ลูกา 5:12-39

ลูกา 5:12-39 THA-ERV

เมื่อ​พระเยซู​อยู่​ใน​เมืองๆ​หนึ่ง มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง​ทั่ว​ทั้ง​ตัว เมื่อ​เขา​เห็น​พระเยซู ก็​มา​ก้มกราบ​อ้อนวอน​ว่า “นาย​ท่าน ถ้า​ท่าน​อยาก​ช่วย ท่าน​ก็​ทำ​ให้​ผม​หาย​ได้” พระเยซู​จึง​ยื่น​มือ​ออก​ไป​แตะ​ตัว​เขา​แล้ว​พูด​ว่า “เรา​อยาก​ช่วย หาย​จาก​โรค​เถิด” เขา​ก็​หาย​จาก​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง​ทันที แล้ว​พระเยซู​สั่ง​ว่า “อย่า​ไป​เล่า​ให้​ใคร​ฟัง แต่​ไป​ให้​นักบวช​ตรวจ​ดู และ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ตาม​ที่​โมเสส​สั่ง​ไว้​ให้​คน​ที่​หาย​จาก​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง​ต้อง​ทำ​เพื่อ​คน​อื่น​จะ​ได้​รู้​ว่า​คุณ​หาย​แล้ว” ถึง​แม้ว่า​พระองค์​จะ​สั่ง​ห้าม​ไม่​ให้​เขา​พูด แต่​ข่าว​เกี่ยว​กับ​พระองค์​ก็​ยิ่ง​แพร่กระจาย​ออก​ไป​มาก​ขึ้น ดังนั้น​ชาวบ้าน​มากมาย​จึง​พา​กัน​มา​ฟัง​พระองค์​สั่งสอน และ​มา​รับ​การรักษา​ให้​หาย​จาก​โรค​ต่างๆ แต่​บ่อย​ครั้ง​ที่​พระเยซู​หลบ​ไป​ที่​สงบเงียบ​เพื่อ​อธิษฐาน อยู่​มา​วัน​หนึ่ง​ใน​ขณะ​ที่​พระเยซู​กำลัง​สอน​อยู่ มี​พวก​ฟาริสี​และ​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​ที่​เดินทาง​มา​จาก​ทุก​หมู่บ้าน​ใน​แคว้น​กาลิลี แคว้น​ยูเดีย และ​เมือง​เยรูซาเล็ม​นั่ง​อยู่​ที่​นั่น​ด้วย และ​องค์​เจ้า​ชีวิต​ให้​ฤทธิ์​อำนาจ​กับ​พระเยซู​เพื่อ​จะ​รักษา​โรค​ได้ มี​บางคน​หาม​คน​เป็น​อัมพาต​ที่​นอน​อยู่​บน​เปล​มา และ​พยายาม​ที่​จะ​พา​เขา​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​เพื่อ​วาง​ไว้​ต่อหน้า​พระเยซู แต่​ก็​ไม่​สำเร็จ​เพราะ​คน​แน่น​มาก พวก​เขา​จึง​พา​กัน​ขึ้น​ไป​บน​หลังคา​บ้าน รื้อ​หลังคา​ออก​เป็น​ช่อง แล้ว​หย่อน​ชาย​ที่​นอน​บน​เปล​นั้น​ลง​ไป​กลาง​ฝูงชน​ตรงหน้า​พระเยซู เมื่อ​พระเยซู​เห็น​ความเชื่อ​ของ​พวก​เขา พระองค์​ก็​พูด​ว่า “เพื่อน​เอ๋ย บาป​ของ​คุณ​ได้รับ​การอภัย​แล้ว” พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​และ​พวก​ฟาริสี​ก็​คิด​ใน​ใจ​ว่า “คนนี้​เป็น​ใคร​กัน บังอาจ​พูดจา​ดูหมิ่น​พระเจ้า มี​แต่​พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​ให้​อภัย​บาป​ได้” แต่​พระเยซู​รู้​ถึง​ความคิด​เหล่า​นั้น ก็​เลย​ตอบ​พวก​เขา​ไป​ว่า “ทำไม​คุณ​ถึง​คิด​อย่าง​นั้น ระหว่าง​พูด​ว่า ‘บาป​ของ​คุณ​ได้รับ​การอภัย​แล้ว’ หรือ​พูด​ว่า ‘ลุก​ขึ้น​เดิน’ อย่าง​ไหน​จะ​ง่าย​กว่า​กัน แต่​เพื่อ​จะ​ให้​พวก​คุณ​รู้​ว่า ใน​โลกนี้​บุตร​มนุษย์​มี​สิทธิอำนาจ​ที่​จะ​ให้​อภัย​บาป​ได้” แล้ว​พระองค์​จึง​พูด​กับ​ชาย​ที่​เป็น​อัมพาต​ว่า “เรา​ขอ​สั่ง​คุณ​ให้​ลุก​ขึ้น เก็บ​เปล​แล้ว​กลับ​บ้าน​ไป​เถอะ” ชาย​คน​นั้น​ก็​ลุก​ขึ้น​ทันที​ต่อหน้า​คน​ทั้งหมด เขา​ยก​เปล​ที่​เขา​เคย​นอน​กลับ​ไป​บ้าน​และ​สรรเสริญ​พระเจ้า คน​ทั้งหลาย​ต่าง​ประหลาดใจ​และ​พา​กัน​สรรเสริญ​พระเจ้า พวก​เขา​รู้สึก​เกรง​กลัว​และ​พา​กัน​พูด​ว่า “วันนี้​พวก​เรา​ได้​เห็น​สิ่ง​มหัศจรรย์​จริงๆ” หลังจาก​นั้น​พระเยซู​ก็​เดิน​ออก​ไป และ​พบ​คน​เก็บ​ภาษี ชื่อ​เลวี นั่ง​อยู่​ที่​ด่าน​เก็บ​ภาษี พระเยซู​พูด​กับ​เขา​ว่า “ตาม​เรา​มา” เลวี​จึง​ทิ้ง​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง และ​ตาม​พระองค์​ไป แล้ว​เลวี​ก็​จัด​งานเลี้ยง​ใหญ่​ให้​กับ​พระเยซู​ที่​บ้าน​ของ​เขา มี​พวก​คน​เก็บ​ภาษี​เป็น​จำนวน​มาก และ​คน​อื่นๆ​มา​ร่วม​งาน​ด้วย พวก​ฟาริสี​และ​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​บ่น​กับ​ลูกศิษย์​ของ​พระองค์​ว่า “ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​กิน​และ​ดื่ม​กับ​พวก​คน​เก็บ​ภาษี และ​พวก​คน​บาป​แบบนี้” พระเยซู​ก็​ตอบ​กลับ​ไป​ว่า “คน​ที่​สบาย​ดี​ไม่​ต้องการ​หมอ แต่​คน​เจ็บ​ป่วย​ต้องการ​หมอ เรา​ไม่​ได้​มา​เพื่อ​เรียก​คน​ดี แต่​มา​เพื่อ​เรียก​คน​บาป​ให้​กลับตัว​กลับใจ” พวก​เขา​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “ลูกศิษย์​ของ​ยอห์น​ถือ​ศีล​อดอาหาร​และ​อธิษฐาน​บ่อยๆ ลูกศิษย์​ของ​พวก​ฟาริสี​ก็​เหมือน​กัน แต่​ทำไม​ลูกศิษย์​ของ​อาจารย์​ถึง​ทั้ง​กิน​ทั้ง​ดื่ม​อยู่​เรื่อย” พระเยซู​พูด​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “เพื่อน​เจ้าบ่าว​จะ​อดอาหาร​ตอน​ที่​เลี้ยง​ฉลอง​อยู่​กับ​เจ้าบ่าว​ได้​หรือ แต่​เมื่อ​ถึง​วัน​นั้น​ที่​เจ้าบ่าว​ถูก​พราก​ไป​จาก​พวก​เขา ใน​วันนั้น​แหละ​พวก​เขา​จะ​อดอาหาร” พระองค์​เล่า​เรื่อง​เปรียบเทียบนี้​ให้​ฟัง “คง​ไม่​มี​ใคร​ฉีก​ผ้า​จาก​เสื้อ​ใหม่​ไป​ปะ​รู​เสื้อ​เก่า​หรอก เพราะ​ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น เสื้อ​ใหม่​ก็​จะ​ฉีก​ขาด​และ​ชิ้น​ผ้า​ใหม่​ก็​ไม่​เข้า​กับ​เสื้อ​เก่า แล้ว​คง​ไม่​มี​ใคร​เอา​เหล้าองุ่น​ใหม่​ไป​ใส่​ไว้​ใน​ถุง​หนัง​เก่า​หรอก ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​เหล้าองุ่น​ใหม่​จะ​ทำ​ให้​ถุง​หนัง​นั้น​แตก เหล้า​ก็​จะ​ไหล​ออก​มา​หมด และ​ถุง​หนัง​ก็​จะ​พัง​ไป​ด้วย แต่​เหล้าองุ่น​ใหม่​ต้อง​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​ใหม่ ไม่​มี​ใคร​ที่​ดื่ม​เหล้าองุ่น​เก่า​แล้ว​ยัง​อยาก​ดื่ม​เหล้าองุ่น​ใหม่​อีก เพราะ​เขา​จะ​บอก​ว่า ‘เหล้าองุ่น​เก่า​ดี​กว่า’”

อ่าน ลูกา 5