ปฐมกาล 41:14-53

ปฐมกาล 41:14-53 THSV11

ฟาโรห์จึงรับสั่งให้เรียกโยเซฟมา เขาก็รีบไปนำท่านออกมาจากคุกใต้ดิน เมื่อท่านโกนศีรษะผลัดเสื้อผ้าแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “เราฝันไป ไม่มีใครอธิบายความฝันได้ เราได้ยินว่า เมื่อเจ้าได้ฟังความฝัน เจ้าก็อธิบายความฝันได้” โยเซฟจึงทูลตอบฟาโรห์ว่า “ไม่ใช่ข้าพระบาท พระเจ้าต่างหากจะประทานคำตอบอันควรแก่ฟาโรห์” ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “ในความฝันของเรานั้น นี่แน่ะ เรายืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำไนล์ โคเจ็ดตัวอ้วนพีงามน่าดูขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ กินใบอ้ออยู่ แล้วโคอีกเจ็ดตัวตามขึ้นมา ไม่งามแต่น่าเกลียดมากและซูบผอม เราไม่เคยเห็นมีโคน่าเกลียดอย่างนี้ทั่วแผ่นดินอียิปต์เลย โคที่ซูบผอมน่าเกลียดนั้นกินโคอ้วนพีเจ็ดตัวแรกนั้นเสีย เมื่อกินหมดแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่ามันกินเข้าไป เพราะยังน่าเกลียดอยู่เหมือนเดิม แล้วเราก็ตื่นขึ้น ในความฝันของเราอีกครั้ง เรายังเห็นต้นข้าวต้นหนึ่ง มีรวงเจ็ดรวงงอกขึ้นมา เป็นข้าวเมล็ดเต่งและงามดี กับเห็นข้าวอีกเจ็ดรวงงอกขึ้นมาภายหลังเป็นข้าวเหี่ยวลีบ และเกรียมเพราะลมตะวันออก รวงข้าวลีบนั้นกลืนกินรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นเสีย เราเล่าความฝันนี้ให้โหรฟัง แต่ไม่มีใครอธิบายได้” โยเซฟจึงทูลฟาโรห์ว่า “พระสุบินของฟาโรห์มีความหมายอย่างเดียวกัน พระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์ทราบสิ่งที่พระองค์จะทรงทำ โคอ้วนพีเจ็ดตัวนั้นคือเจ็ดปี และรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นก็คือเจ็ดปี เป็นความฝันเดียวกัน โคเจ็ดตัวซูบผอมน่าเกลียดที่ขึ้นมาภายหลังคือเจ็ดปี กับรวงข้าวเจ็ดรวงลีบและเกรียมเพราะลมตะวันออกนั้น คือเจ็ดปีที่กันดารอาหารด้วย เป็นจริงอย่างที่ข้าพระบาททูลฟาโรห์ คือพระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์ทรงทราบสิ่งที่พระองค์จะทรงทำ นี่แหละ จะมีอาหารบริบูรณ์ทั่วแผ่นดินอียิปต์ถึงเจ็ดปี หลังจากนั้นจะเกิดการกันดารอาหารอีกเจ็ดปี จนประชาชนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินอียิปต์เสีย การกันดารอาหารจะล้างผลาญแผ่นดิน เพราะการกันดารอาหารที่เกิดขึ้นตามมานี้ ประชาชนจึงจำความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินไม่ได้ ด้วยว่าการกันดารอาหารนั้นรุนแรงยิ่งนัก ที่ฟาโรห์ทรงสุบินสองครั้ง ก็หมายความว่าสิ่งนั้นพระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว และพระเจ้าจะทรงทำให้สำเร็จในเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นขอฟาโรห์ทรงเลือกคนที่มีความคิดดี มีปัญญา ตั้งให้ดูแลแผ่นดินอียิปต์ ขอฟาโรห์ทรงทำดังนี้คือทรงจัดพนักงานไว้ทั่วแผ่นดิน และเก็บผลหนึ่งในห้าส่วนของดินแดนอียิปต์ไว้ตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น ให้พวกเขาเก็บอาหารในปีที่อุดมสมบูรณ์เหล่านั้นซึ่งจะมาถึงไว้ และสะสมข้าวด้วยอำนาจของฟาโรห์ไว้เป็นอาหารในเมืองต่างๆ และให้พวกเขาเฝ้าดูแลไว้ อาหารนี้จะได้เป็นเสบียงสำรองให้แก่แผ่นดินระหว่างเจ็ดปีที่กันดารอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นในดินแดนอียิปต์ ดังนี้แผ่นดินจะไม่พินาศไปเพราะการกันดารอาหาร” ฝ่ายฟาโรห์และข้าราชการทั้งปวงต่างเห็นชอบในข้อเสนอนี้ ฟาโรห์ตรัสกับบรรดาข้าราชการว่า “พวกเราจะหาคนที่มีพระวิญญาณพระเจ้าอยู่ในตัวเหมือนคนนี้ได้หรือ?” ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “เพราะพระเจ้าได้ทรงสำแดงเรื่องทั้งสิ้นนี้แก่เจ้า จึงไม่มีใครที่มีความเข้าใจและมีปัญญาเหมือนเจ้า เจ้าจะเป็นผู้ดูแลราชสำนักของเรา และให้ประชาชนทั้งหมดของเราทำตามคำของเจ้า เว้นแต่พระที่นั่งเท่านั้นที่เราจะเป็นใหญ่กว่าเจ้า” ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า “เราให้ท่านอยู่เหนือแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด” ฟาโรห์ทรงถอดแหวนตราออกจากพระหัตถ์ ทรงสวมให้ที่มือโยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และทรงสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้ราชรถคันที่สองที่เป็นของพระองค์ มีคนร้องประกาศข้างหน้าว่า “คุกเข่าลง” ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งท่านให้อยู่เหนือดินแดนอียิปต์ทั้งหมด ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า “เราคือฟาโรห์ เราจะไม่ให้คนทั่วแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้ เว้นแต่เจ้าจะอนุญาต” ฟาโรห์ประทานนามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีโปทิเฟราปุโรหิตเมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปทั่วดินแดนอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้ 30 ปี แล้วท่านก็ออกจากพระพักตร์ฟาโรห์ไปทั่วดินแดนอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น แผ่นดินก็เกิดผลมากมาย โยเซฟสะสมอาหารของทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในดินแดนอียิปต์ไว้หมด เก็บอาหารไว้ในเมืองต่างๆ อาหารที่เกิดขึ้นในที่ดินรอบเมืองใดก็เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเล มากมายจนต้องหยุดนับเพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร โยเซฟมีบุตรชายสองคน ซึ่งนางอาเสนัทบุตรีโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนมีให้ท่าน โยเซฟเรียกลูกหัวปีว่า มนัสเสห์ “เพราะว่าพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวง และพงศ์พันธุ์ทั้งหมดของบิดาเสีย” บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม “เพราะว่าพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้ามีพงศ์พันธุ์ทวีขึ้นในดินแดนที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ” เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในดินแดนอียิปต์ก็ล่วงไป

วิดีโอสำหรับ ปฐมกาล 41:14-53