“นี่คือผู้รับใช้ของเรา คนที่เราเสริมกำลังให้ นี่คือผู้ที่เราเลือกมา ผู้ที่เราชื่นชม เราได้ใส่พระวิญญาณของเราในเขา เขาจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติทั้งหลาย เขาจะไม่ตะโกนหรือขึ้นเสียง คนจะไม่ได้ยินเสียงร้องของเขาตามท้องถนน เขาจะไม่หักต้นอ้อที่ช้ำแล้ว เขาจะไม่ดับไส้ตะเกียงที่ริบหรี่แล้ว เขาจะนำความยุติธรรมมาจริงๆ เขาเองจะไม่ริบหรี่หรือชอกช้ำจนกว่าเขาจะนำความยุติธรรมมาสู่โลกนี้ ผู้คนแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายต่างรอคอยคำสอนของเขา” นี่คือคำพูดของพระเจ้า พระยาห์เวห์ ผู้ที่สร้างท้องฟ้าและขึงพวกมันออก ผู้ที่ทุบโลกนี้ให้แผ่ออกมาและสร้างทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ผู้ที่ให้ลมหายใจกับมนุษย์ที่อยู่บนโลก และให้ชีวิตกับทุกคนที่เดินอยู่บนมัน พระองค์พูดว่า “เรา ยาห์เวห์ ได้เรียกเจ้ามาเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราได้จูงมือเจ้าอยู่ เราได้ปกป้องเจ้า และได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นคนกลางแห่งคำมั่นสัญญาต่อมนุษย์ และเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆ จะให้เจ้าเปิดตาของคนตาบอด และนำพวกนักโทษออกมาจากคุกใต้ดิน คือปลดปล่อยคนเหล่านั้นที่นั่งอยู่ในคุกมืดให้เป็นอิสระ เราคือยาห์เวห์ นั่นคือชื่อของเรา เราจะไม่แบ่งเกียรติที่เราควรจะได้รับกับผู้อื่น จะไม่แบ่งคำสรรเสริญของเรากับพวกรูปเคารพ เหตุการณ์ที่ผ่านไป ที่เราได้ทำนายไว้ล่วงหน้าก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และตอนนี้เรากำลังทำนายเรื่องใหม่ๆ เราจะบอกพวกเจ้าถึงเหตุการณ์เหล่านั้นก่อนที่มันจะงอกออกมา” ร้องเพลงใหม่ให้กับพระยาห์เวห์ ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากสุดปลายโลก ให้พวกท่านที่เป็นกะลาสีแห่งท้องทะเลและพวกสัตว์น้ำในท้องทะเลทั้งหมด สรรเสริญพระองค์เถิด ให้ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายรวมทั้งผู้คนที่อยู่บนมัน สรรเสริญพระองค์เถิด ให้ทะเลทราย และเมืองต่างๆในทะเลทรายนั้นส่งเสียงร้องและสรรเสริญพระองค์เถิด รวมทั้งหมู่บ้านต่างๆที่เผ่าเคดาร์อาศัยอยู่ ให้ชาวเมืองเสลาร้องเพลงด้วยความยินดี ให้พวกเขาร้องตะโกนลงมาจากยอดเขา ให้พวกเขาถวายเกียรติแด่พระยาห์เวห์ ให้พวกเขาสรรเสริญพระองค์ตามชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลาย พระยาห์เวห์ออกไปสู้รบอย่างคนที่แข็งแรง พระองค์ปลุกเร้าความโกรธให้พุ่งพล่านขึ้นเหมือนกับนักรบ พระยาห์เวห์ร้องออกมา พระองค์ร้องประจัญบาน พระองค์เอาชนะต่อศัตรูของพระองค์ พระองค์จะพูดว่า “เราเงียบมาเป็นเวลานานแล้ว เราได้อยู่เฉยๆและได้ยับยั้งตัวเองไว้ แต่เดี๋ยวนี้ เราจะร้องเหมือนกับผู้หญิงกำลังคลอดลูก เราจะหายใจหอบและใจเต้นถี่รัว เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาต่างๆ เราจะทำให้พืชผักทั้งหมดของพวกมันเหี่ยวแห้งไป เราจะทำให้พวกแม่น้ำกลายเป็นดินแห้ง เราจะทำให้พวกสระแห้งไป เราจะจูงคนตาบอดไปตามถนนที่พวกเขาไม่รู้จัก เราจะนำพวกเขาไปตามพวกทางที่พวกเขาไม่เคยเดินมาก่อน เราจะทำให้ความมืดมิดที่อยู่ต่อหน้าพวกเขากลายเป็นความสว่าง และทำที่ขรุขระให้เป็นที่ราบ เราจะทำสิ่งเหล่านี้และเราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา แต่คนพวกนั้นที่พึ่งในพวกรูปแกะสลัก คนที่พูดกับรูปหล่อพวกนั้นว่า ‘พวกท่านเป็นพระของเรา’ คนพวกนี้จะหันกลับ พวกเขาจะต้องอับอายขายหน้าที่สุด พระยาห์เวห์พูดว่า เจ้าหูหนวก ฟังให้ดี เจ้าตาบอด ดูซิ จะได้เห็น ใครตาบอดหรือ ก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของเราหรอกหรือ ใครหูหนวกเท่ากับผู้ส่งข่าวของเราหรือ ใครจะตาบอดเท่ากับผู้ที่อุทิศตัวให้กับเราหรือ หรือตาบอดเท่ากับผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์หรือ เจ้าเห็นหลายสิ่ง แต่ไม่ได้สังเกต หูของเขาเปิดอยู่ แต่เขาไม่ได้ฟัง” ตอนนั้นพระยาห์เวห์ต้องการที่จะทำให้คำสั่งสอนของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และได้รับเกียรติ เพื่อคนจะได้เห็นว่าพระองค์นั้นยุติธรรม คนพวกนี้ถูกขโมยและถูกปล้น พวกเขาทุกคนแอบอยู่ในหลุมติดอยู่ที่นั่นและซ่อนอยู่ในคุก พวกเขาตกเป็นของที่ปล้นมาได้โดยไม่มีใครมาช่วยกู้เขา พวกเขาถูกริบไป โดยไม่มีใครพูดว่า “เอาคืนมาซะ” จะมีใครในพวกเจ้าได้รับบทเรียนจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ใครจะสนใจและตั้งใจฟังในอนาคต ใครมอบยาโคบไปให้กับผู้ริบ หรือมอบอิสราเอลไปให้กับผู้ปล้น ก็พระยาห์เวห์นี่แหละ เพราะพวกเราทำบาปต่อพระองค์ คนของเราไม่ยอมเดินในทางของพระองค์ พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์ พระองค์ก็เลยเทความโกรธแค้นอันร้อนแรงของพระองค์ พร้อมกับสงครามอันดุเดือดเลือดพล่านลงบนเขา มันทำให้เกิดไฟล้อมรอบเขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี มันเผาไหม้เขา แต่เขาก็ไม่ได้บทเรียนอะไรเลย
อ่าน อิสยาห์ 42
แบ่งปัน
เปรียบเทียบพระคัมภีร์ทั้งหมด: อิสยาห์ 42:1-25
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่านต่างๆ
วิดีโอ