พระคัมภีร์สำหรับเด็กตัวอย่าง
ตอนที่พระเยซูมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์พระองค์ได้เล่าเรื่องสวรรค์ให้สาวกฟังพระองค์เรียกสวรรค์ว่า “บ้านของพระบิดาของเรา” ที่นั่นมีคฤหาสน์มากมายคฤหาสน์หนึ่งจะกว้างใหญ่มากเป็นบ้านที่สวยงามมากสวรรค์ใหญ่กว่าและก็สวยกว่าบ้านทุกหลังที่อยู่บนโลกนี้
พระเยซูตรัสว่า “เราจะไปจัดเตรียมพื้นที่ที่สวรรค์ไว้เพื่อเจ้าและถ้าเราไปเตรียมพื้นที่ไว้แล้วเราจะกลับมาอีกครั้งและจะรับเจ้ามาอยู่กับเรา” พระเยซูได้เสด็จกลับสวรรค์แล้วหลังจากที่พระองค์ฟื้นจากความตายสาวกของพระองค์เฝ้ามองพระองค์ระหว่างที่พระองค์ถูกนำขึ้นสู่สวรรค์เขาเห็นเมฆมารับพระองค์ขึ้นไปบนสวรรค์
ตั้งแต่นั้นมาคริสเตียน ได้มีความเชื่อในพระสัญญา ว่าพระเยซูจะกลับมา และรับพวกเขาไปอยู่ด้วย แต่สำหรับคนที่ตายก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับมา พวกเขาจะได้ไปอยู่กับพระองค์ทันทีหลังจากตายแล้ว เขาจะออกจากร่างกายที่มีเนื้อหนัง เพื่อไปสถิต อยู่กับพระเจ้าบนสวรรค์
วิวรณ์เป็นหนังสือเล่มสุดท้ายในพระคัมภีร์ไบเบิล บอกกับเรา ว่า สวรรค์นั้นสวยงามอย่างไร สิ่งที่สวยงามที่สุดคือ สิ่งที่พิเศษที่สุด คือ สวรรค์คือบ้านของพระเจ้า พระเจ้ามีอยู่ทุกที่ แต่ บรรลังของพระองค์อยู่ที่สวรรค์
ทูตสวรรค์ และ ทุกสิ่งที่มีชีวิตบนสวรรค์ นมัสการพระเจ้า บนสวรรค์ ดังนั้น คนที่เชื่อพระเจ้าที่ตายแล้ว เมื่อไปอยู่สวรรค์พวกเขาก็จะร้อง เพลงพิเศษมากมายเพื่อสรรเสริญพระเจ้า นี่เป็นบางคำที่พวกเขาร้องสรรเสริญพระเจ้าบนสวรรค์ “พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือ และแกะตราม้วนหนังสือนั้นออก เพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้ว และด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงไถ่เราทั้งหลายซึ่งมาจากทุกตระกูล ทุกภาษาทุกชาติและทุกประเทศ ให้ไปถึงพระเจ้า วิวรณ์ 5:9”
หน้าสุดท้ายของพระคัมภีร์ไบเบิล อธิบายสวรรค์เปรียบเหมือน “นครเยรูซาเล็มใหม่” มันเป็นสถานที่ ที่ใหญ่มากๆ มีกำแพงข้างนอกสูง ใสสว่างดุจแก้วมณี
ประตูสูงใหญ่และประดับด้วยไข่มุกเหล่านั้นไม่เคยปิดเลย เข้าไปข้างในกันและเดินดูรอบๆ วาว! สวรรค์สวยมากเมื่อได้เข้ามาข้างใน เมืองนี้ทำจากทองคำบริสุทธิ์ ใสสว่างดุจแก้วมณีโชติ แม้กระทั่งถนนก็ทำด้วยทองคำ
แม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิตใสเหมือนแก้วไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และริมแม่น้ำอีกฝากมีต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งเป็นต้นไม้ต้นแรกที่ถูกพบในสวนเอเดน นไม้ต้นนี้พิเศษมาก มันออกผลสิบสองชนิด และออกผลทุกๆเดือน และใบของต้นนั้นสำหรับรักษาบรรดาประชาชาติให้หาย
สวรรค์ไม่ต้องการแสงของดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่าง ที่นั่นไม่มีกลางคืน
แม้กระทั่งสัตว์ในสวรรค์ก็แตกต่าง สัตว์เหล่านั้น เชื่อง และเป็นมิตร หมาป่า และลูกแกะกินหญ้าด้วยกัน แม้กระทั่ง สิงโตตัวใหญ่ ยังกินฟางข้าวอย่างกะวัว พระเจ้า ตรัสว่า “สัตว์เหล่านี้ ไม่ควรทำอันตรายหรือทำลายซึ่งกันและกันในภูเขาบริสุทธิ์ของเรา”
เมื่อเรามองไปรอบๆ เราสังเกตุได้ว่า มีหลายสิ่งหายไปจากสวรรค์ ไม่ได้ยินคำพูดหยาบคาย ไม่มีใครต่อสู้กัน หรือ เห็นแก่ตัว ที่สวรรค์ ไม่ต้องล๊อคประตู เพราะว่าที่นั่นไม่มีคนชั่วร้าย และที่สวรรค์ก็ไม่มีความบาปทุกชนิด
ที่สวรรค์ได้อยู่กับพระเจ้าไม่มีการร้องไห้บางครั้งคนของพระเจ้าร้องไห้เพราะว่าชีวิตนี้มีแต่ความทุกข์ในสวรรค์พระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยดให้
ที่สวรรค์ไม่มีความตายเหมือนกันคนของพระเจ้าจะอยู่กับพระเจ้าตลอดไปที่นั่นจะไม่มีความทุกข์อีกต่อไปไม่มีการร้องไห้ไม่มีความเจ็บปวดไม่มีความเจ็บป่วยไม่มีการพรากจากกันไม่มีงานศพทุกคนที่อยู่ในสวรรค์จะมีความสุขกับพระเจ้าตลอดไป
สิ่งที่ดีที่สุดสวรรค์มีไว้สำหรับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง(และผู้ใหญ่ด้วย) ผู้ซึ่งเชื่อในพระเยซูเจ้าเหมือนกับพระผู้ไถ่และเชื่อฟังพระองค์เหมือนจอมเจ้านาย ในสวรรค์จะมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยชื่อของคน รู้ไหมว่าชื่อของใครบ้างที่ถูกเขียนในหนังสือเล่มนี้? หนังสือเล่มนี้จะถูกเขียนชื่อของคนที่เชื่อฟังพระเจ้า ชื่อของเราถูกเขียนหรือยัง?
คำสุดท้ายในพระคัมภีย์เกี่ยวกับสวรรค์คือคำเชิญชวนดังนี้ “และพระวิญญาณบริสุทธิ์และเจ้าสาวพูดว่าเสด็จมาและให้คนที่ได้ยินพูดว่าเสด็จมาและให้คนที่หิวกระหายมาและใครก็ตามที่ต้องการขอให้เขาดื่มน้ำแห่งชีวิตอย่างสมัครใจ”
ตอนจบ
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
มันเริ่มต้นอย่างไร? พวกเรามาจากไหน? ทำไมถึงมีความทุกข์ยากมากมายในโลก? มีความหวังหรือไม่? มีชีวิตหลังความตายหรือไม่? ค้นหาคำตอบในขณะที่คุณอ่านประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของโลกนี้
More
เราขอขอบคุณ Bible for Children, Inc. สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม: https://www.bibleforchildren.org/languages/thai/stories.php