ให้ความหมายแก่งานของคุณตัวอย่าง

เรามีสิทธิ์เลือกความหมายของงานของเราเอง

ในปฐมกาล 37: 5-7 และ 9 โยเซฟฝันว่าพระเจ้ามีการทรงเรียกที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา เขาฝันว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจที่แม้แต่สมาชิกในครอบครัวของเขายังคำนับต่อเขา พี่ชายของเขาเริ่มอิจฉาและต้องการกำจัดน้องชายของพวกเขา เมื่อพวกเขาอยู่ไกลบ้านและโยเซฟออกมาคนเดียวเพื่อดูพวกเขา พวกเขาคว้าโอกาสและขายเขาไปเป็นทาส คุณสามารถพูดได้ว่าโยเซฟโดนดับฝันครั้งใหญ่

โยเซฟถูกบังคับให้ทำงานเป็นทาสในต่างแดนซึ่งผู้คนไม่ได้คำนึงถึงพระเจ้า แต่พวกเขาไม่สามารถพรากอิสรภาพในการเลือกทัศนคติที่มีต่องานของเขา โยเซฟไม่ยอมให้บทบาทมากำหนดตัวตนของเขา แม้เจ้านายของเขาคือโปทิฟาร์ โยเซฟเลือกรับใช้พระเจ้าและทำงานอย่างดีเลิศ ผลก็คือพระเจ้าให้โยเซฟประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ และโปทิฟาร์ให้โยเซฟรับผิดชอบทุกสิ่งที่เขาเป็นเจ้าของ

เราทุกคนมีงานในฝันที่อยากทำ บางทีงานที่คุณกำลังทำอยู่อาจห่างไกลจากความฝันที่คุณมี ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว - เราเองเป็นผู้กำหนดความหมายของงานที่มีต่อตัวเรา ความหมายที่เราให้กับงานของเราจะกำหนดทัศนคติที่เรามีต่อมัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและความเป็นเลิศที่เรานำมาสู่การทำงานของเรา และนั่นส่งผลต่อวิธีที่พระเจ้าทรงใช้เรา 

เรามีอิสระในการเลือกความหมายเชิงบวกที่เรามีต่องาน เมื่อทำเช่นนั้น เรามีแนวโน้มที่จะไม่เพียงแต่ทำงานได้ดี แต่ยังทำให้ผู้อื่นเห็นพระคริสต์ในเราด้วย ในท้ายที่สุดตัวตนของเราอยู่ในพระคริสต์ ไม่ใช่ในงานของเรา ขอให้พระเจ้าแสดงความหมายของพระองค์ต่องานของคุณในอาณาจักรของพระองค์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ขอทรงช่วยให้เราตระหนักว่า พระองค์ใช้งานทั้งหมดที่เราทำอย่างดีเลิศเพื่อแสดงออกความรักที่มีต่อพระองค์ เพื่อแสดงความรักของพระคริสต์ต่อผู้อื่น ขอให้คนที่เราทำงานด้วยได้เห็นพระคริสต์ในเราวันนี้ ในนามพระเยซู อาเมน

สำรวจต่อไป

ค้นพบวิธีการค้นหาจุดประสงค์ในงานที่ธรรมดาที่สุดของเราได้จาก บล็อก Workmatters.