อพยพ 26:2-37

อพยพ 26:2-37 THSV11

ม่านผืนหนึ่งให้ยาว 12 เมตร กว้าง 2 เมตร ม่านทุกผืนให้มีขนาดเท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกัน และอีกห้าผืนนั้นก็ให้เกี่ยวติดกันด้วย และเจ้าจงทำหูม่านด้วยด้ายสีฟ้าติดไว้ตามขอบม่านด้านนอกสุดทั้งชุดที่หนึ่งและชุดที่สอง เจ้าจงทำหูห้าสิบหูที่ม่านผืนหนึ่ง และเจ้าจงทำหูห้าสิบหูที่ขอบม่านในชุดที่สอง ให้หูม่านเหล่านี้อยู่ตรงข้ามกันและกัน จงทำขอทองคำห้าสิบขอ และจงใช้ขอเหล่านั้นเกี่ยวม่านทั้งสองชุด เพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน “และเจ้าจงทำม่านอีกสิบเอ็ดผืนด้วยขนแพะสำหรับเป็นเต็นท์คลุมพลับพลา ม่านผืนหนึ่งยาว 13 เมตร กว้าง 2 เมตร ทั้งสิบเอ็ดผืนให้ขนาดเท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหาก และม่านอีกหกผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหากเช่นกัน และจงพับม่านผืนที่หกนั้นสองทบ ให้ห้อยซ้อนลงมาข้างหน้าเต็นท์ จงทำหูม่านห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง และอีกห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง “แล้วเจ้าจงทำขอทองสัมฤทธิ์ห้าสิบขอ และจงเกี่ยวขอเข้าที่หูม่าน และจงโยงเต็นท์ให้ติดกันเป็นหลังเดียว ม่านเต็นท์ส่วนที่เกินอยู่ คือม่านครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่นั้น จงให้ห้อยลงมาด้านหลังพลับพลา ส่วนม่านคลุมพลับพลาซึ่งยาวเกินไปข้างละครึ่งเมตรนั้น ให้ห้อยลงมาข้างๆ พลับพลาทั้งข้างนี้และข้างโน้น สำหรับใช้กำบัง เจ้าจงทำผ้าคลุมเต็นท์ด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง และคลุมด้วยหนังอย่างดีอีกชั้นหนึ่ง “เจ้าจงทำกรอบไม้สำหรับพลับพลานั้นจากไม้กระถินเทศที่ตั้งตรง กรอบไม้นั้นให้ยาว 4 เมตร กว้าง 66 เซนติเมตร ให้กรอบไม้แต่ละอันมีสองเดือยเพื่อให้ยึดติดกันและกัน และเจ้าจงทำกรอบไม้ทุกอันของพลับพลาอย่างนั้น เจ้าจงทำกรอบไม้สำหรับพลับพลาดังนี้ ด้านใต้ให้ทำยี่สิบอัน จงทำฐานรองรับเดือยด้วยเงินจำนวนสี่สิบฐานใต้กรอบไม้ยี่สิบอัน ใต้กรอบไม้อันหนึ่งให้มีฐานรองรับเดือยสองฐาน สำหรับสวมเดือยสองอัน ด้านที่สองของพลับพลาข้างทิศเหนือนั้น ให้ใช้กรอบไม้ยี่สิบอัน และฐานเงินรองรับเดือยสี่สิบฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันจะมีฐานรองรับเดือยสองฐาน ส่วนด้านหลังของพลับพลาข้างทิศตะวันตก เจ้าจงทำกรอบไม้หกอัน และทำอีกสองอันสำหรับมุมพลับพลาด้านหลัง ข้างล่างของกรอบให้จับเป็นคู่ๆ โดยตอนบนยอดให้ติดกันที่ห่วงแรก ทั้งสองแห่งให้ทำเช่นเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดมุมสองมุม ดังนั้นจะมีกรอบไม้แปดอันพร้อมกับฐานเงินรองรับเดือยสิบหกฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันมีฐานรองรับอยู่สองฐาน “เจ้าจงทำกลอนห้าอันจากไม้กระถินเทศสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหนึ่ง และอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาอีกด้านหนึ่ง และสุดท้ายอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหลัง คือด้านตะวันตก กลอนอันกลางซึ่งอยู่ตอนกลางของกรอบไม้นั้นให้ร้อยติดกันจากปลายด้านหนึ่งถึงปลายอีกด้านหนึ่ง เจ้าจงหุ้มกรอบไม้เหล่านั้นด้วยทองคำ และทำห่วงทองคำสำหรับร้อยกลอน และเจ้าจงหุ้มกลอนเหล่านั้นด้วยทองคำ และเจ้าจงตั้งพลับพลานั้นตามรูปแบบที่เราแจ้งแก่เจ้าแล้วบนภูเขา “จงทำม่านผืนหนึ่ง ทอด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี เจ้าจงปักภาพเครูบที่ออกแบบไว้ที่ม่านนั้น และเจ้าจงแขวนม่านนั้นด้วยขอทองคำไว้ที่เสาไม้กระถินเทศสี่เสาที่หุ้มด้วยทองคำ และที่ตั้งอยู่บนฐานเงินสี่ฐาน และเจ้าจงแขวนม่านนั้นไว้กับขอสำหรับเกี่ยวม่าน แล้วเอาหีบแห่งสักขีพยานเข้ามาไว้ข้างในหลังม่าน และม่านนั้นจะแบ่งพลับพลาเป็นสองส่วนคือ วิสุทธิสถานกับอภิสุทธิสถาน และเจ้าจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบแห่งสักขีพยานในอภิสุทธิสถาน และเจ้าจงตั้งโต๊ะขนมปังเฉพาะพระพักตร์ไว้ข้างนอกม่าน และจงตั้งคันประทีปไว้ตรงข้ามกับโต๊ะนั้นทางด้านใต้ของพลับพลา เจ้าจงตั้งโต๊ะไว้ทางด้านเหนือ “เจ้าจงทำม่านบังตาที่ประตูเต็นท์นั้นด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี ตกแต่งด้วยงานปัก และจงทำเสาห้าต้นจากไม้กระถินเทศสำหรับติดม่านบังตาที่ประตู แล้วจงหุ้มเสาเหล่านั้นด้วยทองคำ ส่วนขอสำหรับแขวนที่เสานั้นๆ จงทำด้วยทองคำ แล้วจงหล่อฐานทองสัมฤทธิ์ห้าฐานสำหรับรองรับเสานั้น