คำอธิษฐานอันตรายตัวอย่าง

Dangerous Prayers

วันที่ 2 จาก 7

ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ 

แทนที่จะยืดยาว ด้วยเสียงดัง และคำสวยหรู คำอธิษฐานที่เคลื่อนพระเจ้านั้นเรียบง่าย แท้จริง และจริงใจ แต่ความเรียบง่ายก็ไม่เหมือนกับความระมัดระวัง และนั่นคือเหตุผลที่ผลักดันให้ผมต้องเขียนถึงเรื่องนี้ ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่ผมได้ทำในชีวิตการอธิษฐานของผม เหตุผลที่คำอธิษฐานของผมนั้นไม่ได้ความ ก็เพราะว่าผมอธิษฐานอย่างระมัดระวังเกินไป ผมอยู่ในเขตปลอดภัยกับพระเจ้า ผมไม่ได้ร้อนเป็นไฟและผมก็ไม่ได้เย็นเยือก คำอธิษฐานของผมจืดชืด แต่คำอธิษฐานที่ปลอดภัยและอุ่น ๆ ไม่ได้ทำให้เราเข้าใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นหรือช่วยให้เราเปิดเผยความรักของพระองค์ต่อโลกนี้เลย

การอธิษฐานเป็นอันตรายโดยเนื้อแท้ ความคิดเกี่ยวกับการอธิษฐานเกิดขึ้นกับผมขณะที่กำลังอ่านเรื่องพระเยซูทรงตรัสกับพระบิดาของพระองค์ในสวนเกทเสมนี เพียงไม่นานก่อนที่พระองค์จะสละชีวิตบนไม้กางเขน โดยรู้ว่ามีสิ่งใดอยู่ข้างหน้า พระเยซูทูลถามพระเจ้าว่ามีวิธีอื่นอีกไหม จากนั้นพระเยซู ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงสาวกธรรมดาหรือแค่บุคคลหนึ่งในพระคัมภีร์ แต่พระเยซู พระบุตรของพระเจ้า ทรงอธิษฐานด้วยการยอมจำนนซึ่งเสี่ยงภัยและเป็นอันตราย: “อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (ลูกา 22:42)

พระเยซูไม่เคยขอให้เราทำในสิ่งที่พระองค์จะไม่ทำด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรงเรียกเราให้มีชีวิตแห่งความเชื่อไม่ใช่ชีวิตที่สะดวกสบาย แทนที่จะมาหาพระองค์เพื่อจะมีวิถีชีวิตที่ปลอดภัย ง่ายขึ้น หรือปราศจากความเครียด พระบุตรของพระเจ้าทรงท้าทายให้เราเสี่ยงที่จะรักผู้อื่นมากกว่าตัวเราเอง แทนที่จะทำตามใจปรารถนาในแต่ละวัน พระองค์ทรงเรียกให้เราปฏิเสธสิ่งเหล่านี้เพื่อสิ่งที่เป็นนิรันดร์ แทนที่จะใช้ชีวิตตามสิ่งที่เราต้องการ พระองค์ทรงบอกให้เรารับไม้กางเขนของเราแบกทุกวันและทำตามแบบอย่างของพระองค์

ผมกังวลว่าสำหรับคนจำนวนมาก การอธิษฐานก็เหมือนกับการซื้อลอตเตอรี่ เป็นโอกาสที่จะมีชีวิตบนโลกโดยปราศจากปัญหา ปราศจากความเครียด และปราศจากความเจ็บปวด สำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่ง การอธิษฐานเป็นเพียงกิจวัตรของความซาบซึ้ง เช่นการท่องเนื้อเพลงที่ชอบ หรือเพลงกล่อมเด็กอันเป็นที่รักตั้งแต่วัยเด็ก แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งก็อธิษฐานเพียงเพราะพวกเขาจะรู้สึกผิดมากขึ้นหากไม่ได้อธิษฐาน 

แต่การอธิษฐานแบบนี้ไม่ได้สะท้อนถึงชีวิตที่พระเยซูทรงมาเพื่อประทานให้แก่เราเลย 

แต่ พระองค์ทรงเรียกให้เราทิ้งทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์

พระเยซูไม่เพียงท้าทายคนอื่นให้ทิ้งความตั้งใจของตนเองไว้เบื้องหลัง พระองค์เองก็ดำเนินชีวิตตามความเชื่อที่เสี่ยงอันตรายด้วยเช่นกัน พระองค์ทรงสัมผัสคนโรคเรื้อน ทรงสำแดงพระคุณต่อหญิงโสเภณี และทรงยืนหยัดเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างกล้าหาญ จากนั้นพระองค์ก็บอกเราว่าเราสามารถทำในสิ่งที่พระองค์ทำได้—และมากกว่านั้นอีก

และนั่นคือเหตุผลที่เราไม่สามารถจะหยุดอยู่แค่การขอให้พระเจ้าทรงอวยพระพรอาหารของเราหรือ “ทรงสถิตอยู่กับเราในวันนี้”

เราได้รู้จากในพระคัมภีร์ว่าเราสามารถ “เข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า” (ฮบ. 4:16ก THSV11) เราไม่ต้องเข้าไปใกล้อย่างหวาดระแวงหรือรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ—เราสามารถเข้ามาเฝ้าพระองค์ได้ด้วยความมั่นใจ และความกล้าหาญ เมื่อเราอธิษฐานอย่างนี้ “เราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเราในยามต้องการ” (ฮบ. 4:16ข THSV11)

คำอธิษฐานของคุณนั้นสำคัญ

วิธีที่คุณอธิษฐานก็สำคัญ

สิ่งที่คุณอธิษฐานก็สำคัญ

คำอธิษฐาน ของคุณ เคลื่อน พระเจ้า

วันที่ 1วันที่ 3

เกี่ยวกับแผนฯ

Dangerous Prayers

คุณเบื่อที่จะระมัดระวังกับความเชื่อของคุณหรือเปล่า? คุณพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว เสริมสร้างความเชื่อ และปลดปล่อยศักยภาพของคุณหรือยัง? แผนการอ่านพระคัมภีร์ 7 วันจากหนังสือของศิษยาภิบาลคริสตจักร Life.Church เครก โกรสเชล คำอธิษฐานอันตราย ท้าให้คุณอธิษฐานอย่างเสี่ยงอันตราย—เพราะการติดตามพระเยซูไม่เคยหมายความว่าจะปลอดภัย

More

เราขอขอบคุณศิษยาภิบาล เครก โกรสเชล และ คริสตจักร Life.Church สำหรับการจัดเตรียมแผนการอ่านนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม https://www.craiggroeschel.com/

แผนการอ่านที่เกี่ยวข้อง