน​ต่างด้าว แล้ว​ยัง​ทำ​ตัว​เป็น​ผู้​พิพากษา พวก​เรา​จะ​ทำ​กับ​เจ้า​เสีย​ยิ่ง​กว่า​จะ​ทำ​กับ​คน​ทั้ง​สอง​นั้น​อีก” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ผลัก​โลท​โดย​แรง พลาง​ถลัน​เข้า​ใกล้​ประตู หวัง​จะ​พัง​ประตู​เข้า​ไป แต่​ชาย​ทั้ง​สอง​เอื้อม​มือ​ออก​ไป​ดึง​โลท​กลับ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน และ​ปิด​ประตู ครั้น​แล้ว​ท่าน​ทั้ง​สอง​ทำ​ให้​พวก​ที่​อยู่​นอก​ประตู​บ้าน คน​หนุ่ม​และ​คน​ชรา ตา​มัว​มอง​ไม่​เห็น จน​ต้อง​พา​กัน​คลำ​หา​ประตู แล้ว​ชาย​ทั้ง​สอง​พูด​กับ​โลท​ว่า “เจ้า​มี​ใคร​อยู่​ที่​นี่​อีก​ไหม ลูก​เขย ลูก​ชาย ลูก​สาว หรือ​คน​อื่นๆ ที่​เจ้า​มี​ใน​เมือง​นี้ จง​พา​พวก​เขา​ออก​ไป​จาก​ที่​นี่ เรา​กำลัง​จะ​ทำลาย​เมือง​นี้ เพราะ​เสียง​ร้องทุกข์​ต่อต้าน​ผู้​คน​ของ​เมือง​นี้​ดัง​สนั่น​ขึ้น​ไป​ถึง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​พระ​องค์​ได้​ส่ง​เรา​มา​ทำลาย​มัน​เสีย” ดังนั้น​โลท​จึง​ออก​ไป​พูด​กับ​บรรดา​ว่าที่​บุตร​เขย​ซึ่ง​หมาย​จะ​แต่งงาน​กับ​บุตร​หญิง​ของ​ตน​ว่า “เร็วๆ ออก​ไป​จาก​เมือง​นี้​เสีย เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กำลัง​จะ​ทำลาย​เมือง​นี้​แล้ว” แต่​พวก​เขา​กลับ​คิด​ว่า​โลท​พูด​ล้อ​เล่น ครั้น​ฟ้า​สาง ทูต​สวรรค์​ทั้ง​สอง​เร่ง​โลท​ว่า “ลุก​ขึ้น พา​ภรรยา​กับ​ลูก​สาว​อีก 2 คน​ที่​อยู่​ที่​นี่​ออก​ไป มิฉะนั้น​เจ้า​จะ​ตาย​ไป​ด้วย​กับ​คน​ทั้ง​เมือง​ที่​ถูก​ลง​โทษ” ขณะ​ที่​โลท​ลังเล​ใจ​อยู่ ชาย​ทั้ง​สอง​จึง​คว้า​มือ​เขา​และ​ภรรยา​กับ​บุตร​หญิง 2 คน​ออก​มา เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มี​เมตตา​ต่อ​เขา ท่าน​ทั้ง​สอง​ได้​พา​เขา​ออก​ไป​ให้​พ้น​จาก​เมือง ทันที​ที่​พวก​เขา​พ้น​จาก​เขต​เมือง​ไป​แล้ว ท่าน​กล่าว​ว่า “หนี​เอา​ชีวิต​รอด​เถิด อย่า​หัน​กลับ​ไป​ดู​หรือ​หยุด​อยู่​ที่​ใด​ใน​ที่​ราบ จง​หนี​ไป​ทาง​เนิน​เขา มิฉะนั้น​เจ้า​จะ​ต้อง​ตาย” โลท​พูด​กับ​ท่าน​ทั้ง​สอง​ว่า “โอ อย่า​เลย นายท่าน ดู​เถิด ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​เป็น​ที่​โปรดปราน​ใน​สายตา​ของ​ท่าน ทั้ง​ท่าน​ยัง​ได้​แสดง​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​ถึง​ความ​กรุณา​โดย​ช่วย​ชีวิต​ข้าพเจ้า​ไว้ แต่​ข้าพเจ้า​หนี​ไป​ทาง​เนิน​เขา​ไม่​ได้ เพราะ​เกรง​ว่า​ความ​วิบัติ​จะ​มา​ถึง​ตัว​ข้าพเจ้า แล้ว​ข้าพเจ้า​ก็​จะ​ตาย ดู​เถิด เมือง​ข้าง​หน้า​นี้​ก็​ใกล้​พอ​ที่​จะ​หนี​ไป​ถึง​ได้ ถึง​เมือง​จะ​เล็ก ก็​ขอ​ให้​ข้าพเจ้า​หนี​ไป​ที่​นั่น​เถิด ขนาด​เล็ก​มาก​มิ​ใช่​หรือ ชีวิต​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​ปลอดภัย” ท่าน​กล่าว​กับ​โลท​ว่า “เอาเถิด เรา​ให้​เจ้า​ทำ​ตาม​นั้น แล้ว​เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​ที่​เจ้า​พูด​ถึง จง​รีบ​เร่ง​หนี​ไป​ที่​นั่น เพราะ​เรา​ยัง​ทำ​อะไร​ไม่​ได้​จนกว่า​เจ้า​จะ​ถึง​ที่​นั่น” ฉะนั้น​ชื่อ​ของ​เมือง​นั้น​คือ โศอาร์ ขณะ​ที่​โลท​มา​ถึง​โศอาร์​ดวง​ตะวัน​ก็​ขึ้น​แล้ว แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​บันดาล​ให้​กำมะถัน​และ​ไฟ​ตก​จาก​ฟ้า​สวรรค์ ลง​มา​ที่​เมือง​โสโดม​และ​เมือง​โกโมราห์ พระ​องค์​ได้​เผา​ผลาญ​เมือง​ทั้ง​สอง ทั้ง​ใน​บริเวณ​ที่​ราบ และ​ผู้​อาศัย​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​เมือง​รวม​ถึง​พืช​ผล​ทุก​ชนิด​ด้วย แต่​ภรรยา​ของ​โลท​ที่​กำลัง​ตาม​มา ได้​หัน​หลัง​กลับ​ไป​มอง นาง​จึง​กลาย​เป็น​เสา​เกลือ​ไป เวลา​เช้า​ตรู่​อับราฮัม​ก็​ไป​ยัง​ที่​ที่​ท่าน​ยืน​อยู่ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เมื่อ​คราว​ก่อน ท่าน​มอง​ลง​มา​ทาง​เมือง​โสโดม โกโมราห์ และ​ทาง​ดินแดน​ทั่ว​ที่​ราบ ท่าน​ก็​เห็น​ควัน​ลอย​ขึ้น​จาก​ดินแดน​นั้น​ราว​กับ​กลุ่ม​ควัน​ที่​พลุ่ง​จาก​เตา​เผา เหตุการณ์​ดัง​กล่าว​ได้​เกิด​ขึ้น เมื่อ​พระ​เจ้า​ทำลาย​เมือง​เหล่า​นั้น​ใน​บริเวณ​ที่​ราบ พระ​เจ้า​ระลึก​ถึง​อับราฮัม จึง​ได้​พา​โลท​ออก​ไป​จาก​ดินแดน​ที่​ถูก​เผา​ซึ่ง​เป็น​เมือง​ที่​โลท​เคย​อาศัย​อยู่