พระเยซูเป็นใคร?ตัวอย่าง

เรื่องราวของคนอัมพาต: พระเยซูทรงเป็นผู้อภัยบาป

ถ้าหากคุณสามารถเป็นซูเปอร์ฮีโร คุณจะเลือกมีพลังวิเศษอะไร? นี่เป็นคำถามที่สำคัญ ดังนั้นโปรดคิดคำตอบอย่างถี่ถ้วน

พลังเหาะเหิน?

พลังล่องหน?

พลังในการควบคุมจิตใจ?

พลังเกราะสุดแข็งแกร่ง?

แล้วถ้าเกิดว่ามีตัวเลือก “ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น” ล่ะ?

หากมองแบบเผินๆ ความหลงใหลในซูเปอร์ฮีโรของเราน่าจะเกี่ยวข้องกับความปรารถนาที่จะได้รับความบันเทิงและหลีกหนีตัวเองจากชีวิตประจำวันที่ต้องต่อสู่กับสิ่งต่างๆ มากมาย แต่ในระดับที่ลึกกว่านั้น การที่เราหลงรักเหล่าซูเปอร์ฮีโรนั้นอาจมาจากความโหยหาโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมทั้งความทะเยอทะยานของเราที่แสวงหาพลังที่เหนือความเป็นไปได้

ตอนนี้พระเยซูมิได้ทรงเป็นซูเปอร์ฮีโรในแบบฉบับของมาร์เวล แต่เมื่อเราอ่านพระวจนะของพระเจ้า เราพบว่าพระเยซูทรงมีพระปรีชาสามารถอัศจรรย์เกินกว่าคนทั่วไป เช่น ทรงสามารถรักษาคนป่วยและขับผีออก ผลที่ตามมาก็คือ พระองค์ทรงดึงดูดฝูงชน และข่าวลือเกี่ยวกับฤทธานุภาพของพระองค์ก็ลุกลามออกไปเหมือนไฟป่า

ในเรื่องนี้ ชายสี่คนได้ทราบข่าวเกี่ยวกับพระเยซูผู้ทำการอัศจรรย์ จึงได้เดินทางไปพบพระองค์ พวกเขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะพาเพื่อนผู้ทนทุกข์ทรมานมาหาพระเยซู แต่ไม่นานนักพวกเขาก็พบฝูงชนที่ขวางทาง

เมื่อเขาเข้าไปให้ถึงพระองค์ไม่ได้เพราะคนมาก เขาจึงรื้อดาดฟ้าหลังคาตรงที่พระองค์ประทับนั้น และเมื่อรื้อเป็นช่องแล้ว เขาก็หย่อนแคร่ที่คนง่อยนอนอยู่ (มาระโก 2:4 TH1971 )

ขอให้พวกเราหยุดพักตรงนี้สักครู่

คนเหล่านี้ได้พังบ้านของใครบางคนไปจริงๆ !

โชคดีที่พระเยซูทรงมองข้ามการทำลายทรัพย์สินของพวกเขาและตรัสกับคนง่อยว่า "ลูกเอ๋ย บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว" แล้วพระเยซูก็ทรงรักษาขาของเขา ฝูงชนต่างตกตะลึง แต่ผู้นำศาสนาก็ตั้งคำถามในใจว่า “ใครเล่าจะยกบาปได้นอกจากพระเจ้าเท่านั้น?”

ผู้เดียวที่สามารถยกโทษบาปทั้งหมดได้คือผู้เดียวที่ได้รับโทษจากบาปทั้งหมด นั่นก็คือพระเจ้า พระองค์เองเท่านั้น

เป็นอีกครั้งที่เรื่องราวนี้ได้บอกใบ้เราเกี่ยวกับตัวตนของพระเยซู ในเรื่องนี้พระเยซูทรงตรัสและทำหน้าที่ของพระเจ้า พระเยซูยังได้แสดงหลักฐานถึงสิทธิอำนาจอันสูงส่งในการยกโทษบาปด้วยการแสดงปาฏิหาริย์ อีกนัยหนึ่ง เรื่องนี้บอกเราว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า!

เราอาจไม่ได้เป็นอัมพาตทางกายเหมือนชายในเรื่องนี้

แต่ในระดับบุคคลนั้น เราทุกคนต่างเคยทำผิดพลาด และพวกเราบางคนรู้สึกเป็นอัมพาตเพราะความอับอาย ความกลัว และความรู้สึกไม่เพียงพอของตัวเอง ขาของเราอาจทำงานได้ปกติ แต่ชีวิตของเรายังคงรู้สึกแตกสลาย เพราะปัญหาที่ลึกที่สุดของเรานั้นคือปัญหาด้านจิตวิญญาณก่อนปัญหาทางร่างกายเสมอ

ความต้องการในส่วนลึกที่สุดของเราคือการได้รับการให้อภัยและคืนดีกับพระผู้สร้าง — เพื่อจะได้สัมผัสถึงพลังแห่งการรักษาจากความรักของพระเจ้าที่ซึมซาบเข้าสู่ความรู้สึกไม่มั่นคงทั้งหมดของเรา และทำให้ชีวิตของเรานั้นสมบูรณ์

พระเยซูไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโรจากภาพยนตร์

พระเยซูทรงเป็นเรื่องจริง

และสิ่งสวยงามเกิดขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้พระเยซู ร่างกายถูกทำให้สบายดี หัวใจได้รับการเยียวยา ความกลัวสงบลง ความหวังเกิดขึ้น และความละอายใจถูกขจัดออกไป

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ส เราจะสารภาพบาปต่างๆ ของเราและยอมให้พระเยซูทรงยกโทษและปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระหรือไม่? ยิ่งไปกว่านั้น เราเชื่อหรือไม่ว่าพระเยซูจะทรงทำสิ่งเดียวกันนี้ให้กับเพื่อนๆ ของเรา? และถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เราเต็มใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อแนะนำเพื่อนของเราให้รู้จักกับพระเยซูหรือไม่?