1 ซามูเอล 14:1-23

1 ซามูเอล 14:1-23 TH1971

วันหนึ่งโยนาธานบุตรของซาอูลกล่าวกับคนหนุ่ม ที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<มาเถิด ให้เราข้ามไปยังค่ายฟีลิสเตียข้างโน้น>> แต่หาได้ทูลพระบิดาของตนให้ทราบไม่ ซาอูลทรงพักอยู่ที่ชานเมืองกิเบอาห์ใต้ต้นทับทิม ซึ่งอยู่ที่ตำบลมิโกรน พลซึ่งอยู่ด้วยมีประมาณหกร้อยคน กับอาหิยาห์บุตรอาหิทูบพี่ชายของอีคาโบด บุตรของฟีเนหัสผู้เป็นบุตรของเอลีปุโรหิตแห่ง พระเจ้าที่เมืองชิโลห์ เขาถือเอโฟดไป และพวกพลไม่ทราบว่าโยนาธานไปแล้ว ตามทางข้ามเขาที่โยนาธานหาช่อง ที่จะข้ามไปยังค่ายของฟีลิสเตียนั้น มียอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างนี้ และฟากทางข้างโน้นยอดหนึ่งมีชื่อว่าโบเซส อีกยอดหนึ่งชื่อเสเนห์ หินแหลมยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างเหนือหน้ามิคมาช และอีกยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างใต้หน้าเกบา โยนาธานกล่าวกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<มาเถิด ให้เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการของ คนเหล่านั้นที่มิได้เข้าสุหนัต บางทีพระเจ้าจะทรงประกอบกิจเพื่อเรา เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ขัดขวางพระเจ้า ได้ในการที่พระองค์จะทรงช่วยกู้ ไม่ว่าโดยคนมากหรือน้อย>> ผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านจึงตอบท่านว่า <<จงกระทำทุกสิ่งที่จิตใจของท่านอยากกระทำ หันไปเถิด นี่แน่ะข้าพเจ้าอยู่กับท่าน ตามแต่จิตใจของท่านจะว่าอย่างไร>> แล้วโยนาธานกล่าวว่า <<ดูเถิด เราจะข้ามไปหาคนเหล่านั้น และจะสำแดงตัวของเราให้เขาเห็น ถ้าเขาจะกล่าวแก่เราว่า <จงคอยอยู่จนกว่าเราจะมาหาเจ้า> แล้วเราจะยืนนิ่งอยู่ในที่ของเรา และเราจะไม่ไปหาเขา แต่ถ้าเขาว่า <จงขึ้นมาหาเราเถิด> แล้วเราจึงจะขึ้นไปเพราะพระเจ้าทรงมอบเขาไว้ในมือเรา แล้วจะให้เรื่องนี้เป็นสัญญาณแก่เรา>> ทั้งสองจึงสำแดงตัวให้กองทหาร รักษาการคนฟีลิสเตียเห็น และคนฟีลิสเตียกล่าวว่า <<ดูซิ พวกฮีบรูออกมาจากรูที่ซ่อนตัวอยู่แล้ว>> และคนที่กองทหารรักษาการจึงร้องบอก โยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<จงขึ้นมาหาเราจะแจ้งให้เจ้าทราบสักเรื่องหนึ่ง>> และโยนาธานบอกผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<จงตามข้ามา เพราะพระเจ้าได้ทรงมอบเขาไว้ในมืออิสราเอลแล้ว>> แล้วโยนาธานก็คลานขึ้นไปและผู้ถือเครื่องอาวุธ ของท่านก็ตามไปด้วย คนเหล่านั้นก็ล้มตายหน้าโยนาธาน และผู้ถืออาวุธก็ฆ่าเขาทั้งหลายตามท่านไป การฆ่าฟันครั้งแรก ที่โยนาธานและผู้ถืออาวุธของท่านได้กระทำ นั้นมีประมาณยี่สิบคน อย่างในระยะทางครึ่งรอยไถในนาสักสองไร่ และบังเกิดการสั่นสะท้านในค่ายในทุ่งนาและในหมู่ ประชาชน กองทหารนั้นและถึงกองปล้นก็ตกใจตัวสั่นแผ่นดินได้ไหว กระทำให้เกิดการสั่นสะท้านมากยิ่งนัก ยามของซาอูลที่อยู่ ณ กิเบอาห์แห่งเผ่าเบนยามินก็มองดูอยู่ และดูเถิด มวลชนก็สลายไป วิ่งวุ่นไปมา แล้วซาอูลจึงรับสั่งแก่พลที่อยู่กับท่านว่า <<จงนับดูว่าผู้ใดได้ไปจากเราบ้าง>> และเมื่อเขานับดูแล้ว ดูเถิด โยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านไม่อยู่ที่นั่น และซาอูลรับสั่งกับอาหิยาห์ว่า <<จงนำหีบของพระเจ้ามาที่นี่>> เพราะคราวนั้นหีบของพระเจ้าอยู่กับคนอิสราเอลด้วย อยู่มาเมื่อซาอูลตรัสกับปุโรหิตเสียงโกลาหลใน ค่ายฟีลิสเตียก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซาอูลจึงตรัสกับปุโรหิตว่า <<หดมือไว้ก่อน>> ซาอูลกับพลที่อยู่ด้วยก็รวมกันเข้าไปทำศึกและดูเถิด ดาบของทุกคนก็ต่อสู้เพื่อนของตนมีความสับสนอลหม่าน อย่างยิ่ง ฝ่ายคนฮีบรูซึ่งเคยอยู่กับคนฟีลิสเตียก่อนเวลานั้น และผู้ที่ไปในค่ายกับเขาทั้งหลายกลับมาเข้ากับคนอิสราเอล ผู้อยู่ฝ่ายซาอูลและโยนาธาน ในทำนองเดียวกัน คนอิสราเอลผู้ซ่อนตัวอยู่ที่แดนเทือกเขา เอฟราอิมเมื่อได้ยินว่า คนฟีลิสเตียกำลังหนี พวกเหล่านี้ก็ไล่ติดตามเขาไปทำศึกด้วย พระเจ้าทรงช่วยกู้อิสราเอลในวันนั้น และสงครามก็ผ่านตลอดเมืองเบธาเวนเลยไป