อพยพ 26:2-37
อพยพ 26:2-37 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ให้ม่านแต่ละผืนยาวยี่สิบแปดศอก กว้างสี่ศอก ทุกผืนต้องมีขนาดเท่ากันหมด ผ้าม่านห้าผืนจะถูกเกี่ยวเข้าด้วยกันเป็นผืนใหญ่ และที่เหลืออีกห้าผืนก็จะเกี่ยวเข้าด้วยกันด้วย เอาผ้าสีน้ำเงินทำเป็นหูติดไว้กับขอบผ้าม่านผืนใหญ่ทั้งสองผืนนั้น ให้ที่ขอบม่านแต่ละผืนทำหูห้าสิบหู และให้หูของทั้งสองม่านอยู่ตรงกัน แล้วให้เจ้าทำตะขอจากทองคำห้าสิบอัน เอาไว้เกี่ยวผ้าม่านเหล่านั้นเข้าด้วยกันให้เป็นผืนเดียวกัน เจ้าต้องทำผ้าม่านขึ้นอีกสิบเอ็ดผืนจากขนแพะ เพื่อไปคลุมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นี้อีกชั้นหนึ่ง ผ้าม่านขนแพะแต่ละผืนยาวสามสิบศอก กว้างสี่ศอก ทุกผืนเท่ากันหมด เอาห้าผืนแรกมาเกี่ยวติดกันเป็นผืนใหญ่ ที่เหลืออีกหกผืน ก็เอามาเกี่ยวติดกันเป็นอีกหนึ่งผืนใหญ่ แล้วให้พับผ้าของผืนที่หกที่คลุมอยู่ด้านหน้าของเต็นท์นั้น เจ้าต้องทำหูไว้ที่ขอบผ้าม่านของผ้าชิ้นบนสุดของชุดแรก และทำอย่างเดียวกันกับผ้าชิ้นบนสุดทั้งสองผืนใหญ่นั้นผืนละห้าสิบหู และทำตะขอจากทองสัมฤทธิ์ ไว้เกี่ยวกับหูของผ้าม่านทั้งสองผืนนั้นให้เป็นผืนเดียวกัน ส่วนของผ้าม่านครึ่งที่เหลือให้แขวนห้อยลงด้านหลังของเต็นท์ และส่วนของผ้าที่เหลืออีกข้างละหนึ่งศอก ให้แขวนห้อยลงมาปิดด้านข้างของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองข้าง เอาหนังแกะตัวผู้ทำเป็นหลังคาเต็นท์ชั้นใน ส่วนหลังคาเต็นท์ชั้นนอก ให้ทำจากหนังปลาโลมา ให้เจ้านำไม้กระถินมาทำเป็นกรอบค้ำเต็นท์ กรอบนี้มีความสูงสิบศอก กว้างหนึ่งศอกครึ่ง ที่ส่วนปลายของไม้ทั้งสองข้างทำเป็นเดือยไว้สองเดือยเพื่อเชื่อมไม้ให้ติดกัน กรอบไม้ทุกอันให้ทำออกมาเป็นลักษณะเดียวกันนี้ทั้งหมด ทำจำนวนทั้งหมดยี่สิบกรอบสำหรับทางทิศใต้ของเต็นท์ และใช้เงินหล่อทำเป็นฐานของกรอบเหล่านั้นโดยทำสองฐานต่อหนึ่งกรอบ ให้ตั้งอยู่ทางส่วนปลายที่เป็นเดือยทั้งสองข้างของกรอบ รวมทั้งหมดสี่สิบฐาน ส่วนอีกข้างที่อยู่ตรงกับทิศเหนือของเต็นท์ ให้ทำกรอบอีกยี่สิบกรอบ ทำฐานเงินสี่สิบฐานโดยใช้สองฐานต่อหนึ่งกรอบเหมือนกัน ส่วนด้านหลังของเต็นท์ที่อยู่ทิศตะวันตกให้ทำกรอบขึ้นหกกรอบ และที่มุมด้านหลังทั้งสองมุมของเต็นท์ ให้สร้างกรอบสองกรอบสำหรับสองมุมนั้น ทั้งสองกรอบนั้น ในส่วนล่างจะแยกกัน แต่ส่วนบนจะเชื่อมต่อกันด้วยห่วงหนึ่งห่วง ให้สร้างแบบเดียวกันนี้กับมุมทั้งสองมุม อย่างนี้จะได้กรอบรวมแปดกรอบบนฐานเงินสิบหกฐาน โดยแบ่งเป็นสองฐานต่อหนึ่งกรอบ นำไม้กระถินมาทำเป็นไม้ขัดห้าอัน สำหรับขัดกรอบเหล่านั้นบนด้านหนึ่งของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และอีกห้าอันสำหรับขัดกรอบด้านที่สองของเต็นท์ และอีกห้าอันสำหรับขัดกรอบด้านหลังที่อยู่ทางตะวันตกของเต็นท์ ไม้ขัดกรอบพวกนี้จะสอดขัดอยู่ระหว่างกลางของกรอบไม้เหล่านั้นเพื่อร้อยกรอบไม้เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เคลือบทองคำให้กรอบไม้เหล่านั้น และทำห่วงจากทองคำติดไว้ที่กรอบไม้ เพื่อเอาไว้สอดไม้ขัดนั้น เจ้าต้องเอาทองหุ้มสำหรับไม้ขัดกรอบเหล่านั้นด้วย แล้วเจ้าจะสามารถติดตั้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ตามแบบที่เราให้เจ้าดูบนภูเขาแห่งนี้ เจ้าต้องทำผ้าม่านที่ทอจากเส้นใยลินินอย่างดี และผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดงเข้ม และให้ปักลายเครูบลงไปอย่างประณีตบนผ้าม่านนั้นด้วย แขวนผ้าม่านนี้ไว้ด้วยตะขอทองคำที่อยู่บนเสาไม้กระถินทั้งสี่ต้นที่หุ้มทองไว้แล้ว เสาเหล่านี้ตั้งอยู่บนฐานเงินสี่ฐาน แขวนผ้านั้นไว้กับตะขอทองคำเหล่านั้น และให้นำหีบที่ใส่แผ่นหินสองแผ่นแห่งข้อตกลง มาวางไว้หลังม่านนั้น ผ้าม่านนี้จะกั้นระหว่างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เจ้าต้องวางฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ ไว้บนหีบใส่แผ่นหินสองแผ่นแห่งข้อตกลง ที่วางอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั้น ให้วางโต๊ะไว้ที่ด้านนอกของม่าน และวางตะเกียงที่มีขาตั้งไว้ตรงข้ามกับโต๊ะซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนโต๊ะนั้นอยู่ทางทิศเหนือของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ให้เอาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดงเข้ม รวมทั้งผ้าลินินที่ปักอย่างประณีต มาทำเป็นฉากกั้นปิดช่องประตู นำไม้กระถินมาทำเป็นเสาห้าต้นสำหรับฉากกั้นนั้น และหุ้มทองทับเสาเหล่านั้นด้วย ทำตะขอจากทองคำติดไว้ และเอาทองสัมฤทธิ์หล่อทำเป็นฐานของเสาทั้งห้าต้นนั้น
อพยพ 26:2-37 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ม่านผืนหนึ่งให้ยาว 12 เมตร กว้าง 2 เมตร ม่านทุกผืนให้มีขนาดเท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกัน และอีกห้าผืนนั้นก็ให้เกี่ยวติดกันด้วย และเจ้าจงทำหูม่านด้วยด้ายสีฟ้าติดไว้ตามขอบม่านด้านนอกสุดทั้งชุดที่หนึ่งและชุดที่สอง เจ้าจงทำหูห้าสิบหูที่ม่านผืนหนึ่ง และเจ้าจงทำหูห้าสิบหูที่ขอบม่านในชุดที่สอง ให้หูม่านเหล่านี้อยู่ตรงข้ามกันและกัน จงทำขอทองคำห้าสิบขอ และจงใช้ขอเหล่านั้นเกี่ยวม่านทั้งสองชุด เพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน “และเจ้าจงทำม่านอีกสิบเอ็ดผืนด้วยขนแพะสำหรับเป็นเต็นท์คลุมพลับพลา ม่านผืนหนึ่งยาว 13 เมตร กว้าง 2 เมตร ทั้งสิบเอ็ดผืนให้ขนาดเท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหาก และม่านอีกหกผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหากเช่นกัน และจงพับม่านผืนที่หกนั้นสองทบ ให้ห้อยซ้อนลงมาข้างหน้าเต็นท์ จงทำหูม่านห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง และอีกห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง “แล้วเจ้าจงทำขอทองสัมฤทธิ์ห้าสิบขอ และจงเกี่ยวขอเข้าที่หูม่าน และจงโยงเต็นท์ให้ติดกันเป็นหลังเดียว ม่านเต็นท์ส่วนที่เกินอยู่ คือม่านครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่นั้น จงให้ห้อยลงมาด้านหลังพลับพลา ส่วนม่านคลุมพลับพลาซึ่งยาวเกินไปข้างละครึ่งเมตรนั้น ให้ห้อยลงมาข้างๆ พลับพลาทั้งข้างนี้และข้างโน้น สำหรับใช้กำบัง เจ้าจงทำผ้าคลุมเต็นท์ด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง และคลุมด้วยหนังอย่างดีอีกชั้นหนึ่ง “เจ้าจงทำกรอบไม้สำหรับพลับพลานั้นจากไม้กระถินเทศที่ตั้งตรง กรอบไม้นั้นให้ยาว 4 เมตร กว้าง 66 เซนติเมตร ให้กรอบไม้แต่ละอันมีสองเดือยเพื่อให้ยึดติดกันและกัน และเจ้าจงทำกรอบไม้ทุกอันของพลับพลาอย่างนั้น เจ้าจงทำกรอบไม้สำหรับพลับพลาดังนี้ ด้านใต้ให้ทำยี่สิบอัน จงทำฐานรองรับเดือยด้วยเงินจำนวนสี่สิบฐานใต้กรอบไม้ยี่สิบอัน ใต้กรอบไม้อันหนึ่งให้มีฐานรองรับเดือยสองฐาน สำหรับสวมเดือยสองอัน ด้านที่สองของพลับพลาข้างทิศเหนือนั้น ให้ใช้กรอบไม้ยี่สิบอัน และฐานเงินรองรับเดือยสี่สิบฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันจะมีฐานรองรับเดือยสองฐาน ส่วนด้านหลังของพลับพลาข้างทิศตะวันตก เจ้าจงทำกรอบไม้หกอัน และทำอีกสองอันสำหรับมุมพลับพลาด้านหลัง ข้างล่างของกรอบให้จับเป็นคู่ๆ โดยตอนบนยอดให้ติดกันที่ห่วงแรก ทั้งสองแห่งให้ทำเช่นเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดมุมสองมุม ดังนั้นจะมีกรอบไม้แปดอันพร้อมกับฐานเงินรองรับเดือยสิบหกฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันมีฐานรองรับอยู่สองฐาน “เจ้าจงทำกลอนห้าอันจากไม้กระถินเทศสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหนึ่ง และอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาอีกด้านหนึ่ง และสุดท้ายอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหลัง คือด้านตะวันตก กลอนอันกลางซึ่งอยู่ตอนกลางของกรอบไม้นั้นให้ร้อยติดกันจากปลายด้านหนึ่งถึงปลายอีกด้านหนึ่ง เจ้าจงหุ้มกรอบไม้เหล่านั้นด้วยทองคำ และทำห่วงทองคำสำหรับร้อยกลอน และเจ้าจงหุ้มกลอนเหล่านั้นด้วยทองคำ และเจ้าจงตั้งพลับพลานั้นตามรูปแบบที่เราแจ้งแก่เจ้าแล้วบนภูเขา “จงทำม่านผืนหนึ่ง ทอด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี เจ้าจงปักภาพเครูบที่ออกแบบไว้ที่ม่านนั้น และเจ้าจงแขวนม่านนั้นด้วยขอทองคำไว้ที่เสาไม้กระถินเทศสี่เสาที่หุ้มด้วยทองคำ และที่ตั้งอยู่บนฐานเงินสี่ฐาน และเจ้าจงแขวนม่านนั้นไว้กับขอสำหรับเกี่ยวม่าน แล้วเอาหีบแห่งสักขีพยานเข้ามาไว้ข้างในหลังม่าน และม่านนั้นจะแบ่งพลับพลาเป็นสองส่วนคือ วิสุทธิสถานกับอภิสุทธิสถาน และเจ้าจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบแห่งสักขีพยานในอภิสุทธิสถาน และเจ้าจงตั้งโต๊ะขนมปังเฉพาะพระพักตร์ไว้ข้างนอกม่าน และจงตั้งคันประทีปไว้ตรงข้ามกับโต๊ะนั้นทางด้านใต้ของพลับพลา เจ้าจงตั้งโต๊ะไว้ทางด้านเหนือ “เจ้าจงทำม่านบังตาที่ประตูเต็นท์นั้นด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี ตกแต่งด้วยงานปัก และจงทำเสาห้าต้นจากไม้กระถินเทศสำหรับติดม่านบังตาที่ประตู แล้วจงหุ้มเสาเหล่านั้นด้วยทองคำ ส่วนขอสำหรับแขวนที่เสานั้นๆ จงทำด้วยทองคำ แล้วจงหล่อฐานทองสัมฤทธิ์ห้าฐานสำหรับรองรับเสานั้น
อพยพ 26:2-37 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ม่านผืนหนึ่งให้ยาวยี่สิบแปดศอก กว้างสี่ศอก ม่านทุกผืนให้เท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกัน และอีกห้าผืนนั้นก็ให้เกี่ยวติดกันด้วย จงทำหูม่านด้วยด้ายสีฟ้าติดไว้ตามขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง และตามขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง จงติดหูไว้เหมือนกัน ม่านผืนหนึ่งให้ทำหูห้าสิบหู และตามขอบม่านชุดที่สอง ให้ทำหูห้าสิบหูให้ตรงกัน จงทำขอทองคำห้าสิบขอสำหรับใช้เกี่ยวม่าน เพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน จงทำม่านด้วยขนแพะ สำหรับเป็นเต็นท์คลุมพลับพลาชั้นนอกอีกสิบเอ็ดผืน ม่านผืนหนึ่งให้ทำยาวสามสิบศอก กว้างสี่ศอก ทั้งสิบเอ็ดผืนให้เท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหากและม่านอีกหกผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหากเช่นกัน และม่านผืนที่หกนั้นจงให้ห้อยซ้อนลงมาข้างหน้าพลับพลา ทำหูห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง และหูห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง แล้วทำขอทองสัมฤทธิ์ห้าสิบขอ เกี่ยวขอเข้าที่หู เกี่ยวให้ติดเป็นเต็นท์หลังเดียวกัน ม่านเต็นท์ส่วนที่เกินอยู่ คือชายม่านครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่นั้น จงให้ห้อยลงมาด้านหลังพลับพลา ส่วนม่านคลุมพลับพลา ซึ่งยาวเกินไปข้างละหนึ่งศอกนั้น ให้ห้อยลงมาข้างๆพลับพลาทั้งข้างนี้และข้างโน้น สำหรับใช้กำบัง เครื่องดาดเต็นท์ข้างบน เจ้าจงทำด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดงชั้นหนึ่ง และคลุมด้วยหนังของตัวแบดเจอร์อีกชั้นหนึ่ง ไม้กรอบสำหรับทำฝาพลับพลานั้น ให้ใช้ไม้กระถินเทศตั้งตรงขึ้น ไม้กรอบนั้นให้ยาวแผ่นละสิบศอก กว้างศอกคืบ ให้มีเดือยกรอบละสองเดือย เดือยกรอบหนึ่งมีไม้ประกับติดกับเดือยอีกกรอบหนึ่ง ไม้กรอบพลับพลาทั้งหมดให้ทำอย่างนี้ เจ้าจงทำไม้กรอบพลับพลาดังนี้ ด้านใต้ให้ทำยี่สิบแผ่น จงทำฐานรองรับด้วยเงินสี่สิบฐานสำหรับไม้กรอบยี่สิบแผ่น ใต้ไม้กรอบแผ่นหนึ่งให้มีฐานรองรับแผ่นละสองฐาน สำหรับสวมเดือยสองอัน ด้านที่สองของพลับพลาข้างทิศเหนือนั้น ให้ใช้ไม้กรอบยี่สิบแผ่น และทำฐานเงินรองรับสี่สิบฐาน ใต้กรอบให้ทำฐานแผ่นละสองฐาน ส่วนด้านหลังทิศตะวันตกของพลับพลา ให้ทำไม้กรอบหกแผ่น และทำอีกสองแผ่นสำหรับมุมพลับพลาด้านหลัง ไม้กรอบนั้นข้างล่างให้แยกกัน แต่ตอนบนยอดให้ติดกันที่ห่วงแรกทั้งสองแห่ง ให้กระทำดังนี้ก็จะทำให้เกิดมุมสองมุม คือรวมเป็นไม้กรอบแปดแผ่นด้วยกัน และฐานเงินสิบหกอัน ใต้กรอบไม้ให้มีฐานรองรับแผ่นละสองฐาน เจ้าจงทำกลอนด้วยไม้กระถินเทศห้าอัน สำหรับไม้กรอบฝาพลับพลาด้านหนึ่ง และกลอนอีกห้าอันสำหรับขัดไม้กรอบฝาพลับพลาอีกด้านหนึ่ง และกลอนอีกห้าอันสำหรับขัดไม้กรอบฝาพลับพลาด้านหลัง คือด้านตะวันตก กลอนตัวกลางคืออยู่ตอนกลางของไม้กรอบสำหรับขัดฝาร้อยให้ติดกัน จงหุ้มไม้กรอบเหล่านั้นด้วยทองคำ และทำห่วงไม้กรอบด้วยทองคำสำหรับร้อยกลอน และกลอนนั้นให้หุ้มด้วยทองคำ พลับพลานั้น เจ้าจงจัดตั้งไว้ตามแบบอย่างที่เราได้แจ้งแก่เจ้าแล้วที่บนภูเขา จงทำม่านผืนหนึ่ง ทอด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อละเอียด ให้มีภาพเครูบฝีมือช่างออกแบบไว้ ม่านนั้นให้แขวนไว้ด้วยขอทองคำที่เสาไม้กระถินเทศสี่เสาที่หุ้มด้วยทองคำ และซึ่งตั้งอยู่บนฐานเงินสี่อัน ม่านนั้นให้เขาแขวนไว้กับขอสำหรับเกี่ยวม่าน แล้วเอาหีบพระโอวาทเข้ามาไว้ข้างในภายในม่าน และม่านนั้นจะเป็นที่แบ่งพลับพลาระหว่างที่บริสุทธิ์กับที่บริสุทธิ์ที่สุด พระที่นั่งกรุณานั้นให้ตั้งไว้บนหีบพระโอวาทในที่บริสุทธิ์ที่สุด จงตั้งโต๊ะไว้ข้างนอกม่าน และจงตั้งคันประทีปไว้ด้านใต้ในพลับพลาตรงข้ามกับโต๊ะ เจ้าจงตั้งโต๊ะไว้ทางด้านเหนือ เจ้าจงทำบังตาที่ประตูเต็นท์นั้นด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อละเอียดประกอบด้วยฝีมือช่างด้ายสี จงทำเสาห้าต้นด้วยไม้กระถินเทศสำหรับติดบังตาที่ประตูแล้วหุ้มเสานั้นด้วยทองคำ ขอแขวนเสาจงทำด้วยทองคำ แล้วหล่อฐานทองสัมฤทธิ์ห้าฐานสำหรับรองรับเสานั้น”
อพยพ 26:2-37 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ม่านผืนหนึ่งให้ยาวยี่สิบแปดศอก กว้างสี่ศอก ม่านทุกผืนให้เท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกัน และอีกห้าผืนนั้นก็ให้เกี่ยวติดกันด้วย จงทำหูม่านด้วยด้ายสีฟ้าติดไว้ตามขอบม่าน ด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง และตามขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง จงติดหูไว้เหมือนกัน ม่านผืนหนึ่งให้ทำหูห้าสิบหู และตามขอบม่านชุดที่สอง ให้ทำหูห้าสิบหูให้ตรงกัน จงทำขอทองคำห้าสิบขอสำหรับใช้เกี่ยวม่าน เพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน <<จงทำม่านด้วยขนแพะ สำหรับเป็นเต็นท์คลุมพลับพลาชั้นนอกอีกสิบเอ็ดผืน ม่านผืนหนึ่งให้ทำยาวสามสิบศอก กว้างสี่ศอก ทั้งสิบเอ็ดผืนให้เท่ากัน ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหาก และม่านอีกหกผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหากเช่นกัน และม่านผืนที่หกนั้น จงให้ห้อยซ้อนลงมาข้างหน้าเต็นท์ จงทำหูห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดหนึ่ง และหูห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง <<แล้วทำขอทองสัมฤทธิ์ห้าสิบขอ เกี่ยวขอเข้าที่หู เกี่ยวให้ติดเป็นเต็นท์หลังเดียวกัน ม่านเต็นท์ส่วนที่เกินอยู่ คือชายม่านครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่นั้น จงให้ห้อยลงมาด้านหลังพลับพลา ส่วนม่านคลุมพลับพลา ซึ่งยาวเกินไปข้างละหนึ่งศอกนั้น ให้ห้อยลงมาข้างๆพลับพลา ทั้งข้างนี้และข้างโน้น สำหรับใช้กำบัง เครื่องดาดเต็นท์ข้างบน เจ้าจงทำด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดงชั้นหนึ่ง และคลุมด้วยหนังทาคัชอีกชั้นหนึ่ง <<ไม้กรอบสำหรับทำฝาพลับพลานั้น ให้ใช้ไม้ กระถินเทศตั้งตรงขึ้น ไม้กรอบนั้นให้ยาวแผ่นละสิบศอกกว้างศอกเศษ ให้มีเดือยกรอบละสองเดือย เดือยกรอบหนึ่งมีไม้ประกับติดกับเดือยอีกกรอบหนึ่ง ไม้กรอบพลับพลาทั้งหมดให้ทำอย่างนี้ เจ้าจงทำไม้กรอบพลับพลาดังนี้ ด้านใต้ให้ทำยี่สิบแผ่น จงทำฐานรองรับด้วยเงินสี่สิบฐาน สำหรับไม้กรอบยี่สิบแผ่น ใต้ไม้กรอบแผ่นหนึ่งให้มีฐานรองรับแผ่นละสองฐาน สำหรับสวมเดือยสองอัน ด้านที่สองของพลับพลาข้าง ทิศเหนือนั้น ให้ใช้ไม้กรอบยี่สิบแผ่น และทำฐานเงินรองรับสี่สิบฐาน ใต้กรอบให้ทำฐานแผ่นละสองฐาน ส่วนด้านหลังทิศตะวันตกของพลับพลา ให้ทำไม้กรอบหกแผ่น และทำอีกสองแผ่นสำหรับมุมพลับพลาด้านหลัง ไม้กรอบนั้นข้างล่างให้แยกกัน แต่ตอนบนยอดให้ติดกันที่ห่วงแรกทั้งสองแห่งให้กระทำดังนี้ ก็จะทำให้เกิดมุมสองมุม คือรวมเป็นไม้กรอบแปดแผ่นด้วยกัน และฐานเงินสิบหกอัน ใต้กรอบไม้ให้มีฐานรองรับแผ่นละสองฐาน <<เจ้าจงทำกลอนด้วยไม้กระถินเทศห้าอัน สำหรับไม้กรอบฝาพลับพลาด้านหนึ่ง และกลอนอีกห้าอันสำหรับขัดไม้กรอบฝาพลับพลา อีกด้านหนึ่ง และกลอนอีกห้าอันสำหรับขัดไม้กรอบฝาพลับพลาด้านหลัง คือด้านตะวันตก กลอนตัวกลางคืออยู่ตอนกลางของ ไม้กรอบสำหรับขัดฝาร้อยให้ติดกัน จงหุ้มไม้กรอบเหล่านั้นด้วยทองคำ และทำห่วงไม้กรอบด้วยทองคำ สำหรับร้อยกลอน และกลอนนั้นให้หุ้มด้วยทองคำ พลับพลานั้น เจ้าจงจัดตั้งไว้ตามแบบอย่างที่เรา ได้แจ้งแก่เจ้าแล้วที่บนภูเขา <<จงทำม่านผืนหนึ่ง ทอด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี ให้มีภาพเครูบฝีมือช่างออกแบบไว้ ม่านนั้นให้แขวนไว้ด้วยขอทองคำ ที่เสาไม้กระถินเทศสี่เสาที่หุ้มด้วยทองคำ และซึ่งตั้งอยู่บนฐานเงินสี่อัน ม่านนั้นให้เขาแขวนไว้กับขอสำหรับเกี่ยวม่าน แล้วเอาหีบพระโอวาทเข้ามาไว้ข้างในภายในม่าน และม่านนั้นจะเป็นที่แบ่งพลับพลา ระหว่างวิสุทธิสถานกับอภิสุทธิสถาน พระที่นั่งกรุณานั้นให้ตั้ง ไว้บนหีบพระโอวาทในอภิสุทธิสถาน จงตั้งโต๊ะไว้ข้างนอกม่าน และจงตั้งคันประทีปไว้ด้านใต้ในพลับพลาตรงข้ามกับโต๊ะ เจ้าจงตั้งโต๊ะไว้ทางด้านเหนือ <<เจ้าจงทำบังตาที่ประตูเต็นท์นั้นด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี ประกอบด้วยฝีมือช่างด้ายสี จงทำเสาห้าต้นด้วยไม้กระถินเทศสำหรับติดบังตาที่ประตู แล้วหุ้มเสานั้นด้วยทองคำ ขอแขวนเสาจงทำด้วยทองคำ แล้วหล่อฐานทองสัมฤทธิ์ห้าฐานสำหรับรองรับเสานั้น
อพยพ 26:2-37 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ม่านทุกผืนมีขนาดเดียวกันคือกว้าง 4 ศอก ยาว 28 ศอก ต่อม่านเป็นสองแถบ แถบละห้าผืน จงใช้ผ้าสีน้ำเงินทำหูที่ขอบของผ้าม่านทั้งสองแถบ แถบละห้าสิบหูตรงกัน แล้วทำตะขอทองคำห้าสิบอันเกี่ยวหูของแถบม่านทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน “ให้ทำม่านขนแพะสิบเอ็ดผืนสำหรับทำเป็นเต็นท์เพื่อคลุมพลับพลาไว้ ม่านทุกผืนมีขนาดเดียวกัน คือ กว้าง 4 ศอก ยาว 30 ศอก ต่อม่านเป็นสองแถบ แถบหนึ่งใช้ห้าผืน อีกแถบหนึ่งใช้หกผืน ให้พับผืนที่หกทบไว้ด้านหน้าเต็นท์ จงทำหูห้าสิบหูติดที่ขอบของแถบผ้าม่านทั้งสองแถบ แล้วใช้ตะขอทองสัมฤทธิ์เกี่ยวหูเต็นท์ให้เข้าเป็นเต็นท์เดียวกัน ส่วนความยาวที่เหลือ ครึ่งหนึ่งของผ้าเต็นท์ให้ห้อยไว้ทางด้านหลังของพลับพลา ผ้าเต็นท์นี้จะมีความยาวยื่นออกมาข้างละ 1 ศอกเพื่อคลุมพลับพลาไว้ จงคลุมเต็นท์ด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดงและใช้หนังพะยูนคลุมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง “จงตั้งฝาผนังพลับพลาซึ่งทำจากไม้กระถินเทศ ไม้ฝาแต่ละแผ่นกว้าง 1.5 ศอก สูง 10 ศอก ไม้ฝาแต่ละแผ่นมีสลักสองชุดขนานกันสำหรับประกบเข้าด้วยกัน จงทำฝาผนังพลับพลาทั้งหมดแบบนี้ จงทำไม้ฝายี่สิบแผ่นสำหรับด้านทิศใต้ของพลับพลา และทำฐานของไม้ฝาแต่ละแผ่นด้วยเงินแผ่นละสองฐาน รวมสี่สิบฐาน แต่ละฐานรองรับสลักแต่ละอัน ทางด้านทิศเหนือของพลับพลาให้ตั้งไม้ฝาขึ้นยี่สิบแผ่น และมีฐานเงินรองรับไม้ฝาแผ่นละสองฐาน รวมสี่สิบฐาน จงทำไม้ฝาหกแผ่นสำหรับด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นส่วนหลังของพลับพลา และทำไม้ฝาอีกสองแผ่นสำหรับมุมทั้งสองข้างของส่วนหลัง ไม้ฝาหัวมุมทั้งสองด้านต้องประกบกันสนิทตั้งแต่บนจรดล่าง และด้านบนสุดยึดด้วยห่วงหนึ่งวง ไม้ฝาหัวมุมทั้งสองด้านจะต้องทำอย่างนี้ ฉะนั้นที่ส่วนหลังของพลับพลาจะมีไม้ฝาทั้งหมดแปดแผ่น และมีฐานเงินรองรับสิบหกฐาน แผ่นละสองฐาน “จงทำคานขวางด้วยไม้กระถินเทศ พาดขวางฝาผนังพลับพลาด้านทิศเหนือห้าเส้น ด้านทิศใต้ห้าเส้นและอีกห้าเส้นสำหรับด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นส่วนหลังของพลับพลา คานขวางอันกลางพาดผ่านตรงกลางฝาผนังตลอดแนว จงหุ้มไม้ฝาทุกแผ่นด้วยทองคำและทำห่วงทองคำยึดคานขวางเหล่านั้นไว้ ไม้คานเหล่านั้นให้หุ้มด้วยทองคำเช่นกัน “จงตั้งพลับพลาขึ้นตามแบบที่เราได้แจ้งแก่เจ้าบนภูเขา “จงทำม่านด้วยผ้าลินินเนื้อดี ให้ช่างฝีมือผู้ชำนาญปักลวดลายจากด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดงเป็นภาพเหล่าเครูบไว้บนม่านนั้น จงแขวนม่านนี้ด้วยตะขอซึ่งทำจากทองคำบนเสาไม้กระถินเทศสี่ต้นหุ้มทองคำ เสาเหล่านี้ตั้งอยู่บนฐานรองรับทำด้วยเงินสี่ฐาน หลังม่านซึ่งแขวนบนตะขอทองคำนี้เป็นที่ตั้งหีบพันธสัญญา ม่านนี้จะกั้นระหว่างวิสุทธิสถานและอภิสุทธิสถาน แล้วจงตั้งพระที่นั่งกรุณาไว้บนหีบพันธสัญญาในอภิสุทธิสถาน โต๊ะและคันประทีปให้วางแยกกันคนละด้านอยู่นอกม่าน คันประทีปจะอยู่ทางด้านทิศใต้ของพลับพลา ส่วนโต๊ะนั้นจะอยู่ทางด้านทิศเหนือ “จงทำม่านอีกผืนจากผ้าลินินเนื้อดี ปักอย่างวิจิตรด้วยด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสำหรับกั้นทางเข้าเต็นท์ จงทำตะขอทองคำสำหรับแขวนม่านผืนนี้บนเสาไม้กระถินเทศห้าต้นหุ้มด้วยทองคำ มีตะขอทองคำและมีฐานรองรับห้าฐานทำด้วยทองสัมฤทธิ์
อพยพ 26:2-37 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ผ้าม่านมีขนาดเท่ากันทุกผืนคือ ยาว 28 ศอก และกว้าง 4 ศอก เย็บม่าน 5 ผืนให้ติดกันตามความกว้าง อีก 5 ผืนก็เย็บแบบเดียวกัน เย็บหูม่านด้วยผ้าสีน้ำเงิน ติดไว้ที่ข้างหนึ่งของม่านนอกสุดชุดที่หนึ่ง ส่วนชุดที่สอง ก็จงเย็บแบบเดียวกัน ม่านแต่ละชุดควรมีหูม่าน 50 อันติดไว้ที่ความกว้างของม่าน ชุดที่สอง ก็ควรมี 50 หูติดไว้เช่นกัน ด้านที่มีหูม่านควรอยู่ตรงข้ามกัน แล้วตีขอเกี่ยวด้วยทองคำ 50 อัน เกี่ยวม่าน 2 ชุดให้ติดกันเป็นผ้าคลุมผืนเดียวของกระโจมที่พำนัก จงเย็บม่านขนแพะ 11 ผืนเป็นที่คลุมกระโจมที่พำนัก เย็บม่าน 11 ผืนขนาดเท่ากันทุกผืน ให้ได้ความยาว 30 ศอก และกว้าง 4 ศอก เย็บม่าน 5 ผืนให้ติดกัน ส่วนอีก 6 ผืนก็เย็บให้ติดกันเป็นอีก 1 ชุด แล้วทบม่านผืนที่หกไว้ศอกหนึ่งไว้ที่หน้ากระโจม จงเย็บหูม่าน 50 อันติดไว้ที่ด้านหนึ่งของม่านด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง ส่วนอีก 50 อันติดไว้ที่ด้านของม่านชุดที่สอง จงตีขอเกี่ยวด้วยทองสัมฤทธิ์ 50 อัน และเกี่ยวไว้ที่หูม่าน เพื่อกระชับกับกระโจมให้แน่น ส่วนความยาวม่านในกระโจมที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ก็ปล่อยให้ระพื้นที่ด้านหลังกระโจมที่พำนัก ม่านกระโจมยาวกว่าม่านผ้าป่านด้านละ 1 ศอก ทำให้ห้อยที่ด้านข้างกระโจมที่พำนักและคลุมมิดได้ทั้ง 2 ข้าง จงเย็บที่คลุมกระโจมด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมแดง และใช้อีกผืนคลุมทับด้วยหนังปลาโลมา จงสร้างกรอบไม้สีเสียดให้เป็นโครงกระโจมที่พำนักสำหรับค้ำม่าน ให้แต่ละกรอบสูง 10 ศอก กว้างศอกครึ่ง แต่ละกรอบมีเดือย 2 อันอยู่ตอนล่างสำหรับติดเข้ากับฐาน สร้างกรอบกระโจมที่พำนักให้เหมือนกันหมดทุกกรอบ สร้างกรอบ 20 อันสำหรับด้านใต้ของกระโจมที่พำนัก และเจ้าจงหล่อฐานเงิน 40 อันรองรับกรอบ 20 อัน ให้ฐาน 2 อันรองรับกรอบ 1 อัน สำหรับรองรับเดือยทั้งสอง ด้านที่สองของกระโจมที่พำนักคือด้านเหนือ ก็สร้างกรอบ 20 อัน และฐานเงินอีก 40 อัน ให้ฐาน 2 อันรองรับกรอบ 1 อัน จงสร้างกรอบ 6 อันสำหรับด้านท้ายกระโจมที่พำนักที่หันไปทางทิศตะวันตก สร้างกรอบอีก 2 อันสำหรับมุมที่ท้ายกระโจมที่พำนัก ให้กรอบทั้งสองนี้ตั้งขนานคู่กันตั้งแต่พื้นจรดยอด เป็นเสมือนกรอบเดียวกัน ทั้ง 2 มุมให้ทำเหมือนกันตามนี้ ฉะนั้นจะมีกรอบ 8 อัน และฐานเงิน 16 อัน ฐาน 2 อันต่อกรอบ 1 อัน จงสร้างคานด้วยไม้สีเสียด 5 ตัวสำหรับกรอบทางด้านหนึ่งของกระโจมที่พำนัก คานอีก 5 ตัวสำหรับกรอบอีกด้านหนึ่งของกระโจมที่พำนัก และคาน 5 ตัวสำหรับกรอบที่ด้านข้างของกระโจมที่พำนักสำหรับด้านหลังทางทิศตะวันตก คานตัวกลางที่รับน้ำหนักตอนกลางของกรอบจะต้องให้ยาวตลอดจากปลายด้านหนึ่งจรดอีกด้านหนึ่ง จงหุ้มกรอบไม้สีเสียดด้วยทองคำ และตีห่วงทองคำสำหรับร้อยคานที่จะหุ้มด้วยทองคำเช่นกัน เจ้าจงสร้างกระโจมที่พำนักขึ้นตามแบบที่แสดงให้เห็นที่ภูเขา จงเย็บม่านกั้นผืนหนึ่ง โดยใช้ด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสด และผ้าป่านทอเนื้อดี ภาพเครูบก็ให้ปักให้งดงามด้วยช่างผู้ชำนาญ แล้วเจ้าจงแขวนไว้ด้วยขอเกี่ยวทองคำบนเสาหลักทั้งสี่ที่เป็นไม้สีเสียดหุ้มทองคำซึ่งตั้งบนฐานเงิน และเจ้าจงแขวนม่านกั้นผืนนี้ที่ใต้ขอเกี่ยวจากเพดาน และจงวางหีบพันธสัญญาภายในบริเวณม่านกั้น ม่านกั้นนี้แยกระหว่างวิสุทธิสถานกับอภิสุทธิสถาน จงวางฝาหีบแห่งการชดใช้บาปไว้บนหีบพันธสัญญาในอภิสุทธิสถาน จงวางโต๊ะไว้นอกม่านกั้น วางคันประทีปไว้ที่ด้านทิศใต้ของกระโจมที่พำนักตรงข้ามกับโต๊ะ วางโต๊ะไว้ทางทิศเหนือ เจ้าจงเย็บม่านบังตาขึ้นผืนหนึ่งสำหรับประตูทางเข้ากระโจมด้วยด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสด และผ้าป่านทอเนื้อดีปักลวดลาย เจ้าจงสร้างเสาหลัก 5 ต้นด้วยไม้สีเสียดแล้วหุ้มทองคำ ที่ม่านนั้นให้มีขอเกี่ยวทองคำ และจงหล่อฐาน 5 อันด้วยทองสัมฤทธิ์รองรับเสา