2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แต่พวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวาและกล่าวว่า “กษัตริย์สององค์ยังไม่อาจต่อกรกับเขาได้ แล้วเราจะทำอะไรได้?” ฉะนั้นเจ้ากรมวัง เจ้ากรมเมือง บรรดาผู้อาวุโส และองครักษ์ทั้งหลายจึงส่งสาส์นมาถึงเยฮูว่า “เราเป็นผู้รับใช้ของท่านและจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน เราจะไม่แต่งตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นกษัตริย์ ท่านจงทำตามที่เห็นว่าดีที่สุดเถิด” เยฮูเขียนสาส์นฉบับที่สองถึงคนเหล่านั้นความว่า “หากท่านทั้งหลายเป็นฝ่ายเราและจะปฏิบัติตามคำสั่งของเรา ก็จงนำศีรษะเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่เป็นชายของเจ้านายของท่านมาให้เราที่ยิสเรเอลพรุ่งนี้ในเวลาเดียวกันนี้” ขณะนั้นเชื้อพระวงศ์ทั้งเจ็ดสิบคนของอาหับพักอยู่ตามบ้านของบรรดาผู้นำของเมืองที่เลี้ยงดูพวกเขามา เมื่อผู้นำเหล่านั้นได้รับสาส์นก็ประหารเชื้อพระวงศ์ของอาหับทั้งเจ็ดสิบคน ตัดศีรษะใส่ตะกร้านำมามอบให้เยฮูที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสารมาแจ้งเยฮูว่า “พวกเขาได้นำศีรษะของบรรดาเชื้อพระวงศ์มาแล้ว” เยฮูก็สั่งว่า “ให้กองสุมกันเป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า” เช้าวันรุ่งขึ้นเยฮูก็ออกไปปราศรัยต่อหน้าประชาชนทั้งปวงว่า “พวกท่านไม่ได้ทำผิดอันใด ข้าพเจ้าเองที่คิดล้มล้างนายของข้าพเจ้าและประหารเขา แต่ใครเล่าประหารเชื้อพระวงศ์เหล่านี้? รู้ไว้เถิดว่าพระดำรัสที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับราชวงศ์อาหับจะสำเร็จทุกประการ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำตามที่ทรงสัญญาไว้ผ่านทางเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์” จากนั้นเยฮูก็ประหารพวกพ้องทั้งหมดของอาหับที่เหลืออยู่ในยิสเรเอล รวมทั้งข้าราชบริพารคนสำคัญ สหายคนสนิทและปุโรหิต ไม่มีใครเหลือรอดสักคน แล้วเยฮูออกเดินทางไปสะมาเรีย ที่เบธเอเขดหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ เยฮูพบเชื้อพระวงศ์ของอาหัสยาห์แห่งยูดาห์ จึงตรัสถามว่า “พวกท่านเป็นใครกัน?” เขาตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของกษัตริย์อาหัสยาห์ มาเยี่ยมพระราชวงศ์ของกษัตริย์และราชมารดา” เยฮูตรัสสั่งว่า “จับตัวไว้” แล้วจับกุมพวกเขาไปยังบ่อน้ำแห่งเบธเอเขด และประหารพวกเขาทั้งหมด 42 คน ไม่ให้ใครเหลือรอดสักคนเดียว เมื่อเยฮูออกเดินทางต่อไปก็พบเยโฮนาดับบุตรเรคาบออกมาต้อนรับ เยฮูทักทายแล้วตรัสว่า “ท่านใจตรงกับเรา เหมือนที่ใจเราตรงกับท่านหรือเปล่า?” เยโฮนาดับตอบว่า “ถูกต้องแล้วพระเจ้าข้า” เยฮูจึงตรัสว่า “ถ้าอย่างนั้น ยื่นมือมาเถิด” แล้วเยฮูก็ช่วยดึงเยโฮนาดับขึ้นมาบนรถม้าศึก เยฮูตรัสว่า “มากับเราสิ มาดูว่าเรากระตือรือร้นเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแค่ไหน” เยโฮนาดับจึงร่วมเสด็จไปด้วย เมื่อเยฮูมาถึงสะมาเรียก็ทรงประหารคนที่เหลืออยู่ทั้งหมดในราชวงศ์อาหับตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้กับเอลียาห์ แล้วเยฮูทรงเรียกประชาชนทั้งปวงมารวมกันและตรัสแก่พวกเขาว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลเล็กน้อย เยฮูจะปรนนิบัติพระบาอัลให้มาก จงเรียกบรรดาผู้ทำนายและปุโรหิตของพระบาอัล รวมทั้งผู้ปรนนิบัติพระบาอัลมาให้หมด อย่าให้ขาดแม้สักคนเดียว เพราะเราจะจัดให้มีการเซ่นสังเวยครั้งใหญ่แก่พระบาอัล ใครไม่มาจะต้องถูกประหาร” ทั้งนี้เป็นแผนลวงของเยฮูที่จะกำจัดผู้ปรนนิบัติพระบาอัล เยฮูตรัสว่า “จงพร้อมใจกันมาชุมนุมเพื่อเป็นเกียรติแก่พระบาอัล” พวกเขาจึงป่าวประกาศข้อความนั้น แล้วพระองค์ทรงแจ้งไปทั่วแดนอิสราเอล ผู้ที่ปรนนิบัติพระบาอัลพากันมาครบทุกคน แน่นขนัดเต็มวิหารของพระบาอัล เยฮูตรัสสั่งคนดูแลเสื้อผ้าว่า “จงนำเสื้อคลุมมาให้ผู้ปรนนิบัติพระบาอัลให้ครบทุกคน” เขาจึงนำเสื้อคลุมออกมาให้ทุกคน จากนั้นเยฮูกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบเข้าไปในวิหาร และกล่าวแก่ผู้ปรนนิบัติพระบาอัลว่า “มองดูให้รอบ อย่าให้มีผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าร่วมอยู่ในนี้เลย ให้มีแต่ผู้ปรนนิบัติพระบาอัลเท่านั้น” ขณะที่ปุโรหิตของพระบาอัลเริ่มถวายเครื่องบูชาและเครื่องเผาบูชา เยฮูวางกำลังแปดสิบคนไว้นอกวิหาร และสั่งพวกเขาว่า “หากใครปล่อยให้คนที่เรามอบหมายไว้ในมือของเจ้าหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว เราจะเอาชีวิตของเจ้าทดแทนชีวิตของเขา” เมื่อถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ เยฮูสั่งทหารและยามว่า “จงเข้าไปฆ่าให้หมด อย่าให้หนีรอดไปได้สักคนเดียว” พวกเขาจึงฆ่าฟันคนเหล่านั้นทั้งหมดและโยนศพออกมาข้างนอก แล้วเข้าไปยังสถานบูชาชั้นในของวิหารของพระบาอัล พวกเขาโค่นรื้อเสาศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัลออกมาเผาทิ้งนอกวิหาร พวกเขาทำลายหินศักดิ์สิทธิ์และวิหารของพระบาอัล และประชาชนก็ใช้ที่นั่นเป็นห้องส้วมตั้งแต่นั้นมา เป็นอันว่าเยฮูได้ทรงล้มล้างการนมัสการพระบาอัลไปจากอิสราเอล แต่เยฮูยังทำบาปตามเยโรโบอัมบุตรเนบัทซึ่งได้ชักนำอิสราเอลให้ทำตาม คือนมัสการลูกวัวทองคำที่เบธเอลและดาน องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเยฮูว่า “เพราะเจ้าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และได้ทำลายราชวงศ์ของอาหับตามที่เราได้ตั้งใจไว้ทุกประการ ดังนั้นวงศ์วานของเจ้าสี่ชั่วอายุคนจะได้ครองบัลลังก์ของอิสราเอล” แต่เยฮูไม่ได้ใส่ใจทำตามบทบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสุดจิตสุดใจ เขาไม่ได้หันจากบาปของเยโรโบอัมซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม ในครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเริ่มตัดทอนอาณาเขตของอิสราเอล ฮาซาเอลทรงพิชิตดินแดนอิสราเอลได้มากมายหลายส่วน ทางแถบตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ในดินแดนกิเลอาดทั้งหมด (เขตเผ่ากาด รูเบน และมนัสเสห์) จากอาโรเออร์ ริมโกรกธารอารโนนผ่านกิเลอาดไปจนถึงบาชาน เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลกษัตริย์เยฮู พระราชกิจ และความสำเร็จทั้งหมดมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? แล้วเยฮูทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในสะมาเรีย แล้วเยโฮอาหาสโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน เยฮูทรงครองราชย์เหนืออิสราเอลในสะมาเรีย 28 ปี
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่พวกเขากลัวสุดขีดและพูดกันว่า “ดูสิ ขนาดกษัตริย์สององค์ยังไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย แล้วพวกเราจะไปหยุดเขาได้ยังไง” ดังนั้น ผู้ดูแลวัง ผู้ว่าการเมือง บรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายและผู้ดูแลลูกๆของอาหับจึงได้ส่งคนไปบอกเยฮูว่า “พวกข้าพเจ้าคือผู้รับใช้ของท่านและพวกข้าพเจ้าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ท่านพูด พวกข้าพเจ้าจะไม่แต่งตั้งใครเป็นกษัตริย์ทั้งสิ้น ท่านเห็นว่าอะไรดีก็ทำเถิด” แล้วเยฮูก็เขียนจดหมายฉบับที่สองถึงพวกเขาว่า “ถ้าพวกท่านอยู่ฝ่ายเรา และเชื่อฟังเรา วันพรุ่งนี้ เวลานี้ ให้เอาหัว ของพวกลูกชายเจ้านายท่านมาให้กับเราในเมืองยิสเรเอล” ในเวลานั้น พวกเจ้าชายทั้งเจ็ดสิบองค์ได้อยู่กับพวกผู้นำของเมืองที่มีหน้าที่ดูแลพวกเขาอยู่ เมื่อจดหมายฉบับนี้มาถึง คนเหล่านี้ก็จับตัวพวกเจ้าชายเหล่านั้นมาฆ่าทิ้งหมดทั้งเจ็ดสิบองค์ พวกเขาเอาหัวของเจ้าชายเหล่านั้นใส่ไว้ในตะกร้าและส่งไปให้กับเยฮูในเมืองยิสเรเอล เมื่อคนส่งข่าวมาถึง เขาได้บอกกับเยฮูว่า “พวกเขาได้นำหัวของเจ้าชายเหล่านั้นมาแล้ว” เยฮูจึงสั่งไปว่า “เอาหัวเหล่านั้นกองไว้เป็นสองกองที่ทางเข้าประตูเมืองจนกว่าจะเช้า” เช้าวันต่อมา เยฮูได้ออกไปข้างนอก เขาไปยืนอยู่ต่อหน้าประชาชนทั้งหมดและพูดว่า “พวกเจ้าไร้ความผิด เป็นเราเองที่ได้กบฏต่อเจ้านายของเราและฆ่าเขาเสีย แต่ใครล่ะที่ฆ่าคนเหล่านี้ รู้ไว้เถิดว่า คำพูดทุกคำที่พระยาห์เวห์ได้พูดต่อต้านครอบครัวของอาหับนั้น จะต้องเป็นจริงทุกคำ พระยาห์เวห์ได้ทำในสิ่งที่พระองค์ได้พูดไว้ผ่านทางเอลียาห์ผู้รับใช้พระองค์” เยฮูก็เลยฆ่าทุกคนในครอบครัวของอาหับที่ยังเหลืออยู่ในเมืองยิสเรเอลจนหมด รวมทั้งพวกผู้นำของเขา รวมทั้งเพื่อนสนิทและพวกนักบวชของเขา ไม่เหลือใครสักคนเลย แล้วเยฮูก็ออกเดินทางไปที่เมืองสะมาเรีย ถึงที่เบธเอเขดซึ่งเป็นค่ายของพวกคนเลี้ยงแกะ เขาพบกับญาติๆของกษัตริย์อาหัสยาห์แห่งยูดาห์ และได้ถามพวกเขาว่า “พวกเจ้าเป็นใครกัน” พวกเขาตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของอาหัสยาห์ และพวกเราได้ลงมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนครอบครัวของกษัตริย์และครอบครัวของแม่กษัตริย์” เยฮูสั่งว่า “จับพวกมันทั้งเป็น” พวกเขาจึงได้จับตัวคนเหล่านั้นไว้และนำตัวไปฆ่าที่ข้างบ่อเก็บน้ำของเบธเอเขด รวมทั้งหมดสี่สิบสองคน เขาไม่ไว้ชีวิตสักคนเลย หลังจากที่เยฮูออกจากที่นั่น เขาได้พบกับเยโฮนาดับลูกชายของเรคาบซึ่งกำลังมาหาเขา เยฮูทักทายเยโฮนาดับ และพูดว่า “เจ้าเป็นเพื่อนที่ซื่อตรงต่อเรา เหมือนกับที่เราซื่อตรงต่อเจ้าหรือเปล่า” เยโฮนาดับตอบว่า “ซื่อตรงสิ” เยฮูพูดอีกว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้เราจับมือสัญญากัน” เยโฮนาดับจึงยื่นมือให้ แล้วเยฮูก็ให้เขาขึ้นมาบนรถรบ เยฮูพูดว่า “ไปกับเราและไปดูความร้อนรนของเราที่มีต่อพระยาห์เวห์เถิด” แล้วเขาก็พาเยโฮนาดับไปกับรถรบของเขาด้วย เมื่อเยฮูมาถึงเมืองสะมาเรีย เขาได้ฆ่าทุกคนในครอบครัวของอาหับที่ยังเหลืออยู่ จนหมดเกลี้ยง ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้พูดไว้กับเอลียาห์ แล้วเยฮูเรียกประชาชนทั้งหมดมารวมตัวกันและพูดกับพวกเขาว่า “อาหับรับใช้พระบาอัลแต่เพียงเล็กน้อย แต่เยฮูจะรับใช้พระบาอัลให้มากกว่านั้นอีก ตอนนี้ เรียกตัวพวกผู้พูดแทนพระบาอัลทั้งหมด รวมทั้งผู้นมัสการและนักบวชของพระบาอัลทั้งหมดมา ดูให้ดีอย่าให้ขาดใครแม้แต่คนเดียว เพราะเรากำลังจะถวายเครื่องบูชาที่ยิ่งใหญ่ให้กับพระบาอัล ใครที่ไม่มาร่วมงานจะต้องตาย” แต่เยฮูกำลังหลอกพวกเขาเพื่อที่จะได้ทำลายพวกที่บูชาพระบาอัลให้หมด เยฮูสั่งว่า “ให้จัดประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระบาอัล” พวกเขาจึงได้ประกาศออกไป แล้วเยฮูก็ประกาศไปทั่วอิสราเอล และพวกที่บูชาพระบาอัลทั้งหมดก็มา ไม่ขาดใครเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาได้ชุมนุมกันอยู่ในวิหาร ของพระบาอัลจนกระทั่งวิหารมีคนเต็มไปหมดทุกด้าน เยฮูก็พูดกับคนดูแลเรื่องเสื้อผ้าว่า “หาเสื้อมาให้กับผู้ที่บูชาพระบาอัลทั้งหมด” เขาก็เอาชุดเหล่านั้นออกมาให้พวกนั้น แล้วเยฮูและเยโฮนาดับลูกชายของเรคาบ เข้าไปในวิหารของพระบาอัล เยฮูพูดกับพวกที่บูชาพระบาอัลว่า “ดูให้ดี ให้แน่ใจว่าไม่มีพวกที่นมัสการพระยาห์เวห์อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า ให้เหลือแต่คนที่บูชาพระบาอัลเท่านั้น” พวกเขาจึงเข้าไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องเผาบูชา ขณะนั้นเยฮูได้จัดคนไว้แปดสิบคนให้อยู่ด้านนอกพร้อมกับสั่งพวกเขาไว้ว่า “ถ้าพวกเจ้าคนหนึ่งคนใดปล่อยให้ใครในพวกนั้นที่เราได้มอบไว้ในมือของพวกเจ้าแล้ว หลบหนีไปได้ พวกเจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเจ้าเอง” ทันทีที่เยฮูถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จสิ้นลง เขาก็ได้สั่งพวกทหารรักษาพระองค์และพวกผู้นำทหารว่า “เข้าไปฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้มีใครเล็ดรอดไปได้” ดังนั้นพวกเขาจึงเอาดาบฆ่าฟันคนเหล่านั้น เหล่าทหารรักษาพระองค์และพวกผู้นำทหารได้โยนศพออกมาทิ้งข้างนอก แล้วก็เข้าไปในห้องด้านใน ของวิหารพระบาอัลแห่งนั้น พวกเขาเอาแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากวิหารของพระบาอัลและเผามันทิ้ง นอกจากได้ทุบแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัลจนแตกละเอียดแล้ว พวกเขาก็ยังทำลายวิหารของพระบาอัลอีกด้วย และใช้สถานที่นั้นเป็นส้วมสาธารณะมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเยฮูก็ได้ทำลายพวกที่บูชาพระบาอัลในอิสราเอลจนหมด ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ได้หันเหไปจากบาปต่างๆที่เยโรโบอัมลูกชายของเนบัทเคยทำไว้ ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย คือเยฮูไม่ได้ทำลายรูปปั้นลูกวัวทองคำที่อยู่ในเบธเอลและดาน พระยาห์เวห์พูดกับเยฮูว่า “เจ้าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราจนสำเร็จ และได้ทำให้ครอบครัวของอาหับเป็นเหมือนกับที่เราได้คิดไว้ เพราะอย่างนั้น ลูกหลานของเจ้าจะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของอิสราเอลจนถึงสี่ชั่วคน” แต่เยฮูไม่ระมัดระวังที่จะทำตามกฎของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลไว้ด้วยสิ้นสุดใจของเขา เขาไม่ยอมหันเหไปจากบาปของเยโรโบอัม ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย ในสมัยนั้น พระยาห์เวห์เริ่มตัดส่วนต่างๆของอิสราเอลออก กษัตริย์ฮาซาเอลของอารัมได้เอาชนะชาวอิสราเอลตามพรมแดนของพวกเขา ตั้งแต่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ดินแดนทั้งหมดของกิเลอาด รวมทั้งดินแดนที่เป็นของเผ่ากาด เผ่ารูเบนและเผ่ามนัสเสห์ และเขามีชัยตั้งแต่อาโรเออร์ที่อยู่ติดกับลำธารอารโนนไปจนถึงกิเลอาดและบาชาน เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเยฮู ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไปและความสำเร็จต่างๆของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล แล้วเยฮูก็ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่ในเมืองสะมาเรีย และเยโฮอาหาสลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา เยฮูปกครองอิสราเอลอยู่ในเมืองสะมาเรียเป็นเวลายี่สิบแปดปี
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แต่พวกเขากลัวมาก และพูดว่า “ดูสิ พระราชาสองพระองค์ยังทรงต้านทานเยฮูไม่ได้ แล้วเราจะต้านทานได้อย่างไร?” ดังนั้นผู้ดูแลพระราชวัง ผู้ดูแลเมือง พวกผู้ใหญ่และพวกพี่เลี้ยง ส่งสารไปถึงเยฮูว่า “พวกข้าพระบาทเป็นผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และจะทำทุกอย่างที่ฝ่าพระบาทตรัสสั่ง พวกข้าพระบาทจะไม่ตั้งผู้ใดเป็นกษัตริย์ ขอทรงทำตามที่ทรงเห็นว่าดีเถิด” แล้วพระองค์ทรงพระอักษรเป็นฉบับที่สองถึงพวกเขาว่า “พรุ่งนี้เวลานี้ ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ฝ่ายเรา และพร้อมจะเชื่อฟังเรา จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหาเราที่ยิสเรเอล” บรรดาโอรส 70 องค์ของพระราชาอยู่กับคนใหญ่คนโตในเมือง ผู้ได้ชุบเลี้ยงพวกเขามา ต่อมาเมื่อจดหมายมาถึงพวกเขา เขาก็จับโอรสของพระราชาทั้ง 70 องค์ประหารเสีย แล้วเอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปให้พระองค์ที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสารมาทูลพระองค์ว่า “พวกเขานำศีรษะโอรสของกษัตริย์มาแล้ว พ่ะย่ะค่ะ” พระองค์ตรัสว่า “จงกองไว้เป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า” พอรุ่งเช้าพระองค์เสด็จออกไป ทรงยืน และตรัสกับประชาชนทั้งปวงว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้ไร้ความผิด ส่วนเราได้กบฏต่อนายของเราและประหารพระองค์เสีย แต่ใครเล่าที่ฆ่าคนเหล่านี้? จงทราบเถิดว่า พระวจนะของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับจะไม่ตกดินแต่อย่างใดเลย เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำตามที่ตรัสทางเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์” เยฮูทรงประหารทุกคนที่เหลืออยู่ในราชวงศ์ของอาหับในเมืองยิสเรเอล อีกทั้งคนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ สหายสนิทของพระองค์ และปุโรหิตของพระองค์ จนไม่เหลือรอดชีวิตสักคนเดียวเลย แล้วเยฮูทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย ในระหว่างทาง พระองค์ประทับที่เบธเอเขดหมู่บ้านของผู้เลี้ยงแกะ เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า “พวกท่านเป็นใคร?” พวกเขาทูลตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของอาหัสยาห์ และลงมาเยี่ยมบรรดาโอรสของกษัตริย์และของพระราชชนนี” พระองค์รับสั่งว่า “จับพวกเขาทั้งเป็น” เขาทั้งหลายก็จับคนเหล่านั้นทั้งเป็น และประหารทั้ง 42 คนที่บ่อเบธเอเขด ไม่เหลือไว้สักคนเดียว และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่น ก็ทรงพบเยโฮนาดับบุตรเรคาบมาหาพระองค์ พระองค์ทรงต้อนรับเขา และตรัสกับเขาว่า “จิตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของเรา อย่างที่จิตใจของเราซื่อตรงต่อจิตใจของท่านหรือ?” เยโฮนาดับทูลว่า “ซื่อตรง พ่ะย่ะค่ะ” เยฮูตรัสว่า “ถ้าซื่อตรงก็ยื่นมือมาให้เรา” เขาจึงยื่นมือของเขา และเยฮูก็ทรงดึงเขาขึ้นมาบนรถรบ พระองค์ตรัสว่า “มากับเราเถิด และดูความกระตือรือร้นของเราเพื่อพระยาห์เวห์” พระองค์จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์ไป เมื่อมาถึงสะมาเรีย พระองค์ทรงประหารทุกคนในราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ในสะมาเรียจนหมด ตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ซึ่งตรัสกับเอลียาห์ แล้วเยฮูทรงเรียกประชุมประชาชนทั้งหมด และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลนิดหน่อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มากกว่า ฉะนั้นจงเรียกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลมาให้หมด ทั้งผู้นมัสการและปุโรหิตทั้งหมดของพระบาอัล อย่าให้ใครขาดไปเลย เพราะเราจะมีการถวายสัตวบูชาครั้งใหญ่แก่พระบาอัล ใครขาดก็จะไม่ให้มีชีวิตอยู่” แต่เยฮูทรงทำเป็นอุบายเพื่อจะทำลายผู้นมัสการพระบาอัล และเยฮูตรัสว่า “จงจัดประชุมเพื่อนมัสการพระบาอัล” เขาก็ป่าวร้องเรียกประชุมดังกล่าว และเยฮูทรงส่งข่าวไปทั่วอิสราเอล ผู้นมัสการพระบาอัลก็มาทั้งหมด จึงไม่มีเหลือสักคนหนึ่งที่ไม่ได้มา และเขาทั้งหลายก็เข้าไปในนิเวศของพระบาอัล แล้วนิเวศของพระบาอัลก็เต็มแน่นขนัดจากข้างหนึ่งถึงอีกข้างหนึ่ง เยฮูตรัสสั่งผู้ดูแลตู้เสื้อว่า “จงเอาเสื้อสำหรับผู้นมัสการพระบาอัลออกมา” เขาก็เอาเสื้อออกมาให้เขาทั้งหลาย แล้วเยฮูเสด็จเข้าไปในนิเวศของพระบาอัล พร้อมกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบ พระองค์ตรัสกับผู้นมัสการพระบาอัลว่า “จงค้นดู ดูให้ดีว่าไม่มีผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์อยู่กับพวกท่าน ให้มีแต่ผู้นมัสการพระบาอัลเท่านั้น” แล้วเขาทั้งหลายเข้าไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เยฮูทรงวางคน 80 คนไว้ภายนอก และตรัสว่า “คนไหนปล่อยให้คนหนึ่งคนใดซึ่งเรามอบไว้ในมือพวกเจ้าหนีรอดไปได้ เขาต้องเสียชีวิตของเขาแทน” ต่อมาเมื่อเสร็จการถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เยฮูรับสั่งแก่ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารว่า “จงเข้าไปฆ่าพวกเขาเสีย อย่าให้รอดสักคนเดียว” เมื่อฆ่าเขาทั้งหลายด้วยคมดาบแล้ว ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารก็โยนศพออกไปข้างนอก แล้วก็เข้าไปที่แท่นบูชาในนิเวศพระบาอัล และนำเอาเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งนิเวศของพระบาอัลออกมาเผาเสีย อีกทั้งทลายเสาศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัล และทลายนิเวศของพระบาอัล แล้วทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้ ดังนั้นเยฮูทรงกวาดล้างพระบาอัลออกจากอิสราเอล แต่เยฮูไม่ได้ทรงหันจากบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัท ผู้ได้นำอิสราเอลให้ทำบาปด้วย คือลูกวัวทองคำซึ่งอยู่ในเมืองเบธเอลและในเมืองดาน พระยาห์เวห์ตรัสกับเยฮูว่า “เพราะเจ้าได้ทำดีโดยทำสิ่งที่ชอบในสายตาของเรา และได้ทำต่อราชวงศ์อาหับตามทุกอย่างที่อยู่ในใจของเรา เชื้อสายของเจ้าสี่ชั่วอายุคนจะได้นั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล” แต่เยฮูไม่ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตามธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสุดพระทัยของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงหันจากบาปของเยโรโบอัม ผู้นำอิสราเอลให้ทำบาปด้วย ในสมัยนั้น พระยาห์เวห์ทรงเริ่มตัดดินแดนของอิสราเอลออก ส่วนฮาซาเอลก็รบชนะทั่วดินแดนอิสราเอล ตั้งแต่แม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก ทั่วแผ่นดินกิเลอาด คนกาด คนรูเบน และคนมนัสเสห์ ตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ข้างที่ลุ่มแม่น้ำอารโนน คือกิเลอาดและบาชาน ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของเยฮู และทุกสิ่งที่ทรงกระทำ และพระราชอำนาจทั้งสิ้นของพระองค์ ได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? เยฮูจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และเขาก็ฝังพระองค์ไว้ในกรุงสะมาเรีย และเยโฮอาหาสพระราชโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แทน เวลาที่เยฮูทรงครองอิสราเอลในสะมาเรียนั้นคือ 28 ปี
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แต่เขาทั้งหลายกลัวอย่างที่สุด และพูดว่า “ดูเถิด กษัตริย์สององค์ยังต้านทานพระองค์ไม่ได้แล้ว เราจะต่อสู้พระองค์ได้อย่างไร” ฉะนั้นผู้ที่ปกครองดูแลพระราชวัง และผู้ที่ปกครองดูแลบ้านเมือง พร้อมทั้งพวกผู้ใหญ่และพวกพี่เลี้ยงของราชโอรส ก็ใช้คนให้ไปทูลเยฮูว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และข้าพระองค์จะกระทำทุกอย่างที่พระองค์ตรัสสั่งแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่ตั้งกษัตริย์ผู้หนึ่งผู้ใด ขอทรงกระทำตามที่ชอบพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์เถิด” แล้วพระองค์ทรงมีลายพระหัตถ์ไปถึงเขาฉบับที่สองว่า “ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ฝ่ายเรา และถ้าท่านพร้อมที่จะเชื่อฟังเสียงของเรา จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหาเราที่ยิสเรเอลพรุ่งนี้เวลานี้” ฝ่ายโอรสของกษัตริย์เจ็ดสิบองค์ด้วยกัน อยู่กับคนใหญ่คนโตในเมือง ผู้ซึ่งได้ชุบเลี้ยงท่านทั้งหลายมา และอยู่มาเมื่อลายพระหัตถ์มาถึงเขาทั้งหลาย เขาก็จับโอรสของกษัตริย์ฆ่าเสียเจ็ดสิบองค์ด้วยกัน เอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปยังพระองค์ที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสารมาทูลพระองค์ว่า “เขานำศีรษะโอรสของกษัตริย์มาแล้วพระเจ้าข้า” พระองค์ตรัสว่า “จงกองไว้เป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า” อยู่มาพอรุ่งเช้าพระองค์เสด็จออกไปประทับยืน ตรัสกับประชาชนทั้งปวงว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้ไร้ความผิด ดูเถิด ส่วนเราได้กบฏต่อนายของเราและประหารพระองค์เสีย แต่ผู้ใดเล่าที่ฆ่าบรรดาคนเหล่านี้ จงทราบเถิดว่าพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ซึ่งพระเยโฮวาห์ตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับ จะไม่ตกดินแต่อย่างไรเลย เพราะพระเยโฮวาห์ทรงกระทำตามที่พระองค์ตรัสโดยเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์” เยฮูทรงประหารราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ในยิสเรเอลทั้งสิ้น คนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ และญาติพี่น้องของพระองค์ และปุโรหิตของพระองค์ ดังนี้แหละไม่เหลือไว้สักคนเดียวเลย แล้วพระองค์ก็ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย เมื่อพระองค์ประทับที่โรงตัดขนแกะตามทางที่เสด็จ เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า “ท่านทั้งหลายคือใคร” และเขาทั้งหลายทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายคือญาติของอาหัสยาห์ และข้าพเจ้าทั้งหลายลงมาเยี่ยมบรรดาโอรสของกษัตริย์และโอรสของราชมารดา” พระองค์รับสั่งว่า “จับเขาทั้งเป็น” เขาทั้งหลายก็จับเขาทั้งเป็นและประหารเขาเสียที่บ่อโรงตัดขนแกะสี่สิบสองคนด้วยกัน ไม่เหลือไว้สักคนเดียว และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่นก็ทรงพบเยโฮนาดับบุตรชายเรคาบมาหาพระองค์ พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสกับเขาว่า “จิตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของฉัน อย่างจิตใจของฉันตรงต่อจิตใจของท่านหรือ” และเยโฮนาดับทูลว่า “ตรง พระเจ้าข้า” เยฮูตรัสว่า “ถ้าตรงก็ยื่นมือมาให้เรา” เขาจึงยื่นมือของเขา และเยฮูก็จับเขาขึ้นมาบนรถรบ พระองค์ตรัสว่า “มากับเราเถิด และดูความร้อนรนของเราเพื่อพระเยโฮวาห์” พระองค์จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์ไป และเมื่อพระองค์มาถึงสะมาเรีย พระองค์ทรงประหารคนทั้งปวงที่เป็นราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ในสะมาเรียเสีย จนพระองค์ทรงทำลายอาหับเสียสิ้น ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ตรัสกับเอลียาห์ แล้วเยฮูทรงประชุมบรรดาประชาชนทั้งสิ้น และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลแต่เล็กน้อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มาก ฉะนั้นบัดนี้จงเรียกผู้พยากรณ์ของพระบาอัลมาให้หมด ทั้งบรรดาผู้รับใช้และปุโรหิตของท่าน อย่าให้ผู้ใดขาดไปเลย เพราะเราจะมีสัตวบูชาอย่างใหญ่โตที่จะถวายแก่พระบาอัล ผู้ใดขาดจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้” แต่เยฮูทรงกระทำเป็นอุบายเพื่อจะทำลายผู้นับถือพระบาอัล และเยฮูตรัสสั่งว่า “จงจัดประชุมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระบาอัล” เขาก็ป่าวร้องเรียกประชุมเช่นนั้น และเยฮูทรงใช้ให้ไปทั่วอิสราเอล และผู้นับถือพระบาอัลก็มาทั้งหมดจึงไม่มีเหลือสักคนหนึ่งที่ไม่ได้มา และเขาทั้งหลายก็เข้าไปในนิเวศของพระบาอัล และนิเวศของพระบาอัลก็เต็มแน่น พระองค์ตรัสสั่งผู้ที่ดูแลตู้เสื้อว่า “จงเอาเสื้อสำหรับบรรดาผู้นับถือพระบาอัลออกมา” เขาก็เอาเสื้อออกมาให้เขาทั้งหลาย แล้วเยฮูเสด็จเข้าไปในนิเวศของพระบาอัล พร้อมกับเยโฮนาดับบุตรชายเรคาบ พระองค์ตรัสกับผู้นับถือพระบาอัลว่า “จงค้นดู ดูให้ดีว่าไม่มีผู้รับใช้ของพระเยโฮวาห์อยู่ในหมู่พวกท่าน ให้มีแต่ผู้นับถือพระบาอัลเท่านั้น” แล้วเขาทั้งหลายเข้าไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องเผาบูชา เยฮูทรงวางคนแปดสิบคนไว้ภายนอก และตรัสว่า “ชายคนใดที่ปล่อยให้คนหนึ่งคนใดซึ่งเรามอบไว้ในมือเจ้าหนีรอดไปได้ เขาต้องเสียชีวิตของเขาแทน” และอยู่มาเมื่อพระองค์เสร็จการถวายเครื่องเผาบูชา เยฮูรับสั่งแก่ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารว่า “จงเข้าไปฆ่าเขาเสีย อย่าให้รอดสักคนเดียว” เมื่อเขาฆ่าเขาทั้งหลายเสียด้วยคมดาบแล้ว ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารก็โยนศพเขาทั้งหลายออกไปข้างนอก แล้วก็ไปที่เมืองแห่งนิเวศของพระบาอัล เขานำเอาเสาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในนิเวศของพระบาอัลออกมาเผาเสีย และเขาทั้งหลายทลายเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งพระบาอัล และทลายนิเวศของพระบาอัลและกระทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้ เยฮูทรงกวาดล้างพระบาอัลจากอิสราเอลดังนี้แหละ แต่เยฮูมิได้ทรงหันจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย คือวัวทองคำซึ่งอยู่ในเมืองเบธเอลและในเมืองดาน และพระเยโฮวาห์ตรัสกับเยฮูว่า “เพราะเจ้าได้ทำดีในการที่กระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา และได้กระทำต่อราชวงศ์อาหับตามทุกอย่างที่อยู่ในใจของเรา ลูกหลานของเจ้าชั่วอายุที่สี่จะได้นั่งบนบัลลังก์แห่งอิสราเอล” แต่เยฮูมิได้ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตามพระราชบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสิ้นสุดพระทัยของพระองค์ พระองค์มิได้ทรงหันเสียจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัม ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย ในสมัยนั้นพระเยโฮวาห์ทรงเริ่มตัดส่วนของอิสราเอลออก ฮาซาเอลได้รบชนะตามบรรดาพรมแดนอิสราเอล ตั้งแต่แม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก ทั่วแผ่นดินกิเลอาด คนกาด คนรูเบนและคนมนัสเสห์ ตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ข้างที่ลุ่มแม่น้ำอารโนน คือกิเลอาดและบาชาน ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยฮู และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังทั้งสิ้นของพระองค์ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษัตริย์ประเทศอิสราเอลหรือ เยฮูจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาก็ฝังไว้ในกรุงสะมาเรีย และเยโฮอาหาสโอรสของพระองค์ได้เสวยราชย์แทนพระองค์ เวลาที่เยฮูทรงครอบครองเหนืออิสราเอลในสะมาเรียนั้นเป็นยี่สิบแปดปี
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แต่เขาทั้งหลายกลัวอย่างที่สุด และพูดว่า <<ดูเถิด พระราชาสองพระองค์ยังต้านทานพระองค์ไม่ได้แล้ว เราจะต่อสู้พระองค์ได้อย่างไร>> ฉะนั้นผู้ที่บังคับบัญชาพระราชวัง และผู้ที่บังคับบัญชาบ้านเมืองพร้อมพวกผู้ใหญ่และ พวกพี่เลี้ยงใช้ให้ไปทูลเยฮูว่า <<ข้าพระบาททั้งหลายเป็นผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และข้าพระบาทจะกระทำทุกอย่างที่พระองค์ ตรัสสั่งแก่ข้าพระบาท ข้าพระบาทจะไม่ตั้งผู้หนึ่งผู้ใดไว้เป็นกษัตริย์ ขอทรงกระทำตามที่พอแก่พระเนตรพระกรรณของพระองค์ เถิด>> แล้วพระองค์ทรงมีลายพระหัตถ์ไปถึงเขาฉบับที่สองว่า <<ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ฝ่ายเรา และถ้าท่านพร้อมที่จะเชื่อฟังเรา จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหา เราที่ยิสเรเอลพรุ่งนี้เวลานี้>> ฝ่ายโอรสของพระราชาเจ็ดสิบพระองค์ด้วยกัน อยู่กับคนใหญ่คนโตในเมือง ผู้ซึ่งได้ชุบเลี้ยงท่านทั้งหลายมา และอยู่มาเมื่อลายพระหัตถ์มาถึงเขาทั้งหลาย เขาก็จับโอรสของพระราชาฆ่าเสียเจ็ดสิบองค์ด้วยกัน เอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปยังพระองค์ที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสารมาทูลพระองค์ว่า <<เขานำศีรษะโอรสของกษัตริย์มาแล้วพระเจ้าข้า>> พระองค์ตรัสว่า <<จงกองไว้เป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า>> พอรุ่งเช้าพระองค์เสด็จออกไปประทับยืน ตรัสกับประชาชนทั้งปวงว่า <<ท่านทั้งหลายเป็นผู้ไร้ความผิด ส่วนเราได้กบฏต่อนายของเราและประหารพระองค์เสีย แต่ผู้ใดเล่าที่ฆ่าคนเหล่านี้ จงทราบเถิดว่า พระวจนะของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับ จะไม่ตกดินแต่อย่างไรเลย เพราะพระเจ้าทรงกระทำตามที่พระองค์ตรัสโดยเอลียาห์ ผู้รับใช้ของพระองค์>> เยฮูทรงประหารราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ ในยิสเรเอลคนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ และสหายสนิทของพระองค์และปุโรหิตของพระองค์ดังนี้ แหละไม่เหลือไว้สักคนเดียวเลย แล้วพระองค์ก็ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย เมื่อพระองค์ประทับที่เบธเอเขดหมู่บ้านของผู้เลี้ยงแกะ ตามทางที่เสด็จ เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า <<ท่านทั้งหลายคือใคร>> และเขาทั้งหลายทูลตอบว่า <<ข้าพเจ้าทั้งหลายคือญาติของอาหัสยาห์ และข้าพเจ้าทั้งหลายลงมาเยี่ยมบรรดา ราชโอรสและโอรสของราชมารดา>> พระองค์รับสั่งว่า <<จับเขาทั้งเป็น>> เขาทั้งหลายก็จับเขาทั้งเป็น และประหารเขาเสียที่บ่อเบธเอเขดสี่สิบสองคนด้วยกัน ไม่เหลือไว้สักคนเดียว และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่นก็ทรงพบเยโฮนาดับ บุตรเรคาบมาหาพระองค์ พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสกับเขาว่า <<จิตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของฉัน อย่างจิตใจของฉันตรงต่อของท่านหรือ>> และเยโฮนาดับทูลว่า <<ตรง พระเจ้าข้า>> เยฮูตรัสว่า <<ถ้าตรงก็ยื่นมือมาให้เรา>> เขาจึงยื่นมือของเขา และเยฮูก็จับเขาขึ้นมาบนรถรบ พระองค์ตรัสว่า <<มากับเราเถิด และดูความร้อนรนของเราเพื่อพระเจ้า>> พระองค์จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์ไป และเมื่อพระองค์มาถึงสะมาเรีย พระองค์ทรงประหารคนทั้งปวงที่ เป็นราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ในสะมาเรียเสีย จนพระองค์ทรงทำลายอาหับเสียสิ้น ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระองค์ตรัสกับเอลียาห์ แล้วเยฮูทรงประชุมบรรดาประชาชน ทั้งสิ้น และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า <<อาหับปรนนิบัติพระบาอัลแต่เล็กน้อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มาก ฉะนั้นจงเรียกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลมาให้หมด ทั้งบรรดาผู้นมัสการและปุโรหิตของท่านอย่าให้ผู้ใด ขาดไปเลย เพราะเราจะมีสัตวบูชาอย่างใหญ่โตที่จะถวายแก่พระบาอัล ผู้ใดขาดจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้>> แต่เยฮูทรงกระทำเป็น อุบายเพื่อจะทำลายผู้เคารพนมัสการพระบาอัล และเยฮูตรัสสั่งว่า <<จงจัดพิธีประชุมนมัสการพระบาอัล>> เขาก็ป่าวร้องเรียกประชุมเช่นนั้น และเยฮูทรงใช้ให้ไปทั่วอิสราเอล และผู้นมัสการพระบาอัลก็มาทั้งหมด จึงไม่มีเหลือสักคนหนึ่งที่ไม่ได้มา และเขาทั้งหลายก็เข้าไปในนิเวศของพระบาอัล และนิเวศของพระบาอัลก็เต็มแน่น พระองค์ตรัสสั่งผู้ที่ดูแลตู้เสื้อว่า <<จงเอาเสื้อสำหรับนมัสการพระบาอัลออกมา>> เขาก็เอาเสื้อออกมาให้เขาทั้งหลาย แล้วเยฮูเสด็จเข้าไปในนิเวศของพระบาอัล พร้อมกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบ พระองค์ตรัสกับผู้นมัสการพระบาอัลว่า <<จงค้นดู ดูให้ดีว่าไม่มีผู้รับใช้ของพระเยโฮวาห์อยู่ในหมู่พวกท่าน ให้มีแต่ผู้นมัสการพระบาอัลเท่านั้น>> แล้วเขาทั้งหลายเข้าไปถวายเครื่อง สัตวบูชาและเครื่องเผาบูชา เยฮูทรงวางคนแปดสิบคนไว้ภายนอก และตรัสว่า <<ชายคนใดที่ปล่อยให้คนหนึ่งคนใดซึ่งเรามอบ ไว้ในมือเจ้าหนีรอดไปได้ เขาต้องเสียชีวิตของเขาแทน>> และอยู่มาเมื่อพระองค์เสร็จการถวายเครื่องเผาบูชา เยฮูรับสั่งแก่ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารว่า <<จงเข้าไปฆ่าเขาเสีย อย่าให้รอดสักคนเดียว>> เมื่อเขาฆ่าเขาทั้งหลายเสียด้วยคมดาบแล้ว ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารก็โยน ศพเขาทั้งหลายออกไปข้างนอก แล้วก็เข้าไปที่แท่นบูชาในนิเวศพระบาอัล เขานำเอาเสาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในนิเวศของ พระบาอัลออกมาเผาเสีย และเขาทั้งหลายทลายเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งพระบาอัล และทลายนิเวศของพระบาอัล และกระทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้ เยฮูทรงกวาดล้างพระบาอัลจากอิสราเอลดังนี้แหละ แต่เยฮูมิได้ทรงหันจากบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำด้วย คือโคทองคำซึ่งอยู่ในเมืองเบธเอลและในเมืองดาน และพระเจ้าตรัสกับเยฮูว่า <<เพราะเจ้าได้ทำดีในการที่กระทำ สิ่งที่ชอบในสายตาของเรา และได้กระทำต่อราชวงศ์ อาหับตามทุกอย่างที่อยู่ในใจของเรา เชื้อสายของเจ้าจนชั่วชีวิตที่สี่จะได้ นั่งบนพระที่นั่งของอิสราเอล>> แต่เยฮูมิได้ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตาม พระธรรมของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ด้วยสิ้นสุดพระทัยของพระองค์ พระองค์มิได้ทรงหันเสียจากบาปของเยโรโบอัม ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำด้วย ในสมัยนั้นพระเจ้าทรงเริ่มตัดส่วนของอิสราเอลออก ฮาซาเอลได้รบชนะตามพรมแดนอิสราเอล ตั้งแต่แม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออกทั่วแผ่นดินกิเลอาด คนกาด คนรูเบน และคนมนัสเสห์ ตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ข้างที่ลุ่มแม่น้ำอารโนน คือกิเลอาดและบาชาน ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยฮู และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังทั้งสิ้นของพระองค์ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งพระราชา ประเทศอิสราเอลหรือ เยฮูจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาก็ฝังไว้ในกรุงสะมาเรีย และเยโฮอาหาสโอรสของพระองค์ได้เสวยราชย์แทนพระองค์ เวลาที่เยฮูทรงครอบครองเหนืออิสราเอลใน สะมาเรียนั้นเป็นยี่สิบแปดปี
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แต่พวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวาและกล่าวว่า “กษัตริย์สององค์ยังไม่อาจต่อกรกับเขาได้ แล้วเราจะทำอะไรได้?” ฉะนั้นเจ้ากรมวัง เจ้ากรมเมือง บรรดาผู้อาวุโส และองครักษ์ทั้งหลายจึงส่งสาส์นมาถึงเยฮูว่า “เราเป็นผู้รับใช้ของท่านและจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน เราจะไม่แต่งตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นกษัตริย์ ท่านจงทำตามที่เห็นว่าดีที่สุดเถิด” เยฮูเขียนสาส์นฉบับที่สองถึงคนเหล่านั้นความว่า “หากท่านทั้งหลายเป็นฝ่ายเราและจะปฏิบัติตามคำสั่งของเรา ก็จงนำศีรษะเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่เป็นชายของเจ้านายของท่านมาให้เราที่ยิสเรเอลพรุ่งนี้ในเวลาเดียวกันนี้” ขณะนั้นเชื้อพระวงศ์ทั้งเจ็ดสิบคนของอาหับพักอยู่ตามบ้านของบรรดาผู้นำของเมืองที่เลี้ยงดูพวกเขามา เมื่อผู้นำเหล่านั้นได้รับสาส์นก็ประหารเชื้อพระวงศ์ของอาหับทั้งเจ็ดสิบคน ตัดศีรษะใส่ตะกร้านำมามอบให้เยฮูที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสารมาแจ้งเยฮูว่า “พวกเขาได้นำศีรษะของบรรดาเชื้อพระวงศ์มาแล้ว” เยฮูก็สั่งว่า “ให้กองสุมกันเป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า” เช้าวันรุ่งขึ้นเยฮูก็ออกไปปราศรัยต่อหน้าประชาชนทั้งปวงว่า “พวกท่านไม่ได้ทำผิดอันใด ข้าพเจ้าเองที่คิดล้มล้างนายของข้าพเจ้าและประหารเขา แต่ใครเล่าประหารเชื้อพระวงศ์เหล่านี้? รู้ไว้เถิดว่าพระดำรัสที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับราชวงศ์อาหับจะสำเร็จทุกประการ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำตามที่ทรงสัญญาไว้ผ่านทางเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์” จากนั้นเยฮูก็ประหารพวกพ้องทั้งหมดของอาหับที่เหลืออยู่ในยิสเรเอล รวมทั้งข้าราชบริพารคนสำคัญ สหายคนสนิทและปุโรหิต ไม่มีใครเหลือรอดสักคน แล้วเยฮูออกเดินทางไปสะมาเรีย ที่เบธเอเขดหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ เยฮูพบเชื้อพระวงศ์ของอาหัสยาห์แห่งยูดาห์ จึงตรัสถามว่า “พวกท่านเป็นใครกัน?” เขาตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของกษัตริย์อาหัสยาห์ มาเยี่ยมพระราชวงศ์ของกษัตริย์และราชมารดา” เยฮูตรัสสั่งว่า “จับตัวไว้” แล้วจับกุมพวกเขาไปยังบ่อน้ำแห่งเบธเอเขด และประหารพวกเขาทั้งหมด 42 คน ไม่ให้ใครเหลือรอดสักคนเดียว เมื่อเยฮูออกเดินทางต่อไปก็พบเยโฮนาดับบุตรเรคาบออกมาต้อนรับ เยฮูทักทายแล้วตรัสว่า “ท่านใจตรงกับเรา เหมือนที่ใจเราตรงกับท่านหรือเปล่า?” เยโฮนาดับตอบว่า “ถูกต้องแล้วพระเจ้าข้า” เยฮูจึงตรัสว่า “ถ้าอย่างนั้น ยื่นมือมาเถิด” แล้วเยฮูก็ช่วยดึงเยโฮนาดับขึ้นมาบนรถม้าศึก เยฮูตรัสว่า “มากับเราสิ มาดูว่าเรากระตือรือร้นเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแค่ไหน” เยโฮนาดับจึงร่วมเสด็จไปด้วย เมื่อเยฮูมาถึงสะมาเรียก็ทรงประหารคนที่เหลืออยู่ทั้งหมดในราชวงศ์อาหับตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้กับเอลียาห์ แล้วเยฮูทรงเรียกประชาชนทั้งปวงมารวมกันและตรัสแก่พวกเขาว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลเล็กน้อย เยฮูจะปรนนิบัติพระบาอัลให้มาก จงเรียกบรรดาผู้ทำนายและปุโรหิตของพระบาอัล รวมทั้งผู้ปรนนิบัติพระบาอัลมาให้หมด อย่าให้ขาดแม้สักคนเดียว เพราะเราจะจัดให้มีการเซ่นสังเวยครั้งใหญ่แก่พระบาอัล ใครไม่มาจะต้องถูกประหาร” ทั้งนี้เป็นแผนลวงของเยฮูที่จะกำจัดผู้ปรนนิบัติพระบาอัล เยฮูตรัสว่า “จงพร้อมใจกันมาชุมนุมเพื่อเป็นเกียรติแก่พระบาอัล” พวกเขาจึงป่าวประกาศข้อความนั้น แล้วพระองค์ทรงแจ้งไปทั่วแดนอิสราเอล ผู้ที่ปรนนิบัติพระบาอัลพากันมาครบทุกคน แน่นขนัดเต็มวิหารของพระบาอัล เยฮูตรัสสั่งคนดูแลเสื้อผ้าว่า “จงนำเสื้อคลุมมาให้ผู้ปรนนิบัติพระบาอัลให้ครบทุกคน” เขาจึงนำเสื้อคลุมออกมาให้ทุกคน จากนั้นเยฮูกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบเข้าไปในวิหาร และกล่าวแก่ผู้ปรนนิบัติพระบาอัลว่า “มองดูให้รอบ อย่าให้มีผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าร่วมอยู่ในนี้เลย ให้มีแต่ผู้ปรนนิบัติพระบาอัลเท่านั้น” ขณะที่ปุโรหิตของพระบาอัลเริ่มถวายเครื่องบูชาและเครื่องเผาบูชา เยฮูวางกำลังแปดสิบคนไว้นอกวิหาร และสั่งพวกเขาว่า “หากใครปล่อยให้คนที่เรามอบหมายไว้ในมือของเจ้าหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว เราจะเอาชีวิตของเจ้าทดแทนชีวิตของเขา” เมื่อถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ เยฮูสั่งทหารและยามว่า “จงเข้าไปฆ่าให้หมด อย่าให้หนีรอดไปได้สักคนเดียว” พวกเขาจึงฆ่าฟันคนเหล่านั้นทั้งหมดและโยนศพออกมาข้างนอก แล้วเข้าไปยังสถานบูชาชั้นในของวิหารของพระบาอัล พวกเขาโค่นรื้อเสาศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัลออกมาเผาทิ้งนอกวิหาร พวกเขาทำลายหินศักดิ์สิทธิ์และวิหารของพระบาอัล และประชาชนก็ใช้ที่นั่นเป็นห้องส้วมตั้งแต่นั้นมา เป็นอันว่าเยฮูได้ทรงล้มล้างการนมัสการพระบาอัลไปจากอิสราเอล แต่เยฮูยังทำบาปตามเยโรโบอัมบุตรเนบัทซึ่งได้ชักนำอิสราเอลให้ทำตาม คือนมัสการลูกวัวทองคำที่เบธเอลและดาน องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเยฮูว่า “เพราะเจ้าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และได้ทำลายราชวงศ์ของอาหับตามที่เราได้ตั้งใจไว้ทุกประการ ดังนั้นวงศ์วานของเจ้าสี่ชั่วอายุคนจะได้ครองบัลลังก์ของอิสราเอล” แต่เยฮูไม่ได้ใส่ใจทำตามบทบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสุดจิตสุดใจ เขาไม่ได้หันจากบาปของเยโรโบอัมซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม ในครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเริ่มตัดทอนอาณาเขตของอิสราเอล ฮาซาเอลทรงพิชิตดินแดนอิสราเอลได้มากมายหลายส่วน ทางแถบตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ในดินแดนกิเลอาดทั้งหมด (เขตเผ่ากาด รูเบน และมนัสเสห์) จากอาโรเออร์ ริมโกรกธารอารโนนผ่านกิเลอาดไปจนถึงบาชาน เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลกษัตริย์เยฮู พระราชกิจ และความสำเร็จทั้งหมดมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? แล้วเยฮูทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในสะมาเรีย แล้วเยโฮอาหาสโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน เยฮูทรงครองราชย์เหนืออิสราเอลในสะมาเรีย 28 ปี
2 พงศ์กษัตริย์ 10:4-36 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แต่พวกเขาหวั่นกลัวยิ่งนัก และพูดว่า “ดูเถิด กษัตริย์ทั้งสองก่อนหน้านี้ยังยืนหยัดต่อสู้กับเขาไม่ไหว แล้วพวกเราจะยืนหยัดอยู่ได้อย่างไร” ดังนั้น ผู้บริหารวัง ผู้จัดการดูแลเมือง บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ และผู้ดูแลบุตร จึงให้คนไปแจ้งเยฮูว่า “พวกเราเป็นผู้รับใช้ของท่าน และเราจะทำทุกสิ่งที่ท่านสั่ง พวกเราจะไม่แต่งตั้งผู้ใดให้เป็นกษัตริย์ ขอท่านกระทำสิ่งที่ท่านเห็นว่าดีที่สุดในสายตาของท่าน” ท่านจึงเขียนสาสน์ฉบับที่สอง มีใจความว่า “ถ้าท่านเป็นฝ่ายเรา และถ้าท่านพร้อมที่จะเชื่อฟังเรา ก็จงนำศีรษะของบรรดาบุตรของเจ้านายของท่านมา เมื่อท่านมาหาเราที่ยิสเรเอลในวันพรุ่งนี้ เวลานี้” ฝ่ายบุตร 70 คนของกษัตริย์อยู่ภายใต้การดูแลของบรรดาผู้เป็นใหญ่ประจำเมืองนั้น และทันทีที่สาสน์ถึงมือพวกเขา เขาก็จับบุตรทั้ง 70 คนของกษัตริย์ฆ่าเสีย และเอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปให้เยฮูที่ยิสเรเอล เมื่อผู้สื่อสาสน์มาแจ้งท่านว่า “พวกเขานำศีรษะบุตรของกษัตริย์มาแล้ว” ท่านบอกว่า “เอาไปกองไว้เป็น 2 กองที่ทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า” ครั้นรุ่งเช้า ท่านออกไปยืนต่อหน้าประชาชน และพูดว่า “เราเป็นคนที่คิดกบฏต่อเจ้านายของเรา และฆ่าท่านเสีย ซึ่งพวกท่านไม่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนั้น แต่ใครฆ่าคนเหล่านี้ ขอให้ท่านทราบว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้นกับพงศ์พันธุ์ของอาหับตามคำของพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กระทำตามที่พระองค์กล่าวผ่านเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์” เยฮูได้ฆ่าคนทั้งปวงของพงศ์พันธุ์อาหับที่เหลืออยู่ในยิสเรเอล รวมทั้งพวกหัวหน้า เพื่อนสนิท และปุโรหิตของท่าน จนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ครั้นแล้วท่านก็เดินทางเพื่อจะไปยังสะมาเรีย ในระหว่างทางที่ไป ขณะอยู่ที่เบธเอเขดของผู้เลี้ยงแกะ เยฮูพบกับบรรดาญาติของอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และถามว่า “ท่านเป็นใคร” พวกเขาตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของอาหัสยาห์ เราลงมาเยี่ยมเยียนเจ้าชายทั้งปวงและบรรดาบุตรของมารดากษัตริย์” ท่านพูดว่า “จับตัวไปทั้งเป็น” และพวกเขาจับไปทั้งเป็น และก็ได้ฆ่าพวกเขาที่บ่อที่เบธเอเขด รวมได้ 42 คน ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว เมื่อท่านไปจากที่นั่นแล้ว ท่านพบเยโฮนาดับบุตรเรคาบที่กำลังมาหาท่าน ท่านทักทายและถามเขาว่า “จิตใจของท่านซื่อตรงต่อเรา เหมือนที่เราซื่อตรงต่อท่านไหม” เยโฮนาดับตอบว่า “ซื่อตรงสิ” เยฮูพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น ก็ยื่นมือมาให้เรา” เขาก็ยื่นมือให้ และเยฮูดึงเขาขึ้นรถศึก ท่านพูดว่า “มากับเรา และมาดูความรู้สึกอันแรงกล้าของเราที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า” ท่านจึงให้เขาขึ้นขี่ในรถศึกของท่าน เมื่อท่านมาถึงสะมาเรีย ท่านก็ฆ่าทุกคนในพงศ์พันธุ์ของอาหับที่เหลืออยู่ทั้งหมดในสะมาเรีย ตามคำที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวแก่เอลียาห์ เยฮูเรียกประชาชนทั้งปวงมาประชุม และพูดว่า “อาหับบูชาเทพเจ้าบาอัลเพียงเล็กน้อย แต่เยฮูจะบูชาให้มาก ฉะนั้นจงไปเรียกบรรดาผู้เผยคำกล่าวของเทพเจ้าบาอัลมาหาเรา รวมทั้งผู้นมัสการและปุโรหิตทุกคนของเทพเจ้าบาอัล อย่าให้ผู้ใดขาดหายไป เพราะว่าเรามีเครื่องสักการะใหญ่จะมอบให้แก่เทพเจ้าบาอัล ใครที่พลาดโอกาสนี้จะไม่รอดชีวิตแน่” แต่นี่คือแผนลวงของเยฮู เพื่อกำจัดพวกที่นมัสการเทพเจ้าบาอัล และเยฮูสั่งว่า “จงเตรียมการประชุมอันบริสุทธิ์ให้แก่เทพเจ้าบาอัล” ดังนั้นประชาชนจึงประกาศวันประชุม เยฮูให้ชาวอิสราเอลทราบทั่วหน้ากัน ทุกคนที่นมัสการเทพเจ้าบาอัลก็มากันถ้วนหน้า ไม่มีใครสักคนที่พลาดงานนี้ พวกเขาพากันเข้าไปในวิหารของเทพเจ้าบาอัล จนผู้คนเต็มวิหารจากด้านหนึ่งจรดอีกด้านหนึ่ง ท่านพูดกับคนที่ดูแลเครื่องแต่งกายว่า “จงนำชุดเฉพาะสำหรับผู้นมัสการเทพเจ้าบาอัลออกมาให้พวกเขาทุกคน” เขาจึงนำชุดเฉพาะออกมาให้พวกเขา จากนั้นเยฮูกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบก็เข้าไปในวิหารของเทพเจ้าบาอัล และท่านบอกบรรดาผู้นมัสการเทพเจ้าบาอัลว่า “จงตรวจดูให้ดีว่า ไม่มีผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ในที่นี่ในหมู่พวกท่าน มีแต่ผู้นมัสการเทพเจ้าบาอัลเท่านั้น” แล้วท่านกับเยโฮนาดับก็เข้าไปถวายเครื่องบูชาและสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย โดยเยฮูได้สั่งชาย 80 คนยืนประจำอยู่ที่นอกวิหาร และสั่งว่า “ผู้ใดที่ปล่อยให้คนหนึ่งคนใดที่เรามอบไว้ในมือเจ้าหนีออกมาได้ ก็จะต้องชดเชยด้วยชีวิตของตนเอง” ดังนั้น ทันทีที่ท่านมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายเสร็จสิ้นแล้ว เยฮูสั่งทหารคุ้มกันและพวกนายทหารว่า “เข้าไปข้างใน และสังหารพวกเขาทุกคน อย่าปล่อยให้ผู้ใดหนีออกมาได้แม้แต่คนเดียว” พวกเขาจึงใช้ดาบฆ่าฟันคนเหล่านั้น ทหารคุ้มกันและพวกนายทหารลากศพออกไปทิ้งข้างนอก แล้วก็เข้าไปในห้องที่อยู่ด้านในของวิหารของเทพเจ้าบาอัล พวกเขาแบกเสาออกมาจากวิหารของเทพเจ้าบาอัล และเผาทิ้งเสีย พวกเขาทำลายเสาและวิหารของเทพเจ้าบาอัล และทำให้เป็นส้วมสาธารณะมาจนถึงทุกวันนี้ เท่ากับว่า เยฮูได้กำจัดการนมัสการเทพเจ้าบาอัลไปจากอิสราเอลแล้ว แต่เยฮูยังกระทำบาปตามอย่างเยโรโบอัมบุตรเนบัท ซึ่งนำให้อิสราเอลกระทำบาป นั่นคือรูปลูกโคทองคำที่อยู่ในเมืองเบธเอลและเมืองดาน พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยฮูว่า “เป็นเพราะว่า เจ้าได้ปฏิบัติสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราเป็นอย่างดี และได้กระทำต่อพงศ์พันธุ์ของอาหับตามทุกสิ่งที่เราประสงค์ เราจะให้บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเจ้า 4 ชั่วอายุได้นั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล” แต่เยฮูกลับไม่ระมัดระวังที่จะดำเนินชีวิตตามกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลอย่างสุดจิตสุดใจ ท่านกระทำบาปตามอย่างเยโรโบอัม ซึ่งนำให้อิสราเอลกระทำบาป ในครั้งนั้น พระผู้เป็นเจ้าจึงเริ่มตัดทอนอาณาเขตบางส่วนของอิสราเอลออก ฮาซาเอลโจมตีชนะทุกเขตแดนของอิสราเอล ตั้งแต่ทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน แผ่นดินทั้งหมดของกิเลอาด (อาณาเขตที่เป็นของชาวกาด ชาวรูเบน และชาวมนัสเสห์) ตั้งแต่อาโรเออร์ซึ่งอยู่ข้างลุ่มน้ำอาร์โนน คือกิเลอาดและบาชาน กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของเยฮู ทุกสิ่งที่ท่านกระทำ และความสำเร็จด้านยุทธการ ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอลมิใช่หรือ ดังนั้นเยฮูสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองสะมาเรีย และเยโฮอาหาสบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน เยฮูเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลเป็นเวลา 28 ปีในสะมาเรีย