ตอนที่เรากำลังนอนอยู่บนเตียงนั้น เราเริ่มเห็นนิมิตต่างๆในหัวของเรา ทันใดนั้นก็มีต้นไม้สูงมากต้นหนึ่งอยู่ตรงกลางโลกนี้ ต้นไม้นี้ได้โตขึ้นและแข็งแรงขึ้น ยอดของมันสูงเสียดฟ้า ขนาดอยู่ไกลถึงสุดขอบโลกก็ยังมองเห็นต้นนี้ ใบของมันสวยงามมาก มีผลดกเต็มต้น เพียงพอที่จะเลี้ยงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด สัตว์ป่าหาร่มเงาอยู่ใต้ต้นไม้นี้ มีนกทำรังอยู่ตามกิ่งก้านของมัน และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดหาอาหารกินบนต้นไม้นี้ ขณะที่ข้ายังนอนอยู่บนเตียง กำลังฝันเห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้อยู่นั้น ก็มีผู้เฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์ องค์หนึ่งลงมาจากฟ้า เขาร้องตะโกนว่า ‘โค่นต้นไม้นั้นซะ ฟันกิ่งก้านทิ้งให้หมด ดึงใบของมันทิ้งด้วย พร้อมกับโยนผลของมันทิ้งไปให้หมด ทำให้สัตว์ป่าที่อยู่ใต้ต้นและพวกนกที่อยู่บนกิ่งของมัน จะต้องหนีและบินกันไป แต่ให้เหลือตอและรากของมันไว้ในดิน แล้วเอาแผ่นเหล็กและแผ่นทองแดงมาคาดมันไว้ ทิ้งมันไว้ที่นั่นในท้องทุ่งกับหญ้า มันจะต้องตากน้ำค้างที่ตกจากฟ้าจนเปียก ท่ามกลางสิงสาราสัตว์ทั้งหลายในท้องทุ่งที่มีหญ้าขึ้นอุดมสมบูรณ์ เขาจะกลายเป็นบ้า แล้วเริ่มคิดเหมือนสัตว์ แล้วฤดูกาลก็จะผ่านพ้นเขาไปเจ็ดฤดูกาล คำประกาศนี้ก็คือคำสั่งของพวกทูตที่เฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์ คำตัดสินนี้เป็นไปตามคำสั่งของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแสดงให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรู้ว่า พระเจ้าสูงสุดคือผู้ครอบครองอาณาจักรของมนุษย์ทั้งหมด และพระองค์จะให้อาณาจักรกับใครก็ได้ที่พระองค์ต้องการ และพระองค์สามารถยกคนที่ต่ำต้อยที่สุด แล้วตั้งเขาให้ปกครองได้’ นั่นแหละคือสิ่งที่เรา กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ฝันเห็น เอาล่ะ เบลเทชัสซาร์ เจ้าต้องอธิบายความฝันนั้นให้ข้าฟัง เพราะไม่มีผู้รู้คนไหนในอาณาจักรสามารถอธิบายมันได้ แต่เจ้าต้องทำได้แน่ เพราะเจ้ามีวิญญาณของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว” แล้วดาเนียล (หรือเบลเทชัสซาร์) ก็เงียบไปพักหนึ่ง เพราะความเข้าใจที่เขามีต่อความฝันนั้น ทำให้เขาไม่สบายใจมาก กษัตริย์ก็พูดว่า “เบลเทชัสซาร์ อย่าได้วิตกกังวลกับความฝันและคำทำนายนั้นเลย” เบลเทชัสซาร์จึงตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าความฝันนี้และคำอธิบายของมัน จะพูดถึงพวกศัตรูของพระองค์ ต้นไม้ที่พระองค์เห็นนั้น ต้นที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง ที่มียอดสูงเสียดฟ้า จนสามารถมองเห็นจากสุดขอบโลก ต้นนั้นที่มีใบงดงาม มีลูกดกเป็นอาหารสำหรับทุกชีวิต ต้นที่สัตว์ป่ามาอาศัยร่มเงาอยู่ที่โคนต้น และนกมาทำรังที่กิ่งก้านของมัน ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์คือต้นไม้ต้นนั้น พระองค์ได้เติบโตและยิ่งใหญ่เกรียงไกร ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และสิทธิอำนาจของพระองค์ได้แผ่ขยายไปถึงสุดขอบโลก คราวนี้ พูดถึงทูตเฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่พระองค์เห็นลงมาจากสวรรค์นั้น ที่พูดว่า ‘โค่นต้นไม้นั่นซะ แล้วทำลายมันให้หมด ยกเว้นตอกับราก ที่เจ้าจะต้องเหลือไว้ในดิน เอาแผ่นเหล็กและทองแดงมาคาดมันไว้กลางทุ่ง ที่นั่นมันจะเปียกชุ่มไปด้วยน้ำค้างที่ตกจากฟ้า เขาจะอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่า จนกว่าจะผ่านไปเจ็ดฤดูกาล’ ข้าแต่กษัตริย์ ความหมายของมันคือ พระเจ้าสูงสุดได้ตัดสินให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นกับพระองค์ ผู้เป็นกษัตริย์ พวกเขาจะขับไล่พระองค์ไปจากคนอื่นๆ พระองค์จึงต้องอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่า และต้องกินหญ้าเหมือนวัว และเปียกโชกไปด้วยน้ำค้างจากฟ้า ฤดูกาลจะผ่านไปเจ็ดฤดู แล้วพระองค์ถึงจะได้เรียนรู้ว่า พระเจ้าสูงสุด คือผู้ที่ปกครองอยู่เหนืออาณาจักรของมนุษย์ทั้งหมด และพระเจ้าจะเป็นผู้แต่งตั้งใครก็ได้มาปกครองอาณาจักรพวกนั้นตามที่พระองค์ต้องการ เมื่อผู้เฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์พูดว่า ‘ให้เหลือตอกับรากเอาไว้’ นั่นก็แสดงว่าอาณาจักรยังเป็นของพระองค์อยู่ แต่ต้องเป็นหลังจากที่พระองค์ได้เรียนรู้แล้วว่า พระเจ้าในสวรรค์เป็นผู้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง
อ่าน ดาเนียล 4
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: ดาเนียล 4:10-26
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ