ดาเนียล 4:10-26
ดาเนียล 4:10-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ตอนที่เรากำลังนอนอยู่บนเตียงนั้น เราเริ่มเห็นนิมิตต่างๆในหัวของเรา ทันใดนั้นก็มีต้นไม้สูงมากต้นหนึ่งอยู่ตรงกลางโลกนี้ ต้นไม้นี้ได้โตขึ้นและแข็งแรงขึ้น ยอดของมันสูงเสียดฟ้า ขนาดอยู่ไกลถึงสุดขอบโลกก็ยังมองเห็นต้นนี้ ใบของมันสวยงามมาก มีผลดกเต็มต้น เพียงพอที่จะเลี้ยงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด สัตว์ป่าหาร่มเงาอยู่ใต้ต้นไม้นี้ มีนกทำรังอยู่ตามกิ่งก้านของมัน และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดหาอาหารกินบนต้นไม้นี้ ขณะที่ข้ายังนอนอยู่บนเตียง กำลังฝันเห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้อยู่นั้น ก็มีผู้เฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์ องค์หนึ่งลงมาจากฟ้า เขาร้องตะโกนว่า ‘โค่นต้นไม้นั้นซะ ฟันกิ่งก้านทิ้งให้หมด ดึงใบของมันทิ้งด้วย พร้อมกับโยนผลของมันทิ้งไปให้หมด ทำให้สัตว์ป่าที่อยู่ใต้ต้นและพวกนกที่อยู่บนกิ่งของมัน จะต้องหนีและบินกันไป แต่ให้เหลือตอและรากของมันไว้ในดิน แล้วเอาแผ่นเหล็กและแผ่นทองแดงมาคาดมันไว้ ทิ้งมันไว้ที่นั่นในท้องทุ่งกับหญ้า มันจะต้องตากน้ำค้างที่ตกจากฟ้าจนเปียก ท่ามกลางสิงสาราสัตว์ทั้งหลายในท้องทุ่งที่มีหญ้าขึ้นอุดมสมบูรณ์ เขาจะกลายเป็นบ้า แล้วเริ่มคิดเหมือนสัตว์ แล้วฤดูกาลก็จะผ่านพ้นเขาไปเจ็ดฤดูกาล คำประกาศนี้ก็คือคำสั่งของพวกทูตที่เฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์ คำตัดสินนี้เป็นไปตามคำสั่งของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแสดงให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรู้ว่า พระเจ้าสูงสุดคือผู้ครอบครองอาณาจักรของมนุษย์ทั้งหมด และพระองค์จะให้อาณาจักรกับใครก็ได้ที่พระองค์ต้องการ และพระองค์สามารถยกคนที่ต่ำต้อยที่สุด แล้วตั้งเขาให้ปกครองได้’ นั่นแหละคือสิ่งที่เรา กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ฝันเห็น เอาล่ะ เบลเทชัสซาร์ เจ้าต้องอธิบายความฝันนั้นให้ข้าฟัง เพราะไม่มีผู้รู้คนไหนในอาณาจักรสามารถอธิบายมันได้ แต่เจ้าต้องทำได้แน่ เพราะเจ้ามีวิญญาณของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว” แล้วดาเนียล (หรือเบลเทชัสซาร์) ก็เงียบไปพักหนึ่ง เพราะความเข้าใจที่เขามีต่อความฝันนั้น ทำให้เขาไม่สบายใจมาก กษัตริย์ก็พูดว่า “เบลเทชัสซาร์ อย่าได้วิตกกังวลกับความฝันและคำทำนายนั้นเลย” เบลเทชัสซาร์จึงตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าความฝันนี้และคำอธิบายของมัน จะพูดถึงพวกศัตรูของพระองค์ ต้นไม้ที่พระองค์เห็นนั้น ต้นที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง ที่มียอดสูงเสียดฟ้า จนสามารถมองเห็นจากสุดขอบโลก ต้นนั้นที่มีใบงดงาม มีลูกดกเป็นอาหารสำหรับทุกชีวิต ต้นที่สัตว์ป่ามาอาศัยร่มเงาอยู่ที่โคนต้น และนกมาทำรังที่กิ่งก้านของมัน ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์คือต้นไม้ต้นนั้น พระองค์ได้เติบโตและยิ่งใหญ่เกรียงไกร ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และสิทธิอำนาจของพระองค์ได้แผ่ขยายไปถึงสุดขอบโลก คราวนี้ พูดถึงทูตเฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่พระองค์เห็นลงมาจากสวรรค์นั้น ที่พูดว่า ‘โค่นต้นไม้นั่นซะ แล้วทำลายมันให้หมด ยกเว้นตอกับราก ที่เจ้าจะต้องเหลือไว้ในดิน เอาแผ่นเหล็กและทองแดงมาคาดมันไว้กลางทุ่ง ที่นั่นมันจะเปียกชุ่มไปด้วยน้ำค้างที่ตกจากฟ้า เขาจะอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่า จนกว่าจะผ่านไปเจ็ดฤดูกาล’ ข้าแต่กษัตริย์ ความหมายของมันคือ พระเจ้าสูงสุดได้ตัดสินให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นกับพระองค์ ผู้เป็นกษัตริย์ พวกเขาจะขับไล่พระองค์ไปจากคนอื่นๆ พระองค์จึงต้องอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่า และต้องกินหญ้าเหมือนวัว และเปียกโชกไปด้วยน้ำค้างจากฟ้า ฤดูกาลจะผ่านไปเจ็ดฤดู แล้วพระองค์ถึงจะได้เรียนรู้ว่า พระเจ้าสูงสุด คือผู้ที่ปกครองอยู่เหนืออาณาจักรของมนุษย์ทั้งหมด และพระเจ้าจะเป็นผู้แต่งตั้งใครก็ได้มาปกครองอาณาจักรพวกนั้นตามที่พระองค์ต้องการ เมื่อผู้เฝ้าระวังที่ศักดิ์สิทธิ์พูดว่า ‘ให้เหลือตอกับรากเอาไว้’ นั่นก็แสดงว่าอาณาจักรยังเป็นของพระองค์อยู่ แต่ต้องเป็นหลังจากที่พระองค์ได้เรียนรู้แล้วว่า พระเจ้าในสวรรค์เป็นผู้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง
ดาเนียล 4:10-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
นิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อนอนอยู่บนที่นอน คือ เราได้เห็นต้นไม้ต้นหนึ่งท่ามกลางพิภพ มันสูงมาก ต้นไม้นั้นเติบโตและแข็งแรง ยอดของมันขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และแม้อยู่ถึงสุดปลายพิภพ ก็ยังมองเห็น ใบงดงาม และผลก็อุดมสมบูรณ์ และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง สัตว์ในท้องทุ่งอาศัยอยู่ใต้ร่มของมัน นกบนฟ้าก็อาศัยอยู่ที่กิ่งก้านของมัน และสิ่งมีชีวิตทั้งปวงก็เลี้ยงชีพอยู่ด้วยมัน “ในนิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อเราอยู่บนที่นอนคือ เราได้เห็นทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์องค์หนึ่งลงมาจากฟ้าสวรรค์ ท่านเปล่งเสียงดังและพูดว่า ‘โค่นต้นไม้นี้และตัดกิ่งออกเสีย ลิดใบออกแล้วให้ผลของมันกระจายไป ให้สัตว์ป่าหนีไปจากใต้ต้น และให้นกหนีไปจากกิ่งของมัน แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแถบเหล็กและทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้มีส่วนอยู่กับสัตว์ป่าในหญ้าที่พื้นดิน ให้จิตใจเปลี่ยนจากจิตใจมนุษย์เป็นจิตใจสัตว์ป่า และปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ คำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งของบรรดาทูตสวรรค์ คำตัดสินนั้นเป็นวาทะของผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย เพื่อบรรดาผู้มีชีวิตอยู่จะได้ทราบว่าพระองค์ผู้สูงสุดทรงปกครองบรรดาราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย และทรงตั้งผู้ต่ำต้อยที่สุดให้ปกครอง’ ความฝันนี้ตัวเราคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เห็น และโอ เบลเทชัสซาร์ ท่านจงกล่าวคำแก้ฝันเถิด เพราะพวกนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งราชอาณาจักรของเราไม่สามารถให้คำแก้ความฝันแก่เรา แต่ท่านสามารถ เพราะวิญญาณของบรรดาพระผู้บริสุทธิ์อยู่ในตัวท่าน” แล้วดาเนียล ผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ตะลึงอยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง ความคิดของท่านก็ทำให้ท่านตกใจ กษัตริย์ตรัสว่า “เบลเทชัสซาร์เอ๋ย อย่าให้ความฝันหรือคำแก้ความฝันทำให้ท่านตกใจเลย” เบลเทชัสซาร์ทูลตอบว่า “เจ้านายของข้าพระบาท ขอให้ความฝันนั้นเป็นของบรรดาศัตรูของพระองค์เถิด และขอให้คำแก้ความฝันนั้นตกแก่พวกอริของพระองค์ ต้นไม้ที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร ซึ่งเติบโตขึ้นและแข็งแรง จนยอดขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และแม้จะอยู่ถึงสุดปลายพิภพ ก็ยังมองเห็น ใบงดงามและผลก็อุดมสมบูรณ์ และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง สัตว์ในท้องทุ่งอาศัยอยู่ใต้ร่มของมัน นกบนฟ้าก็ทำรังอยู่ที่กิ่งก้านของมัน ข้าแต่พระราชา นี่คือฝ่าพระบาทเอง ผู้ทรงเจริญและเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และการครอบครองของพระองค์ไปถึงสุดปลายพิภพ และที่พระราชาทอดพระเนตรทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ และพูดว่า ‘โค่นต้นไม้นี้ลงและทำลายเสีย แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแถบเหล็กและทองสัมฤทธิ์ล่ามไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้อยู่ร่วมกับสัตว์ในท้องทุ่ง และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ’ ข้าแต่พระราชา ต่อไปนี้เป็นคำแก้พระสุบิน เป็นพระราชกฤษฎีกามาจากพระผู้สูงสุด ซึ่งมาถึงพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทว่า ฝ่าพระบาทจะทรงถูกขับไล่ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และฝ่าพระบาทจะอยู่กับสัตว์ในท้องทุ่ง ฝ่าพระบาทจะต้องเสวยหญ้าอย่างกับโค และต้องเปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ จนกว่าฝ่าพระบาทจะทราบว่า พระผู้สูงสุดนั้นทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย และที่ทรงบัญชาให้เหลือตอรากต้นนั้นไว้ก็หมายความว่า ราชอาณาจักรจะยังเป็นของฝ่าพระบาท เมื่อฝ่าพระบาททรงยอมรับว่าการปกครองนั้นเป็นของสวรรค์
ดาเนียล 4:10-26 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
นิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อนอนอยู่บนที่นอน ดูเถิด เราได้เห็นต้นไม้ท่ามกลางพิภพ มันสูงมาก ต้นไม้เติบโตและแข็งแรง ยอดของมันขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และประจักษ์ไปถึงที่สุดปลายพิภพ ใบก็งดงามและผลก็อุดม และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่ชีวิตทั้งปวง สัตว์ป่าที่ในทุ่งนาอาศัยอยู่ใต้ร่มของมัน และนกในอากาศก็อาศัยอยู่ที่กิ่งก้านของมัน และเนื้อหนังทั้งหลายก็เลี้ยงตนอยู่ด้วยมัน ในนิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อเราอยู่บนที่นอน ดูเถิด เราได้เห็นผู้พิทักษ์ องค์บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ ท่านเปล่งเสียงและพูดดังนี้ว่า ‘จงฟันต้นไม้และตัดกิ่งทั้งหลายของมันออกเสีย สะบัดให้ใบของมันร่วงออกแล้วให้ผลของมันกระจายไป ให้สัตว์ป่าหนีไปเสียจากใต้ต้น และให้นกหนีไปเสียจากกิ่งของมัน แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีปลอกเหล็กและทองสัมฤทธิ์สวมไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่าในหญ้าที่พื้นดิน ให้จิตใจของเขาเปลี่ยนเสียจากจิตใจมนุษย์ แล้วมอบใจสัตว์ป่าให้แก่เขา และปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ คำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งของผู้พิทักษ์ คำตัดสินนั้นเป็นวาทะขององค์บริสุทธิ์ เพื่อผู้มีชีวิตอยู่จะได้ทราบว่าท่านผู้สูงสุดทรงปกครองอยู่เหนือราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์จะประทาน และตั้งผู้ที่ด้อยที่สุดให้อยู่เหนือ’ ความฝันนี้ตัวเราคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เห็นและ โอ เบลเทชัสซาร์ ท่านจงกล่าวคำแก้ฝันเถิด เพราะพวกนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งราชอาณาจักรของเราไม่สามารถที่จะให้คำแก้ความฝันแก่เรา แต่ท่านสามารถ เพราะวิญญาณของพระผู้บริสุทธิ์อยู่ในตัวท่าน” แล้วดาเนียล ผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ ก็งงงันอยู่ชั่วโมงหนึ่ง ความคิดของท่านก็กระทำให้ท่านตกใจ กษัตริย์ตรัสว่า “เบลเทชัสซาร์เอ๋ย อย่าให้ความฝันหรือคำแก้ความฝันกระทำให้ท่านตกใจเลย” เบลเทชัสซาร์ทูลตอบว่า “เจ้านายของข้าพระองค์ ขอให้ความฝันนั้นเป็นเรื่องของผู้ที่เกลียดชังพระองค์เถิด และขอให้คำแก้ความฝันนั้นตกแก่ปฏิปักษ์ของพระองค์ ต้นไม้ที่พระองค์ทอดพระเนตร ซึ่งเติบโตขึ้นและแข็งแรง จนยอดขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ ประจักษ์ไปทั่วพิภพทั้งสิ้น ใบของมันก็งดงามและผลก็อุดม และจากต้นนั้นมีอาหารให้แก่ชีวิตทั้งปวง สัตว์ป่าในทุ่งนามาพึ่งร่มอยู่ใต้ต้น และนกในอากาศก็มาอาศัยอยู่ที่กิ่ง โอ ข้าแต่กษัตริย์ นี่คือพระองค์เอง ผู้ทรงเจริญและเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญ และขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และราชอาณาจักรของพระองค์ก็ไปถึงสุดปลายพิภพ และที่กษัตริย์ทอดพระเนตรผู้พิทักษ์คือองค์บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ และพูดว่า ‘จงฟันต้นไม้และทำลายเสีย แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีปลอกเหล็กและทองสัมฤทธิ์สวมไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่า และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ’ โอ ข้าแต่กษัตริย์ ต่อไปนี้เป็นคำแก้พระสุบิน เป็นพระราชกฤษฎีกามาจากผู้สูงสุด ซึ่งมาถึงกษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ ว่าพระองค์จะทรงถูกขับไล่ไปเสียจากท่ามกลางมนุษย์ และพระองค์จะอยู่กับสัตว์ในทุ่งนา พระองค์จะต้องเสวยหญ้าอย่างกับวัว และจะให้พระองค์เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ จนกว่าพระองค์จะทราบว่า ผู้สูงสุดนั้นทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงปรารถนา และที่ทรงมีพระบัญชาให้เหลือตอรากต้นไม้นั้นไว้ก็หมายความว่า ราชอาณาจักรจะยังเป็นของพระองค์ ตั้งแต่พระองค์ทรงทราบว่าสวรรค์ปกครอง
ดาเนียล 4:10-26 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
นิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อนอนอยู่บนที่นอน ดูเถิด เราได้เห็นต้นก่อหลวงท่ามกลางพิภพ มันสูงมาก ต้นก่อหลวงเติบโตและแข็งแรง ยอดของมันขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และประจักษ์ไปถึงที่สุดปลายพิภพ ใบก็งดงามและผลก็อุดม และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่ชีวิตทั้งปวง สัตว์ป่าที่ในทุ่งนาอาศัยอยู่ใต้ร่มของมัน และนกในอากาศก็อาศัยอยู่ที่กิ่งก้านของมัน และชีวิตทั้งหลายก็เลี้ยงตนอยู่ด้วยมัน <<ในนิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อเราอยู่บนที่นอน ดูเถิด เราได้เห็นผู้พิทักษ์ องค์บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ ท่านเปล่งเสียงและพูดดังนี้ว่า <ตัดต้นก่อหลวงและทอนกิ่งออกเสีย ลิดใบออกแล้วให้ผลของมันกระจาย ไปให้สัตว์ป่าหนีไปเสียจากใต้ต้น และให้นกหนีไปเสียจากกิ่งของมัน แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแผ่นเหล็กและทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่าในหญ้าที่พื้นดิน ให้จิตใจของเขาเปลี่ยนเสียจากจิตใจมนุษย์ แล้วมอบใจสัตว์ป่าให้แก่เขา และปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ คำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งของผู้พิทักษ์ คำตัดสินนั้นเป็นวาทะขององค์บริสุทธิ์ เพื่อผู้มีชีวิตอยู่จะได้ทราบว่าท่านผู้ สูงสุดทรงปกครองอยู่เหนือราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์จะประทาน และตั้งผู้ที่ด้อยที่สุดให้อยู่เหนือ> ความฝันนี้ตัวเราคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เห็น และโอ เบลเทชัสซาร์ ท่านจงกล่าวคำแก้ฝันเถิด เพราะพวกนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งราชอาณาจักรของเรา ไม่สามารถที่จะให้คำแก้ความฝันแก่เรา แต่ท่านสามารถ เพราะวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์อยู่ในตัวท่าน>> แล้วดาเนียล ผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ ก็งงงันอยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง ความคิดของท่านก็กระทำให้ท่านตกใจ พระราชาตรัสว่า <<เบลเทชัสซาร์เอ๋ย อย่าให้ความฝันหรือคำแก้ความฝัน กระทำให้ท่านตกใจเลย>> เบลเทชัสซาร์ทูลตอบว่า <<เจ้านายของข้าพระบาท ขอให้ความฝันนั้นเป็นเรื่องของผู้ที่เกลียดชังพระองค์เถิด และขอให้คำแก้ความฝันนั้นตกแก่ปฏิปักษ์ของพระองค์ ต้นก่อหลวงที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร ซึ่งเติบโตขึ้นและแข็งแรง จนยอดขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ ประจักษ์ไปทั่วพิภพทั้งสิ้น ใบของมันก็งดงาม และผลก็อุดม และจากต้นนั้นมีอาหารให้แก่ชีวิตทั้งปวง สัตว์ป่าในทุ่งนามาพึ่งร่มอยู่ใต้ต้น และนกในอากาศก็มาอาศัยอยู่ที่กิ่ง ข้าแต่พระราชานี่คือฝ่าพระบาทเอง ผู้ทรงเจริญและเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญ และขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และราชอาณาจักรของพระองค์ก็ไปถึงสุดปลายพิภพ และที่พระราชาทอดพระเนตร ผู้พิทักษ์คือองค์บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ และพูดว่า <ตัดต้นก่อหลวงลงและทำลายเสีย แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแผ่นเหล็ก และทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนาให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่า และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ> ข้าแต่พระราชาต่อไปนี้เป็นคำแก้พระสุบิน เป็นพระราชกฤษฎีกามาจากผู้สูงสุด ซึ่งมาถึงพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ว่าฝ่าพระบาทจะทรงถูกขับไล่ไปเสียจากท่ามกลางมนุษย์ และฝ่าพระบาทจะอยู่กับสัตว์ในทุ่งนา ฝ่าพระบาทจะต้องเสวยหญ้าอย่างกับโค และจะให้ฝ่าพระบาทเปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ จนกว่าฝ่าพระบาทจะทราบว่า ผู้สูงสุดนั้นทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะประทานราชอาณาจักรนั้น แก่ผู้ที่พระองค์จะประทาน และที่ทรงมีพระบัญชาให้เหลือตอ รากต้นก่อหลวงนั้นไว้ก็หมายความว่า ราชอาณาจักรจะยังเป็นของฝ่าพระบาท ตั้งแต่ฝ่าพระบาททรงทราบว่าสวรรค์ปกครอง
ดาเนียล 4:10-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ขณะนอนอยู่บนเตียง เราเห็นนิมิตคือเรามองไปเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่ตรงกลางแผ่นดิน มันสูงใหญ่มาก ต้นไม้นั้นเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนยอดสูงจรดฟ้า แม้แต่สุดโลกก็ยังมองเห็น ใบของมันงามน่าดู ผลก็ดกเต็มต้น มันให้อาหารแก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง บรรดาสัตว์ในท้องทุ่งมาพักพิงใต้ร่มของมัน เหล่านกในอากาศมาอาศัยอยู่ตามกิ่งก้านของมัน บรรดาสิ่งมีชีวิตเลี้ยงชีพด้วยผลของมัน “ขณะนอนอยู่บนเตียง เราเห็นนิมิตคือ เรามองไปเห็นทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ เขาประกาศก้องว่า ‘โค่นต้นไม้ลง ลิดกิ่งออก ตัดใบทิ้งให้หมด และสลัดผลให้เกลื่อนกระจาย ไล่สัตว์ทั้งหลายออกจากใต้ร่ม และไล่นกออกจากกิ่งต่างๆ ไป แต่จงทิ้งตอกับรากไว้ เอาโซ่เหล็กและโซ่ทองสัมฤทธิ์ล่ามทิ้งไว้อย่างนั้นกลางดงหญ้าในทุ่ง “ ‘ให้กายเขาเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขาอาศัยอยู่กับสัตว์ท่ามกลางพืชพันธุ์ต่างๆ ของแผ่นดินโลก ให้ความคิดจิตใจของเขาเปลี่ยนจากมนุษย์กลายเป็นเหมือนสัตว์จนครบเจ็ดวาระ “ ‘เหล่าทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์เป็นผู้แจ้งคำตัดสินนี้ เพื่อผู้มีชีวิตอยู่จะรู้ว่าพระเจ้าสูงสุดทรงครอบครองเหนือมวลอาณาจักรของมนุษย์ ทรงมอบอาณาจักรแก่ผู้ใดก็ได้ตามแต่ชอบพระทัย ทรงแต่งตั้งผู้ต่ำต้อยที่สุดให้ปกครองพวกเขา’ “นี่เป็นความฝันของเรา กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ บัดนี้เบลเทชัสซาร์เอ๋ย บอกเรามาเถิดว่าฝันนี้หมายความว่าอะไร เพราะไม่มีปราชญ์คนใดในอาณาจักรของเราแก้ฝันให้เราได้ แต่เจ้าทำได้เพราะวิญญาณของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเจ้า” แล้วดาเนียล (หรือเบลเทชัสซาร์) ก็ตกตะลึงและว้าวุ่นใจอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ความคิดของเขาทำให้เขาหวาดวิตก กษัตริย์จึงตรัสว่า “เบลเทชัสซาร์เอ๋ย อย่าให้ความฝันหรือความหมายของมันทำให้เจ้าตกใจกลัวไปเลย” เบลเทชัสซาร์ทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอให้ความฝันและความหมายของมันตกแก่ศัตรูของฝ่าพระบาทเถิด! ต้นไม้ที่ฝ่าพระบาทเห็นซึ่งเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยอดสูงจรดฟ้าจนสุดโลกยังมองเห็น ซึ่งมีใบสวยงาม ให้ผลดกเป็นอาหารแก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง ให้ร่มเงาแก่บรรดาสัตว์ในท้องทุ่ง และมีกิ่งก้านให้เหล่านกมาอาศัยทำรัง ข้าแต่กษัตริย์ ต้นไม้นั้นคือฝ่าพระบาท ทรงยิ่งใหญ่เกรียงไกร รุ่งโรจน์เทียมฟ้า และแผ่อำนาจไปถึงสุดโลก “ข้าแต่กษัตริย์ ที่ฝ่าพระบาทเห็นทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ และป่าวประกาศว่า ‘จงโค่นต้นไม้ลงและทำลายมันเสีย แต่เหลือตอไว้ ล่ามมันไว้กลางทุ่งหญ้าด้วยเหล็กและทองสัมฤทธิ์ ขณะที่รากยังหยั่งลึกอยู่ในดิน ให้เขาตากน้ำค้างและอาศัยอยู่เยี่ยงสัตว์ป่าจนครบเจ็ดวาระ’ “ข้าแต่กษัตริย์ นิมิตนั้นมีความหมายดังนี้ประกาศิตขององค์ผู้สูงสุดเกี่ยวกับฝ่าพระบาทคือ ฝ่าพระบาทจะถูกขับไล่จากมวลมนุษย์และให้ไปใช้ชีวิตอยู่กับสัตว์ป่า จะกินหญ้าเหมือนวัวและตากน้ำค้างจนครบเจ็ดวาระจนกว่าฝ่าพระบาทจะเรียนรู้ว่าองค์ผู้สูงสุดทรงครอบครองเหนืออาณาจักรมนุษย์ พระองค์จะประทานอาณาจักรแก่ผู้ใดก็ได้ตามแต่ชอบพระทัย พระบัญชาที่ให้เหลือตอและรากไว้หมายความว่า ฝ่าพระบาทจะได้รับอาณาจักรกลับคืนมาอีก หลังจากทรงเรียนรู้แล้วว่าพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์นั้นครอบครองอยู่
ดาเนียล 4:10-26 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ภาพนิมิตต่างๆ ที่อยู่ในความนึกคิดของเราขณะที่เรานอนอยู่ก็คือ ดูเถิด เราเห็นต้นไม้ใหญ่มากต้นหนึ่งที่ท่ามกลางแผ่นดินโลก ต้นไม้โตขึ้นและแข็งแกร่ง ยอดต้นไม้งอกสูงขึ้นถึงฟ้าสวรรค์ จนทั่วทั้งโลกมองเห็นได้ ต้นไม้นั้นมีใบสดสวย และออกผลดกมากพอที่จะเป็นอาหารสำหรับทุกคนได้ สัตว์ป่าในทุ่งหาที่ร่มจากต้นไม้เป็นที่พักพิง และนกในอากาศก็อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้อาหารจากต้นไม้ต้นนี้ ภาพนิมิตที่เราเห็นอยู่ในความนึกคิดของเราขณะที่เรานอนอยู่ ดูเถิด มีผู้ส่งข่าวผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งลงมาจากฟ้าสวรรค์ ท่านประกาศเสียงดังว่า ‘จงโค่นต้นไม้ลงและตัดกิ่งไม้ รูดใบและขว้างผลไม้ให้กระจายออกไป ให้สัตว์ป่าเตลิดหนีไปจากใต้ร่มไม้ และให้นกออกไปจากกิ่งไม้ แต่จงปล่อยให้ตอกับรากไม้อยู่ในดิน และมัดด้วยแผ่นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ ปล่อยไว้บนพื้นดินที่เป็นทุ่งหญ้า ให้เขาเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ และให้เขาอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าในทุ่งหญ้าของแผ่นดินโลก ให้จิตใจของเขาเปลี่ยนจากจิตใจมนุษย์เป็นจิตใจของสัตว์ป่า จนกว่าเวลาจะผ่านพ้นเขาไป 7 ระยะ ผู้ส่งข่าวประกาศคำตัดสินโทษ บรรดาผู้บริสุทธิ์แถลงคำตัดสิน เพื่อบรรดาผู้มีชีวิตอยู่จะทราบว่าองค์ผู้สูงสุดเป็นผู้ปกครองเหนืออาณาจักรของมนุษย์ ซึ่งพระองค์จะมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ย่อมได้ และแต่งตั้งผู้ที่ถ่อมตัวที่สุดในหมู่มนุษย์ให้ปกครอง’ เราผู้เป็นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ฝันเห็น บัดนี้ เบลเทชัสซาร์จงบอกเราว่า ความหมายคืออะไร ไม่มีผู้ปรึกษาของเราคนใดที่สามารถแก้ฝันให้เราได้ แต่เจ้าสามารถแก้ฝันได้ เพราะวิญญาณของบรรดาเทพเจ้าผู้บริสุทธิ์อยู่กับเจ้า” ครั้นแล้ว ดาเนียลที่มีอีกชื่อว่า เบลเทชัสซาร์ ก็ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ และสิ่งที่ท่านกำลังคิดอยู่ทำให้ท่านตกใจกลัว กษัตริย์กล่าวว่า “เบลเทชัสซาร์ อย่าให้ฝันหรือการแก้ฝันทำให้เจ้าตกใจกลัวเลย” เบลเทชัสซาร์ตอบว่า “ท่านผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า ขอให้เรื่องที่ท่านฝันจงเกิดแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน และความหมายก็เป็นของพวกศัตรูของท่าน ต้นไม้ที่ท่านเห็น ซึ่งโตขึ้นและแข็งแรง ยอดของต้นไม้งอกสูงขึ้นถึงฟ้าสวรรค์ จนคนทั่วทั้งโลกมองเห็นได้ ต้นไม้นั้นมีใบสดสวย และออกผลดกมากพอที่จะเป็นอาหารสำหรับทุกคนได้ สัตว์ป่าในทุ่งหาที่ร่มจากต้นไม้เป็นที่พักพิง และนกในอากาศก็อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ โอ กษัตริย์ ท่านคือผู้ที่ใหญ่โตและเข้มแข็ง ท่านยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น ไปจนถึงฟ้าสวรรค์ และการปกครองของท่านแผ่ไกลไปทั่วแหล่งหล้า กษัตริย์เห็นผู้ประกาศ คือผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งกำลังลงมาจากฟ้าสวรรค์และพูดว่า ‘จงโค่นต้นไม้ลงและกำจัดทิ้งเสีย แต่จงให้ตอซึ่งยังมีรากไม้ติดอยู่ฝังอยู่กับพื้นดินที่เป็นทุ่งหญ้า และมัดด้วยแผ่นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ ให้เขาเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ และให้เขามีชีวิตอยู่อย่างบรรดาสัตว์ป่าในทุ่งหญ้า จนกว่าเวลาจะผ่านพ้นเขาไป 7 ระยะ’ โอ กษัตริย์ การตีความหมายก็คือ องค์ผู้สูงสุดได้ออกคำสั่งว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับกษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า ท่านจะถูกขับไล่ไปจากผู้คน และท่านจะอาศัยอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าในทุ่ง ท่านจะต้องรับประทานหญ้าอย่างโค และจะเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ เวลาจะผ่านพ้นท่านไป 7 ระยะ จนกว่าท่านจะตระหนักว่าพระเจ้าผู้สูงสุดปกครองอาณาจักรของมนุษย์ และมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ สำหรับคำสั่งที่ให้ตอซึ่งยังมีรากไม้ติดอยู่ หมายความว่า อาณาจักรของท่านจะกลับคืนมาเป็นของท่านอีก เมื่อท่านยอมรับว่าพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ปกครอง