7 สิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวเกี่ยวกับความกังวลตัวอย่าง

ความวิตกกังวลอาจคาดเดาไม่ได้ นาทีหนึ่งนั้นสบายดี อีกนาทีถัดไป คุณก็ถูกถาโถมด้วยคลื่นทางอารมณ์และความวุ่นวายทางจิตใจ คุณสูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลง ตอบสนองตามที่เคยถูกสอนมาให้รับมือกับความวิตกกังวลด้วยการสงบกาย แต่ความวิตกกังวลนั้นไม่ได้แค่มีผลต่อร่างกายของเรา มันยึดครองทุกอย่างเลย

นั่นคือเหตุผลที่เราต้องให้การตอบสนองทางร่างกายและความจริงทางจิตวิญญาณของเราร่วมมือกันเพื่อช่วยเบี่ยงเบนจุดสนใจของเรา จิตใจของเราต้องหาที่พักสงบ พระคัมภีร์ช่วยปรับและทำให้ใจของเราสงบลงได้

อันดับแรก เราต้องติดอาวุธให้ตัวเองด้วยข้อพระคำเมื่อเราอยู่ในช่วงที่สภาพจิตใจเรายังดี เพื่อว่าเมื่อมีการโจมตีเข้ามา เราก็พร้อมที่จะสู้ จดจำข้อพระคัมภีร์ที่คุณสามารถใช้เป็นอาวุธเมื่อคลื่นแห่งความวิตกกังวลเข้าถาโถม ข้อพระธรรมเหล่านั้นจะเตือนเราให้นึกถึงความจริงของพระเจ้า และยึดสายตาเราไว้ให้ห่างจากสิ่งที่จะนำเราไปสู่สถานที่มืดมิด

อิสยาห์ 12:2 บอกกับเราว่า เราสามารถเชื่อวางใจว่าพระเจ้าจะทรงช่วยเรา และเราไม่ต้องกลัวเลย ทรงพลังอะไรอย่างนี้ใช่ไหม? เราไม่ต้องกลัว เราเชื่อวางใจพระเจ้าได้ พระองค์จะทรงช่วยเรา พระองค์ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงครอบครองเหนือทุกสิ่ง และพระองค์สามารถช่วยกู้เราได้ ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่าเราไปไกลแค่ไหน พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น

เมื่อเราเติมจิตใจของเราด้วยข้อความเหล่านี้แล้ว เราก็ยินยอมให้พระเจ้าทรงแบกรับภาระในจิตใจของเราและให้เราได้หยุดพัก ข้อความเหล่านี้ยังมอบพลังให้แก่เราในการต่อสู้ และเอาชนะการสู้รบที่เรากำลังเผชิญ

ย้ำเตือนตัวเองด้วยข้อความเหล่านี้จนกระทั่งคุณรู้สึกว่าคลื่นแห่งความวิตกกังวลได้ผ่านพ้นไป เพราะการย้ำเตือนความจริงจะปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากคำโกหกแห่งความวิตกกังวล

พระเจ้าต้องการให้เราพึ่งพาพระองค์แบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องรอให้การต่อสู้ทางจิตวิญญาณเกิดขึ้นแล้วค่อยนึกถึงพระคำของพระองค์ ฉันเชื่อว่าเมื่อจิตใจของฉันจดจ่ออยู่ที่ความจริงแห่งพระวจนะ สิ่งกระตุ้นที่เคยครอบงำฉันในอดีตก็มีพลังน้อยลง (ดู โรม 8:6)

เข้าหาพระเจ้าผ่านทางพระคำของพระองค์ ให้พระคำครอบครองเหนือความคิดของคุณ และแก้ไขความวิตกกังวลในจิตวิญญาณของคุณที่เฝ้าอาศัยอยู่ภายใต้พื้นผิว เลือกที่จะมอบความกลัวของคุณให้กับพระองค์ เชื่อวางใจในการช่วยกู้ของพระองค์

Jessica Penick
ผู้จัดการ content YouVersion