การนมัสการพระเจ้าตัวอย่าง
การนมัสการด้วยบุคลิกลักษณะโดยรวม
เมื่อเราพูดถึงการทรงนำของพระวิญญาณ เรากำลังพูดถึงความรู้สึกในแง่หนึ่ง ฉันยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นอันตราย เพราะว่าความรู้สึกสามารถชักนำผู้คนให้ทำสิ่งแปลกๆ ได้
คนที่มีมโนธรรมมากเกินไปซึ่งขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกผิด อาจพยายามชดเชยการกระทำผิดที่โง่เขลาด้วยการกระทำบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาคิดว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า บางคนอาจจินตนาการว่าเขารู้สึกได้ถึงการทรงนำของพระวิญญาณเมื่อสิ่งที่เขาทำคือพยายามของมนุษย์เพื่อชดใช้ความล้มเหลวในอดีต เมื่อเชื่อฟังการทรงนำของพระวิญญาณจะนำไปสู่ความรู้สึกสงบสุขอันยิ่งใหญ่เสมอ
ถือเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่าสิ่งกระตุ้นเพียงอย่างเดียวที่สำคัญคือความฉลาดหรือความลึกของสมอง แต่พระเจ้าต้องการสื่อสารกับเราไม่ใช่แค่ในระดับสติปัญญาเท่านั้น พระเจ้าทรงต้องการสื่อสารกับความเป็นอยู่ทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ ประสาทสัมผัส และจิตใจของเรา
การนมัสการที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเราไม่กลัวที่จะแสดงว่าเรารู้สึกอะไรอยู่ การนมัสการควรนำเราไปสู่จุดที่เราสามารถซื่อสัตย์ได้ เราไม่จำเป็นต้องเก็บกดความรู้สึกของเราเมื่ออยู่ใกล้พระเยซู พระองค์จะไม่ดุเราเพราะความซื่อสัตย์ของเรา ไม่ได้หมายความว่าเราถูก แต่ถ้าเราซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงสามารถช่วยเราและทรงนำเราให้เห็นว่าเราผิดตรงไหนและเผชิญหน้ากับความจริง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
การอ่านแต่ละวันจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการนมัสการพระเจ้าในทุกแง่มุมของชีวิต และจะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่านมุ่งความสนใจไปยังความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระคริสต์อย่างสมบูรณ์แบบ พิธีการนี้มีเนื้อหาอิงมาจากหนังสือเรื่องการนมัสการพระเจ้า (Worshiping God) ของ อาร์. ที. เคนดัลล์ (อาร์. ที. เคนดัลล์เป็นศิษยาภิบาลของโบสถ์เวสต์มินสเตอร์ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาเป็นเวลายี่สิบห้าปี)
More