นางรูธ 1:1-13

นางรูธ 1:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

สมัยที่ผู้วินิจฉัยปกครองอยู่เกิดการกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดินนั้น ชายคนหนึ่งจากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์กับภรรยาและบุตรชายสองคนจึงไปอาศัยอยู่ในดินแดนโมอับระยะหนึ่ง ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาของเขาชื่อนาโอมี และบุตรชายสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน พวกเขาเป็นชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ พวกเขาย้ายไปอาศัยอยู่ที่โมอับ ต่อมาเอลีเมเลคสามีของนาโอมีสิ้นชีวิต เหลือนาโอมีกับบุตรชายทั้งสอง พวกเขาแต่งงานกับหญิงชาวโมอับ คนหนึ่งชื่อโอรปาห์ อีกคนหนึ่งชื่อรูธ หลังจากที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นราวสิบปี ทั้งมาห์โลนและคิลิโอนก็สิ้นชีวิต จึงเหลือแต่นาโอมี เมื่ออยู่ในโมอับ นางได้ข่าวว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเสด็จมาช่วยเหล่าประชากรของพระองค์โดยประทานอาหารแก่พวกเขา นาโอมีกับลูกสะใภ้ทั้งสองก็เตรียมตัวเดินทางจากโมอับกลับบ้าน นางกับลูกสะใภ้สองคนออกจากถิ่นที่อยู่ และเริ่มเดินไปตามเส้นทางที่จะกลับไปยังดินแดนยูดาห์ แล้วนาโอมีกล่าวกับลูกสะใภ้ทั้งสองว่า “ลูกทั้งสองกลับบ้านไปหาแม่ของลูกเถิดนะ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงความเมตตาแก่เจ้าที่ได้จงรักภักดีต่อแม่และสามีผู้ล่วงลับ และขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรให้ลูกได้ออกเรือนแต่งงานใหม่” แล้วนางก็จูบลาลูกสะใภ้ทั้งสองและทั้งสองก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้น และกล่าวกับนางว่า “เราจะไปกับแม่ ไปหาญาติของแม่” แต่นาโอมีตอบว่า “กลับบ้านเถิดลูกเอ๋ย จะไปกับแม่ทำไม? แม่จะมีลูกชายที่จะให้เป็นสามีของเจ้าได้อีกหรือ? กลับไปบ้านของลูกเถิด แม่เองก็แก่ชราเกินกว่าจะมีสามีอีก ถึงแม้แม่จะคิดว่ายังมีหวังที่จะได้สามีในคืนนี้และมีลูกชาย ลูกจะรอให้เขาโตขึ้นมาหรือ? ลูกจะไม่แต่งงานเพื่อคอยเขาหรือ? อย่าเลยลูกเอ๋ย แม่มีความขมขื่นมากยิ่งกว่าลูกเสียอีก เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าเองทรงกระทำให้แม่ทุกข์ยาก!”

นางรูธ 1:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​สมัย​เมื่อ​พวกผู้นำกู้ชาติ ครอบ​ครอง​แผ่นดิน​ยูดาห์ ได้เกิด​การ​กันดาร​อาหาร​ขึ้น​ใน​แผ่นดินนั้น มี​ชาย​คนหนึ่ง​พร้อมกับ​ภรรยา​ของเขา รวมทั้ง​ลูกชาย​สองคน ได้​อพยพ​จาก​เมือง​เบธเลเฮม​ใน​แผ่นดิน​ยูดาห์ เพื่อ​ไป​อาศัย​เลี้ยงชีพ​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โมอับ ชาย​คนนี้​ชื่อว่า​เอลีเมเล็ค ภรรยา​ของเขา​ชื่อ​นาโอมี ลูกชาย​ทั้ง​สองคน​ชื่อ​มาห์โลน​และ​คิลิโอน ทั้งหมด​เป็น​ชาว​เอฟราธาห์ มาจาก​เมือง​เบธเลเฮม​ใน​แผ่นดิน​ยูดาห์ พวกเขา​ทั้งหมด​มา​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โมอับ ต่อมา​เอลีเมเล็ค สามี​ของ​นาโอมี​ตายไป ทิ้ง​ให้​นาง​อยู่กับ​ลูกชาย​ทั้งสอง ลูกชาย​ทั้งสอง​ได้​แต่งงาน​กับ​หญิง​ชาวโมอับ ชื่อ โอรปาห์ และ รูธ หลังจาก​ที่​พวกเขา​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โมอับ​สิบปี ทั้ง​มาห์โลน และ คิลิโอน​ก็​ตาย​จากไป ทิ้ง​ให้​นาโอมี​อยู่​โดดเดี่ยว เพราะ​ทั้ง​ลูกๆ​และ​สามี​ก็​ตาย​ไป​หมดแล้ว ใน​ช่วงที่​นาโอมี​อยู่​ที่​แผ่นดิน​โมอับ​นั้น นาง​ได้ยิน​ว่า​พระยาห์เวห์​ได้​มา​ช่วยเหลือ​ประชาชน​ของ​พระองค์​และ​ประทาน​อาหาร​ให้กับ​พวกเขา​ใน​แผ่นดิน​ยูดาห์ ดังนั้น นาโอมี และ​ลูกสะใภ้​ทั้งสอง​จึง​เตรียม​ตัว​ที่​จะ​เดินทาง​จาก​แผ่นดิน​โมอับ​เพื่อ​กลับบ้าน นาโอมี​อพยพ​ออกจาก​แผ่นดิน​โมอับ พร้อมด้วย​ลูกสะใภ้​ทั้งสอง​ที่​ยังอยู่​กับนาง ทั้ง​สามคน​จึง​เดินทาง​กลับไป​ยัง​แผ่นดิน​ยูดาห์ ใน​ระหว่าง​ทาง​นั้น นาโอมี​เรียก​ลูกสะใภ้​ทั้งสอง​มา​และ​พูดว่า “ให้​ลูก​ทั้งสอง​ต่าง​กลับไป​อยู่​บ้านแม่​ของ​พวกลูก​เถอะ และ​ขอให้​พระยาห์เวห์​แสดง​ความรัก​ต่อลูก​ทั้งสอง เหมือนกับ​ที่​ลูกๆ​ได้​แสดง​ความรัก​ต่อ​สามี​ของลูก​ที่​ตาย​ไปแล้ว และ​ต่อแม่​ด้วย ขอให้​พระยาห์เวห์​นำ​ลูก​ทั้งสอง​ให้​ได้พบ​กับ​สันติสุข​ในบ้าน​ของ​สามีใหม่” แล้ว​นาโอมี ก็​จูบลา​ลูกสะใภ้​ทั้งสอง ต่าง​ก็​ร้องไห้​เสียงดัง แต่​ลูกสะใภ้​ทั้งสอง​ตอบนาง​ว่า “เรา​จะไป​กับ​แม่ และ​อยู่กับ​ชนชาติ​ของแม่” แต่​นาโอมี​พูดว่า “กลับไปเถิด ลูกเอ๋ย เจ้า​จะ​กลับไป​กับแม่​ทำไมกัน แม่​ยังจะ​คลอด​ลูกชาย​ให้​มาเป็น​สามี​ของ​พวกเจ้า​ได้​อีกหรือ กลับบ้าน​ไปเถิด ลูกเอ๋ย แม่​แก่​เกินกว่า​ที่จะ​มี​สามีใหม่​แล้ว แต่​ถึงแม่​จะ​หลอก​ตัวเอง​ว่า​ยังจะ​ตั้งท้อง​ได้ หรือ​ถ้าแม่​มี​ครรภ์​ได้​ใน​คืนนี้ และ​เกิด​ลูกชาย​ออกมา ลูก​จะ​รอ​จน​พวกเขา​โต​ได้หรือ ลูก​จะ​ทนลำบาก​เพราะ​ไม่มี​สามี​ได้หรือ อย่าเลย​ลูกเอ๋ย เท่านี้​แม่​ก็​ขมขื่น​ใจ​มากกว่า​ลูก​อยู่แล้ว ที่​พระยาห์เวห์​ได้ทำ​กับ​แม่​ถึงเพียงนี้”

นางรูธ 1:1-13 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ในสมัยที่พวกผู้วินิจฉัยครอบครองอยู่นั้น เกิดกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ ไปอาศัยอยู่ในดินแดนโมอับพร้อมกับภรรยาและบุตรชายสองคน ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาชื่อนาโอมี บุตรสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน เป็นชาวเอฟราธาห์จากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ พวกเขาเดินทางเข้าไปในดินแดนโมอับและอาศัยอยู่ที่นั่น แต่เอลีเมเลค สามีของนางนาโอมีตาย ทิ้งนางไว้กับบุตรชายทั้งสอง บุตรชายสองคนนี้ แต่งงานกับหญิงชาวโมอับ คนหนึ่งชื่อว่าโอรปาห์ และอีกคนหนึ่งชื่อรูธ เขาทั้งหลายอยู่ที่นั่นประมาณสิบปี แล้วมาห์โลนและคิลิโอนก็ตาย เหลือแต่นาโอมีที่ต้องอยู่อย่างไม่มีสามีและบุตรชายทั้งสอง แล้วนางพร้อมกับบุตรสะใภ้ทั้งสอง ก็ลุกขึ้นเดินทางกลับจากดินแดนโมอับ เพราะว่าเมื่ออยู่ที่โมอับนั้น นางได้ยินว่า พระยาห์เวห์ได้ทรงเยี่ยมเยียนชนชาติของพระองค์ และประทานอาหารแก่เขาทั้งหลาย นางจึงออกจากที่ซึ่งนางอยู่ พร้อมกับบุตรสะใภ้ทั้งสอง เดินตามทางกลับไปยังแผ่นดินยูดาห์ แต่นาโอมีกล่าวแก่บุตรสะใภ้ทั้งสองว่า “ไปเถอะ ขอให้ต่างคนต่างกลับไปบ้านแม่ของตน ขอพระยาห์เวห์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อเจ้า ดังที่เจ้าได้ทำต่อผู้ตายและต่อแม่ ขอพระยาห์เวห์ทรงให้เจ้าพบที่พักพิง ในบ้านของสามีคนใหม่” แล้วนาโอมีก็จูบพวกนาง ต่างก็ร้องไห้เสียงดัง พวกนางจึงพูดกับแม่สามีว่า “อย่าเลย เราจะกลับไปกับแม่ ไปยังชนชาติของแม่” แต่นาโอมีตอบว่า “กลับไปเถอะ ลูกเอ๋ย จะไปกับแม่ทำไมเล่า? แม่ยังจะมีบุตรชายในครรภ์ให้เป็นสามีของเจ้าหรือ? กลับไปเถอะ ลูกเอ๋ย กลับไป เพราะแม่แก่เกินกว่าจะมีสามีแล้ว หากแม่ว่าแม่ยังมีความหวังว่า แม่จะมีสามีคืนนี้ได้และมีบุตรชายหลายคน แล้วพวกเจ้าจะรออยู่จนบุตรชายเหล่านั้นโตได้หรือ? เจ้าจะอดใจไม่แต่งงานก่อนได้หรือ? อย่าเลย ลูกเอ๋ย ชีวิตแม่ขมขื่นกว่าชีวิตของพวกเจ้า ที่พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ทรงทำกับแม่ถึงเพียงนี้”

นางรูธ 1:1-13 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

อยู่​มาในสมัยเมื่อผู้​วิน​ิจฉัยครอบครองอยู่นั้นเกิ​ดก​ันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน มี​ชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินโมอับ คือตัวเขาพร้อมกับภรรยาและบุตรชายสองคน ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาชื่อนาโอมี บุ​ตรชายสองคนชื่อมารห์โลนและคิลิ​โอน เป็นชาวเอฟราธาห์ มาจากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ เขาทั้งหลายเดินทางเข้าไปในแผ่นดินโมอับและอาศัยอยู่​ที่นั่น แต่​เอลีเมเลคสามีของนางนาโอมี​สิ​้นชีวิตเสีย ทิ้งนางไว้กับบุตรชายทั้งสอง บุ​ตรชายสองคนนี้​ก็ได้​หญิงชาวโมอับมาเป็นภรรยา คนหนึ่งชื่อโอรปาห์ อี​กคนหนึ่งชื่อรูธ เขาทั้งหลายอยู่​ที่​นั่นประมาณสิบปี แล​้วมาห์โลนและคิลิโอนทั้งสองคนก็​สิ้นชีวิต หญิงคนนั้​นก​็ต้องเปล่าเปลี่ยวเพราะเหตุ​สามี​และบุตรชายทั้งสองของนางต้องล้มหายตายจากไป แล​้วนางนั้นพร้อมกั​บลู​กสะใภ้ทั้งสองก็​ลุ​กขึ้นออกเดินทางจากแผ่นดินโมอับ เพราะว่าเมื่ออยู่ในแผ่นดินโมอั​บน​ั้น นางได้ยินข่าวว่า พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงเยี่ยมเยียนชนชาติของพระองค์และประทานอาหารแก่​เขาทั้งหลาย นางจึงออกจากตำบลที่นางอยู่​พร​้อมกับบุตรสะใภ้​ทั้งสอง เดินตามทางกลับไปยังแผ่นดินยูดาห์ แต่​นาโอมี​กล​่าวแก่​บุ​ตรสะใภ้ทั้งสองของนางว่า “ไปเถิด ขอให้​ต่างคนต่างกลับไปบ้านมารดาของตน ขอพระเยโฮวาห์ทรงพระเมตตาต่อเจ้าทั้งสอง ดังที่​เจ้​าได้เมตตาต่อผู้​ที่​ตายไปแล้วและต่อแม่ ขอพระเยโฮวาห์ทรงโปรดให้​เจ้​ามี​ความสงบ ขอให้​ต่างก็​ได้​เข​้าอยู่ในเรือนของสามี” แล​้วนาโอมี​ก็​จุ​บลู​กสะใภ้​ทั้งสอง ต่างก็ส่งเสียงร้องไห้ นางทั้งสองจึงพู​ดก​ับแม่​สามี​ว่า “อย่าเลย เราทั้งสองจะกลับไปกับแม่ไปถึงชนชาติของแม่” แต่​นาโอมีตอบว่า “ลูกสาวของแม่​เอ๋ย จงกลับไปเสียเถอะ จะไปกับแม่ทำไมเล่า แม่​ยังจะมี​บุ​ตรชายในครรภ์​ให้​เป็นสามีของเจ้าหรือ ลูกสาวของแม่​เอ๋ย กล​ับไปเสียเถอะ กล​ับไปตามทางของเจ้า แม่แก่​เก​ิ​นที​่จะมี​สามี​แล้ว หากแม่จะว่าแม่ยั​งม​ีความหวังอยู่ ถ้าแม่จะมี​สามี​คื​นว​ันนี้และให้กำเนิดบุตรชาย แล​้วเจ้าจะรออยู่จนบุตรชายนั้นเติบโตได้​หรือ เจ้​าจะอดใจไม่​แต่​งงานหรือ อย่าเลยลูกสาวของแม่​เอ๋ย แม่​มี​ความขมขื่นมากเพราะเห็นแก่​เจ้า ที่​พระหัตถ์ของพระเยโฮวาห์​ได้​กระทำแก่​แม่​ถึงเพียงนี้”

นางรูธ 1:1-13 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ในสมัยเมื่อผู้วินิจฉัยครอบครองอยู่นั้น เกิดกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ ไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินโมอับ คือตัวเขาพร้อมกับภรรยาและบุตรชายสองคน ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาชื่อนาโอมี บุตรสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน เป็นชาวเอฟราธาห์มาจากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ เขาทั้งหลายเดินทางเข้าไปในแผ่นดินโมอับและ อาศัยอยู่ที่นั่น แต่เอลีเมเลค สามีของนางนาโอมีสิ้นชีวิตเสีย ทิ้งนางไว้กับบุตรชายทั้งสอง บุตรชายสองคนนี้ ก็ได้หญิงชาวโมอับมาเป็นภรรยา คนหนึ่งชื่อโอรปาห์ อีกคนหนึ่งชื่อรูธ เขาทั้งหลายอยู่ที่นั่นประมาณสิบปี แล้วมาห์โลนและคิลิโอนทั้งสองคน ก็สิ้นชีวิต หญิงคนนั้นก็ต้องเปล่าเปลี่ยว เพราะเหตุสามีและบุตรชายทั้งสองของนางต้องล้มหายตายจากไป แล้วนางนั้น พร้อมกับลูกสะใภ้ทั้งสอง ก็จะออกเดินทางจากแผ่นดินโมอับ เพราะว่าเมื่ออยู่ในแผ่นดินโมอับนั้น นางได้ยินข่าวว่า พระเจ้าได้ทรงเยี่ยมเยียนชนชาติของพระองค์ และประทานอาหารแก่เขาทั้งหลาย นางจึงออกจากตำบลที่นางอยู่ พร้อมกับบุตรสะใภ้ทั้งสอง เดินตามทางกลับไปยังแผ่นดินยูดาห์ แต่นาโอมีกล่าวแก่บุตรสะใภ้ทั้งสองของนางว่า <<ไปเถิด ขอให้ต่างคนต่างกลับไปบ้านมารดาของตน ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาต่อเจ้าทั้งสอง ดังที่เจ้าได้เมตตาต่อผู้ที่ตายไปแล้วและต่อแม่ ขอพระเจ้าทรงโปรดให้เจ้ามีเหย้ามีเรือน ขอให้ต่างก็ได้เข้าอยู่ในเรือนของสามี>> แล้วนาโอมีก็จุบลูกสะใภ้ทั้งสอง ต่างก็ส่งเสียงร้องไห้ นางทั้งสองจึงพูดกับแม่ผัวว่า <<อย่าเลย เราทั้งสองจะกลับไปกับแม่ไปถึงชนชาติของแม่>> แต่นาโอมีตอบว่า <<ลูกเอ๋ย จงกลับไปเสียเถอะ จะไปกับแม่ทำไมเล่า แม่ยังจะมีบุตรชายในครรภ์ให้เป็นสามีของเจ้าหรือ ลูกของแม่เอ๋ย กลับไปเสียเถอะ กลับไปตามทางของเจ้า แม่แก่เกินที่จะมีสามีแล้ว หากแม่จะว่าแม่ยังมีความหวังอยู่ ถ้าแม่จะมีสามีคืนวันนี้และมีบุตรชาย แล้วเจ้าจะรออยู่จนบุตรชายนั้นเติบโตได้หรือ เจ้าจะอดใจไม่แต่งงานหรือ อย่าเลย ลูกของแม่เอ๋ย แม่มีความขมขื่นมากเพราะเห็นแก่เจ้า ที่พระหัตถ์ของพระเจ้าได้กระทำแก่แม่ถึงเพียงนี้>>

นางรูธ 1:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

สมัยที่ผู้วินิจฉัยปกครองอยู่เกิดการกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดินนั้น ชายคนหนึ่งจากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์กับภรรยาและบุตรชายสองคนจึงไปอาศัยอยู่ในดินแดนโมอับระยะหนึ่ง ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาของเขาชื่อนาโอมี และบุตรชายสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน พวกเขาเป็นชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ พวกเขาย้ายไปอาศัยอยู่ที่โมอับ ต่อมาเอลีเมเลคสามีของนาโอมีสิ้นชีวิต เหลือนาโอมีกับบุตรชายทั้งสอง พวกเขาแต่งงานกับหญิงชาวโมอับ คนหนึ่งชื่อโอรปาห์ อีกคนหนึ่งชื่อรูธ หลังจากที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นราวสิบปี ทั้งมาห์โลนและคิลิโอนก็สิ้นชีวิต จึงเหลือแต่นาโอมี เมื่ออยู่ในโมอับ นางได้ข่าวว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเสด็จมาช่วยเหล่าประชากรของพระองค์โดยประทานอาหารแก่พวกเขา นาโอมีกับลูกสะใภ้ทั้งสองก็เตรียมตัวเดินทางจากโมอับกลับบ้าน นางกับลูกสะใภ้สองคนออกจากถิ่นที่อยู่ และเริ่มเดินไปตามเส้นทางที่จะกลับไปยังดินแดนยูดาห์ แล้วนาโอมีกล่าวกับลูกสะใภ้ทั้งสองว่า “ลูกทั้งสองกลับบ้านไปหาแม่ของลูกเถิดนะ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงความเมตตาแก่เจ้าที่ได้จงรักภักดีต่อแม่และสามีผู้ล่วงลับ และขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรให้ลูกได้ออกเรือนแต่งงานใหม่” แล้วนางก็จูบลาลูกสะใภ้ทั้งสองและทั้งสองก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้น และกล่าวกับนางว่า “เราจะไปกับแม่ ไปหาญาติของแม่” แต่นาโอมีตอบว่า “กลับบ้านเถิดลูกเอ๋ย จะไปกับแม่ทำไม? แม่จะมีลูกชายที่จะให้เป็นสามีของเจ้าได้อีกหรือ? กลับไปบ้านของลูกเถิด แม่เองก็แก่ชราเกินกว่าจะมีสามีอีก ถึงแม้แม่จะคิดว่ายังมีหวังที่จะได้สามีในคืนนี้และมีลูกชาย ลูกจะรอให้เขาโตขึ้นมาหรือ? ลูกจะไม่แต่งงานเพื่อคอยเขาหรือ? อย่าเลยลูกเอ๋ย แม่มีความขมขื่นมากยิ่งกว่าลูกเสียอีก เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าเองทรงกระทำให้แม่ทุกข์ยาก!”

นางรูธ 1:1-13 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​ช่วง​เวลา​ที่​บรรดา​ผู้​วินิจฉัย​ปกครอง​อยู่​นั้น ได้​เกิด​ความ​อด​อยาก​ใน​แผ่นดิน ชาย​ชาว​เมือง​เบธเลเฮม​ใน​แคว้น​ยูดาห์​ผู้​หนึ่ง​กับ​ภรรยา​และ​บุตร​ชาย 2 คน ไป​อาศัย​อยู่​ใน​ชนบท​ของ​โมอับ​ชั่ว​คราว ชาย​ผู้​นี้​ชื่อ​เอลีเมเลค ภรรยา​ชื่อ​นาโอมี บุตร​ชาย​ทั้ง​สอง​ชื่อ​มาห์โลน​และ​คิลิโอน พวก​เขา​เป็น​ชาว​เอฟราธาห์ มา​จาก​เมือง​เบธเลเฮม​ใน​แคว้น​ยูดาห์ เดิน​ทาง​ไป​ยัง​ชนบท​ของ​โมอับ​และ​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น แต่​เอลีเมเลค​สามี​ของ​นาโอมี​สิ้น​ชีวิต นาง​จึง​อยู่​กับ​บุตร​ชาย 2 คน บุตร​ทั้ง​สอง​ได้​หญิง​ชาว​โมอับ​เป็น​ภรรยา คน​หนึ่ง​ชื่อ​โอร์ปาห์ อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​รูธ พวก​เขา​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​ได้ 10 ปี แล้ว​ทั้ง​มาห์โลน​และ​คิลิโอน​ก็​สิ้น​ชีวิต ฉะนั้น​นาโอมี​จึง​มี​ชีวิต​อยู่​โดย​ปราศจาก​บุตร​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​และ​สามี ครั้น​แล้ว​นาง​กับ​บุตร​สะใภ้​ก็​พร้อม​ที่​จะ​ไป​จาก​ชนบท​ของ​โมอับ เพราะ​ขณะ​ที่​อยู่​ใน​โมอับ​นาง​ได้​ข่าว​ว่า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​มา​ช่วย​เหลือ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​และ​ให้​พวก​เขา​มี​อาหาร​รับประทาน ดังนั้น​นาง​จึง​เดิน​ทาง​ไป​จาก​ที่​ที่​นาง​อยู่​พร้อม​กับ​บุตร​สะใภ้​ทั้ง​สอง เพื่อ​กลับ​ไป​ยัง​แผ่นดิน​ยูดาห์ นาโอมี​พูด​กับ​บุตร​สะใภ้​ทั้ง​สอง​ว่า “ไป​เถิด เจ้า​ทั้ง​สอง​จง​กลับ​ไป​บ้าน​แม่​ของ​เจ้า​เอง ขอ​ให้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มี​เมตตา​ต่อ​เจ้า ดัง​ที่​เจ้า​ได้​กระทำ​ต่อ​ผู้​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​และ​ต่อ​ตัว​เรา​ด้วย ขอ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​โปรด​ให้​เจ้า​มีเหย้า​มีเรือน​อยู่​กับ​สามี​ของ​ตน​อย่าง​สุข​สบาย​เถิด” แล้ว​นาง​ก็​จูบ​แก้ม​ลา​บุตร​สะใภ้​ทั้ง​สอง และ​ต่าง​ก็​ส่ง​เสียง​ร้องไห้​กัน นาง​ทั้ง​สอง​พูด​กับ​นาโอมี​ว่า “พวก​เรา​ไม่​ไป เรา​จะ​กลับ​ไป​กับ​แม่ ไป​ยัง​ชน​ชาติ​ของ​แม่” แต่​นาโอมี​พูด​ว่า “ลูก​เอ๋ย กลับ​ไป​เถิด เจ้า​จะ​ไป​กับ​เรา​ทำไม เรา​ยัง​มี​ลูก​ชาย​ใน​ครรภ์​ให้​เป็น​สามี​ของ​เจ้า​อีก​หรือ ลูก​เอ๋ย กลับ​ไป​เถิด ไป​ตาม​ทาง​ของ​เจ้า เพราะ​เรา​แก่​เกิน​ไป​ที่​จะ​มี​สามี หาก​ว่า​เรา​จะ​คิด​ว่า​ยัง​มี​ความ​หวัง​สำหรับ​เรา​เอง แม้​ว่า​เรา​จะ​มี​สามี​ใน​คืน​นี้ จน​ให้​กำเนิด​ลูก​ชาย แล้ว​เจ้า​จะ​รอ​จน​พวก​เขา​เติบ​ใหญ่​หรือ พวก​เจ้า​จะ​ไม่​แต่งงาน​ใหม่​เพราะ​จะ​รอ​เขา​หรือ ไม่​หรอก ลูก​เอ๋ย เรา​ขมขื่น​มาก​กว่า​เจ้า​เสีย​อีก เพราะ​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ลง​โทษ​เรา​แล้ว”