Jesus and the Fearful

There is no fear so great that Jesus is unable to help us face it. There is no darkness too deep for his light to penetrate.

พระเยซูและความหวาดกลัว ไม่มีความกลัวใด ๆ ที่จะใหญ่ยิ่งเกินกว่าที่พระเยซูจะทรงช่วยเราให้เผชิญได้ ไม่มีความมืดมิดที่ลึกเกินกว่าที่แสงสว่างของพระองค์จะส่องเข้าไปได้

From an Africa Study Bible learn note titled “The Light of Life”:

จากหนังสือแอฟริกันพระคัมภีร์ศึกษา หัวข้อของการเรียนรู้ "แสงสว่างแห่งชีวิต"

In many places, the onset of the night brings dread and fear of lurking danger. Most evils and crimes are committed under the cover of darkness. Acts of witchcraft and sorcery, theft and murder, immorality and drunkenness often take place in darkness. Murderers, night runners, and those who consult mediums hide under the cover of darkness. People are uncertain of what lies in the shadow of darkness, so they look forward to dawn. 

สถานที่มากมาย เมื่อย่างเข้าสู๋ค่ำคืนที่แอบแฝงด้วยความกลัวของภัยมืด ความช่ั่วร้ายส่วนใหญ่ และการโจรกรรมมากมายมักเกิดขึ้นภายใต้ความมืดที่ปกคลุมอยู่ การกระทำของพวกพ่อมดหมอผี พวกโจร และฆาตรกร พวกผิดศ๊ลธรรม ตลอดจนพวกขี้เหล้าเมายา ก็มักผุดขึ้นท่ามกางความมืด พวกฆาตรกร โจรกรรมกลางคืน และพวกที่หารือกับผู้เข้าทรงที่แอบแฝงก็อยู่ในความมืดด้วย คนส่วนใหญ่มักจะไม่มั่นใจเลยว่ามีภัยอันตรายอะไรแอบแฝงอยู่ภายใต้ความมืดมิด จึงเฝ้ารอคอยให้ใกล้รุ่ง

But with Jesus, no one need be afraid of darkness because when you choose to follow him you will no longer walk in darkness but in the joy of his light. In fact, he is called the Light of the World in John’s Gospel. Anyone who wants to be illuminated by the presence of Christ—who gives hope and direction to life—must identify with Christ by faith. This is the only way to be “filled with light, with no dark corners . . . radiant, as though a floodlight were filling you with light” (Luke 11:36). Allowing Jesus, the Light of the World, to fill your life is the only way to avoid being tangled in the darkness of the world and its deceptive pleasures.

แต่กับพระเยซู ไม่มีใครจะต้องกลัวต่อความมืด เพราะคุณได้เลือกที่จะติดตามพระองค์ คุณจะไม่อยูในความมืดอีกต่อไป แต่จะอยู่ด้วยความยินดีของความสว่างในพระเองค์ อันที่จริงแล้ว ในพระธรรมยอห์นนั้น พระองค์ได้มีชื่อว่า ความสว่างของโลก ใครก็ตามที่ต้องการความสว่างในการทรงสถิตของพระองค์ พระองค์ผู้ให้ความหวัง ทิศทางของชีวิต ควรที่เราจะรับรู้ถึงเอกลักษณ์พระองค์ด้วยความเชื่อ ทางเดียวเท่านั้น "ถ้าทั้งตัวของท่านเต็มไปด้วยความสว่างไม่มีความมืดเลย มันก็จะสว่างไสวไปหมดเหมือนอย่างความสว่างของตะเกียงที่ส่องมายังท่าน” ลูกา 11ข้อ 36 ยินยอมให้พระเยซู ที่เป็นความสว่างของโลก มาเติมเต็มชีวิตของคูณ ทางเดียวเท่านั้นที่จะนำคุณหลีกหนีจากความมืดของโลกนี้ และภาวะความกดดันที่หลอกล่ออยู่นั้น

Reflect or Discuss

1 John 1:5 says, “God is light, and there is no darkness in him at all.” Why is it significant that Jesus is called the Light of the World, and that there is no darkness in him?

การใคร่ครวญและการอภิปราย 1 ยอห์น 1 ข้อ 5 "พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย" สาเหตุใดที่เด่นชัดอันบ่งบอกถึง พระเยซูที่ได้ชื่อว่าเป็นความสว่างของโลก และไม่มีความมืดในพระองค์เลย https://www2.bible.com/bible/174/1JN.1.5 1 ยอห์น 1:5

How would you describe the difference between living a life in the darkness and living a life in the light? Which life do you want to live?

คุณจะอธิบายได้หรือไม่เกี่ยวกับความแตกต่างของการมีชีวิตอยู่ในความมืด กับการอยู่ในความสว่าง คุณต้องการ มีชีวิตอยู่แบบใด

What are the fears or areas of darkness in your life that are keeping the light of his life from shining through? Will you ask him to come and shine his purifying light in all the dark corners of your life?

มีความกลัวใดบ้าง หรือส่วนไหนที่มืดมิดในชีวิตของคุณ ที่บดบังความสว่างที่ส่องเข้ามา คุณจะร้องเรียกพระองค์เข้ามาส่องสว่างทั่วทุกมุมมืดของชีวิตคุณบ้างหรือไม่