โสดพร้อมเสิร์ฟตัวอย่าง

พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า “การที่ชายผู้นี้จะอยู่แต่ลำพังนั้นไม่ดี เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่เหมาะสมกับเขาขึ้น”… ชายนั้นจึงตั้งชื่อสัตว์ใช้งานทุกชนิด และนกในอากาศและสัตว์ป่าทุกชนิด แต่ชายนั้นยังไม่พบคู่อุปถัมภ์ที่เหมาะสมกับเขา ปฐมกาล 2:18, 20

สังเกตว่าพระคัมภีร์ใช้คำว่า ‘เหมาะสม’ มันหมายถึงการที่คน ๆ หนึ่งจะเหมือนกับอีกคนหนึ่ง คำพ้องความหมายของคำว่า 'เปรียบเทียบ' คือคำว่า 'คล้ายคลึงกัน' คำภาษาฮีบรูดั้งเดิมแปลว่า "เหมือนกันกับเขา" หรือ “เท่า​เทียมกับเขา” การที่เอวาเปรียบได้กับอาดัมไม่ได้หมายความว่าเธอเข้ากับเขาตามเพศเท่านั้น แต่ยังเหมาะสมกับเขาในหน้าที่อีกด้วย

เหมือนกุญแจที่ไขเข้าไปในแม่กุญแจได้อย่างสมบูรณ์แล้วเปิดออก ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงประสงค์ให้ความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักลงตัวและเปิดออก นั่นคือคุณสมบัติเดียวที่อาดัมมองหาในคู่ชีวิต

ความเทียบเคียงกันได้คือการทดสอบเพื่อตัดสินว่าเขาจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตด้วยความสนิทสนมกับใคร คุณสมบัตินี้ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้สำหรับความสัมพันธ์แบบพระเจ้า ผมต้องการนำเสนอปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาเมื่อพูดถึงประเด็นเรื่องความเทียบเคียงกันได้ ผมเรียกมันว่า "ปัจจัยพระคริสต์"

เปาโลกล่าวกับชาวเมืองโครินธ์ว่า "คุณมีอิสระที่จะแต่งงานกับใครก็ได้ที่คุณต้องการ ซึ่งอยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น" พระเจ้าตรัสไว้อย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนต้องเทียบเคียงกันได้ในด้านพระคริสต์ หมายความว่าถ้าคุณอยู่ในพระคริสต์ คุณสามารถแต่งงานกับใครก็ได้ที่คุณชอบตราบเท่าที่คนนั้นอยู่ในพระคริสต์เช่นกัน

เปาโลไม่ได้บอกให้ผู้คนแต่งงานกับคนที่พวกเขาปรารถนาตราบเท่าที่พวกเขาเชื่อในพระเจ้า คนมุสลิมก็เชื่อในพระเจ้า คนมอร์มอนก็เชื่อในพระเจ้า พวกปิศาจก็เชื่อในพระเจ้าและถึงกับตัวสั่นเพราะพระนามของพระองค์ แต่พวกมันก็ยังคงต้องตกนรก ความเชื่อไม่เพียงพอสำหรับการแต่งงาน พวกเขาต้องติดตามพระเยซูด้วย คนที่คุณต้องการออกเดทอยู่ในพระเจ้าหรือไม่? พวกเขากลับใจใหม่แล้วหรือยัง? พวกเขาได้รับบัพติสมาด้วยน้ำแล้วหรือยัง? พวกเขาไปโบสถ์และรับใช้ด้วยหรือไม่? พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแคร์หรือไม่? พวกเขาถวายสิบลดหรือไม่? พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเยซูหรือไม่? ทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่คุณต้องถามตัวเองก่อนที่จะมีความสัมพันธ์กับใครสักคน

เหตุผลหลักประการหนึ่งที่พระเจ้าต้องการให้เรามีความเชื่อเดียวกันในการแต่งงาน คือการแต่งงานเป็นการที่เป็นหนึ่งเดียวกันทางฝ่ายวิญญาณ - ซึ่งเป็นความใกล้ชิดที่ลึกซึ้งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้คุณทั้งคู่จะมีแหล่งที่มาเดียวกันเพื่อเรียกใช้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พระเจ้าทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแต่งงาน พระองค์จะทรงนำพาแต่ละคนไปสู่การเป็นคู่สมรสที่ดีขึ้นเสมอ

สุดท้ายนี้ ผมขอแนะนำให้คุณอย่าเป็นคนที่มีจิตวิญญาณสูงส่ง แต่ให้อุทิศตนอย่างสุดซึ้งต่อพระเยซู เป็นคนที่ทุ่มเททั้งหมดเพื่อพระเจ้าแต่ยังคงเข้าถึงได้ พระเยซูทรงทุ่มเทและอุทิศทั้งหมดเพื่อพระเจ้า แต่พระองค์ก็ยังคงเป็นบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้มากที่สุดในโลกด้วย พระองค์ไม่ได้พยายามสร้างความสับสนให้กับผู้คนด้วยเรื่องทางฝ่ายวิญญาณ แต่พระองค์ตรัสด้วยภาษาที่พวกเขาสามารถเข้าใจได้ ทรงใช้คำอุปมาที่ตรงกับประสบการณ์ของพวกเขา จงเป็นเหมือนคนที่คุณต้องการจะแต่งงานด้วย เพราะคุณจะดึงดูดคนที่เหมือนกับคุณเข้ามา