2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36

2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 TH1971

แต่เขาทั้งหลายกลัวอย่างที่สุด และพูดว่า <<ดูเถิด พระราชาสองพระองค์ยังต้านทานพระองค์ไม่ได้แล้ว เราจะต่อสู้พระองค์ได้อย่างไร>> ฉะนั้นผู้ที่บังคับบัญชาพระราชวัง และผู้ที่บังคับบัญชาบ้านเมืองพร้อมพวกผู้ใหญ่และ พวกพี่เลี้ยงใช้ให้ไปทูลเยฮูว่า <<ข้าพระบาททั้งหลายเป็นผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และข้าพระบาทจะกระทำทุกอย่างที่พระองค์ ตรัสสั่งแก่ข้าพระบาท ข้าพระบาทจะไม่ตั้งผู้หนึ่งผู้ใดไว้เป็นกษัตริย์ ขอทรงกระทำตามที่พอแก่พระเนตรพระกรรณของพระองค์ เถิด>> แล้วพระองค์ทรงมีลายพระหัตถ์ไปถึงเขาฉบับที่สองว่า <<ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ฝ่ายเรา และถ้าท่านพร้อมที่จะเชื่อฟังเรา จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหา เราที่ยิสเรเอลพรุ่งนี้เวลานี้>> ฝ่ายโอรสของพระราชาเจ็ดสิบพระองค์ด้วยกัน อยู่กับคนใหญ่คนโตในเมือง ผู้ซึ่งได้ชุบเลี้ยงท่านทั้งหลายมา และอยู่มาเมื่อลายพระหัตถ์มาถึงเขาทั้งหลาย เขาก็จับโอรสของพระราชาฆ่าเสียเจ็ดสิบองค์ด้วยกัน เอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปยังพระองค์ที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสารมาทูลพระองค์ว่า <<เขานำศีรษะโอรสของกษัตริย์มาแล้วพระเจ้าข้า>> พระองค์ตรัสว่า <<จงกองไว้เป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า>> พอรุ่งเช้าพระองค์เสด็จออกไปประทับยืน ตรัสกับประชาชนทั้งปวงว่า <<ท่านทั้งหลายเป็นผู้ไร้ความผิด ส่วนเราได้กบฏต่อนายของเราและประหารพระองค์เสีย แต่ผู้ใดเล่าที่ฆ่าคนเหล่านี้ จงทราบเถิดว่า พระวจนะของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับ จะไม่ตกดินแต่อย่างไรเลย เพราะพระเจ้าทรงกระทำตามที่พระองค์ตรัสโดยเอลียาห์ ผู้รับใช้ของพระองค์>> เยฮูทรงประหารราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ ในยิสเรเอลคนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ และสหายสนิทของพระองค์และปุโรหิตของพระองค์ดังนี้ แหละไม่เหลือไว้สักคนเดียวเลย แล้วพระองค์ก็ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย เมื่อพระองค์ประทับที่เบธเอเขดหมู่บ้านของผู้เลี้ยงแกะ ตามทางที่เสด็จ เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า <<ท่านทั้งหลายคือใคร>> และเขาทั้งหลายทูลตอบว่า <<ข้าพเจ้าทั้งหลายคือญาติของอาหัสยาห์ และข้าพเจ้าทั้งหลายลงมาเยี่ยมบรรดา ราชโอรสและโอรสของราชมารดา>> พระองค์รับสั่งว่า <<จับเขาทั้งเป็น>> เขาทั้งหลายก็จับเขาทั้งเป็น และประหารเขาเสียที่บ่อเบธเอเขดสี่สิบสองคนด้วยกัน ไม่เหลือไว้สักคนเดียว และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่นก็ทรงพบเยโฮนาดับ บุตรเรคาบมาหาพระองค์ พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสกับเขาว่า <<จิตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของฉัน อย่างจิตใจของฉันตรงต่อของท่านหรือ>> และเยโฮนาดับทูลว่า <<ตรง พระเจ้าข้า>> เยฮูตรัสว่า <<ถ้าตรงก็ยื่นมือมาให้เรา>> เขาจึงยื่นมือของเขา และเยฮูก็จับเขาขึ้นมาบนรถรบ พระองค์ตรัสว่า <<มากับเราเถิด และดูความร้อนรนของเราเพื่อพระเจ้า>> พระองค์จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์ไป และเมื่อพระองค์มาถึงสะมาเรีย พระองค์ทรงประหารคนทั้งปวงที่ เป็นราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ในสะมาเรียเสีย จนพระองค์ทรงทำลายอาหับเสียสิ้น ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระองค์ตรัสกับเอลียาห์ แล้วเยฮูทรงประชุมบรรดาประชาชน ทั้งสิ้น และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า <<อาหับปรนนิบัติพระบาอัลแต่เล็กน้อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มาก ฉะนั้นจงเรียกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลมาให้หมด ทั้งบรรดาผู้นมัสการและปุโรหิตของท่านอย่าให้ผู้ใด ขาดไปเลย เพราะเราจะมีสัตวบูชาอย่างใหญ่โตที่จะถวายแก่พระบาอัล ผู้ใดขาดจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้>> แต่เยฮูทรงกระทำเป็น อุบายเพื่อจะทำลายผู้เคารพนมัสการพระบาอัล และเยฮูตรัสสั่งว่า <<จงจัดพิธีประชุมนมัสการพระบาอัล>> เขาก็ป่าวร้องเรียกประชุมเช่นนั้น และเยฮูทรงใช้ให้ไปทั่วอิสราเอล และผู้นมัสการพระบาอัลก็มาทั้งหมด จึงไม่มีเหลือสักคนหนึ่งที่ไม่ได้มา และเขาทั้งหลายก็เข้าไปในนิเวศของพระบาอัล และนิเวศของพระบาอัลก็เต็มแน่น พระองค์ตรัสสั่งผู้ที่ดูแลตู้เสื้อว่า <<จงเอาเสื้อสำหรับนมัสการพระบาอัลออกมา>> เขาก็เอาเสื้อออกมาให้เขาทั้งหลาย แล้วเยฮูเสด็จเข้าไปในนิเวศของพระบาอัล พร้อมกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบ พระองค์ตรัสกับผู้นมัสการพระบาอัลว่า <<จงค้นดู ดูให้ดีว่าไม่มีผู้รับใช้ของพระเยโฮวาห์อยู่ในหมู่พวกท่าน ให้มีแต่ผู้นมัสการพระบาอัลเท่านั้น>> แล้วเขาทั้งหลายเข้าไปถวายเครื่อง สัตวบูชาและเครื่องเผาบูชา เยฮูทรงวางคนแปดสิบคนไว้ภายนอก และตรัสว่า <<ชายคนใดที่ปล่อยให้คนหนึ่งคนใดซึ่งเรามอบ ไว้ในมือเจ้าหนีรอดไปได้ เขาต้องเสียชีวิตของเขาแทน>> และอยู่มาเมื่อพระองค์เสร็จการถวายเครื่องเผาบูชา เยฮูรับสั่งแก่ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารว่า <<จงเข้าไปฆ่าเขาเสีย อย่าให้รอดสักคนเดียว>> เมื่อเขาฆ่าเขาทั้งหลายเสียด้วยคมดาบแล้ว ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารก็โยน ศพเขาทั้งหลายออกไปข้างนอก แล้วก็เข้าไปที่แท่นบูชาในนิเวศพระบาอัล เขานำเอาเสาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในนิเวศของ พระบาอัลออกมาเผาเสีย และเขาทั้งหลายทลายเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งพระบาอัล และทลายนิเวศของพระบาอัล และกระทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้ เยฮูทรงกวาดล้างพระบาอัลจากอิสราเอลดังนี้แหละ แต่เยฮูมิได้ทรงหันจากบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำด้วย คือโคทองคำซึ่งอยู่ในเมืองเบธเอลและในเมืองดาน และพระเจ้าตรัสกับเยฮูว่า <<เพราะเจ้าได้ทำดีในการที่กระทำ สิ่งที่ชอบในสายตาของเรา และได้กระทำต่อราชวงศ์ อาหับตามทุกอย่างที่อยู่ในใจของเรา เชื้อสายของเจ้าจนชั่วชีวิตที่สี่จะได้ นั่งบนพระที่นั่งของอิสราเอล>> แต่เยฮูมิได้ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตาม พระธรรมของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ด้วยสิ้นสุดพระทัยของพระองค์ พระองค์มิได้ทรงหันเสียจากบาปของเยโรโบอัม ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำด้วย ในสมัยนั้นพระเจ้าทรงเริ่มตัดส่วนของอิสราเอลออก ฮาซาเอลได้รบชนะตามพรมแดนอิสราเอล ตั้งแต่แม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออกทั่วแผ่นดินกิเลอาด คนกาด คนรูเบน และคนมนัสเสห์ ตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ข้างที่ลุ่มแม่น้ำอารโนน คือกิเลอาดและบาชาน ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยฮู และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังทั้งสิ้นของพระองค์ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งพระราชา ประเทศอิสราเอลหรือ เยฮูจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาก็ฝังไว้ในกรุงสะมาเรีย และเยโฮอาหาสโอรสของพระองค์ได้เสวยราชย์แทนพระองค์ เวลาที่เยฮูทรงครอบครองเหนืออิสราเอลใน สะมาเรียนั้นเป็นยี่สิบแปดปี