ปฐมกาล 41:14-53
ปฐมกาล 41:14-53 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ฟาโรห์จึงส่งคนไปตามโยเซฟมา พวกเขารีบนำตัวโยเซฟมาจากคุก ให้โยเซฟโกนหัวและหนวดเครา เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และนำตัวเขามาหาฟาโรห์ ฟาโรห์พูดกับโยเซฟว่า “เราได้ฝันไป แต่ไม่มีใครสามารถแก้ฝันของเราได้ แต่เราได้ยินเขาพูดถึงเจ้าว่า เมื่อเจ้าได้ฟังความฝัน เจ้าจะแก้ฝันได้” โยเซฟตอบฟาโรห์ว่า “ไม่ใช่ข้าพเจ้าหรอก แต่เป็นพระเจ้าที่จะให้คำตอบดีๆกับท่านฟาโรห์” ฟาโรห์จึงพูดกับโยเซฟว่า “ในความฝันของเรา เรากำลังยืนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ แล้วจู่ๆก็มีวัวอ้วนพีเจ็ดตัว รูปร่างสมบูรณ์แข็งแรง โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ มากินหญ้าที่ขึ้นอยู่แถวๆนั้น หลังจากนั้นก็มีวัวอีกเจ็ดตัวที่หิวโซ ผอมลีบ น่าเกลียดน่ากลัว โผล่ขึ้นมา เรายังไม่เคยเห็นวัวที่น่าเกลียดอย่างนี้มาก่อนเลยในแผ่นดินอียิปต์ แล้ววัวผอมลีบที่น่าเกลียดทั้งเจ็ดตัวนี้ ได้กินวัวอ้วนพีทั้งเจ็ดตัวนั้น แต่เมื่อพวกมันกินวัวอ้วนพีทั้งเจ็ดตัวเข้าไปแล้ว ดูไม่รู้เลยว่าพวกมันได้กินวัวอ้วนพีเข้าไปในท้องของพวกมันแล้ว เพราะมันยังน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนในตอนแรก แล้วเราได้ตื่นขึ้น จากนั้นเราได้ฝันอีก คราวนี้เราฝันเห็นรวงข้าวเจ็ดรวง แต่ละรวงมีเมล็ดข้าวออกเต็มไปหมด ทั้งหมดงอกออกมาจากต้นข้าวต้นเดียว ต่อมาได้มีรวงข้าวอีกเจ็ดรวงงอกออกมา แต่มีเมล็ดข้าวที่ผอมลีบและเหี่ยวแห้ง เพราะลมร้อนจากตะวันออก รวงข้าวที่ผอมลีบนี้ได้กลืนกินรวงข้าวที่งามดีทั้งเจ็ดรวงนั้น เราได้เล่าเรื่องนี้ให้กับพวกโหรของเรา แต่ไม่มีใครแก้ฝันนี้ให้กับเราได้เลย” โยเซฟพูดกับฟาโรห์ว่า “ความฝันทั้งสองอันนี้ของท่านเป็นความฝันเรื่องเดียวกันและเหมือนกัน พระเจ้าบอกฟาโรห์ถึงสิ่งที่พระองค์จะทำในไม่ช้านี้ วัวดีๆเจ็ดตัวนั้นคือเจ็ดปี และรวงข้าวงามๆทั้งเจ็ดรวงนั้นก็คือเจ็ดปี ความฝันทั้งสองอันนี้มีความหมายอย่างเดียวกัน วัวผอมลีบที่น่าเกลียดทั้งเจ็ดตัวที่โผล่ตามมานั้นก็คือเจ็ดปี และรวงข้าวทั้งเจ็ดรวงที่ผอมและเหี่ยวแห้งเพราะลมร้อนจากตะวันออกนั้น ก็เป็นเจ็ดปีของความอดอยากหิวโหย นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าได้บอกกับฟาโรห์ พระเจ้าได้แสดงให้ฟาโรห์เห็นถึงสิ่งที่พระองค์จะทำในไม่ช้านี้ ดูเถิด ในเวลาเจ็ดปี จะมีอาหารอย่างเหลือเฟือในแผ่นดินอียิปต์ หลังจากนั้นอีกเจ็ดปี ความอดอยากหิวโหยจะตามมา ผู้คนจะลืมช่วงที่มีอาหารอย่างเหลือเฟือในแผ่นดินอียิปต์ และความอดอยากหิวโหยนี้จะทำลายแผ่นดินนี้ ความอดอยากหิวโหยที่ตามมานี้ จะทำให้ผู้คนลืมช่วงเวลาที่มีอาหารกินอย่างเหลือเฟือ เพราะความอดอยากหิวโหยนั้นจะหนักหนาสาหัสมาก และที่ฟาโรห์ได้ฝันถึงสองครั้ง ก็เพราะพระเจ้าได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และพระองค์จะทำให้มันเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ดังนั้น ตอนนี้ขอให้ฟาโรห์รีบหาคนที่เฉลียวฉลาดและหัวดี และตั้งเขาให้จัดการดูแลทั่วทั้งแผ่นดินอียิปต์ ขอให้ฟาโรห์แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทั่วแผ่นดินและให้แบ่งยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของผลผลิตทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเจ็ดปีแรก ออกมาเก็บไว้ ให้พวกเขาเก็บสะสมอาหารที่มีในปีที่ดีที่กำลังจะมานี้ ให้พวกเขาเก็บรวบรวมเมล็ดข้าวไว้ในคลังของกษัตริย์ฟาโรห์ในเมืองต่างๆและให้เฝ้ามันไว้ อาหารพวกนี้จะเก็บตุนไว้สำหรับเจ็ดปีแห่งความอดอยากหิวโหยที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินอียิปต์ เพื่อแผ่นดินนี้จะได้ไม่ถูกทำลายเพราะความอดอยากหิวโหยนั้น” ทั้งฟาโรห์และเจ้าหน้าที่ของเขาเห็นด้วยกับแผนนี้ ฟาโรห์จึงพูดกับเจ้าหน้าที่ของเขาว่า “พวกเราจะไปหาคนอย่างนี้ได้ที่ไหน คนที่มีพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ด้วย” ฟาโรห์จึงบอกโยเซฟว่า “เพราะพระเจ้าได้ทำให้เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมด ไม่มีใครที่จะเฉลียวฉลาดและหัวดีเท่ากับเจ้าอีกแล้ว เราจะให้เจ้าดูแลบ้านเรือนของเรา และประชาชนของเราทุกคนก็จะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า เจ้าจะใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเรา” ฟาโรห์จึงพูดกับโยเซฟว่า “เห็นไหม เราได้แต่งตั้งเจ้าให้ดูแลแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด” แล้วฟาโรห์ก็ถอดแหวนตราประทับจากมือ สวมเข้าที่มือของโยเซฟ ฟาโรห์ได้เอาผ้าลินินอย่างดีมาสวมใส่ให้โยเซฟ เอาสร้อยคอทองคำมาสวมที่คอของเขา ฟาโรห์ได้ให้โยเซฟนั่งรถม้าคันที่สองของพระองค์ มีคนร้องตะโกนอยู่ข้างหน้าเขาว่า “กราบลง” และฟาโรห์ได้แต่งตั้งให้โยเซฟดูแลแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด ฟาโรห์พูดกับโยเซฟว่า “เราคือฟาโรห์ ในแผ่นดินอียิปต์จะไม่มีใครสามารถกระดิกแขนขาได้ นอกจากเจ้าจะอนุญาต” แล้วฟาโรห์ได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และยกอาเสนัทให้เป็นเมียโยเซฟด้วย อาเสนัทเป็นลูกสาวของโปทิเฟรา นักบวชเมืองโอน แล้วโยเซฟก็ได้ออกไปจากฟาโรห์ และออกเดินทางไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟมีอายุสามสิบปี เมื่อเขาเริ่มรับใช้ฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ โยเซฟจากฟาโรห์มา และได้เดินทางไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ ในช่วงเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินได้ให้ผลผลิตอย่างล้นเหลือ ในช่วงเจ็ดปีนั้นที่มีอาหารอย่างล้นเหลือในแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟได้เก็บกักตุนมันไว้ในเมืองต่างๆ อาหารที่เก็บได้จากท้องทุ่งรอบๆเมืองไหนก็จะตุนไว้ในเมืองนั้นๆ ดังนั้นโยเซฟจึงเก็บเมล็ดข้าวมาตุนไว้มากมายเหมือนกับเม็ดทรายที่ทะเล มันมากซะจนชั่งไม่หวั่นไม่ไหวจนต้องหยุดชั่งไป ก่อนที่จะถึงปีแห่งความอดอยากหิวโหย โยเซฟมีลูกชายสองคน อาเสนัทได้คลอดลูกสองคนนี้ให้กับโยเซฟ อาเสนัทเป็นลูกสาวของโปทิเฟรานักบวชเมืองโอน โยเซฟตั้งชื่อลูกชายคนแรกว่า มนัสเสห์ โยเซฟพูดว่า “พระเจ้าทำให้ผมลืมความทุกข์ยากลำบากของผมทั้งสิ้น รวมทั้งทุกคนในครอบครัวของพ่อผม” โยเซฟได้ตั้งชื่อลูกคนที่สองว่าเอฟราอิม โยเซฟพูดว่า “เพราะพระเจ้าได้ทำให้ผมมีลูกหลาน ในแผ่นดินที่ผมได้รับความทุกข์ยากลำบากนี้” เจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินอียิปต์ได้สิ้นสุดลง
ปฐมกาล 41:14-53 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ฟาโรห์จึงรับสั่งให้เรียกโยเซฟมา เขาก็รีบไปนำท่านออกมาจากคุกใต้ดิน เมื่อท่านโกนศีรษะผลัดเสื้อผ้าแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “เราฝันไป ไม่มีใครอธิบายความฝันได้ เราได้ยินว่า เมื่อเจ้าได้ฟังความฝัน เจ้าก็อธิบายความฝันได้” โยเซฟจึงทูลตอบฟาโรห์ว่า “ไม่ใช่ข้าพระบาท พระเจ้าต่างหากจะประทานคำตอบอันควรแก่ฟาโรห์” ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “ในความฝันของเรานั้น นี่แน่ะ เรายืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำไนล์ โคเจ็ดตัวอ้วนพีงามน่าดูขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ กินใบอ้ออยู่ แล้วโคอีกเจ็ดตัวตามขึ้นมา ไม่งามแต่น่าเกลียดมากและซูบผอม เราไม่เคยเห็นมีโคน่าเกลียดอย่างนี้ทั่วแผ่นดินอียิปต์เลย โคที่ซูบผอมน่าเกลียดนั้นกินโคอ้วนพีเจ็ดตัวแรกนั้นเสีย เมื่อกินหมดแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่ามันกินเข้าไป เพราะยังน่าเกลียดอยู่เหมือนเดิม แล้วเราก็ตื่นขึ้น ในความฝันของเราอีกครั้ง เรายังเห็นต้นข้าวต้นหนึ่ง มีรวงเจ็ดรวงงอกขึ้นมา เป็นข้าวเมล็ดเต่งและงามดี กับเห็นข้าวอีกเจ็ดรวงงอกขึ้นมาภายหลังเป็นข้าวเหี่ยวลีบ และเกรียมเพราะลมตะวันออก รวงข้าวลีบนั้นกลืนกินรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นเสีย เราเล่าความฝันนี้ให้โหรฟัง แต่ไม่มีใครอธิบายได้” โยเซฟจึงทูลฟาโรห์ว่า “พระสุบินของฟาโรห์มีความหมายอย่างเดียวกัน พระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์ทราบสิ่งที่พระองค์จะทรงทำ โคอ้วนพีเจ็ดตัวนั้นคือเจ็ดปี และรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นก็คือเจ็ดปี เป็นความฝันเดียวกัน โคเจ็ดตัวซูบผอมน่าเกลียดที่ขึ้นมาภายหลังคือเจ็ดปี กับรวงข้าวเจ็ดรวงลีบและเกรียมเพราะลมตะวันออกนั้น คือเจ็ดปีที่กันดารอาหารด้วย เป็นจริงอย่างที่ข้าพระบาททูลฟาโรห์ คือพระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์ทรงทราบสิ่งที่พระองค์จะทรงทำ นี่แหละ จะมีอาหารบริบูรณ์ทั่วแผ่นดินอียิปต์ถึงเจ็ดปี หลังจากนั้นจะเกิดการกันดารอาหารอีกเจ็ดปี จนประชาชนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินอียิปต์เสีย การกันดารอาหารจะล้างผลาญแผ่นดิน เพราะการกันดารอาหารที่เกิดขึ้นตามมานี้ ประชาชนจึงจำความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินไม่ได้ ด้วยว่าการกันดารอาหารนั้นรุนแรงยิ่งนัก ที่ฟาโรห์ทรงสุบินสองครั้ง ก็หมายความว่าสิ่งนั้นพระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว และพระเจ้าจะทรงทำให้สำเร็จในเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นขอฟาโรห์ทรงเลือกคนที่มีความคิดดี มีปัญญา ตั้งให้ดูแลแผ่นดินอียิปต์ ขอฟาโรห์ทรงทำดังนี้คือทรงจัดพนักงานไว้ทั่วแผ่นดิน และเก็บผลหนึ่งในห้าส่วนของดินแดนอียิปต์ไว้ตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น ให้พวกเขาเก็บอาหารในปีที่อุดมสมบูรณ์เหล่านั้นซึ่งจะมาถึงไว้ และสะสมข้าวด้วยอำนาจของฟาโรห์ไว้เป็นอาหารในเมืองต่างๆ และให้พวกเขาเฝ้าดูแลไว้ อาหารนี้จะได้เป็นเสบียงสำรองให้แก่แผ่นดินระหว่างเจ็ดปีที่กันดารอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นในดินแดนอียิปต์ ดังนี้แผ่นดินจะไม่พินาศไปเพราะการกันดารอาหาร” ฝ่ายฟาโรห์และข้าราชการทั้งปวงต่างเห็นชอบในข้อเสนอนี้ ฟาโรห์ตรัสกับบรรดาข้าราชการว่า “พวกเราจะหาคนที่มีพระวิญญาณพระเจ้าอยู่ในตัวเหมือนคนนี้ได้หรือ?” ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “เพราะพระเจ้าได้ทรงสำแดงเรื่องทั้งสิ้นนี้แก่เจ้า จึงไม่มีใครที่มีความเข้าใจและมีปัญญาเหมือนเจ้า เจ้าจะเป็นผู้ดูแลราชสำนักของเรา และให้ประชาชนทั้งหมดของเราทำตามคำของเจ้า เว้นแต่พระที่นั่งเท่านั้นที่เราจะเป็นใหญ่กว่าเจ้า” ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า “เราให้ท่านอยู่เหนือแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด” ฟาโรห์ทรงถอดแหวนตราออกจากพระหัตถ์ ทรงสวมให้ที่มือโยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และทรงสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้ราชรถคันที่สองที่เป็นของพระองค์ มีคนร้องประกาศข้างหน้าว่า “คุกเข่าลง” ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งท่านให้อยู่เหนือดินแดนอียิปต์ทั้งหมด ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า “เราคือฟาโรห์ เราจะไม่ให้คนทั่วแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้ เว้นแต่เจ้าจะอนุญาต” ฟาโรห์ประทานนามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีโปทิเฟราปุโรหิตเมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปทั่วดินแดนอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้ 30 ปี แล้วท่านก็ออกจากพระพักตร์ฟาโรห์ไปทั่วดินแดนอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น แผ่นดินก็เกิดผลมากมาย โยเซฟสะสมอาหารของทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในดินแดนอียิปต์ไว้หมด เก็บอาหารไว้ในเมืองต่างๆ อาหารที่เกิดขึ้นในที่ดินรอบเมืองใดก็เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเล มากมายจนต้องหยุดนับเพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร โยเซฟมีบุตรชายสองคน ซึ่งนางอาเสนัทบุตรีโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนมีให้ท่าน โยเซฟเรียกลูกหัวปีว่า มนัสเสห์ “เพราะว่าพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวง และพงศ์พันธุ์ทั้งหมดของบิดาเสีย” บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม “เพราะว่าพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้ามีพงศ์พันธุ์ทวีขึ้นในดินแดนที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ” เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในดินแดนอียิปต์ก็ล่วงไป
ปฐมกาล 41:14-53 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ฟาโรห์จึงรับสั่งให้เรียกโยเซฟมา เขาก็รีบไปเบิกตัวโยเซฟออกมาจากคุกใต้ดิน โยเซฟโกนหนวดผลัดเสื้อผ้าแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์ตรัสแก่โยเซฟว่า “เราฝันไป และหามีผู้ใดแก้ฝันได้ไม่ เราได้ยินถึงเจ้าว่าเจ้าสามารถเข้าใจความฝันเพื่อแก้ฝันนั้นได้” โยเซฟจึงทูลตอบฟาโรห์ว่า “การแก้ฝันมิได้อยู่ที่ข้าพระองค์ พระเจ้าต่างหากจะประทานคำตอบอันเป็นสุขแก่ฟาโรห์” ฟาโรห์จึงตรัสแก่โยเซฟว่า “ในความฝันของเรานั้น ดูเถิด เรายืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำ และดูเถิด มีวัวเจ็ดตัวอ้วนพีงามน่าดูขึ้นมาจากแม่น้ำ กินหญ้าอยู่ในทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง แล้วดูเถิด วัวอีกเจ็ดตัวตามขึ้นมาไม่งาม น่าเกลียดมากและซูบผอม เราไม่เคยเห็นมีวัวเลวอย่างนี้ทั่วแผ่นดินอียิปต์เลย วัวที่ซูบผอมไม่งามนั้นกินวัวอ้วนพีเจ็ดตัวแรกนั้นเสียหมด เมื่อกินหมดแล้วหามีใครรู้ว่ามันกินเข้าไปไม่ เพราะยังผอมอยู่เหมือนแต่ก่อน แล้วเราก็ตื่นขึ้น เราเห็นในความฝันของเรา ดูเถิด ต้นข้าวต้นหนึ่ง มีรวงเจ็ดรวงงอกขึ้นมา เป็นข้าวเมล็ดเต่งและงามดี และดูเถิด ข้าวอีกเจ็ดรวงงอกขึ้นมาภายหลังเป็นข้าวเหี่ยวลีบ และเกรียมเพราะลมตะวันออก รวงข้าวลีบนั้นกลืนกินรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นเสีย เราเล่าความฝันนี้ให้โหรฟัง แต่ไม่มีใครสามารถอธิบายให้เราได้” โยเซฟจึงทูลฟาโรห์ว่า “พระสุบินของฟาโรห์มีความหมายอันเดียวกัน พระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์ทราบถึงสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ วัวอ้วนพีเจ็ดตัวนั้นคือเจ็ดปี และรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นก็คือเจ็ดปี เป็นความฝันอันเดียวกัน วัวเจ็ดตัวซูบผอมน่าเกลียดที่ขึ้นมาภายหลังคือเจ็ดปี กับรวงข้าวเจ็ดรวงลีบและเกรียมเพราะลมตะวันออกนั้น คือเจ็ดปีที่กันดารอาหาร นี่คือสิ่งที่ข้าพระองค์ทูลฟาโรห์ คือพระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์รู้สิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ ดูเถิด จะมีอาหารบริบูรณ์ทั่วประเทศอียิปต์ถึงเจ็ดปี หลังจากนั้นจะบังเกิดการกันดารอาหารอีกเจ็ดปี จนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ในประเทศอียิปต์เสีย การกันดารอาหารจะล้างผลาญแผ่นดิน ทำให้จำความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินไม่ได้ เพราะเหตุการกันดารอาหารที่เกิดขึ้นตามหลังนี้ ด้วยว่าการกันดารอาหารนั้นจะรุนแรงนัก ที่ฟาโรห์สุบินสองครั้งนั้น ก็หมายว่าสิ่งนั้นพระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว และพระเจ้าจะทรงให้บังเกิดในเร็วๆนี้ เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอฟาโรห์เลือกคนที่มีความคิดดี มีปัญญา ตั้งให้ดูแลประเทศอียิปต์ ขอฟาโรห์ทำดังนี้และให้คนนั้นจัดพนักงานไว้ทั่วแผ่นดิน และเก็บผลหนึ่งในห้าส่วนแห่งประเทศอียิปต์ไว้ตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น ให้คนเหล่านั้นรวบรวมอาหารในปีที่อุดมเหล่านั้นซึ่งจะมาถึงนั้นไว้ และสะสมข้าวด้วยอำนาจของฟาโรห์ไว้และให้เก็บอาหารไว้ในเมืองต่างๆ อาหารนี้จะได้เป็นเสบียงสำรองในแผ่นดินสำหรับเจ็ดปีที่กันดารอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นในประเทศอียิปต์ เพื่อแผ่นดินจะไม่พินาศเสียไปเพราะกันดารอาหาร” ข้อเสนอนี้เป็นที่เห็นชอบในสายพระเนตรของฟาโรห์ และในสายตาของข้าราชการทั้งปวงของพระองค์ ฟาโรห์ตรัสกับบรรดาข้าราชการว่า “เราจะหาคนที่มีพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ในตัวเหมือนคนนี้ได้หรือ” ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “เพราะพระเจ้าได้ทรงสำแดงเรื่องนี้ทั้งสิ้นแก่ท่าน จะหาผู้ใดที่มีความคิดดีและมีปัญญาเหมือนท่านก็ไม่ได้ ท่านจะดูแลราชสำนักของเรา และประชาชนทั้งหลายของเราจะปฏิบัติตามคำของท่าน เว้นแต่ฝ่ายพระที่นั่งเท่านั้นเราจะเป็นใหญ่กว่าท่าน” ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “ดูเถิด เราตั้งท่านให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์แล้ว” ฟาโรห์ทรงถอดธำมรงค์ตราออกจากพระหัตถ์ของพระองค์ สวมที่มือโยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้รถหลวงคันที่สองซึ่งฟาโรห์มีอยู่ และมีคนร้องประกาศข้างหน้าท่านว่า “คุกเข่าลงเถิด” ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งท่านให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์ ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “เราคือฟาโรห์ ไม่มีคนทั่วแผ่นดินอียิปต์จะยกมือยกเท้าได้เว้นแต่ท่านจะอนุญาต” ฟาโรห์เรียกนามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรสาวโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปสำรวจทั่วประเทศอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้สามสิบปี แล้วโยเซฟก็ออกจากที่เข้าเฝ้าฟาโรห์เที่ยวไปทั่วประเทศอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น แผ่นดินก็ออกผลมากมาย โยเซฟรวบรวมอาหารทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในประเทศอียิปต์ไว้หมด สะสมอาหารไว้ในเมืองต่างๆ ผลที่เกิดขึ้นในนารอบเมืองใดๆก็เก็บไว้ในเมืองนั้นๆ โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเลมากมายจนต้องหยุดคิดบัญชี เพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร มีบุตรชายสองคนเกิดแก่โยเซฟ ซึ่งนางอาเสนัทบุตรสาวโปทิเฟราปุโรหิตเมืองโอนบังเกิดให้ท่าน โยเซฟเรียกบุตรหัวปีว่า มนัสเสห์ กล่าวว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวง และวงศ์วานทั้งสิ้นของบิดาเสีย” บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม “เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้ามีเชื้อสายทวีขึ้นในแผ่นดินที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ” เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศอียิปต์ก็ล่วงไป
ปฐมกาล 41:14-53 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ฟาโรห์จึงรับสั่งให้เรียกโยเซฟมา เขาก็รีบไปเบิกตัวโยเซฟออกมาจากคุกใต้ดิน ครั้นโยเซฟโกนศีรษะผลัดเสื้อผ้าแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์ตรัสแก่โยเซฟว่า <<เราฝันไป หามีผู้ใดแก้ฝันได้ไม่ เราได้ยินว่า เมื่อเจ้าได้ฟังความฝัน เจ้าก็แก้ฝันได้>> โยเซฟจึงทูลตอบฟาโรห์ว่า <<การแก้ฝันมิได้อยู่ที่ข้าพระบาท พระเจ้าต่างหากจะประทานคำตอบอันควรแก่ฟาโรห์>> ฟาโรห์จึงตรัสแก่โยเซฟว่า <<ในความฝันของเรานั้น เรายืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำไนล์ โคเจ็ดตัวอ้วนพีงามน่าดูขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ กินใบอ้ออยู่ แล้วโคอีกเจ็ดตัวตามขึ้นมา ไม่งามน่าเกลียดมากและซูบผอม เราไม่เคยเห็นมีโคเลวอย่างนี้ทั่วแผ่นดินอียิปต์เลย โคที่ซูบผอมไม่งามนั้นกินโคอ้วนพีเจ็ดตัวแรกนั้นเสียหมด เมื่อกินหมดแล้วหามีใครรู้ว่ามันกินเข้าไปไม่ เพราะยังผอมอยู่เหมือนแต่ก่อน แล้วเราก็ตื่นขึ้น ในความฝันของเรา เรายังเห็นต้นข้าวต้นหนึ่ง มีรวงเจ็ดรวงงอกขึ้นมา เป็นข้าวเมล็ดเต่งและงามดี กับเห็นข้าวอีกเจ็ดรวงงอกขึ้นมาภายหลังเป็นข้าวเหี่ยวลีบ และเกรียมเพราะลมตะวันออก รวงข้าวลีบนั้นกลืนกินรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นเสีย เราเล่าความฝันนี้ให้โหรฟัง แต่ไม่มีใครอธิบายได้>> โยเซฟจึงทูลฟาโรห์ว่า <<พระสุบินของฟาโรห์มีความหมายอันเดียวกัน พระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์ทราบสิ่งที่ พระองค์จะทรงกระทำ โคอ้วนพีเจ็ดตัวนั้นคือเจ็ดปี และรวงข้าวดีเจ็ดรวงนั้นก็คือเจ็ดปี เป็นความฝันอันเดียวกัน โคเจ็ดตัวซูบผอมน่าเกลียดที่ขึ้นมาภายหลังคือเจ็ดปี กับรวงข้าวเจ็ดรวงลีบและเกรียมเพราะลมตะวันออกนั้น คือเจ็ดปีที่กันดารอาหารด้วย เป็นจริงอย่างที่ข้าพระบาททูลฟาโรห์ คือพระเจ้าทรงสำแดงให้ฟาโรห์รู้สิ่งที่ พระองค์จะทรงกระทำ จะมีอาหารบริบูรณ์ทั่วประเทศอียิปต์ถึงเจ็ดปี หลังจากนั้นจะบังเกิดการกันดารอาหารอีกเจ็ดปี จนประชาชนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ในประเทศอียิปต์เสีย การกันดารอาหารจะล้างผลาญแผ่นดิน เพราะการกันดารอาหารที่เกิดขึ้นตามมานี้ ประชาชนจึงจำความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินไม่ได้ ด้วยว่าการกันดารอาหารนั้นรุนแรงนัก ที่ฟาโรห์สุบินสองครั้งนั้น ก็หมายว่าสิ่งนั้นพระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว และพระเจ้าจะทรงให้บังเกิดในเร็วๆนี้ เพราะฉะนั้นขอฟาโรห์เลือกคนที่มีความคิดดี มีปัญญา ตั้งให้ดูแลประเทศอียิปต์ ขอฟาโรห์ทำดังนี้คือจัดพนักงานไว้ทั่วแผ่นดิน และเก็บผลหนึ่งในห้าส่วนแห่งประเทศอียิปต์ไว้ ตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น ให้คนเหล่านั้นเก็บอาหารในปีที่อุดมเหล่านั้น ซึ่งจะมาถึงนั้นไว้ และสะสมข้าวด้วยอำนาจของฟาโรห์ไว้เป็นอาหารในหัวเมือง และให้เขาตุนไว้ อาหารนี้จะได้เป็นเสบียงสำรองในแผ่นดินระหว่างเจ็ดปี ที่กันดารอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นในประเทศอียิปต์ ดังนี้แผ่นดินจะไม่พินาศเสียไปเพราะกันดารอาหาร>> ฝ่ายฟาโรห์และข้าราชการทั้งปวงก็เห็นชอบในข้อเสนอนี้ ฟาโรห์ตรัสกับบรรดาข้าราชการว่า <<เราจะหาคนที่มีพระวิญญาณพระเจ้าอยู่ ในตัวเหมือนคนนี้ได้หรือ>> ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า <<เพราะพระเจ้าได้ทรงสำแดงเรื่องนี้ทั้งสิ้นแก่ท่าน จะหาผู้ใดที่มีความคิดดีและมีปัญญาเหมือนท่านก็ไม่ได้ เราจะตั้งท่านไว้ให้ดูแลราชสำนัก และให้ประชาชนทั้งหลายของเราปฏิบัติตามคำของท่าน เว้นแต่ฝ่ายพระที่นั่งเท่านั้นเราจะเป็นใหญ่กว่าท่าน>> ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า <<เราตั้งท่านให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์แล้ว>> ฟาโรห์ทรงถอดธำมรงค์ตราออกจากพระหัตถ์ สวมให้โยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้รถหลวงคันที่สอง มีคนร้องประกาศข้างหน้าว่า <<คุกเข่าลงเถิด>> ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งเขาให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์ ยิ่งกว่านั้นอีกฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า <<เราคือฟาโรห์ เราจะมิให้คนทั่วแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้ เว้นแต่ท่านจะอนุญาต>> ฟาโรห์ให้นามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีโปทิเฟราปุโรหิต เมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปสำรวจทั่วประเทศอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้สามสิบปี แล้วท่านก็ออกจากที่เข้าเฝ้าฟาโรห์เที่ยวไปทั่วประเทศอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น ดินก็ออกผลมากมาย โยเซฟเก็บอาหารทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในประเทศอียิปต์ไว้หมด สะสมไว้ในหัวเมือง ผลที่เกิดขึ้นในนารอบหัวเมืองใด ก็เก็บไว้ในหัวเมืองนั้น โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเลมากมาย จนต้องหยุดคิดบัญชี เพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร โยเซฟมีบุตรชายสองคน ซึ่งนางอาเสนัทบุตรีโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนมีให้ท่าน โยเซฟเรียกลูกหัวปีว่า มนัสเสห์ <<เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้าลืม ความยากลำบากทั้งปวง และบรรดาพงศ์พันธุ์ของบิดาเสีย>> บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม <<เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้ามีพงศ์พันธุ์ทวี ขึ้นในดินแดนที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ>> เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศอียิปต์ก็ล่วงไป
ปฐมกาล 41:14-53 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ฟาโรห์จึงรับสั่งให้นำโยเซฟมาเข้าเฝ้า เขาจึงถูกนำตัวออกจากคุกอย่างเร่งด่วน เมื่อโกนหนวดเคราและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “เราฝันไป และไม่มีใครบอกความหมายของความฝันได้ แต่เราได้ยินมาว่าเมื่อใครเล่าความฝันให้เจ้าฟัง เจ้าก็สามารถบอกความหมายของความฝันนั้นได้” โยเซฟทูลฟาโรห์ว่า “ข้าพระบาททำไม่ได้ แต่พระเจ้าจะทรงแจ้งให้ฟาโรห์ทราบคำตอบตามที่ฟาโรห์ต้องการ” ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “ในฝันเรายืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ มีวัวอ้วนพีแข็งแรงเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำและกินหญ้าอยู่ริมฝั่ง แล้วก็มีวัวอีกเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำ ตัวผอมแห้งน่าเกลียดมาก เราไม่เคยเห็นวัวตัวไหนน่าเกลียดขนาดนั้นมาก่อนเลยในแผ่นดินอียิปต์ แล้ววัวผอมแห้งน่าเกลียดเหล่านั้นก็กินวัวอ้วนพีทั้งเจ็ดตัวที่ขึ้นมาก่อนจนหมด แม้พวกมันจะกินวัวเหล่านั้นไปหมดแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าพวกมันได้ทำเช่นนั้น เพราะพวกมันก็ยังผอมแห้งน่าเกลียดอยู่เหมือนเดิม แล้วเราก็ตื่น “เราฝันไปอีกว่าเห็นต้นข้าวต้นหนึ่งออกรวงเจ็ดรวงซึ่งมีเมล็ดเต่งงามดี แล้วมีรวงข้าวอีกเจ็ดรวงงอกขึ้นมาซึ่งมีเมล็ดเหี่ยวแห้งเพราะลมตะวันออก รวงข้าวที่เหี่ยวแห้งนั้นก็กลืนกินรวงข้าวที่เต่งงามทั้งเจ็ดรวงเสียหมด เราเล่าเรื่องนี้ให้บรรดานักเล่นอาคมฟัง แต่ไม่มีใครอธิบายให้เราเข้าใจได้” โยเซฟทูลฟาโรห์ว่า “ความฝันทั้งสองนี้หมายความถึงสิ่งเดียวกัน พระเจ้าทรงเปิดเผยแก่ฟาโรห์ถึงสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ วัวอ้วนพีเจ็ดตัวหมายถึงเจ็ดปี และรวงข้าวเต่งงามเจ็ดรวงก็หมายถึงเจ็ดปี ความฝันทั้งสองนี้หมายความถึงสิ่งเดียวกัน ส่วนวัวผอมน่าเกลียดเจ็ดตัวที่ขึ้นจากแม่น้ำมาภายหลังหมายถึงเจ็ดปี และรวงข้าวไร้ค่าเจ็ดรวงที่เหี่ยวแห้งไปเพราะลมตะวันออกนั้นก็หมายถึงเจ็ดปีเช่นกัน เป็นเจ็ดปีแห่งการกันดารอาหาร “อย่างที่ข้าพระบาทได้ทูลฟาโรห์ไว้แล้วว่า พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ฟาโรห์ถึงสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ ตลอดเจ็ดปีต่อไปนี้จะเป็นช่วงอุดมสมบูรณ์ทั่วแผ่นดินอียิปต์ แต่เจ็ดปีแห่งการกันดารอาหารจะตามมา แล้วประชาชนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้นของประเทศอียิปต์ และการกันดารอาหารจะทำลายแผ่นดินนี้ ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินถูกลบเลือนไปจากความทรงจำ เพราะการกันดารอาหารจะรุนแรงยิ่งนัก เหตุที่พระเจ้าทรงประทานความฝันถึงสองอย่างแก่ฟาโรห์นั้น เพราะว่าพระเจ้าทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่แล้ว พระองค์จะทรงให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในไม่ช้า “และบัดนี้ขอให้ฟาโรห์ทรงโปรดคัดเลือกคนที่ฉลาดหลักแหลมและมีสติปัญญา และตั้งให้เขาให้ดูแลแผ่นดินอียิปต์ ขอให้ฟาโรห์ทรงแต่งตั้งข้าราชการประจำเขตไว้ทั่วแผ่นดิน ทำหน้าที่เก็บพืชผลหนึ่งในห้าของผลผลิตที่ได้ในตลอดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ พวกเขาควรรวบรวมอาหารทั้งหมดที่ได้ในปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่กำลังจะมาถึง และให้ฟาโรห์มอบอำนาจให้พวกเขาเก็บสะสมเมล็ดข้าวไว้เป็นคลังอาหารตามเมืองต่างๆ อาหารเหล่านี้ควรเก็บไว้เป็นเสบียงสำรองให้กับประเทศสำหรับช่วงเจ็ดปีแห่งการกันดารอาหารซึ่งจะเกิดขึ้นกับอียิปต์ เพื่อว่าประเทศชาติจะไม่ย่อยยับไปเพราะการกันดารอาหาร” ฟาโรห์และข้าราชการทั้งปวงล้วนเห็นชอบกับแผนงานนี้ ดังนั้นฟาโรห์จึงตรัสถามพวกเขาว่า “เราจะหาใครที่มีพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ภายในเหมือนชายผู้นี้ได้หรือ?” แล้วฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “เนื่องจากพระเจ้าทรงเปิดเผยความหมายของความฝันให้เจ้ารู้ จึงไม่มีผู้ใดฉลาดหลักแหลมและมีสติปัญญาเหมือนเจ้า เราจะแต่งตั้งเจ้าให้ดูแลราชสำนักของเรา และราษฎรทั้งหมดของเราจะทำตามคำสั่งของเจ้า เราจะเป็นผู้เดียวที่มีฐานะสูงกว่าเจ้าเพียงเพราะว่าเราเป็นผู้ครองราชบัลลังก์” ดังนั้นฟาโรห์จึงตรัสแก่โยเซฟว่า “บัดนี้เราขอตั้งเจ้าให้ดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์” แล้วฟาโรห์ทรงถอดแหวนตราประจำพระองค์จากนิ้วมาสวมที่นิ้วของโยเซฟ พระองค์ทรงให้เขาสวมเสื้อคลุมผ้าลินินเนื้อดีและประทานสร้อยคอทองคำแก่เขา ฟาโรห์ให้โยเซฟนั่งรถม้าศึกในฐานะผู้มีอำนาจรองจากพระองค์ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็มีคนคอยร้องประกาศว่า “จงเปิดทาง!” ดังนั้นฟาโรห์จึงทรงแต่งตั้งโยเซฟให้ดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์ ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “แม้ว่าเราคือฟาโรห์ แต่ถ้าเจ้าไม่อนุญาตก็จะไม่มีผู้ใดในแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้” ฟาโรห์ประทานนามแก่โยเซฟว่าศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีปุโรหิตโปทิเฟราแห่งเมืองโอนให้เป็นภรรยา และโยเซฟออกตรวจตราทั่วแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟมีอายุได้สามสิบปีเมื่อเข้ารับราชการกับฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ โยเซฟได้ทูลลาฟาโรห์และออกเดินทางไปปฏิบัติราชการทั่วแผ่นดินอียิปต์ ตลอดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินก็ให้ผลผลิตมากมาย โยเซฟรวบรวมอาหารทั้งหมดที่ผลิตได้ในเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ของอียิปต์ และเก็บสะสมไว้ตามเมืองต่างๆ ผลผลิตที่เก็บได้จากนารอบเมืองใด เขาก็ให้เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟเก็บสะสมเมล็ดข้าวได้มหาศาลเหมือนเม็ดทรายในทะเล จนเขาต้องเลิกทำบัญชี เพราะตรวจนับไม่ไหว ก่อนปีกันดารอาหารจะมาถึง โยเซฟได้บุตรชายสองคนซึ่งเกิดจากนางอาเสนัทบุตรีของปุโรหิตโปทิเฟราแห่งเมืองโอน โยเซฟตั้งชื่อบุตรหัวปีว่ามนัสเสห์ เขากล่าวว่า “เพราะพระเจ้าทรงทำให้ข้าพเจ้าลืมความทุกข์ยากทั้งปวงและญาติพี่น้องทั้งหมดในครัวเรือนบิดาของข้าพเจ้า” เขาตั้งชื่อบุตรชายคนที่สองว่าเอฟราอิม เขากล่าวว่า “เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้ข้าพเจ้ามีลูกมีหลานมากมายในดินแดนที่ข้าพเจ้าตกทุกข์ได้ยาก” ในที่สุดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ก็สิ้นสุดลง
ปฐมกาล 41:14-53 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ฟาโรห์จึงให้คนไปตามโยเซฟมา เขาก็ถูกพาตัวมาจากคุกทันที เมื่อโกนหนวดเครา พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์กล่าวกับโยเซฟว่า “เราฝัน และไม่มีใครที่สามารถแก้ฝันได้ เราได้ยินคนพูดถึงเจ้าว่า เจ้าสามารถแก้ฝันที่คนเล่าให้เจ้าฟังได้” โยเซฟตอบฟาโรห์ว่า “ไม่ใช่ข้าพเจ้าที่เป็นคนแก้ พระเจ้าจะให้คำตอบอันน่ายินดีแก่ฟาโรห์” แล้วฟาโรห์กล่าวกับโยเซฟว่า “ดูเถิด เราฝันว่าเรากำลังยืนอยู่บนฝั่งแม่น้ำไนล์ มีโค 7 ตัวงามอ้วนพีเดินขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ แล้วก็เล็มใบอ้อ โคอีก 7 ตัวเดินตามขึ้นมา ผอมโซน่าเกลียดมาก อย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในดินแดนของอียิปต์ โคตัวที่ผอมโซและน่าเกลียดก็กินโคอ้วนพี 7 ตัวแรก แต่เมื่อกินจนหมดแล้ว ไม่มีใครทราบเลยว่ามันกินหมดทุกตัว เพราะมันก็ยังน่าเกลียดเหมือนเดิม แล้วเราก็ตื่นขึ้น ในฝันเราเห็นต้นข้าวต้นหนึ่งออกรวงงามสมบูรณ์ 7 รวง มีอีก 7 รวงที่งอกตามมา ลมทะเลทรายพัดเผาจนลีบและเกรียม ข้าวรวงลีบกลืนกินรวงที่งาม แล้วเราก็เล่าเรื่องให้พวกที่ใช้วิทยาคมฟัง แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบแก่เราได้” โยเซฟจึงพูดกับฟาโรห์ว่า “ฝันของฟาโรห์มีความหมายเดียวกัน พระเจ้าได้เผยให้ฟาโรห์ทราบถึงสิ่งที่พระองค์กำลังจะกระทำ โคงาม 7 ตัวคือ 7 ปี และรวงข้าวงาม 7 รวงคือ 7 ปี หมายถึงสิ่งเดียวกัน โคผอมโซและน่าเกลียดที่ตามหลังมาคือ 7 ปี และรวงข้าวลีบ 7 รวงถูกลมทะเลทรายพัดเผาคือ 7 ปีแห่งทุพภิกขภัย เป็นจริงตามที่ข้าพเจ้ากล่าวให้ฟัง พระเจ้าได้ชี้ให้ฟาโรห์ทราบถึงสิ่งที่พระองค์กำลังจะกระทำ จะมี 7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ทั่วแผ่นดินอียิปต์ แต่หลังจากนั้น 7 ปีแห่งทุพภิกขภัยจะเกิดขึ้น และคนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ทั้งหลายที่มีในดินแดนของอียิปต์ ทุพภิกขภัยจะผลาญแผ่นดินจนสิ้น และความอุดมสมบูรณ์จะไม่เป็นที่รู้จักในแผ่นดิน เพราะทุพภิกขภัยที่จะเกิดตามมานั้นรุนแรงอย่างที่สุด ฟาโรห์ฝัน 2 ครั้งคู่กัน หมายถึงพระเจ้าเป็นผู้ประสงค์ให้เกิดขึ้น และพระองค์จะให้เกิดขึ้นในไม่ช้า ฉะนั้นบัดนี้ท่านฟาโรห์น่าจะเลือกชายผู้เรืองปัญญาและเข้าใจสิ่งต่างๆ ดี เป็นผู้ดูแลดินแดนอียิปต์ ท่านฟาโรห์ควรจะแต่งตั้งหัวหน้าหลายๆ คนเพื่อคุมกิจการทั่วแผ่นดิน และเก็บสะสมหนึ่งในห้าของผลิตผลที่เก็บเกี่ยวได้ในดินแดนอียิปต์ตลอดช่วง 7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ให้พวกเขารวบรวมอาหารนับแต่ปีอันอุดมที่จะถึง และเก็บธัญพืชที่อยู่ในการควบคุมของฟาโรห์สะสมไว้ในเมืองต่างๆ เพื่อเป็นอาหาร และให้เก็บรักษาไว้ อาหารส่วนนี้จะเป็นเสบียงสำรองสำหรับประเทศในยาม 7 ปี ที่อียิปต์จะประสบทุพภิกขภัย วิธีนี้จะช่วยประชาชนไม่ให้อดตาย” ฟาโรห์และผู้รับใช้ทั้งหลายเห็นดีด้วยกับข้อเสนอนี้ ฟาโรห์จึงพูดกับบรรดาผู้รับใช้ว่า “เราจะหาใครที่มีพระวิญญาณพระเจ้าอยู่ด้วยเหมือนกับคนนี้ได้บ้าง” ฟาโรห์จึงกล่าวกับโยเซฟว่า “ในเมื่อพระเจ้าได้ชี้ให้เจ้าเห็นแจ้งในทุกสิ่งแล้ว ไม่มีใครที่จะเข้าใจและเรืองปัญญาเท่ากับตัวเจ้าแล้ว เจ้าจงเป็นผู้คุมกิจการของแผ่นดินเรา และประชาชนทั้งปวงจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า เว้นแต่เราผู้อยู่บนบัลลังก์จะเป็นใหญ่เหนือเจ้า” แล้วฟาโรห์กล่าวกับโยเซฟว่า “ดูเถิด เราได้แต่งตั้งให้เจ้าควบคุมทั่วดินแดนอียิปต์” ครั้นแล้วฟาโรห์ถอดแหวนตราจากนิ้วมือท่าน และสวมให้โยเซฟแทน ให้เขาสวมผ้าป่านเนื้อดี และสวมสร้อยคอทองคำให้ด้วย ฟาโรห์โปรดให้เขาใช้รถศึกส่วนตัวคันที่สองของท่าน และทหารหลวงร้องตะโกนไปล่วงหน้าเขาว่า “คุกเข่าลง” เพื่อแสดงว่าท่านแต่งตั้งโยเซฟให้เป็นผู้ควบคุมดินแดนทั่วอียิปต์ ยิ่งกว่านั้น ฟาโรห์ยังกล่าวกับโยเซฟว่า “เราคือฟาโรห์ เราจะไม่ให้ผู้ใดในดินแดนอียิปต์ยกมือยกเท้าได้เลย นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้า” และฟาโรห์ตั้งชื่อโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และมอบอาเสนัทบุตรหญิงของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟจึงเดินทางไปทั่วดินแดนอียิปต์ โยเซฟมีอายุ 30 ปีเมื่อเริ่มรับใช้ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ หลังจากเข้าเฝ้ากษัตริย์แล้วโยเซฟก็ออกเดินทางไปทั่วดินแดนอียิปต์ ในระยะเวลา 7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีผลิตผลมากมายเกิดจากพื้นดิน เขาจึงรวบรวมอาหารจาก 7 ปีที่อุดมในดินแดนอียิปต์ไว้หมดเพื่อเก็บสะสมไว้ อาหารที่เขาได้มาจากไร่นารอบเมืองใดก็เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟสะสมธัญพืชไว้เป็นจำนวนมากเทียบเท่าได้กับเม็ดทรายในทะเล จนกระทั่งเขาต้องหยุดคำนวณปริมาณ เพราะมากเกินกว่าที่จะทำได้ ก่อนที่ทุพภิกขภัยจะเกิดขึ้น โยเซฟมีบุตรชาย 2 คนอันเกิดจากอาเสนัทบุตรหญิงของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งโอน โยเซฟพูดว่า “เพราะว่าพระเจ้าได้ช่วยให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวงและญาติพี่น้องทั้งหลาย” เขาจึงตั้งชื่อบุตรคนแรกว่า มนัสเสห์ เขาตั้งชื่อบุตรคนที่สองว่า เอฟราอิม “เพราะพระเจ้าได้ช่วยให้ข้าพเจ้าเกิดลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ในดินแดนแห่งความทุกข์ยากของข้าพเจ้า” และแล้ว 7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ในอียิปต์ก็ยุติลง